'โฮมอินเวชั่น' ตัวหนังสะท้อนภัยที่เกิดขึ้นภายในบ้านหรือพื้นที่ส่วนตัวของตัวละครที่ถูกรุกล้ำจากใครบางคนที่ประสงค์ร้าย นอกเหนือจากสิบเรื่องที่ปรากฏอยู่ในลิสต์ก็มีหนังที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิเช่น Halloween (1978), The Collector (2009), Home Alone (1990), Hush (2016), Inside (2007), Them (2006), Black Christmas (1974), When a Stranger Calls (1979), Sleep Tight (2011), The Purge (2013)...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

10. The Strangers (2008)

หนังสแลชเชอร์หรือหนังที่มีฆาตกรโรคจิตออกไล่ฆ่าคน หลายเรื่องมักทิ้งเหตุผลของการกระทำไว้เป็นปริศนาเพื่อให้คนดูได้ตั้งสมมติฐาน ก่อนจะถูกเฉลยออกมาในท้ายเรื่อง โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากปมแค้นส่วนตัวและอาการป่วยทางจิต ทว่าสำหรับอาชญากรบางคนอาจไม่ต้องการสิ่งที่มีเหตุผล ทำไปเพียงเพราะความสนุก เห็นความทุกข์ทรมานของผู้อื่นเป็นความสุขของตน เฉกเช่นฆาตกรสวมหน้ากากในหนังเรื่องนี้ ที่ทำการบุกรุกบ้านคู่รักที่ตั้งอยู่ห่างไกลผู้คน โดยหนังเริ่มจากการสร้างสถานการณ์ผิดปกติให้เกิดขึ้นในบ้านเพื่อสร้างความไม่น่าไว้วางใจ ก่อนเข้าสู่โหมดแมวไล่จับหนูเพื่อขายความตึงเครียดและให้คนดูลุ้นระทึกไปกับชะตากรรมของตัวละคร








9. Panic Room (2002)

เกมแมวไล่จับหนูภายในบ้านปิดตายของ David Fincher ที่แม้ไม่ใช่ผลงานระดับท็อปของตัวเขา แต่มันเป็นความยอดเยี่ยมในฐานะของหนังโฮมอินเวชั่น โดยวางปมให้สองแม่ลูกที่เพิ่งย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ ต้องเผชิญภัยคุกคามจากกลุ่มโจรที่หมายจะเอาทรัพย์สมบัติที่เก็บซ่อนไว้ในบ้านแห่งนี้ ซึ่งความสนุกจะอยู่ที่การเฝ้ามองโมเมนต์ชิงไหวชิงพริบของตัวละคร โดยฝั่งสองแม่ลูกที่หลบซ่อนภายในห้องนิรภัยที่ไร้ซึ่งสัญญาณโทรศัพท์ต้องหาจังหวะที่เหมาะสมและออกมาเพื่อติดต่อขอความช่วยเหลือโดยไม่ให้ถูกกลุ่มโจรจับตัวได้ ขณะเดียวกันกลุ่มโจรก็ต้องเฝ้ามองโดยไม่คลาดสายตาและงัดทุกกลเมล็ดเพื่อจะเข้าไปเอาทรัพย์สมบัติที่เก็บซ่อนไว้ในห้องนิรภัย








8. The Gift (2015)

เมื่อคนแปลกหน้าที่คุ้นเคย มาพร้อมสภาวะคุกคามที่มาแบบคงเส้นคงวา และค่อยๆไต่ระดับความผิดแปลก เล่นกับจิตผู้ถูกกระทำอย่างชวนขนลุก เรียกว่าเป็นการสร้างพล็อตหนังโฮมอินเวชั่น ที่เล่นมุมมองทางจิตวิทยาได้อย่างชาญฉลาดของ Joel Edgerton ที่เพิ่งเปิดตัวในฐานะของมือเขียนบทและกำกับหนัง โดยจุดแรกเริ่มเกิดจาก 'ไซม่อน' ที่เดินซื้อของในห้างสรรพสินค้า แล้วบังเอิญได้พบกับเพื่อนสมัยเรียนอย่าง 'กอร์ดอน' และหลังจากนั้นไม่นานฝ่ายกอร์ดอนก็แวะเวียนมายังบ้านไซม่อนบ่อยครั้งและมักพูดจาแปลกๆแบบมีเลศนัย ซึ่งหนังจะตั้งคำถามถึงแรงจูงใจของการกระทำ พร้อมกับค่อยๆเปิดเผยเบื้องหลังของกอร์ดอน ควบคู่ไปกับสภาพชีวิตของไซม่อนกับภรรยาที่ค่อยๆเจอปัญหาถาโถมเข้ามา








7. Funny Games (1997)

หนังระทึกขวัญที่เล่นไอเดียง่ายๆในการบุกรุกและจับเหยื่อเป็นตัวประกัน ก่อนทำการทรมานอย่างโหดร้ายทารุณ แม้เป็นสถานการณ์ที่คาดเดาได้ แต่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพสูงในการเล่นกับความรู้สึกของคนดู กับการไล่ต้อนและกดดันเหยื่อ ก่อนสร้างโมเมนต์เพื่อให้ความหวังและทำลายมันทิ้งในที่สุด เรียกว่าเป็นความตลกร้ายที่น่าหดหู่ยิ่งนัก โดยจุดเริ่มเกิดจาก ครอบครัวของ 'เเอน' ที่เดินทางไปบ้านพักตากอากาศที่อยู่นอกเมือง ก่อนจะเผชิญกับหายนะครั้งใหญ่จากสองหนุ่มที่เข้ามาขอไข่ไก่สี่ฟองในบ้านของเธอ แล้วทำการปั่นประสาทและจับพวกเธอมัดเพื่อเล่นสนุกในเกมแห่งความตาย








6. Cape Fear (1991)

หนึ่งในบทการแสดงที่ดีที่สุดของ Robert De Niro กับคาแรคเตอร์ที่แสนโรคจิตและดูหมกมุ่นที่สื่อผ่านสีหน้า แววตา และตอกย้ำด้วยการกระทำที่ไต่ระดับไปจนถึงขีดสุดของความอำมหิตในบทของ 'แม็กซ์ เคดี้' ชายที่เพิ่งพ้นโทษ หลังถูกกล่าวหาว่ากระทำชำเราหญิงสาวและต้องติดคุกนานถึง 14 ปี โดยปมเรื่องเกิดจาก 'เเซม โบลเดน' ทนายของแม็กซ์ที่ตัดสินใจแพ้คดีดังกล่าวเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของตนในฐานะคนเป็นพ่อ ซึ่งหนังจะโฟกัสไปยังการกระทำของแม็กซ์ที่มีต่อแซมและครอบครัว โดยจะค่อยๆไต่ระดับและเปลี่ยนสถานะจากสตอล์คเกอร์ที่คอยติดตาม เฝ้ามองในทุกหนแห่ง กลายเป็นชายโรคจิตที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อสะสางความแค้นของตน








5. You're Next (2011)

หนังโฮมอินเวชั่นที่เซ็ทลักษณะของบ้านปิดตายที่ผู้ล่าจะทำการวางกับดัก คอยซุ่มโจมตีเหยื่อจากระยะไกลด้วยหน้าไม้ ก่อนจะกระจายกำลังเพื่อเข้าไปไล่ฆ่าเหยื่อที่ยังหลบซ่อนภายในบ้าน โดยพล็อตเรื่องกล่าวถึงคืนสังสรรค์ของครอบครัวหนึ่ง ที่อยู่ดีๆก็ถูกจู่โจมจากกลุ่มคนปริศนาที่สวมหน้ากากสุนัข ซึ่งหนังจะใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงในการปูพื้นตัวละครเพื่อให้คนดูได้เข้าใจความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวและไปต่อการกับการไขปริศนาเบื้องหลังของกลุ่มคนใส่หน้ากาก ก่อนที่หลังจากนั้นจะขายความระทึกขวัญแบบนอนสต็อป ด้วยโมเมนต์ชิงไหวชิงพริบระหว่างผู้ล่าและเหยื่อ ที่สะท้อนสัญชาตญาณดิบในการเอาตัวรอดของมนุษย์ เมื่อต้องเผชิญกับภัยอันตรายที่เห็นได้ชัดจากตัวเอกสาวที่ประจันหน้ากับกลุ่มผู้บุกรุกโดยไร้ความหวั่นเกรงใดๆ








4. Don't Breathe (2016)

การสับเปลี่ยนบทบาทของเหยื่อกับผู้ล่าในหนังโฮมอินเวชั่น ที่วางให้เหยื่อเป็นกลุ่มโจรวัยรุ่นสามคนที่หวังจะเข้าไปขโมยทรัพย์สินในบ้านของชายตาบอดที่ถูกวางให้เป็นผู้ล่า ซึ่งความเจ๋งก็จะอยู่ที่การสร้างโมเมนต์ไล่ล่าในลักษณะของบ้านปิดตาย ที่แม้ผู้ล่าจะสูญเสียการมองเห็น แต่ประสาทสัมผัสทางการได้ยินและการดมกลิ่นเรียกว่าเฉียบคมมาก ทั้งยังเป็นอดีตทหารผ่านศึกที่มีรูปใหญ่โต แข็งแรง และมีจิตใจที่เหี้ยมโหด ไร้ความปราณี ขณะที่ฝั่งเหยื่อแม้มีสถานะเป็นกลุ่มโจร แต่ภาพลักษณ์ที่หนังสร้างมาก็เป็นเพียงแค่กลุ่มวัยรุ่นธรรมดาๆที่มีพื้นเพชีวิตที่ย่ำแย่ ไม่ได้มีจิตใจที่ชั่วร้ายอะไรนัก ซึ่งการต้องเผชิญหน้ากับชายตาบอดสุดโหดเรียกได้ว่าเป็นฝันร้ายอย่างแท้จริง ที่เหล่าคนดูทำได้เพียงเฝ้ามองและเอาใจช่วยอย่างลุ้นระทึก








3. Scream (1996)

คงเป็นหนังเรื่องแรกๆที่นำขนบธรรมเนียม กลวิธี หรือลูกเล่นที่ถูกใช้ในหนังสยองขวัญมาล้อเลียนและตลบหลังคนดูได้อย่างแสบสัน โดยเป็นโฮมอินเวชั่นที่เปิดเรื่องด้วยฆาตกรที่บุกรุกบ้านหญิงสาวในยามวิกาล ก่อนทำการฆาตกรรมเหยื่ออย่างเหี้ยมโหด ซึ่งหนังเพิ่มมิติตัวฆาตกรโดยการสวมหน้ากากเพื่อสร้างความลึกลับ ความน่ากลัว และเล่นกับการไขปมปริศนาแบบหนังสืบสวนฮูดันอิทที่จะเห็นได้ว่าเมื่อเกิดการฆาตกรรม ตัวฆาตกรจะหลบซ่อนอยู่ในกลุ่มตัวละครหลักที่คนดูต้องคอยสังเกตและคิดวิเคราะห์ว่าใครกันแน่ที่เป็นฆาตกรตัวจริง ทว่าคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับการอ่านเกมให้ขาดกับงานเขียนบทที่เข้าใจเบื้องหน้าเบื้องหลังของหนังประเภทนี้เป็นอย่างดี








2. Wait Until Dark (1967)

หนังโฮมอินเวชั่นที่สร้างความสดใหม่โดยการเพิ่มเงื่อนไขสำคัญสองประการ หนึ่งจะเป็นการเล่าเรื่องราวทั้งหมดภายในอพาร์ทเมนท์เล็กๆสไตล์หนังซิงเกิลโลเคชั่นอย่าง Rear Window, Rope แม้จะเป็นวิธีที่ดูง่ายและช่วยประหยัดงบประมาณการสร้าง แต่การเขียนบทเพื่อชักจูงให้คนดูเกิดความจดจ่อกับเรื่องราวก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และจุดนี้เองจะถูกต่อยอดในข้อที่สอง เมื่อบทเซ็ทตัวเอกของเรื่องให้เป็นหญิงสาวตาบอดที่สามีต้องไปทำงานในต่างเมือง และในระหว่างที่เธอต้องอยู่ในอพาร์ทเมนท์ตามลำพังก็ถูกคุกคามจากกลุ่มคนแปลกหน้า โดยหนังจะใช้ข้อจำกัดเรื่องการมองเห็นของเธอเพื่อสร้างจังหวะลุ้นระทึกและเอาใจช่วยจากคนดู แต่ขณะเดียวหนังก็แสดงให้เห็นถึงความฉลาดและปฏิภาณไหวพริบของเธอเพื่อใช้รับมือกับกลุ่มคนร้าย ทั้งความคุ้นเคยกับสถานที่และการจดจำตำแหน่งสิ่งของต่างๆ รวมทั้งมีการตัดทัศนวิสัยการมองของกลุ่มคนร้าย โดยการทำลายหลอดไฟทั้งหมดเพื่อให้ภายในเป็นเพียงห้องมืดๆที่เธอจะเป็นฝ่ายกุมความได้เปรียบ








1. Straw Dogs (1971)

ต้นแบบชั้นเยี่ยมของหนังโฮมอินเวชั่นที่สร้างสถานการณ์บังคับเพื่อปลุกสัญชาตญาณดิบของตัวเอกที่ถูกกดดันจากฝ่ายผู้บุกรุกด้วยความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง จึงไปกระตุ้นส่วนของไลฟ์อินสติงค์และเดธอินสติงค์ที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์ โดยปลุกให้หนุ่มเนิร์ดผู้รักสงบต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องภรรยาอันเป็นที่รักจากภัยคุกคาม ซึ่งจะเห็นได้ว่านอกจากความบ้าบิ่นหรือความห้าวหาญที่จะสู้อย่างไม่กลัวตาย ตัวเอกยังสามารถใช้ความรู้และสติปัญญาในฐานะของนักคณิตศาสตร์มาวางแผนได้อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การวางกับดักเพื่อตัดเส้นทางการบุกรุก รวมไปถึงการประยุกต์สิ่งของรอบๆตัวเพื่อนำมาใช้เป็นอาวุธในสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างชาญฉลาด
.
.
.
.
.
.
.

ทวิตเตอร์เพจ @Review_Me_ พูดคุยหนังทั่วไปเเละซีรีส์(โดยเฉพาะฝั่งเกาหลี)



ขออนุญาตฝากเพจนะครับ

https://www.facebook.com/Criticalme



เเละขออนุญาตฝากไอจีเพจด้วยนะครับ @review_me__
เป็นพื้นที่สำหรับรีวิวหนังสือนิยายต่างๆโดยเฉพาะแนวสืบสวน