พอเถอะครับ.....ทุกอย่างจบเเล้วครับนาย

นี่เป็นกระทู้เเรกของผมในห้องนี้ ( ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยล่วงหน้า )
หลังจากเกมส์เมื่อคืน คิดอยู่นานว่า จะตั้งกระทู้ดีมั้ย   
ส่วนตัว ไม่ได้มีเจตนาจะตั้งกระทู้ เพื่อถล่มทีมรักตัวเอง
เเต่ครั้นจะวางเฉย ก็เหมือนมีอะไรคาใจ นอนไม่หลับ   เลยเอาซะหน่อย

***************


ฟอร์มทีมเเมนยู เมื่อคืน เเม้จะกลับมาตีเสมอได้ เเต่บอกคำเดียว เซ็งโคดๆ

พูดมาตั้งเเต่ปีก่อนว่า คอยดูวันนึงอีกไม่นาน ถ้าทรงบอลแมนยูยังเป็นเเบบนี้
ถ้าไม่รีบผ่าตัด รีบเเก้ไข เราจะกลายเป็นทีมกลางตารางในที่สุด  ดีไม่ดีอาจหล่นต่ำสิบให้เห็น

เเต่ก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทุกอย่างยังคง วนในลูปเดิม  ชนะ เเพ้  เสมอ เเพ้  เสมอ  เสมอ  นานๆ จะชนะ
เหมือนเล่นไปวันๆ เเค่ให้ผ่านไปเกมส์ต่อเกมส์

จริงๆ ในยุคนี้จะเเพ้ หรือ ชนะ ผมไม่ได้สนใจมากไปกว่าฟอร์มของทีม
ขอแค่ได้เห็นทรงบอล ที่เป็นเเมนยูจริงๆ ซึ่งไม่เคยได้เห็นในยุคนี้
บางนัดเเม้จะเเพ้ เเต่ก็ไม่ได้เสียใจมาก  เพราะทรงบอลมันใช่ ความดุดัน มันมีให้เห็น
ความเหนือกว่าคู่เเข่ง มีให้ดูเเทบตลอดเกมส์  เเต่โชคอาจไม่เข้าข้างในบางนัด ก็ไม่ว่ากัน

เเต่ยุคนี้ ก็เหมือนที่เค้าเเซวๆกัน  
เเมนยู คือทีมที่พร้อมจะเเพ้หรือเเบ่งเเต้ม ให้เเก่ทุกทีม ไม่เว้นเเม้เเต่ทีมที่หนีตกชั้น

อย่างเมื่อคืน สองลูกที่เสียไป เพื่ออะไรมิทราบ เเม้จะตีเสมอกลับมาได้
เเต่ทุกอย่างที่ลงทุนไป ได้ผลกลับมาเท่าเดิม ไม่ไปไหน ผลต่างประตูก็ยังเหมือนเดิม  
นัดหน้า  ถึงฟลุ๊คชนะได้ ก็ยังอยู่ที่เดิมต่อ ยิ่งถ้าเเพ้อีก (ซึ่งมีโอกาสมากกว่าชนะ)   
คงไม่ต้องพูดถึง ร่วงเเน่ๆ   น่าเขกหัวตัวเองมั้ยหละจ่ามู

                 **************

ผมเคยวิเคราะห์ วิจารณ์ จ่ามู ตั้งเเต่ก่อนเข้ามาคุมทีมเรา  ( รู้สึกจะช่วง เมษา พฤษภา 59)
ว่าสไตล์ของเเก คือ ชอบชัยชนะเเบบสำเร็จรูปเหมือนมาม่า หรือ ข้าวกล่องเซเว่น ใส่เวฟกดปุ่ม กินได้เลย

เเต่การสร้างทีมโดยรวม โดยพื้นฐานฟุตบอลในระยะยาว ไม่เคยอยู่ในดีเอ็นเอของเเก
คอยดูเถอะ  พอถึงวันนึงที่โลกฟุตบอลเปลี่ยนไป  จ่ามูเเกจะหมดมุก กับความสำเร็จเเบบเดิมๆ
ถ้ายังยึดติดกับหน้าเป้า ร่างถึกๆ คมๆ เเบบดรอกบา  
ถ้ายังยึดติดกับเกมส์เเบบเน้นผลสกอร์  เเล้วค่อยหันมาตั้งรับอย่างเดียว
เเละโชคร้ายเหลือเกิน ที่เเกมาหมดมุกเอาจริงๆ ก็ตอนมาคุมทีมเเมนยู อย่างที่เห็นในตอนนี้

เเต่ก็แปลกที่คนภายนอก ยังจะมอง (เเบบยึดติดอีกนั่นเเหละ)
ว่าเเกคือนักสร้างเเชมป์  ( ซึ่งก็จริงในยุคนึง เเต่คงไม่ใช่ปัจจุบัน )

จะว่าไป เเรกๆเข้ามา ผมเองก็เคยเอาใจช่วยเเกนะ
ทั้งที่ไม่ชอบสไตล์บอล เเบบตีหัวเข้าบ้าน ของเเก
อาจเพราะยังเชื่อน้ำยาของเเก ที่ขึ้นชื่อเรื่องเสกเเชมป์
หรืออาจจะเป็นเพราะรักทีม  อยากเห็นทีมได้กลับมาชูถ้วยเเชมป์อีก หลังจากป๋าวางมือไป

ปีเเรกพลาด ไม่เป็นรัย ถือว่ายังใหม่ ยังไม่ลงตัว   
เเต่ให้สอบผ่าน เพราะมีถ้วยเเชมป์ยูโรป้า เป็นตั๋วไปเล่นถ้วยใหญ่

เเต่พอผ่านมา มาถึงปัจจุบัน  อาถรรพ์ปีที่สามของจ่ามู ก็เริ่มออกมาให้เห็นจริงๆ  

พอเถอะ อย่าดันทุรังอีกเลย  " ทุกอย่างมันจบเเล้วครับเจ้านาย "

เเม้นายจะอยู่ต่อ ก็คงไม่ได้ช่วยเเก้ปัญหาหรอก มีเเต่จะสร้างปัญหาเพิ่ม
หลายๆปัญหาที่เกิดขึ้น ยอมรับตรงๆเถอะว่า เพราะนายนั่นเเหละเป็นต้นเหต
ความเเตกเเยกของทีม สปิริตทีม ความเเตกต่างอย่างฟ้ากับเหว ของรายได้นักเตะบางคนที่นายซื้อมา
อาจนำมาซึ่งความกินเเหนงเเคลงใจกันเองภายในทีม ไม่มากก็น้อย  
ทำให้ระบบการปกครองพัง  ระบบทีมพัง การเชื่อฟังกันเริ่มรวน  
การให้สัมภาษณ์สื่อเเบบเอาดีเข้าตัว เอาชั่วโยนให้เด็ก  ก็เป็นนายใช่มั้ยครับที่ชอบทำ

หรือ ดูจากการจัดตัว เเบบประชดบอร์ดบริหาร (ที่ไม่ให้งบซื้อตัวเพิ่ม)
เจ้านายจัดซะเเบบว่า อยากให้ผลออกมาเละเทะ เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่า ถ้าไม่ซื้อเพิ่มก็เล่นได้เเค่นี้เเหละ

ซึ่งวิธีนั้น มันไม่เป็นมืออาชีพเลยครับเจ้านาย  
เพราะเจ้านายเห็นเเก่อีโก้ตัวเอง มากกว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นของทีม


ผมจำไม่ได้เเน่ว่านัดไหน  
เเต่จำได้ว่าเป็นนัดที่ ส่งเเมคโทมิเน่ลงยืนหลังครั้งเเรก  ที่เหมือนส่งเด็กลงไปฆ่านะครับ ทำไปได้งัยครับ

ส่งลงไปเสร็จเเล้ว นายก็ค่อยๆ มองขึ้นไปที่อัฒจันทน์ผู้บริหาร
พร้อมสะเเหยะยิ้มที่มุมปาก ว่าเป็นงัยละ เละเป็นโจ๊กมั้ยหละยิ้ม อยากไม่ให้งบกรูดีนัก  ก็เละซะ


ผมสังเกตมานานเเล้ว กับการโต้ตอบ คนที่เห็นต่างในการจัดตัวลงเล่น
นายตอบโต้เเบบประชดประชัน เหมือนเด็กๆ  
อย่างช่วงต้นฤดูกาล เเฟนๆในสนาม  เรียกร้องให้ส่งมาซิยาล เเรชฟอร์ดลงเล่นบ้าง
เเต่นายก็ไม่ยอมทำ  ( เพราะยังเคืองเรื่องส่วนตัว ที่เขากลับไปเยี่ยมลูกที่เพิ่งคลอด เเล้วอยู่นาน รึเปล่า )

จนสุดท้ายถัดมาอีกนัด ส่งลงเเบบเสียไม่ได้ เเล้วเเพ้
หลังจบเกมส์นั้น เจ้านายก็ให้สัมภาษณ์สื่อเเบบจิกกัด อย่างสะใจ
ว่า เป็นงัยหละ เเรชฟอร์ด มาซิยาลที่เรีกร้องกันนักกันหนา เป็นงัย เชื่อกึ๋นข้ายัง ว่าทำไมข้าถึงไม่ส่งลง  

ดูจากสีหน้าเเววตา เจ้านายสะใจมากเลยใช่มั้ยครับ ที่เห็นทีมเเพ้ในนัดนั้น

เเต่หลังๆมาอีกสองสามนัดถัดจากนั้น  พอส่งมาซิยาลลงไปพลิกเกมส์ได้
นายก็เริ่มคิดใหม่ หลังจากนั้น ก็ส่งเขาลงตัวจริงต่อเนื่อง
เเละฟอร์มเขาก็ดีอย่าง ต่อเนื่องให้เห็น อย่างที่เเฟนๆว่าจริงๆ

เเต่นายก็เงียบ  ( อีโก้ยังจัดเหมือนเดิม ) ไม่ยอมรับว่าตนพลาด
ที่ไม่เลือกใช้งานมาซิยาล จนกว่าจะถึงนาทีที่เจ็ดสิบเเทบทุกนัดก่อนหน้านี้

รวมทั้งเกมส์เมื่อคืน นายคงคิดว่าจะเก็บตัวทำเกมส์ไว้นาทีท้ายๆ เพื่อฝังคู่เเข่ง
เเบบตีหัวเข้าบ้านอย่างที่ถนัด  เลยเก็บทั้งมาเที่ยวทั้งมาตาไว้ เเม้ทีมจะเริ่มรวนหลังจากตีเสมอได้
นายก็ยังยึดติดความคิดตัวเอง ว่าค่อยส่งลงมาตีหัวเข้าบ้านในนาทีเจ็ดสิบห้า

เเต่มันสายเกินไปครับ ยี่สิบห้านาทีที่เหลืออยู่
ไม่เพียงพอที่จะให้มาซิยาลทำเกมส์ ร่วมกับเพื่อนที่ป่วยแทบทั้งทีม

เเทนที่นายจะเปลี่ยนเกมส์ในขณะที่ยังมีโอกาส  เเต่นายกลับเลือกที่จะไม่ทำ
ยังฝืนให้ลูกากูเล่นต่อจนเจ็บ เพื่อสนองอีโก้ตัวเองอีกเเล้ว ใช่มั้ยครับนาย

สังเกตดูนะครับ เมื่อไหร่ที่เเฟนๆ เริ่มมองว่าคนที่นายเลือกมันไม่ใช่
นายก็จะพยายามเถียง หรือ ดันทุรัง พิสูจน์ให้เห็นว่า เเฟนๆคิดผิด ตัวเองถูก เดี๋ยวจะทำให้ดู

ว่าเเล้ว ก็ส่งคนที่โดนเเฟนบอลวิจารณ์ ลงไปเล่น  เเล้วก็เละจริงๆ อย่างที่เเฟนๆว่าไว้
เเล้วนายก็เงียบตามเคย ทีมพังช่างมัน ขอข้าได้สนองอีโก้ตัวเอง ก็พอเเล้ว  ใช่มั้ยครับ

พอเเล้วครับ  พอเถอะครับ   ทุกอย่างมันจบเเล้วครับ..เจ้านาย........อมยิ้ม04



แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่