กราบสวัสดีทุก ๆ ท่านนะครับ Poland นี่เป็นกระทู้แรกของผมครับ รบกวนด้วยนะครับ ^^
ประเทศโปแลนด์ เป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ประเทศหนึ่งในยุโรป เป็นประเทศที่ถือว่าครบเครื่องเรื่องสถานที่เที่ยวทีเดียวครับ มีตั้งแต่เที่ยวชมเมือง เมืองเก่า เมืองใหม่ เดินเขา ชมทะเล อยากได้แบบไหน เค้ามีให้หมดครับ ในบทแรกนี้ ผมจะนำเสนอ เมือง Krakow คราโคร หรือ คราเครา หรือ คราคลุฟ แล้วแต่จะเรียกกันนะครับ เมือง Krakow เป็นเมืองใหญ่ทางตอนใต้ของโปแลนด์ มีประวัติอันยาวนาน เมืองสวยงามยังไง ไปตามดูกันครับ
แผนการเดินทางของผมคร่าว ๆ เป็นดังนี้ครับ
Day 0 : 27MAY : BKK-FRA TG920 2345-0600*
Day 1 : 28MAY : Frankfurt
Day 2 : 29MAY : Krakow FRA-KRK LH1364 0840-1025
Day 3 : 30MAY : Krakow
Day 4 : 31MAY : Karkow .. Wieliczka
Day 5 : 01JUN : Warsaw
Day 6 : 02JUN : Warsaw
Day 7 : 03JUN : Torun
Day 8 : 04JUN : Malbork
Day 9 : 05JUN : Gdansk
Day 10 : 06JUN : Gdansk .. Gdyna and Sopot
Day 11 : 07JUN : Gdansk _ FRA-BKK
GDN-FRA LH1377 1435-1610
FRA-HKT TG927 2040-1305*
เดินทางกับการบินไทย ไปลงเที่ยว Frankfurt 1 คืน รอต่อเครื่องไป Krakow ในวันรุ่งขึ้น บรรยากาศในเมือง Frankfurt จะเงียบ ๆ นะผมว่า เดินเล่น ๆ ได้แต่ไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นตาซักเท่าไหร่ ชมเมืองกันไป Alte Oper โรงละครเก่า ผมเริ่มเดินชมเมืองจากที่นี่ แล้วค่อยเดินเลาะไปที่ จตุรัสเมืองเก่า
Römerberg ครับ
เช้าวันที่ 2 ผมออกเดินทางไป Krakow กับสายการบินลุฟทันซ่า จาก Krakow Airport ไป Krakrow main train station 17 mins ราคา 9 PLN ครับ ที่สนามบินคุณสามารถหาซื้อ Krakow Tourist Card 3 days ราคา 120 PLN ได้ด้วยนะครับ ผมว่ามันคุ้มค่ามาก ๆ เข้าสถานที่สำคัญได้เกือบหมด แถมยังใช้เป็นค่าเดินทางรถราง รถบัสภายในเมืองได้อีกด้วยครับ ส่วนที่พักในเมืองนี้ ผมเลือก Pokoje Goscinne Sw Anny ราคา 3 คืน อยู่ที่ 585 PLN จองผ่าน Booking.com ครับ ทำเลดีมาก ๆ เดิน 20 ก้าวถึงจตุรัสเมืองเก่าเลยครับ แต่ก็เดินจากสถานีรถไฟมาไกลพอสมควร ^^ เกริ่นมาพอสมควรแล้ว ไปชมบรรยากาศจตุรัสกลางเมืองกันครับ
รถม้าชมเมือง มีเต็มไปหมด สร้างสีสันให้กับเมืองได้เป็นอย่างดี ต๊อก ต๊อก ต๊อก เสียงเกือกม้ากระทบกับพื้นหิน
ประตูเมือง St. Florian's Gate เมื่อก่อนเคยมีถึง 7 ประตู แต่เมืองต้องพัฒนา ต้องขยายตามกาลเวลา ทำให้ปัจจุบันเหลือประตูเมืองแค่ที่นี่ที่เดียว
ภาพล่างจะเป็นป้อม Kraków Barbican ป้อมปราการอันโด่งดัง เมื่อก่อนใครจะบุก Kraków ก็ต้องผ่านประตูป้อมแห่งนี้ให้ได้เสียก่อน .. . และแน่นอนว่า เป็นเรื่องยากมาก ๆ ที่จะผ่านที่นี่ได้ครับไม่ว่าแคว้นไหน ๆ มาก็ตีไม่แตก ใครซื้อบัตร Krakow Tourist Card เข้าได้เลยครับ
Kościół św Marcina อีกโบสถ์เก่าแก่ของเมืองนี้ ถึงแม้ว่าจะอ่านชื่อโบสถ์ไม่ออกก็ตาม เป็นโบสถ์แบบบาร๊อค เริ่มสร้างตั้งแต่ ศตวรรษที่ 16 กันเลยทีเดียวครับ
เดินมาทั้งวัน กลับมาย่านที่พัก การได้พักใจกลางเมืองแบบนี้ถือว่าคุ้มมาก ๆ ครับ มันทำให้เราสามารถอยู่ ใช้เวลากับถานที่ที่นี่ได้มากขึ้น เหนื่อยก็กลับห้อง หายเหนื่อยก็ลงมาเดินกันใหม่ . . . บรรยากาศดีมาก ๆ ครับ
ค่ำคืนแรกใน Krakow ก็เก็บภาพ จตุรัสเมืองเก่ากันไปครับ ^^
เช้าวันที่ 3 วันนี้ครึ่งวันเช้าผมจะออกเดินทางไป เหมืองเกลืออันโด่งดัง ของ Poland ครับ Wieliczka การเดินทางไป ก็
จาก Krakow 30 mins ราคา 3.5 PLN รถบัสออกทุก ครึ่งชั่วโมง ขึ้นรถแถว ๆ Krakrow main train station ครับ
เหมืองเกลือแห่ง Wieliczka ไม่น่าเชื่อว่าตึกเล็ก ๆ หลังนี้ ลึกลงไปใต้ดินจะมี เหมืองเกลือขนาดใหญ่อยู่ ความลึกสูงสุดอยู่ที่ 327 เมตร และความยาวอันคดเคี้ยว รวม ๆ แล้วยาวประมาณ 287 กิโลเมตร เลยนะครับ ที่นี่ มีค่าเสียหายอยู่ที่ 84 PLN ต่อคนครับ
ดูเหมือนจะลงไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เค้าจะมีจุดพักเป็นระยะ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวของสถานที่ครับ
ที่ความลึกประมาณ 100 เมตร เราสามารถเห็นชั้นเกลือ ที่แทรกตามผนังถ้ำ และที่สำคัญ เกลือก็ยังคงมีอยู่เรื่อย ๆ ครับ ลอง
สังเกตุกันดูนะครับ
ภายในถ้ำ ก็จะมีห้องโถงที่แกะสลัก เป็นรูปคน บอกเล่าเรื่องราวของเหมืองเกลือครับ รูปคนเหล่านั้นไม่ใช่หินธรรมดานะครับ เเต่เป็นหินเกลือครับ
ที่เหมืองเกลือแห่งนี้ ถ้าเราต้องการจะถ่ายภาพ เราต้องจ่ายเงินเพิ่มนะครับ โดยตกคนล่ะ 10 PLN หรือประมาณ 100 บาทนะครับ
ภายในถ้ำ ก็จะเป็นเสมือนบ้านของคนงาน โบสถ์ก็มี เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคน
วิธีสังเกตุนะครับ ว่าเป็นเกลือแกะ หรือหิน คือให้เอาไฟส่องครับ ถ้าโปร่งแสงแสดงว่าเป็นเกลือครับ ^^
Highlight สำคัญของที่นี่ครับ St. Kinga's Chapel ห้องโถงขนาดใหญ่ ประดับด้วยโคมไฟขนาดใหญ่สวยงาม ที่นี่ยังสามารถจัดงานใหญ่ ๆ ในโอกาสต่าง ๆ ได้อีกด้วยครับ
กลับมาบนบก มาต่อกันที่ย่านชาวยิว . . . จากย่านเมืองเก่าเราเดินยาวมาเลย ประมาณ 2 กิโลเมตร เราจะเจอย่านที่ เงียบ ๆ ดูขลัง ๆ โบราณ ๆ หน่อย
The Old Synagogue โบสถ์เก่าชาวยิว ที่บอกเล่าเรื่องราวก่อนหน้าสงคราม ระหว่างสงคราม และหลังสงคราม ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นยังไงบ้าง ใครมีบัตร Krakow Tourist Card เข้าได้เลยครับ
Kazimierz
จตุรัสกลางย่านชาวยิวจะเล็ก ๆ หน่อย แต่ก็ดูสวยงามดี มีรถนำเที่ยวรอบเมือง เต็มไปหมด ย่านนี้มีสเน่ห์แบบในภาพนี่หล่ะครับ ดูเก่า ๆ ดั้งเดิม มีเวลาก็ลองเดิน ๆ มาดูนะครับ สวยงามดีครับ
จริง ๆ แล้ว ในย่านนี้ผมยังไปอีกหลายที่ จะเน้นพวก พิพิธภัณฑ์เยอะหน่อย มีให้เข้าเยอะแยะเลย เรื่องราวส่วนใหญ่ จะเป็นเรื่องราวของชาวยิวก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง เช่น Galicia Jewish Museum ที่เน้นเกี่ยวกับรูปภาพ ให้รูปภาพบอกเล่าเรื่องราวของ สถานที่และผู้คน เเนะนำเลยครับ
เช้าวันที่ 4 ครับ เดินเล่น ๆ หาอะไรกินกันก่อน
The Cloth Hall ภายใต้ตึกนี้จะมี Rynek Underground permanent exhibition จตุรัสใต้ดิน อยู่ด้วยครับ ใครมีบัตร Krakow Tourist Card ต้องไปจองรอบที่ The Cloth Hall Tourist Information ก่อนนะครับ
หลังจากที่ซื้อ Krakow Tourist Card บัตรสำหรับนักท่องเที่ยว จะมีคู่มือแถมให้ว่า สถานที่น่าสนใจในเมือง Krakow มีอะไรบ้าง ปรากฎว่า มีจุดชมวิวบนดาดฟ้าด้วย เราจึงไม่รีรอที่จะไปเยือน . . . ดาดฟ้าที่ว่า เป็นดาดฟ้าบนตึก Music Academy ต้องเดินขึ้นหลายชั้น ความน่าสนใจอยู่ที่ แต่ล่ะชั้นจะมีนักดนตรีหลากหลายประเภท เล่นดนตรีอยู่ด้วย บรรยากาศเหมือน ๆ กับเรื่อง Season Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เลยครับ ชอบมาก
วิวบนดาดฟ้าก็สวยงามไม่น้อยนะครับ ถึงมุมจะแคบ แต่ก็ใช้ได้ ครับ ^^
อีกหนึ่งจุดสำคัญที่ Krakow Tourist Card ครอบคลุม คือ Oskar Schindler's Enamel Factory พิพิธภัณฑ์โรงงานชาวยิว ที่มีเจ้าของเป็นชาวเยอรมัน เรื่องราวมากมาย น่าจดจำ จนถูกนำไปสร้างเป็นหนังใหญ่ ได้รับรางวัล ออสก้า
Krakow Tourist Card เอาจริง ๆ เเค่เข้าที่นี้ กับ Rynek Underground permanent exhibition จตุรัสใต้ดิน และค่าเดินทาง ก็คุ้มค่าบัตรแล้วครับ ที่เหลือ กำไร มาก ๆ
กลับมาเก็บตกเมืองกันครับ
กำแพงเมือง เราสามารถใช้บัตร Krakow Tourist Card เข้าได้อีกด้วยครับ
จตุรัสกลางเมืองตอนกลางวัน รถม้าที่เห็น เค้าจะให้สาวสวยคอยเรียกนักท่องเที่ยว เหมือนว่า นางจะขี่เอง สุดท้ายเรียกชายหนุ่มมาเป็นคนขี่แทน
น้ำนองตอนกลางวัน น้ำที่ให้ม้าดื่ม สร้างมุมแปลกตาได้ดีเลยครับ ^^
ตกเย็น กับค่ำคืนสุดท้าย ที่ Krakow เราเดินไปถ่ายรูปปราสาท Wawel ปราสาทคู่เมือง krakow เดินไกลพอสมควร เรียบเเม่น้ำ เพื่อจะข้ามสะพานมาอีกฝั่งนึง มีคนมาออกกำลังกาย พาหมามาเดินเล่น เสียส่วนใหญ่
บรรยกาศเงียบ ๆ ไม่ค่อยคึกคัก เพราะ ฝั่งนี้ คนจะมาวิ่งเพื่อสุขภาพกันมากกว่า เราก็นั่งเพลิน ๆ กันไป มี ยุง ด้วยนะ เพลินเลย
ลาก่อน Krakow
ชอบตั้งแต่แรกพบ เมืองคึกคักมาก ๆ คึกคักที่สุดของการเดินทางครั้งนี้แล้ว เที่ยงคืน คนยังแน่น นับว่าหายากมากในยุโรป ที่ไม่ใช่เมืองหลวง Krakow Tourist Card คุ้มค่ามาก ๆ แนะนำเลย สถานที่ท่องเที่ยวเยอะ ของกินหาง่าย ควรมาอย่างน้อย 2-3 คืน คิดว่าไม่ผิดหวังสำหรับคนชอบเมืองครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่าน หรือเปิดผ่าน ๆ กันมานะครับ ตอนหน้าจะพาเข้าเมืองหลวง และเก็บตกที่เหลือทั้งหมดครับ ^^
ติดตาม บทที่สอง ตาม Link ข้างล่างได้เลยครับ
https://ppantip.com/topic/38454919
[CR] Poland บทที่ 1 :: เน้นรูป พาชม เมือง Krakow :: by LMC
กราบสวัสดีทุก ๆ ท่านนะครับ Poland นี่เป็นกระทู้แรกของผมครับ รบกวนด้วยนะครับ ^^
ประเทศโปแลนด์ เป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ประเทศหนึ่งในยุโรป เป็นประเทศที่ถือว่าครบเครื่องเรื่องสถานที่เที่ยวทีเดียวครับ มีตั้งแต่เที่ยวชมเมือง เมืองเก่า เมืองใหม่ เดินเขา ชมทะเล อยากได้แบบไหน เค้ามีให้หมดครับ ในบทแรกนี้ ผมจะนำเสนอ เมือง Krakow คราโคร หรือ คราเครา หรือ คราคลุฟ แล้วแต่จะเรียกกันนะครับ เมือง Krakow เป็นเมืองใหญ่ทางตอนใต้ของโปแลนด์ มีประวัติอันยาวนาน เมืองสวยงามยังไง ไปตามดูกันครับ
แผนการเดินทางของผมคร่าว ๆ เป็นดังนี้ครับ
Day 0 : 27MAY : BKK-FRA TG920 2345-0600*
Day 1 : 28MAY : Frankfurt
Day 2 : 29MAY : Krakow FRA-KRK LH1364 0840-1025
Day 3 : 30MAY : Krakow
Day 4 : 31MAY : Karkow .. Wieliczka
Day 5 : 01JUN : Warsaw
Day 6 : 02JUN : Warsaw
Day 7 : 03JUN : Torun
Day 8 : 04JUN : Malbork
Day 9 : 05JUN : Gdansk
Day 10 : 06JUN : Gdansk .. Gdyna and Sopot
Day 11 : 07JUN : Gdansk _ FRA-BKK
GDN-FRA LH1377 1435-1610
FRA-HKT TG927 2040-1305*
เดินทางกับการบินไทย ไปลงเที่ยว Frankfurt 1 คืน รอต่อเครื่องไป Krakow ในวันรุ่งขึ้น บรรยากาศในเมือง Frankfurt จะเงียบ ๆ นะผมว่า เดินเล่น ๆ ได้แต่ไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นตาซักเท่าไหร่ ชมเมืองกันไป Alte Oper โรงละครเก่า ผมเริ่มเดินชมเมืองจากที่นี่ แล้วค่อยเดินเลาะไปที่ จตุรัสเมืองเก่า
Römerberg ครับ
เช้าวันที่ 2 ผมออกเดินทางไป Krakow กับสายการบินลุฟทันซ่า จาก Krakow Airport ไป Krakrow main train station 17 mins ราคา 9 PLN ครับ ที่สนามบินคุณสามารถหาซื้อ Krakow Tourist Card 3 days ราคา 120 PLN ได้ด้วยนะครับ ผมว่ามันคุ้มค่ามาก ๆ เข้าสถานที่สำคัญได้เกือบหมด แถมยังใช้เป็นค่าเดินทางรถราง รถบัสภายในเมืองได้อีกด้วยครับ ส่วนที่พักในเมืองนี้ ผมเลือก Pokoje Goscinne Sw Anny ราคา 3 คืน อยู่ที่ 585 PLN จองผ่าน Booking.com ครับ ทำเลดีมาก ๆ เดิน 20 ก้าวถึงจตุรัสเมืองเก่าเลยครับ แต่ก็เดินจากสถานีรถไฟมาไกลพอสมควร ^^ เกริ่นมาพอสมควรแล้ว ไปชมบรรยากาศจตุรัสกลางเมืองกันครับ
รถม้าชมเมือง มีเต็มไปหมด สร้างสีสันให้กับเมืองได้เป็นอย่างดี ต๊อก ต๊อก ต๊อก เสียงเกือกม้ากระทบกับพื้นหิน
ประตูเมือง St. Florian's Gate เมื่อก่อนเคยมีถึง 7 ประตู แต่เมืองต้องพัฒนา ต้องขยายตามกาลเวลา ทำให้ปัจจุบันเหลือประตูเมืองแค่ที่นี่ที่เดียว
ภาพล่างจะเป็นป้อม Kraków Barbican ป้อมปราการอันโด่งดัง เมื่อก่อนใครจะบุก Kraków ก็ต้องผ่านประตูป้อมแห่งนี้ให้ได้เสียก่อน .. . และแน่นอนว่า เป็นเรื่องยากมาก ๆ ที่จะผ่านที่นี่ได้ครับไม่ว่าแคว้นไหน ๆ มาก็ตีไม่แตก ใครซื้อบัตร Krakow Tourist Card เข้าได้เลยครับ
Kościół św Marcina อีกโบสถ์เก่าแก่ของเมืองนี้ ถึงแม้ว่าจะอ่านชื่อโบสถ์ไม่ออกก็ตาม เป็นโบสถ์แบบบาร๊อค เริ่มสร้างตั้งแต่ ศตวรรษที่ 16 กันเลยทีเดียวครับ
เดินมาทั้งวัน กลับมาย่านที่พัก การได้พักใจกลางเมืองแบบนี้ถือว่าคุ้มมาก ๆ ครับ มันทำให้เราสามารถอยู่ ใช้เวลากับถานที่ที่นี่ได้มากขึ้น เหนื่อยก็กลับห้อง หายเหนื่อยก็ลงมาเดินกันใหม่ . . . บรรยากาศดีมาก ๆ ครับ
ค่ำคืนแรกใน Krakow ก็เก็บภาพ จตุรัสเมืองเก่ากันไปครับ ^^
เช้าวันที่ 3 วันนี้ครึ่งวันเช้าผมจะออกเดินทางไป เหมืองเกลืออันโด่งดัง ของ Poland ครับ Wieliczka การเดินทางไป ก็
จาก Krakow 30 mins ราคา 3.5 PLN รถบัสออกทุก ครึ่งชั่วโมง ขึ้นรถแถว ๆ Krakrow main train station ครับ
เหมืองเกลือแห่ง Wieliczka ไม่น่าเชื่อว่าตึกเล็ก ๆ หลังนี้ ลึกลงไปใต้ดินจะมี เหมืองเกลือขนาดใหญ่อยู่ ความลึกสูงสุดอยู่ที่ 327 เมตร และความยาวอันคดเคี้ยว รวม ๆ แล้วยาวประมาณ 287 กิโลเมตร เลยนะครับ ที่นี่ มีค่าเสียหายอยู่ที่ 84 PLN ต่อคนครับ
ดูเหมือนจะลงไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เค้าจะมีจุดพักเป็นระยะ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวของสถานที่ครับ
ที่ความลึกประมาณ 100 เมตร เราสามารถเห็นชั้นเกลือ ที่แทรกตามผนังถ้ำ และที่สำคัญ เกลือก็ยังคงมีอยู่เรื่อย ๆ ครับ ลอง
สังเกตุกันดูนะครับ
ภายในถ้ำ ก็จะมีห้องโถงที่แกะสลัก เป็นรูปคน บอกเล่าเรื่องราวของเหมืองเกลือครับ รูปคนเหล่านั้นไม่ใช่หินธรรมดานะครับ เเต่เป็นหินเกลือครับ
ที่เหมืองเกลือแห่งนี้ ถ้าเราต้องการจะถ่ายภาพ เราต้องจ่ายเงินเพิ่มนะครับ โดยตกคนล่ะ 10 PLN หรือประมาณ 100 บาทนะครับ
ภายในถ้ำ ก็จะเป็นเสมือนบ้านของคนงาน โบสถ์ก็มี เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคน
วิธีสังเกตุนะครับ ว่าเป็นเกลือแกะ หรือหิน คือให้เอาไฟส่องครับ ถ้าโปร่งแสงแสดงว่าเป็นเกลือครับ ^^
Highlight สำคัญของที่นี่ครับ St. Kinga's Chapel ห้องโถงขนาดใหญ่ ประดับด้วยโคมไฟขนาดใหญ่สวยงาม ที่นี่ยังสามารถจัดงานใหญ่ ๆ ในโอกาสต่าง ๆ ได้อีกด้วยครับ
กลับมาบนบก มาต่อกันที่ย่านชาวยิว . . . จากย่านเมืองเก่าเราเดินยาวมาเลย ประมาณ 2 กิโลเมตร เราจะเจอย่านที่ เงียบ ๆ ดูขลัง ๆ โบราณ ๆ หน่อย
The Old Synagogue โบสถ์เก่าชาวยิว ที่บอกเล่าเรื่องราวก่อนหน้าสงคราม ระหว่างสงคราม และหลังสงคราม ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นยังไงบ้าง ใครมีบัตร Krakow Tourist Card เข้าได้เลยครับ
Kazimierz
จตุรัสกลางย่านชาวยิวจะเล็ก ๆ หน่อย แต่ก็ดูสวยงามดี มีรถนำเที่ยวรอบเมือง เต็มไปหมด ย่านนี้มีสเน่ห์แบบในภาพนี่หล่ะครับ ดูเก่า ๆ ดั้งเดิม มีเวลาก็ลองเดิน ๆ มาดูนะครับ สวยงามดีครับ
จริง ๆ แล้ว ในย่านนี้ผมยังไปอีกหลายที่ จะเน้นพวก พิพิธภัณฑ์เยอะหน่อย มีให้เข้าเยอะแยะเลย เรื่องราวส่วนใหญ่ จะเป็นเรื่องราวของชาวยิวก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง เช่น Galicia Jewish Museum ที่เน้นเกี่ยวกับรูปภาพ ให้รูปภาพบอกเล่าเรื่องราวของ สถานที่และผู้คน เเนะนำเลยครับ
เช้าวันที่ 4 ครับ เดินเล่น ๆ หาอะไรกินกันก่อน
The Cloth Hall ภายใต้ตึกนี้จะมี Rynek Underground permanent exhibition จตุรัสใต้ดิน อยู่ด้วยครับ ใครมีบัตร Krakow Tourist Card ต้องไปจองรอบที่ The Cloth Hall Tourist Information ก่อนนะครับ
หลังจากที่ซื้อ Krakow Tourist Card บัตรสำหรับนักท่องเที่ยว จะมีคู่มือแถมให้ว่า สถานที่น่าสนใจในเมือง Krakow มีอะไรบ้าง ปรากฎว่า มีจุดชมวิวบนดาดฟ้าด้วย เราจึงไม่รีรอที่จะไปเยือน . . . ดาดฟ้าที่ว่า เป็นดาดฟ้าบนตึก Music Academy ต้องเดินขึ้นหลายชั้น ความน่าสนใจอยู่ที่ แต่ล่ะชั้นจะมีนักดนตรีหลากหลายประเภท เล่นดนตรีอยู่ด้วย บรรยากาศเหมือน ๆ กับเรื่อง Season Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เลยครับ ชอบมาก
วิวบนดาดฟ้าก็สวยงามไม่น้อยนะครับ ถึงมุมจะแคบ แต่ก็ใช้ได้ ครับ ^^
อีกหนึ่งจุดสำคัญที่ Krakow Tourist Card ครอบคลุม คือ Oskar Schindler's Enamel Factory พิพิธภัณฑ์โรงงานชาวยิว ที่มีเจ้าของเป็นชาวเยอรมัน เรื่องราวมากมาย น่าจดจำ จนถูกนำไปสร้างเป็นหนังใหญ่ ได้รับรางวัล ออสก้า
Krakow Tourist Card เอาจริง ๆ เเค่เข้าที่นี้ กับ Rynek Underground permanent exhibition จตุรัสใต้ดิน และค่าเดินทาง ก็คุ้มค่าบัตรแล้วครับ ที่เหลือ กำไร มาก ๆ
กลับมาเก็บตกเมืองกันครับ
กำแพงเมือง เราสามารถใช้บัตร Krakow Tourist Card เข้าได้อีกด้วยครับ
จตุรัสกลางเมืองตอนกลางวัน รถม้าที่เห็น เค้าจะให้สาวสวยคอยเรียกนักท่องเที่ยว เหมือนว่า นางจะขี่เอง สุดท้ายเรียกชายหนุ่มมาเป็นคนขี่แทน
น้ำนองตอนกลางวัน น้ำที่ให้ม้าดื่ม สร้างมุมแปลกตาได้ดีเลยครับ ^^
ตกเย็น กับค่ำคืนสุดท้าย ที่ Krakow เราเดินไปถ่ายรูปปราสาท Wawel ปราสาทคู่เมือง krakow เดินไกลพอสมควร เรียบเเม่น้ำ เพื่อจะข้ามสะพานมาอีกฝั่งนึง มีคนมาออกกำลังกาย พาหมามาเดินเล่น เสียส่วนใหญ่
บรรยกาศเงียบ ๆ ไม่ค่อยคึกคัก เพราะ ฝั่งนี้ คนจะมาวิ่งเพื่อสุขภาพกันมากกว่า เราก็นั่งเพลิน ๆ กันไป มี ยุง ด้วยนะ เพลินเลย
ลาก่อน Krakow
ชอบตั้งแต่แรกพบ เมืองคึกคักมาก ๆ คึกคักที่สุดของการเดินทางครั้งนี้แล้ว เที่ยงคืน คนยังแน่น นับว่าหายากมากในยุโรป ที่ไม่ใช่เมืองหลวง Krakow Tourist Card คุ้มค่ามาก ๆ แนะนำเลย สถานที่ท่องเที่ยวเยอะ ของกินหาง่าย ควรมาอย่างน้อย 2-3 คืน คิดว่าไม่ผิดหวังสำหรับคนชอบเมืองครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่าน หรือเปิดผ่าน ๆ กันมานะครับ ตอนหน้าจะพาเข้าเมืองหลวง และเก็บตกที่เหลือทั้งหมดครับ ^^
ติดตาม บทที่สอง ตาม Link ข้างล่างได้เลยครับ
https://ppantip.com/topic/38454919
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้