เมื่อเจ้าหนี้ส่งเอกสารใบแจ้งความฝากผ่านไปให้บุคคลอื่น ไปตามถามหากับเพื่อน และพ่อแม่พี่น้อง ทั้งที่ติดต่อลูกหนี้ได้

เรื่องมีอยู่ว่า (1) ยืมเงิน(2) แล้วนัดวันคืนเงินเมื่อใกล้ถึงวัน (1)ก้ติดต่อบอก(2)เรื่องเงินตามกำหนดก่อนถึงวันกำหนด เพราะไม่แน่ใจว่าวันที่กำหนดจะได้เงินมาคืน(2) ซึ่งก้ได้คุยกันรอถึงวันที่นัดคืนตามกำหนดครั้งแรกก่อนหากวันนัดคืนไม่เป้นไปตามกำหนด ก้เลือนไปตามกำหนดที่โทรคุยกันในครั้งที่สอง แล้วเมื่อถึงวันกำหนดไม่ได้คืน(1)ก็โทรบอก(2) ก้โอเครอและรอในครั้งที่สองตามที่คุยกันเพราะว่าได้แจ้งไว่ก่อนหน้านี้แล้ว ผ่านไปอีก1วัน (1)ได้คุยกับเพื่อน(3) ได้มาแจ้งเรื่องทำบุญอาหารเด็กให้ช่วยประชาสัมพันธ์ (1) ก้นำมาช่วยสื่อข่าวให้ต่อๆไป และนำมาบอก(2) แต่(2) กลับตั้งคำถามต่างๆว่า ทำบุญจริงไม ช่วยจิงไม ทำยังไง ไปยังไง ซึ่ง(1)ก้ขอรายละเอียด(3)แล้วมาแจ้งต่อ แต่(2)กลับตั้งแง่คิดว่าจะไม่จริง กลับเป้นประเด็นมาทะเลาะกัน (1)เลยบอกว่าไม่ต้องทำหากคิดว่าไม่จริงก้ปล่อยผ่าน แล้ว(1)ก้มาแจ้ง(3)เรื่องปัญหาว่าถูกมองไม่ดีขอไม่รับเรื่องบุญหรือรับบริจาค (3)ก็บอกว่าไม่เป้นไรและบอกว่า(2)มาว่า(1)ได้อย่างไร คนใจบาป ไม่ควรมาว่า(1)ไม่พอใจทำบุญก็ควรปล่อยผ่าน
หลังจาก (2)รู้ว่า(3)ว่าเป้นคนใจบาป ก้โมโหมาพาล(1)ด่าเสียหายและเร่งเงินคืน ทั้งที่คุยตกลงจบไปแล้ว ด่าเสมือน(1)หนีหนี้ ไม่ยอมจ่าย ด่าลามพร้อมขู่จะประจานและไม่ให้มีที่ยืนในสังคม บอกให้(1)ไปขอ(3)คนใจบุญมาคืน แล้วด่า(1)เสียหาย ไม่พอแค่นั้น(2)ไปแจ้งความและส่งใบแจ้งความไปให้เพื่อนของ(1)ในเฟสบุคทั้งที่(1)ไม่ได้เป็นเพื่อนในเฟสบุคกับ(2)มาก่อน ทั้งที่มีแชทไลน มีเบอรโทรแต่กลับไปส่งบอกเพื่อนของ(1)ว่าติดต่อไม่ได้ เมื่อ(1)ทราบเรื่องที่(2)ส่งไปให้เพื่อนของ(1) ก้ยุติการคุยเพราะเจตนาที่(2)ทำคือเหมือนต้องการประจานทั้งที่ติดต่อตัวเองได้ จึงบอกให้(2)ไปดำเนินการตามกฏหมายไม่ต้องมาเจรจาอะไร  เพราะไม่จำเป้นต้องคุยเพราะ(1)คิดว่าทำขนาดนี้แล้วก้ไปดำเนินการตามกฎหมายตามที่แจ้งความ และ (2)หลังจากที่(1)ไม่เจรจาแล้ว ติดต่อไม่ได้แล้ว (2)ก้ยังไม่หยุดก้ไปตามหาถามกับบุคลคลผู้ใหญ่ของ(1)ทั้งคนแถวบ้าน พ่อ แม่ น้อง เพื่อน (1) บอกว่าจะทำให้(1)อาย ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่