เมื่อฤดูหนาวมาเข้าเยือน บวกกับความต้องการอยากพักและใจอยากเที่ยวจะรออะไรมันต้องหาที่คูลๆ ที่ชิคๆ มีสถานที่ถ่ายรูปสวยๆเยอะๆ มันจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้...เชียงใหม่นี่ล่ะ ทริปนี้ผมเดินทางโดยรถไฟ ถึงจะช้าแต่ก็ถึงนะ555+ แต่ขากลับนั่งรถทัวร์ ผมนั่งรถไฟกรุงเทพ-เชียงใหม่ ขบวน109 ซึ้งผ่านแถวบ้านผม ขบวนนี้จะไปถึงเชียงใหม่ประมาณตี5 จากนั้นผมก็นั่งรถแดงที่สถานีไปเช่ารถมอเตอร์ไซด์ที่สถานีขนส่งอาเขตร้าน Bikkychiangmai เช่า3รวด เปิดGPSทั้งทริปแล้วลุยเลยยยยย
#ไฮทไลท์การเดินทาง 4 วัน 3 คืน
Day 1 : พักที่ Touch Star Resort รีสอร์ทใกล้ดอยอินทนนท์
- วัดพระธาตุดอยคำ
- ผาช่อ
- วัดพระธาตุศรีจอมทอง
- ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ
- ทุ่งดอกไฮเดรนเยียร์
- นาขั้นบันไดขุนแปะ
Day 2 : พักที่ Camp Inthanon แคมป์ดอยอินทนนท์
- น้ำตกแม่ยะ
-Smallfarm
-น้ำตกวชิราธาร
-น้ำตกสิริธาร
-นาขันบันไดแม่กลางหลวง
-สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์
-จดชมวิวดอยผาตั้ง(ม่อนน้องแกะ)
Day 3 : พักที่ Lanna Dusita Riverside Boutique Resort.
-พระมหาธาตุนภเมธนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิศิริ
-จุดสูงสุดดอยอินทนน์
-เส้นทางธรรมชาติอ่างกา
-Onenimman
Day 4
-เดินทางกลับ(รถทัวร์ที่สถานีขนส่งอาเขต)
มาที่การเดินทางของเรากันเลย
การเดินทางของผมเริ่มขึ้นช่วงประมาณเกือบ 2 ทุ่ม ผมเดินทางโดยรถไฟกรุงเทพ-เชียงใหม่ขบวน 109 ผมนั่งชั้น2 พัดลม ราคาจากบ้านผม 290 บาท ขบวนนี้ออกจากกรุงเทพตามเวลาประมาณ 13.45 น.ถึงเชียงใหม่ 04.05 น. ขบวนนี้มีทั้งตู้ปรับอากาศและพัดลม
พอถึงเชียงใหม่ผมอาบน้ำที่สถานีรถไฟ แล้วก็นั่งรถแดง(ค่ารถไม่ควรเกินคนล่ะ30บาท)ไปเช่ารถที่ร้าน Bikky สถานีขนส่งอาเขตผมเช่ายี้ห้อ Yamaha Grand Filano วันล่ะ 300 บาท เช้า 3 วันรวด ไม่เสียค่ามัดจำแต่เค้าจะยึดบัตรประชนเราไว้ พอเอารถมาคืนก็จะได้บัตรคืน น้ำมันคืนเท่าครั้งแรก เช่ารถเสร็จลุยเลยจริงๆไม่รู้ทางหรอกใช้วิธีเปิดGps เอาเอ้าลุยยยยย (ถ้าใครจะไปอินทนนท์เช่าแนะนำเป็นฮอนด้าคลิ๊กหรือฟีโน่ดีกว่าที่ผมเช่าขึ้นเขาอืดมาก)
ที่แรกที่แวะ
วัดพระธาตุดอยคำ มาเชียงใหม่กี่ครั้งก็ต้องแวะวัดนี้ ทริปนี้ก็แวะมาขอพรก่อนเที่ยว อย่างที่รู้กันดี หลวงพ่อทันใจขึ้นชื่อเรื่องการขอพร บนบานด้วยดอกมะลิ เมื่อสมหวังคนก็จะมาแก้บน คนจะเยอะตลอดวัดนี้ (การขอพรให้จุดธุป 3 ดอก แล้วอธิษฐานขอพรเรื่องที่ต้องการ บอกท่านว่าจะมาถวายดอกมะลิ 50 พวงขึ้นไป)
ผาช่อ
เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ จากที่อ่านมา เค้าว่ากันว่าที่นี่เคยเป็นแม่น้ำปิงมาก่อน เกิดการแปรสัณฐาน และเกิดจากการกัดเซาะของลมฝน จึงทำให้เกิดผาหินลักษณะสวยงามแปลกตาแบบนี้
การเดินทางเข้าไปยังผาช่อ มีจุดจอดรถ2แห่ง ด้านบนและด้านล่าง ถ้าอยากชมวิวด้านบนให้มาจอดรถที่จุดจอดรถ 1 แต่ถ้าอยากเดินใกล้หน่อยให้ไปจอดที่จุดจอดรถ 3
สวยงามอลังการ
ผมว่าเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเลยนะ สวยงามแปลกตา
ตรงนี้ก็สวย มีชื่อเรียกด้วยนะแต่จำชื่อไม่ได้ 555
จุดชมวิวผาช่อ
แดดเปรี้ยงๆยังสวย ถ้าเป็นช่วงเช้าน่าจะสวย
จากนั้นยิงยาวมาจอมทองเลยครับ มาแวะที่ไหว้พระขอพรที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง
สวยมาก
ด้านในสวยงดงามมาก เป็นสีทองเหลืองอร่าม
ที่พักของเราคืนนี้ Touch Star Resort บ้านทรงAเฟรมหลังนี้เป็นไฮท์ของที่นี่
ส่วนห้องที่ผมพัก หลังนี้เลย ชื่อ"บ้านเคียงเดือน" เป็นทรงAเฟรมเล็กๆน่ารักๆ
มาดูในห้องกันบ้าง ผนังห้องจะวาดลวดทายทุกห้องอย่างในห้องผมจะเป็นภาพปลาคาร์ฟ ในห้องก็จะมีทีวี ตู้เย็น มีแอร์ อุปกรณ์อาบน้ำครบ
บ่อแช่น้ำแร่ธรรมชาติใต้ดิน เราสามารถมานั่งแช่นอนแช่ได้สบายเลย เค้าบอกว่าน้ำแร่ที่นี่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวและประสาทสัมผัสต่างๆได้
พักที่นี่จะได้อาบน้ำแร่ด้วย เพราะทุกห้องจะมีน้ำแร่ธรรมชาติที่กลั่นกรองแล้วส่งถึงห้องน้ำทุกห้องในรีสอร์ท
เก็บของเข้าที่พักเสร็จ
ผมไปที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ เพื่อที่จะไปดูดอกไฮเดรนเยียร์และนาขั้นบันได ระหว่างทางจะเจอวิวภูเขาสวยๆตลอดทาง ชอบมากทางค่อนข้างลำบากนิดนึง
การเดินทาง : จากแยกดอยอินทนนท์ ขับตรงไปทางวัดพระธาตุศรีจอมทองตรงไปประมาณ 30 km. แล้วไปเลี้ยวขวาตรงปากทางเข้า มีปั้มน้ำมัน ขับตรงไปทางเดียวกับสำนักสงฆ์ถ้ำตอง ตรงไปอีกประมาณ 22 km. ถ้างงเปิดgpsไปได้เลยครับไม่หลงแน่นอน ทางช่วงแรกเป็นลาดยางขับสบายๆ แต่ช่วงๆหลังๆเป็นทางลูกรังสลับกับคอนกรีต และอยู่ในช่วงระหว่างทำทาง ทางชันเป็นบางช่วง รถมอเตอร์ไซด์ไปได้สบายๆ รถยนต์กับรถเก๋งก็ไปได้ครับ แต่รถที่โหลดต่ำๆไม่แนะนำครับ
ต้องไปจอดรถไว้ที่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ จากนั้นต่อรถกะบะชาวบ้านไปยังทุ่งดอกไฮเดรนเยียร์ อีกประมาณ 7 km. ไม่สามารถขับรถไปเองได้เพราะทางโหดมากเป็นหลุมและทางแคป เสียค่าใช้จ่าย 500 บาทต่อคัน ไปได้ครั้งล่ะ 8 คน ตกคนล่ะไม่เกิน 70 บาทเอง ถ้าไปน้อยเราจะรอให้ครบ 8 คนก็ได้เพื่อหารกันหรือถ้าไม่รอก็เหมาไปได้เลย ผมว่าจ่ายไปเถอะถือเป็นการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่นั่นด้วย
ก่อนเข้าชม เราจะเสียค่าเข้าชมสวนอีกคนล่ะ 30 บาท
สวยมาก มองไปเป็นสีฟ้าขาวทั่วทั้งแปลง
ดอกใหญ่สวยมาก เท่าที่เห็นจะเป็นดอกสีฟ้ากับสีขาวเป็นส่วนใหญ่
เห็นเค้าบอกว่าประมาณ 5 ไร่ มองไปก็แน่นอยู่ ถ่ายรูปสวยเลย
ผมว่าโอเคเลย ไม่ต้องไปไกลถึงดาลัด เวียดนามแล้ว เชียงใหม่เราก็มีทุ่งดอกไฮเดรนเยียร์สวยๆให้เที่ยวชม มองไปโคตรคูล ถ่ายรูปไปอวดเพื่อนได้ฟิวเหมือนอยู่ต่างประเทศ
สวยเลย ถ้ามีนางแบบไปแจ๋วเลย หรือใครจะพาแฟนไปโคตรเหมาะ
เราสามารถเดินถ่ายรูปให้จุใจเลย เค้าให้เวลากลุ่มล่ะประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ มีทางให้เดินพยายามเดินตามทางที่เค้าให้เดินนะ ไม่งั้นผมว่าคนไปทีหลังจะเละ ช่วยกันๆเราจะได้มีสถานที่สวยๆไว้ให้เราชมนานๆ
ใกล้ๆยังมีจุดชมวิวภูเขา มีนาขั้นบันได แปลงผักชาวบ้านสวยๆด้วย
ขากลับพี่คนขับมาแวะนาขั้นบันได้ สวยมาก ช่วงที่ผมไปข้าวกำลังเหลืองเลย ชอบมุมนี้สุด มองไปเป็นขั้นๆโค้งสวยเลย
มุมนี้ก็สวย ขนาดแดดช่วงบ่ายๆ ถ้ามาช่วงเย็นแสงคงสวยกว่านี้ จากนั้นผมก็กลับที่พักพรุ่งนี้ลุยต่อ
จริงๆไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศ ประเทศไทยก็มีนาขั้นบรรไดสวยๆหลายที่เลย
เช้าแล้ว ออกมาเดินเล่นสูดอาการบริสุทธิ์ยามเช้า ท้องฟ้าตอนเช้าสวยมาก
ผมเช็คเอ้าท์แต่เช้า ได้เวลาไปลุยกันต่อ
ผมมาที่นี่ครับ น้ำตกแม่ยะ
จากจุดจอดรถต้องเดินเข้าไปประมาณ 600 เมตร
บริเวณจุดจอดรถมีอาหารขายสามารถซื้อไปนั่งทานบริเวณน้ำตกได้
สวยงามสมชื่อ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงามอลังการจริงๆ แอบเสียดายตอนไปฝนตกน้ำเลยขุ่น
แต่บรรยากาศเย็นๆนะ คูลๆเลย
แล้วผมก็มาแวะที่นี่ small farm โดยเสียค่าเข้าชมคนล่ะ 50 บาท เด็ก 30 บาท โดยบัตรสามารถแลกตะกร้าผักเลี้ยงสัตว์ได้ ด้านในมีร้านอาหาร มีที่พัก มีฟาร์มเลี้ยงสัตว์
มีรถม้า นั่งได้ 4 คน ราคา 150 บาทต่อเที่ยว
แล้วก็มีม้าแคระด้วย สามารถขี่ได้รอบล่ะ 20 บาท ราคาม้าใหญ่ก็เท่ากัน
มีแกะด้วย พอเดินเข้าไปเท่านั้นแหละกรูเข้ามาหาทันที ยังไม่ทันได้ป้อนเจอแย่งหมดตะกร้า 555
ลูกหมูน่ารักมาก ตอนเดินเข้าไปตอนแรกเห็นพี่เค้าใล่จับ วิ่งกันหัวซุกหัวซุนเลยทีเดียว เห็นตัวเล็กวิ่งอย่างเร็ว 5555+ นึกแล้วยังขำ แต่มันน่ารักมากยิ่งตอนดูดนม
จริงๆที่นี่มีที่พักด้วย มุมถ่ายรูปก็เยอะเลย เหมาะกับเด็กๆแต่โตๆแบบเราก็ได้อยู่นะ 555
ลองแวะไปกันดูครับ ค่าเข้าไม่แพงเลย
น้ำตกวชิราธาร สวยมาก
แค่เดินเข้าไปใกล้ๆละอองน้ำก็กระเด็นใส่หน้า เตรียมขาตั้งกล้องไปอย่างดี สรุปไม่ได้ตั้งหรอก ละออกน้ำเปียกชุ่มเลยหน้าเลนส์555 รีบถ่ายรูปนึงแล้วเช็ด จริงๆโทรศัพท์ถ่ายง่ายสุดนะผมว่า
สวยจริงๆนะ มองไปมองมาเหมือนน้ำตกขนาดใหญ่ในต่างประเทศเทศเลย เสียงน้ำกระทบพื้นบวกกับละอองที่กระเด็น บอกเลยเปียก 5555 ล้อเล่นอย่างฟินอ่ะ
ชอบมาก เป็นน้ำตกที่ชอบมากที่นึงตั้งแต่เคยไปน้ำตกมาเลย
ต่อมาแวะที่น้ำตกสิริธาร น้ำตกใหญ่เหมือนกันแต่ไม่สามารถลงไปถ่ายรูปข้างล่างได้ แต่จะมีจุดชมวิวให้ถ่ายรูป
สวยนะ ถ้าลงไปข้างล่างได้นะแจ่ม
[CR] นั่งรถไฟ เช่ามอไซด์ เที่ยวเชียงใหม่ 4 วัน 3 คืน
เมื่อฤดูหนาวมาเข้าเยือน บวกกับความต้องการอยากพักและใจอยากเที่ยวจะรออะไรมันต้องหาที่คูลๆ ที่ชิคๆ มีสถานที่ถ่ายรูปสวยๆเยอะๆ มันจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้...เชียงใหม่นี่ล่ะ ทริปนี้ผมเดินทางโดยรถไฟ ถึงจะช้าแต่ก็ถึงนะ555+ แต่ขากลับนั่งรถทัวร์ ผมนั่งรถไฟกรุงเทพ-เชียงใหม่ ขบวน109 ซึ้งผ่านแถวบ้านผม ขบวนนี้จะไปถึงเชียงใหม่ประมาณตี5 จากนั้นผมก็นั่งรถแดงที่สถานีไปเช่ารถมอเตอร์ไซด์ที่สถานีขนส่งอาเขตร้าน Bikkychiangmai เช่า3รวด เปิดGPSทั้งทริปแล้วลุยเลยยยยย
#ไฮทไลท์การเดินทาง 4 วัน 3 คืน
Day 1 : พักที่ Touch Star Resort รีสอร์ทใกล้ดอยอินทนนท์
- วัดพระธาตุดอยคำ
- ผาช่อ
- วัดพระธาตุศรีจอมทอง
- ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ
- ทุ่งดอกไฮเดรนเยียร์
- นาขั้นบันไดขุนแปะ
Day 2 : พักที่ Camp Inthanon แคมป์ดอยอินทนนท์
- น้ำตกแม่ยะ
-Smallfarm
-น้ำตกวชิราธาร
-น้ำตกสิริธาร
-นาขันบันไดแม่กลางหลวง
-สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์
-จดชมวิวดอยผาตั้ง(ม่อนน้องแกะ)
Day 3 : พักที่ Lanna Dusita Riverside Boutique Resort.
-พระมหาธาตุนภเมธนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิศิริ
-จุดสูงสุดดอยอินทนน์
-เส้นทางธรรมชาติอ่างกา
-Onenimman
Day 4
-เดินทางกลับ(รถทัวร์ที่สถานีขนส่งอาเขต)
มาที่การเดินทางของเรากันเลย
การเดินทางของผมเริ่มขึ้นช่วงประมาณเกือบ 2 ทุ่ม ผมเดินทางโดยรถไฟกรุงเทพ-เชียงใหม่ขบวน 109 ผมนั่งชั้น2 พัดลม ราคาจากบ้านผม 290 บาท ขบวนนี้ออกจากกรุงเทพตามเวลาประมาณ 13.45 น.ถึงเชียงใหม่ 04.05 น. ขบวนนี้มีทั้งตู้ปรับอากาศและพัดลม
พอถึงเชียงใหม่ผมอาบน้ำที่สถานีรถไฟ แล้วก็นั่งรถแดง(ค่ารถไม่ควรเกินคนล่ะ30บาท)ไปเช่ารถที่ร้าน Bikky สถานีขนส่งอาเขตผมเช่ายี้ห้อ Yamaha Grand Filano วันล่ะ 300 บาท เช้า 3 วันรวด ไม่เสียค่ามัดจำแต่เค้าจะยึดบัตรประชนเราไว้ พอเอารถมาคืนก็จะได้บัตรคืน น้ำมันคืนเท่าครั้งแรก เช่ารถเสร็จลุยเลยจริงๆไม่รู้ทางหรอกใช้วิธีเปิดGps เอาเอ้าลุยยยยย (ถ้าใครจะไปอินทนนท์เช่าแนะนำเป็นฮอนด้าคลิ๊กหรือฟีโน่ดีกว่าที่ผมเช่าขึ้นเขาอืดมาก)
ที่แรกที่แวะ
วัดพระธาตุดอยคำ มาเชียงใหม่กี่ครั้งก็ต้องแวะวัดนี้ ทริปนี้ก็แวะมาขอพรก่อนเที่ยว อย่างที่รู้กันดี หลวงพ่อทันใจขึ้นชื่อเรื่องการขอพร บนบานด้วยดอกมะลิ เมื่อสมหวังคนก็จะมาแก้บน คนจะเยอะตลอดวัดนี้ (การขอพรให้จุดธุป 3 ดอก แล้วอธิษฐานขอพรเรื่องที่ต้องการ บอกท่านว่าจะมาถวายดอกมะลิ 50 พวงขึ้นไป)
ผาช่อ
เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ จากที่อ่านมา เค้าว่ากันว่าที่นี่เคยเป็นแม่น้ำปิงมาก่อน เกิดการแปรสัณฐาน และเกิดจากการกัดเซาะของลมฝน จึงทำให้เกิดผาหินลักษณะสวยงามแปลกตาแบบนี้
การเดินทางเข้าไปยังผาช่อ มีจุดจอดรถ2แห่ง ด้านบนและด้านล่าง ถ้าอยากชมวิวด้านบนให้มาจอดรถที่จุดจอดรถ 1 แต่ถ้าอยากเดินใกล้หน่อยให้ไปจอดที่จุดจอดรถ 3
สวยงามอลังการ
ผมว่าเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเลยนะ สวยงามแปลกตา
ตรงนี้ก็สวย มีชื่อเรียกด้วยนะแต่จำชื่อไม่ได้ 555
จุดชมวิวผาช่อ
แดดเปรี้ยงๆยังสวย ถ้าเป็นช่วงเช้าน่าจะสวย
จากนั้นยิงยาวมาจอมทองเลยครับ มาแวะที่ไหว้พระขอพรที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง
สวยมาก
ด้านในสวยงดงามมาก เป็นสีทองเหลืองอร่าม
ที่พักของเราคืนนี้ Touch Star Resort บ้านทรงAเฟรมหลังนี้เป็นไฮท์ของที่นี่
ส่วนห้องที่ผมพัก หลังนี้เลย ชื่อ"บ้านเคียงเดือน" เป็นทรงAเฟรมเล็กๆน่ารักๆ
มาดูในห้องกันบ้าง ผนังห้องจะวาดลวดทายทุกห้องอย่างในห้องผมจะเป็นภาพปลาคาร์ฟ ในห้องก็จะมีทีวี ตู้เย็น มีแอร์ อุปกรณ์อาบน้ำครบ
บ่อแช่น้ำแร่ธรรมชาติใต้ดิน เราสามารถมานั่งแช่นอนแช่ได้สบายเลย เค้าบอกว่าน้ำแร่ที่นี่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวและประสาทสัมผัสต่างๆได้
พักที่นี่จะได้อาบน้ำแร่ด้วย เพราะทุกห้องจะมีน้ำแร่ธรรมชาติที่กลั่นกรองแล้วส่งถึงห้องน้ำทุกห้องในรีสอร์ท
เก็บของเข้าที่พักเสร็จ
ผมไปที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ เพื่อที่จะไปดูดอกไฮเดรนเยียร์และนาขั้นบันได ระหว่างทางจะเจอวิวภูเขาสวยๆตลอดทาง ชอบมากทางค่อนข้างลำบากนิดนึง
การเดินทาง : จากแยกดอยอินทนนท์ ขับตรงไปทางวัดพระธาตุศรีจอมทองตรงไปประมาณ 30 km. แล้วไปเลี้ยวขวาตรงปากทางเข้า มีปั้มน้ำมัน ขับตรงไปทางเดียวกับสำนักสงฆ์ถ้ำตอง ตรงไปอีกประมาณ 22 km. ถ้างงเปิดgpsไปได้เลยครับไม่หลงแน่นอน ทางช่วงแรกเป็นลาดยางขับสบายๆ แต่ช่วงๆหลังๆเป็นทางลูกรังสลับกับคอนกรีต และอยู่ในช่วงระหว่างทำทาง ทางชันเป็นบางช่วง รถมอเตอร์ไซด์ไปได้สบายๆ รถยนต์กับรถเก๋งก็ไปได้ครับ แต่รถที่โหลดต่ำๆไม่แนะนำครับ
ต้องไปจอดรถไว้ที่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ จากนั้นต่อรถกะบะชาวบ้านไปยังทุ่งดอกไฮเดรนเยียร์ อีกประมาณ 7 km. ไม่สามารถขับรถไปเองได้เพราะทางโหดมากเป็นหลุมและทางแคป เสียค่าใช้จ่าย 500 บาทต่อคัน ไปได้ครั้งล่ะ 8 คน ตกคนล่ะไม่เกิน 70 บาทเอง ถ้าไปน้อยเราจะรอให้ครบ 8 คนก็ได้เพื่อหารกันหรือถ้าไม่รอก็เหมาไปได้เลย ผมว่าจ่ายไปเถอะถือเป็นการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่นั่นด้วย
ก่อนเข้าชม เราจะเสียค่าเข้าชมสวนอีกคนล่ะ 30 บาท
สวยมาก มองไปเป็นสีฟ้าขาวทั่วทั้งแปลง
ดอกใหญ่สวยมาก เท่าที่เห็นจะเป็นดอกสีฟ้ากับสีขาวเป็นส่วนใหญ่
เห็นเค้าบอกว่าประมาณ 5 ไร่ มองไปก็แน่นอยู่ ถ่ายรูปสวยเลย
ผมว่าโอเคเลย ไม่ต้องไปไกลถึงดาลัด เวียดนามแล้ว เชียงใหม่เราก็มีทุ่งดอกไฮเดรนเยียร์สวยๆให้เที่ยวชม มองไปโคตรคูล ถ่ายรูปไปอวดเพื่อนได้ฟิวเหมือนอยู่ต่างประเทศ
สวยเลย ถ้ามีนางแบบไปแจ๋วเลย หรือใครจะพาแฟนไปโคตรเหมาะ
เราสามารถเดินถ่ายรูปให้จุใจเลย เค้าให้เวลากลุ่มล่ะประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ มีทางให้เดินพยายามเดินตามทางที่เค้าให้เดินนะ ไม่งั้นผมว่าคนไปทีหลังจะเละ ช่วยกันๆเราจะได้มีสถานที่สวยๆไว้ให้เราชมนานๆ
ใกล้ๆยังมีจุดชมวิวภูเขา มีนาขั้นบันได แปลงผักชาวบ้านสวยๆด้วย
ขากลับพี่คนขับมาแวะนาขั้นบันได้ สวยมาก ช่วงที่ผมไปข้าวกำลังเหลืองเลย ชอบมุมนี้สุด มองไปเป็นขั้นๆโค้งสวยเลย
มุมนี้ก็สวย ขนาดแดดช่วงบ่ายๆ ถ้ามาช่วงเย็นแสงคงสวยกว่านี้ จากนั้นผมก็กลับที่พักพรุ่งนี้ลุยต่อ
จริงๆไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศ ประเทศไทยก็มีนาขั้นบรรไดสวยๆหลายที่เลย
เช้าแล้ว ออกมาเดินเล่นสูดอาการบริสุทธิ์ยามเช้า ท้องฟ้าตอนเช้าสวยมาก
ผมเช็คเอ้าท์แต่เช้า ได้เวลาไปลุยกันต่อ
ผมมาที่นี่ครับ น้ำตกแม่ยะ
จากจุดจอดรถต้องเดินเข้าไปประมาณ 600 เมตร
บริเวณจุดจอดรถมีอาหารขายสามารถซื้อไปนั่งทานบริเวณน้ำตกได้
สวยงามสมชื่อ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงามอลังการจริงๆ แอบเสียดายตอนไปฝนตกน้ำเลยขุ่น
แต่บรรยากาศเย็นๆนะ คูลๆเลย
แล้วผมก็มาแวะที่นี่ small farm โดยเสียค่าเข้าชมคนล่ะ 50 บาท เด็ก 30 บาท โดยบัตรสามารถแลกตะกร้าผักเลี้ยงสัตว์ได้ ด้านในมีร้านอาหาร มีที่พัก มีฟาร์มเลี้ยงสัตว์
มีรถม้า นั่งได้ 4 คน ราคา 150 บาทต่อเที่ยว
แล้วก็มีม้าแคระด้วย สามารถขี่ได้รอบล่ะ 20 บาท ราคาม้าใหญ่ก็เท่ากัน
มีแกะด้วย พอเดินเข้าไปเท่านั้นแหละกรูเข้ามาหาทันที ยังไม่ทันได้ป้อนเจอแย่งหมดตะกร้า 555
ลูกหมูน่ารักมาก ตอนเดินเข้าไปตอนแรกเห็นพี่เค้าใล่จับ วิ่งกันหัวซุกหัวซุนเลยทีเดียว เห็นตัวเล็กวิ่งอย่างเร็ว 5555+ นึกแล้วยังขำ แต่มันน่ารักมากยิ่งตอนดูดนม
จริงๆที่นี่มีที่พักด้วย มุมถ่ายรูปก็เยอะเลย เหมาะกับเด็กๆแต่โตๆแบบเราก็ได้อยู่นะ 555
ลองแวะไปกันดูครับ ค่าเข้าไม่แพงเลย
น้ำตกวชิราธาร สวยมาก
แค่เดินเข้าไปใกล้ๆละอองน้ำก็กระเด็นใส่หน้า เตรียมขาตั้งกล้องไปอย่างดี สรุปไม่ได้ตั้งหรอก ละออกน้ำเปียกชุ่มเลยหน้าเลนส์555 รีบถ่ายรูปนึงแล้วเช็ด จริงๆโทรศัพท์ถ่ายง่ายสุดนะผมว่า
สวยจริงๆนะ มองไปมองมาเหมือนน้ำตกขนาดใหญ่ในต่างประเทศเทศเลย เสียงน้ำกระทบพื้นบวกกับละอองที่กระเด็น บอกเลยเปียก 5555 ล้อเล่นอย่างฟินอ่ะ
ชอบมาก เป็นน้ำตกที่ชอบมากที่นึงตั้งแต่เคยไปน้ำตกมาเลย
ต่อมาแวะที่น้ำตกสิริธาร น้ำตกใหญ่เหมือนกันแต่ไม่สามารถลงไปถ่ายรูปข้างล่างได้ แต่จะมีจุดชมวิวให้ถ่ายรูป
สวยนะ ถ้าลงไปข้างล่างได้นะแจ่ม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น