สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิป  ห่างหายกันไปนานไม่มีเวลารีวิวกันเลย ทริปนี้เอารถคู่ใจล่องจากพัทยาขึ้นไปเชียงใหม่ มาดอยอินทนน์ แม่แจ่ม ดอยแม่อูคอ เลาะเรื่อยไปตามถนนริมเมย แม่สอด มาถึง อช ตากสินมหาราช ล่องกลับพัทยา ระยะทางทั้งหมด2156 กิโลเมตรกันเลย
     วันที่1 ออกเดินทางจากพัทยาขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ มาพักค้างแรมที่เมืองตากกันก่อน ที่นี่ที่พักค่อนข้างถูก เป็นที่ประจำที่เราพักทุกครั้งที่มาเมืองตาก  ตกเย็นก็ออกไปเดินเล่นริแม่น้ำปิง วันนี้มีงานออกร้านขายของเพราะอีกสองวันก็จะถึงลอยกระทงแล้ว
บรรยากาศยามเย็นริมแม่น้ำปิง เตรียมต้อนรับงานลอยกระทงสายที่กำลังจะมาถึง
ช่างภาพกำลังวาดภาพล้อเลียนของลุงกับป้า สนนราคาก็250บาท
     วันที่ 2 ออกเดินทางเข้าเชียงใหม่ วันนี้เราตั้งใจจะไปกางเต้นท์กันที่ห้วยน้ำดัง แวะซื้อเสบียงที่ตลาดแม่มาลัย แล้วก็เดินทางเข้าห้วยน้ำดัง  คนไม่เยอะเพราะเป็นวันธรรมดา เลือกกางเต้นท์กันได้ตามชอบเลย ป้าได้ที่ลานD หรือต้องเรียกว่าลานควาย เพราะกลางคืนควายเยอะมาก มากินหญ้ากันข้างเต้นท์เลย ไม่ต้องหลับต้องนอนกันละ
   ควายตัวอ้วนใหญ่มากๆ  อากาศกลางคืนหนาวพอสมควร น้ำค้างแรงมาก
   วันที่3 บ้ายบายห้วยน้ำดัง ออกเดินทางเข้าเมืองเชียงใหม่ วันนี้ลอยกระทงก็ต้องเข้าเมืองมาลอยกระทง ท่องราตรีกันหน่อย แต่ก่อนจะพลบค่ำ เราก็เดินทางไปไหว้พระที่วัดดอยคำ,วัดเจ็ดยอดพระอารามหลวง ซึ่งเป็นวัดประจำปีเกิดของคนปีมะเส็ง
   วันที่4 ออกเดินทางแบบแฮ้งค์ๆกันสู่จอมทอง ขึ้นดอยอินทนนท์กัน เรากางเต้นท์กันที่ อช ดอยอินทนนท์(ม่อนสน) ผู้คนประปราย อากาศเย็นๆสบายๆ กางเต้นท์เสร็จก็ตั้งวงกันสองคน ลุงกับป้า เราจะเดินเคียงข้างกันตลอดไปนะ
   วันที่5 เราไปตั้งต้นกันที่กิ่วแม่ปาน วันนี้คนเยอะหน่อยเพราะเป็นวันหยุด เราลงทะเบียนและได้ลุงลื้อเป็นไกด์นำทาง เติมพลังก่อนออกเดิน
  เราใช้เวลาเดินกิ่วเกือบ3ชั่วโมง แล้วก็กลับมาเก็บเต้นท์ ออกเดินทางต่อสู่แม่แจ่มจุดหมายปลายทางวันนี้สู่ดอยแม่อูคอ
  แวะ อช น้ำตกแม่สุรินทร์
   วันนี้เราพักกันที่โฮมสเตย์ย่านนั้น เพราะไม่มีที่กางเต้นท์ พื้นที่ถูกจองเต็มหมดเลย  อากาศคืนนั้นหนาวมากกกกก
   วันที่6 ออกเดินทางจากแม่อูคอเราก็มุ่งหน้าผ่านขุนยวมสู่แม่ลาน้อย เราแวะที่ถ้าแก้วโกมล ถ้าแร่แคลไซด์ที่มีอยุ่แค่3 แห่งในโลก  เราต้องจอดรถไว้และเดินทางต่อด้วยรถของอุทยาน เพราะเส้นทางค่อนข้างชันและแคบและเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนด้วย การเดินชมถ้ำไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปแบบใช้แฟลช เพราะแสงแฟลชอาจจะทำให้แคลไซด์หมองและไม่แวววามเช่นเดิม แต่เท่าที่เดินดูก็เห็นความหม่นหมองและความเสียหายจากการเข้าชมพอสมควร เวลาเข้าไปดูก็อย่าไปแตะต้องหรือหยิบจับอะไรเลยนะคะ
   เดินทางต่อบนทางหลวงหมายเลข108ผ่านแม่ลาน้อย ท่าสองยาง มุ่งสู่แม่สะเรียง ถนนดี วิวสวย ถ้าเป้นสมัยก่อนคงไม่กล้าขับ แต่สมัยนี้ทุกอย่างน่าจะปกติดี มีด่านตรวจของทหารเป็นระยะๆ  เรามาถึงแม่สะเรียงก็เกือบเย็น เลยต้องเข้าพักที่โรงแรมในเมือง ราคา400บาท มีนวดแผนโบราณด้วย เมืองนี้ค่อนข้างเงียบสงบดี เข้านอนด้วยความเหนื่อยล้า เตรียมลุยในวันรุ่งขึ้น
   วันที่ 7 จากแม่สะเรียง เราเดินทางต่อเพื่อไปยัง อช แม่เมย ที่นี่อากาศไม่เย็นนัก เงียบมาก แทบไม่มีนักท่องเที่ยว เราไปกางเต้นท์ที่ม่อนกิ่วลม เพราะม่อนอื่นพื้นที่เต็มไปด้วยขี้วัว แหวะะ กางไม่ลงเลยอ่ะ กลางคืนมีกระเหรื่องพื้นที่ขึ้นมาก่อกองไฟกันกลุ่มใหญ่มาก เสียงดัง จนต้องบอกให้เบาลงหน่อย ซึ่งพวกเค้าก็เบาเสียงลงให้ ขอบใจจริงๆ
แสงแรกของวันใหม่ หมอกที่นี่เต็มจริงๆ
แวะถ้ำแม่อุสุ ลุยน้ำเข้าถ้ำมืดตึ้ดตื๋อ บบรรยากาศชวนให้นึกถึงน้องๆหมูป่าที่ติดถ้ำจริงๆ
  เราพักที่แม่สอด1วัน
   วันที่ 8 เราเดินทางสู่ อช ตากสินมหาราช ชอบที่นี่สุดๆ อากาศเย็นสบาย ลมแรง ร่มรื่น ที่กางเต้นท์ดูดีเชียว

   อยู่ที่นี่ได้คืนเดียว ก็ต้องเดินทางต่อ ไม่อยากไปเลย อากาสดีมากๆ แต่ก็จำต้องกลับ
ขากลับล่องลงมาจนถึงอุทัยธานี เอ๊าาแวะนอนอุทัยดีกว่า วันนี้มีงานแห่เจ้าพ่อของที่นี่ แต่เราไม่ได้ไปร่วมงาน เพราะเหนื่อย ขอพักผ่อนก่อนดีกว่า ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะต้องเดินทางกลับพัทยาบ้านเรา และจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้จ้าาา