เห็นบอกกันจังว่าเสมอมาเลเซีย 0-0 ในบ้านเขาเราสบายใจ **ทำได้ตามเป้าแล้ว**
มันไม่ใช่นะครับ
กฎ AWAY GOAL สำคัญมากๆ เพราะเราจะมีอะเวย์โกลเป็นเครื่องช่วยชีวิตในนัดทีมเหย้า
ถ้าเราเสมอนัดนั้นแบบไม่ใช่ 0-0 (ขาบอลเรียก "เสมอแบบไม่มีสกอร์) แต่เสมอแบบ 1-1 หรือ 2-2 ก็ได้(ขาบอลเรียก "เสมอแบบมีสกอร์")
เราเล่นรัชมังฯได้ง่ายขึ้นเลยครับ ดังต่อไปนี้
กฎนับแต้มจากผลการแข่งและจำนวนประตู
- ชนะได้ 3 แต้ม เสมอได้ 1 แต้ม แพ้ได้ 0 แต้ม
- ผลต่าง ให้นับจากจำนวนประตูที่ทำได้ หักออกจากประตูที่เสีย ทำให้...
ชนะแพ้จำนวนเท่ากัน จำนวนประตูยิงได้หรือเสียลูกก็เท่ากัน แต่ goal difference ใครมีผลต่างมากกว่าทีมนั้นเข้ารอบ
รอบรองและชิง
- ที่ 1 สาย A เตะกับรองสาย B สลับเหย้าเยือน = 2 games
- จำนวนประตูที่ทำได้จากทั้ง 2 แมทช์ เอามาบวกกัน ผลรวมใครมากกว่าชนะไป
- กรณีที่ผลบวกประตูทั้งสองเกมเหย้าเยือนออกมาได้เท่ากัน
ทีมที่ยิง away goal ได้มากกว่า = ชนะ
(ตย.2014 ไทยทีมเหย้า ยิงประตูมาเลเซียได้ 2-0 แปลว่ามาเลไม่มี away goal ตุนไว้เลย
พอมาเลทีมเหย้ายิงไทยได้ 3-0 คือเขาชนะเลย เพราะผลรวมเขา 3-2 ได้มากกว่าเรา
แต่พอไทยยิงได้ 1 ลูกจากปุยส์ ผลรวมคือ 3-3 จริงครับ แต่ไทยชนะแล้ว เพราะมาเลย์ดันทำ 0 เลยไม่มีอเวย์โกลตุนไว้ ซึ่งเรามี 1 ณ ตอนนั้น
มาเลจึงแพ้ไทยตั้งแต่นาทีปุยส์พิฆาตนั่นแล้ว)
- ถ้ากรณีนับผลทั้ง 2 เกมแล้ว ผลรวมได้เท่ากัน อะเวย์โกลยังยิงเท่ากันอีกเป็น tie score = ต้องต่อเวลา 15 นาที 2 ครั้ง ครึ่งแรก 15 ครึ่งหลัง 15
- ถ้าต่อเวลา 30 นาทีแล้วต่างฝ่ายทำประตูได้เท่ากัน
เจ้าลูกอะเวย์โกลจะคิดคะแนนเบิ้ลทันทีครับ 1 เท่า
- แต่ถ้าช่วงต่อเวลา 15 นาทียิงกันไม่ได้เลย คือ 0-0 ช่วงต่อเวลา
แปลว่าทีมเยือนก็ไม่ได้อะเวย์โกล ต้องดวลจุดโทษแล้ววัดจำนวนลูกเอาครับ
จะเห็นชัดแล้วนะครับว่าการที่เราเป็นทีมเยือนแล้วทำประตูไม่ได้ เป็น 0 แม้จะเสมอก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่เสี่ยงนะ
ถ้าเราเสมอ 90 นาที 0-0 เรามีสิทธิ์ตกรอบ เพราะถ้าเขายิงเราได้ช่วงต่อเวลา เขาจะมีกฎอะเวย์โกลมาช่วยทันที แต่เราไม่มีแล้ว
ถ้าเราเสมอ 1-1 หรือ 2-2 ก็ตาม เราตกรอบเลย เพราะเขามีกฎอะเวย์โกลมาช่วยทันที
ถ้าเราชนะ 2-1 ช่วงต่อเวลา คะแนนเขาจะเท่าเราครับ เพราะคะแนนอะเวย์โกลมันเบิ้ลให้ 1 เท่า
หมายเหตุ ข้อความเอน ผมเข้าใจผิดเองครับ ขออภัย เข้าใจว่าคะแนนเบิ้ล 2 เท่าอัตโนมัติ ท่านคห. 20 อธิบายให้ เข้าใจแล้วครับ
มันต้องใช้กับกรณี เสมอกัน ขอโทษครับ ณ จุดนี้
แต่สรุปว่า "ไทยเสมอไม่ได้ ต้องชนะเท่านั้น และเสมอในฐานะทีมเยืนแบบไม่มีแต้ม น่ากลัวกว่า" นี่คือเข้าใจตรงกันร่วมกันแล้วนะครับ
ฉะนั้น 5 ธค.นี้ แผนคว้าชัยของเราคือ
1.
ยังไงเราก็ต้องไม่ให้เขายิงได้ เราต้องทำให้เขามีสกอร์เป็น 0 เพื่อให้เขาใช้กฎอะเวย์โกลไม่ได้เลย
อันนี้ชัวร์สุด
2. หรือถ้าเขาเกิดยิงเราได้ เราก็ต้องยิงได้ 2 เท่าของเขา เช่น เขายิงเรา 1 เราต้องยิงเขา 2 เราถึงชนะ เพราะผลรวมจะเป็น 2-1
3. ถ้าจบเกมไม่ได้ ต้องไปต่อเวลา จะซวยมิใช่น้อย เพราะกฎอะเวย์โกลจะกลายเป็นเบิ้ลคะแนน 2 เท่า
แปลว่าถ้าเขายิงเรา 1 เราต้องยิง 3 ถึงจะชนะ สกอร์จะกลายเป็น 3-2
นี่คือผลของการไม่ยอมทำอะเวย์โกลตอนเป็นทีมเยือนครับ ดันไปจบที่ 0-0
เสมอ 1-1 ยังโล่งใจกว่านี้
แล้วจะมาบอกว่า 0-0 สบายใจแล้ว ทำได้ตามเป้า ไม่ใช่เลยครับ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ดังนั้น 5 ธค.วันพ่อ วันชาติไทย ไปให้กำลังใจเต็มสนามให้ทีมชาติเรา "ชนะ" (บอกไปแล้วว่าเสมอไม่ได้เลย)
แต่ถ้าไปสนามไม่ได้ไม่เป็นไร ดูอยู่บ้านได้
เพราะทีวีเขาก็ได้เรตติ้ง ก็จะได้ค่าลิขสิทธิ์มากขึ้น
ถ้าไม่สะดวกดูทีวี ดูผ่านออนไลน์ได้ครับ
ช่องเขาก็ได้ยอดวิวเช่นกัน
ไม่ต้องไปสนคำกดดันว่าทำไมไม่ไปเชียร์ที่สนาม มันไม่ใช่ทางเดียวที่จะแสดงความรัก
เอากฎอะเวย์โกล AFF มาดูให้รู้ว่าไทยเยือนเสมอมาเลย์ 0-0 ไม่น่าสบายใจ เพราะนัดรัชมังคลาเราต้องชนะสถานเดียว
มันไม่ใช่นะครับ กฎ AWAY GOAL สำคัญมากๆ เพราะเราจะมีอะเวย์โกลเป็นเครื่องช่วยชีวิตในนัดทีมเหย้า
ถ้าเราเสมอนัดนั้นแบบไม่ใช่ 0-0 (ขาบอลเรียก "เสมอแบบไม่มีสกอร์) แต่เสมอแบบ 1-1 หรือ 2-2 ก็ได้(ขาบอลเรียก "เสมอแบบมีสกอร์")
เราเล่นรัชมังฯได้ง่ายขึ้นเลยครับ ดังต่อไปนี้
กฎนับแต้มจากผลการแข่งและจำนวนประตู
- ชนะได้ 3 แต้ม เสมอได้ 1 แต้ม แพ้ได้ 0 แต้ม
- ผลต่าง ให้นับจากจำนวนประตูที่ทำได้ หักออกจากประตูที่เสีย ทำให้...
ชนะแพ้จำนวนเท่ากัน จำนวนประตูยิงได้หรือเสียลูกก็เท่ากัน แต่ goal difference ใครมีผลต่างมากกว่าทีมนั้นเข้ารอบ
รอบรองและชิง
- ที่ 1 สาย A เตะกับรองสาย B สลับเหย้าเยือน = 2 games
- จำนวนประตูที่ทำได้จากทั้ง 2 แมทช์ เอามาบวกกัน ผลรวมใครมากกว่าชนะไป
- กรณีที่ผลบวกประตูทั้งสองเกมเหย้าเยือนออกมาได้เท่ากัน ทีมที่ยิง away goal ได้มากกว่า = ชนะ
(ตย.2014 ไทยทีมเหย้า ยิงประตูมาเลเซียได้ 2-0 แปลว่ามาเลไม่มี away goal ตุนไว้เลย
พอมาเลทีมเหย้ายิงไทยได้ 3-0 คือเขาชนะเลย เพราะผลรวมเขา 3-2 ได้มากกว่าเรา
แต่พอไทยยิงได้ 1 ลูกจากปุยส์ ผลรวมคือ 3-3 จริงครับ แต่ไทยชนะแล้ว เพราะมาเลย์ดันทำ 0 เลยไม่มีอเวย์โกลตุนไว้ ซึ่งเรามี 1 ณ ตอนนั้น
มาเลจึงแพ้ไทยตั้งแต่นาทีปุยส์พิฆาตนั่นแล้ว)
- ถ้ากรณีนับผลทั้ง 2 เกมแล้ว ผลรวมได้เท่ากัน อะเวย์โกลยังยิงเท่ากันอีกเป็น tie score = ต้องต่อเวลา 15 นาที 2 ครั้ง ครึ่งแรก 15 ครึ่งหลัง 15
- ถ้าต่อเวลา 30 นาทีแล้วต่างฝ่ายทำประตูได้เท่ากัน เจ้าลูกอะเวย์โกลจะคิดคะแนนเบิ้ลทันทีครับ 1 เท่า
- แต่ถ้าช่วงต่อเวลา 15 นาทียิงกันไม่ได้เลย คือ 0-0 ช่วงต่อเวลา แปลว่าทีมเยือนก็ไม่ได้อะเวย์โกล ต้องดวลจุดโทษแล้ววัดจำนวนลูกเอาครับ
จะเห็นชัดแล้วนะครับว่าการที่เราเป็นทีมเยือนแล้วทำประตูไม่ได้ เป็น 0 แม้จะเสมอก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่เสี่ยงนะ
ถ้าเราเสมอ 90 นาที 0-0 เรามีสิทธิ์ตกรอบ เพราะถ้าเขายิงเราได้ช่วงต่อเวลา เขาจะมีกฎอะเวย์โกลมาช่วยทันที แต่เราไม่มีแล้ว
ถ้าเราเสมอ 1-1 หรือ 2-2 ก็ตาม เราตกรอบเลย เพราะเขามีกฎอะเวย์โกลมาช่วยทันที
ถ้าเราชนะ 2-1 ช่วงต่อเวลา คะแนนเขาจะเท่าเราครับ เพราะคะแนนอะเวย์โกลมันเบิ้ลให้ 1 เท่า
หมายเหตุ ข้อความเอน ผมเข้าใจผิดเองครับ ขออภัย เข้าใจว่าคะแนนเบิ้ล 2 เท่าอัตโนมัติ ท่านคห. 20 อธิบายให้ เข้าใจแล้วครับ
มันต้องใช้กับกรณี เสมอกัน ขอโทษครับ ณ จุดนี้
แต่สรุปว่า "ไทยเสมอไม่ได้ ต้องชนะเท่านั้น และเสมอในฐานะทีมเยืนแบบไม่มีแต้ม น่ากลัวกว่า" นี่คือเข้าใจตรงกันร่วมกันแล้วนะครับ
ฉะนั้น 5 ธค.นี้ แผนคว้าชัยของเราคือ
1. ยังไงเราก็ต้องไม่ให้เขายิงได้ เราต้องทำให้เขามีสกอร์เป็น 0 เพื่อให้เขาใช้กฎอะเวย์โกลไม่ได้เลย
อันนี้ชัวร์สุด
2. หรือถ้าเขาเกิดยิงเราได้ เราก็ต้องยิงได้ 2 เท่าของเขา เช่น เขายิงเรา 1 เราต้องยิงเขา 2 เราถึงชนะ เพราะผลรวมจะเป็น 2-1
3. ถ้าจบเกมไม่ได้ ต้องไปต่อเวลา จะซวยมิใช่น้อย เพราะกฎอะเวย์โกลจะกลายเป็นเบิ้ลคะแนน 2 เท่า
แปลว่าถ้าเขายิงเรา 1 เราต้องยิง 3 ถึงจะชนะ สกอร์จะกลายเป็น 3-2
นี่คือผลของการไม่ยอมทำอะเวย์โกลตอนเป็นทีมเยือนครับ ดันไปจบที่ 0-0
เสมอ 1-1 ยังโล่งใจกว่านี้
แล้วจะมาบอกว่า 0-0 สบายใจแล้ว ทำได้ตามเป้า ไม่ใช่เลยครับ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ดังนั้น 5 ธค.วันพ่อ วันชาติไทย ไปให้กำลังใจเต็มสนามให้ทีมชาติเรา "ชนะ" (บอกไปแล้วว่าเสมอไม่ได้เลย)
แต่ถ้าไปสนามไม่ได้ไม่เป็นไร ดูอยู่บ้านได้ เพราะทีวีเขาก็ได้เรตติ้ง ก็จะได้ค่าลิขสิทธิ์มากขึ้น
ถ้าไม่สะดวกดูทีวี ดูผ่านออนไลน์ได้ครับ ช่องเขาก็ได้ยอดวิวเช่นกัน
ไม่ต้องไปสนคำกดดันว่าทำไมไม่ไปเชียร์ที่สนาม มันไม่ใช่ทางเดียวที่จะแสดงความรัก