พ่อทาสกัญชา ประสาทหลอน ฆ่าในไส้1ขวบ!
16 พ.ย. 2554
เมากัญชาจับลูกโยนลงพื้นดับคามือ บทเรียนครอบครัวก่อนวัยอันควร พ่อวัย 20 ปี ส่วนภรรยาทำงานร้านโอเกะ อายุแค่ 17 ปี มีลูกฝาแฝด ก่อนไปทำงานต้องฝากให้ญาติช่วยเลี้ยง เพราะไม่ไว้ใจสามีที่ตกเป็นทาสกัญชาไม่มีงานทำ ก่อนกลายเป็นเหยื่อโหดทาสยาเสพติด ญาติที่รับเลี้ยงติดธุระไปต่างจังหวัด ภรรยาจำใจต้องฝากให้สามีช่วยเลี้ยงอย่างไม่มีทางเลือก กระทั่งเกิดเหตุสลด รับสารภาพมีคนจะมาแย่งลูกและถูกเทวดาสั่งให้ฆ่า ตำรวจเชื่อเกิดจากประสาทหลอน แจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา
พ่อโหดเมากัญชาจับลูกวัยเดือนเศษอุ้มโยนกระแทกพื้นดับคาบ้าน เปิดเผยเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 15 พ.ย. พ.ต.อ.วัฒนา พิมพ์อัฐ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม รับรายงานผลการชันสูตรศพจาก รพ.ศูนย์นครปฐม กรณี ด.ช.วรภัท นกเทศ อายุ 1 เดือน 3 วัน บุตรฝาแฝดคนพี่ของนายสมาธิ นกเทศ อายุ 20 ปี และ น.ส.แวว (นามสมมติ) อายุ 17 ปี 2 สามีภรรยา นอนเสียชีวิตอยู่ในเปลที่บ้านเช่า เลขที่ 2 หมู่ 1 ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา โดย น.ส.แววเข้าแจ้ง ร.ต.อ.วีรวิชญ์ ลภัสจารุสกุล ร้อยเวร สภ.เมืองนครปฐม อ้างว่าบุตรชายนอนเสียชีวิตไปเฉยๆโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่จากการตรวจสภาพศพของตำรวจพบตามร่างกายและศีรษะมีรอยช้ำบวม และบริเวณที่นอนมีคราบเลือด จึงส่งศพไปพิสูจน์ที่ รพ.ศูนย์นครปฐม ซึ่งแพทย์ระบุว่า สภาพศพพบรอยฟกช้ำ ตาขวาบวมปูด แขนไม่สามารถยกขึ้นได้ และกะโหลกศีรษะร้าว สาเหตุการเสียชีวิตน่าจะตกจากที่สูงหล่นกระแทกพื้นอย่างรุนแรง
หลังทราบผลพิสูจน์ทางการแพทย์ พ.ต.อ.วัฒนา จึงนำกำลังตำรวจจำนวนหนึ่งไปควบคุมตัว 2 สามีภรรยาแยกสอบปากคำที่ สภ.เมืองนครปฐม โดย น.ส.แววให้การปนเปื้อนคราบน้ำตาอ้างว่า ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ร้านคาราโอเกะ ในตลาดตั้งเซียฮวด เขตเทศบาลนครนครปฐม ส่วนสามีไม่ได้ทำงานและติดกัญชาอย่างหนัก ก่อนไปทำงานในช่วงเย็นต้องนำลูกไปฝากให้ญาติช่วยเลี้ยง และชงนมผงไว้ให้ทุกวัน ก่อนเกิดเหตุตอนเย็นวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา ญาติที่รับเลี้ยงลูกมีธุระด่วนต้องไปต่างจังหวัด จึงต้องให้สามีช่วยเลี้ยงอย่างไม่มีทางเลือก
น.ส.แววให้การอีกว่า ขณะใกล้เลิกงานเกิดเอะใจและเป็นห่วงลูก เมื่อโทรศัพท์ไปหาสามีถามว่าลูกอยู่สบายดีไหม นายสมาธิซึ่งเป็นสามีบอกว่า เห็นตัวร้อนไม่ค่อยสบายและนอนนิ่งไป ไม่รู้ว่าเป็นอะไร รีบกลับไปดู พบว่าลูกนอนตัวแข็งทื่อเสียชีวิตแล้ว แต่ตามตัวกลับมีรอยเป็นจ้ำและมีผื่นแดง ถามสามีว่าเกิดจากอะไรก็บอกแต่เพียงว่าไม่ได้ทำอะไรลูก ตนรอจนกระทั่งเช้าจึงไปแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว ส่วนลูกชายฝาแฝดคนน้องยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เพราะร่างกายไม่แข็งแรง ต้องไปดูอาการทุกวัน
ด้านนายสมาธิพ่อจอมโหดหลังถูกตำรวจคุมตัวเค้นสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง รับสารภาพว่า เป็นคนอุ้มลูกแล้วโยนร่างให้ตกกระแทกพื้นหลายครั้งจนเสียชีวิต เพราะเด็กร้องเสียงดังทนไม่ไหว ประกอบกับตนเสพกัญชาคิดว่ามีคนจะมาแย่งลูก และเทวดาสั่งว่าต้องฆ่าแล้วจะอยู่อย่างสุขสบาย มีเงินใช้ไม่ขาดมือ จึงตัดสินใจอุ้มลูกแล้วโยนทิ้งให้ร่างกระแทกพื้นบ้านจนหยุดร้องและแน่นิ่งไป ก่อนอุ้มวางนอนในเปล โดยไม่ทราบว่าลูกเสียชีวิต เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากการเสพกัญชาทำให้ประสาทหลอน จึงแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับพ่อโหดรายนี้ตามกฎหมายต่อไป
https://www.thairath.co.th/content/216952
พ่อทาสกัญชา ประสาทหลอน ฆ่าในไส้1ขวบ!
16 พ.ย. 2554
เมากัญชาจับลูกโยนลงพื้นดับคามือ บทเรียนครอบครัวก่อนวัยอันควร พ่อวัย 20 ปี ส่วนภรรยาทำงานร้านโอเกะ อายุแค่ 17 ปี มีลูกฝาแฝด ก่อนไปทำงานต้องฝากให้ญาติช่วยเลี้ยง เพราะไม่ไว้ใจสามีที่ตกเป็นทาสกัญชาไม่มีงานทำ ก่อนกลายเป็นเหยื่อโหดทาสยาเสพติด ญาติที่รับเลี้ยงติดธุระไปต่างจังหวัด ภรรยาจำใจต้องฝากให้สามีช่วยเลี้ยงอย่างไม่มีทางเลือก กระทั่งเกิดเหตุสลด รับสารภาพมีคนจะมาแย่งลูกและถูกเทวดาสั่งให้ฆ่า ตำรวจเชื่อเกิดจากประสาทหลอน แจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา
พ่อโหดเมากัญชาจับลูกวัยเดือนเศษอุ้มโยนกระแทกพื้นดับคาบ้าน เปิดเผยเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 15 พ.ย. พ.ต.อ.วัฒนา พิมพ์อัฐ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม รับรายงานผลการชันสูตรศพจาก รพ.ศูนย์นครปฐม กรณี ด.ช.วรภัท นกเทศ อายุ 1 เดือน 3 วัน บุตรฝาแฝดคนพี่ของนายสมาธิ นกเทศ อายุ 20 ปี และ น.ส.แวว (นามสมมติ) อายุ 17 ปี 2 สามีภรรยา นอนเสียชีวิตอยู่ในเปลที่บ้านเช่า เลขที่ 2 หมู่ 1 ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา โดย น.ส.แววเข้าแจ้ง ร.ต.อ.วีรวิชญ์ ลภัสจารุสกุล ร้อยเวร สภ.เมืองนครปฐม อ้างว่าบุตรชายนอนเสียชีวิตไปเฉยๆโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่จากการตรวจสภาพศพของตำรวจพบตามร่างกายและศีรษะมีรอยช้ำบวม และบริเวณที่นอนมีคราบเลือด จึงส่งศพไปพิสูจน์ที่ รพ.ศูนย์นครปฐม ซึ่งแพทย์ระบุว่า สภาพศพพบรอยฟกช้ำ ตาขวาบวมปูด แขนไม่สามารถยกขึ้นได้ และกะโหลกศีรษะร้าว สาเหตุการเสียชีวิตน่าจะตกจากที่สูงหล่นกระแทกพื้นอย่างรุนแรง
หลังทราบผลพิสูจน์ทางการแพทย์ พ.ต.อ.วัฒนา จึงนำกำลังตำรวจจำนวนหนึ่งไปควบคุมตัว 2 สามีภรรยาแยกสอบปากคำที่ สภ.เมืองนครปฐม โดย น.ส.แววให้การปนเปื้อนคราบน้ำตาอ้างว่า ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ร้านคาราโอเกะ ในตลาดตั้งเซียฮวด เขตเทศบาลนครนครปฐม ส่วนสามีไม่ได้ทำงานและติดกัญชาอย่างหนัก ก่อนไปทำงานในช่วงเย็นต้องนำลูกไปฝากให้ญาติช่วยเลี้ยง และชงนมผงไว้ให้ทุกวัน ก่อนเกิดเหตุตอนเย็นวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา ญาติที่รับเลี้ยงลูกมีธุระด่วนต้องไปต่างจังหวัด จึงต้องให้สามีช่วยเลี้ยงอย่างไม่มีทางเลือก
น.ส.แววให้การอีกว่า ขณะใกล้เลิกงานเกิดเอะใจและเป็นห่วงลูก เมื่อโทรศัพท์ไปหาสามีถามว่าลูกอยู่สบายดีไหม นายสมาธิซึ่งเป็นสามีบอกว่า เห็นตัวร้อนไม่ค่อยสบายและนอนนิ่งไป ไม่รู้ว่าเป็นอะไร รีบกลับไปดู พบว่าลูกนอนตัวแข็งทื่อเสียชีวิตแล้ว แต่ตามตัวกลับมีรอยเป็นจ้ำและมีผื่นแดง ถามสามีว่าเกิดจากอะไรก็บอกแต่เพียงว่าไม่ได้ทำอะไรลูก ตนรอจนกระทั่งเช้าจึงไปแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว ส่วนลูกชายฝาแฝดคนน้องยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เพราะร่างกายไม่แข็งแรง ต้องไปดูอาการทุกวัน
ด้านนายสมาธิพ่อจอมโหดหลังถูกตำรวจคุมตัวเค้นสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง รับสารภาพว่า เป็นคนอุ้มลูกแล้วโยนร่างให้ตกกระแทกพื้นหลายครั้งจนเสียชีวิต เพราะเด็กร้องเสียงดังทนไม่ไหว ประกอบกับตนเสพกัญชาคิดว่ามีคนจะมาแย่งลูก และเทวดาสั่งว่าต้องฆ่าแล้วจะอยู่อย่างสุขสบาย มีเงินใช้ไม่ขาดมือ จึงตัดสินใจอุ้มลูกแล้วโยนทิ้งให้ร่างกระแทกพื้นบ้านจนหยุดร้องและแน่นิ่งไป ก่อนอุ้มวางนอนในเปล โดยไม่ทราบว่าลูกเสียชีวิต เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากการเสพกัญชาทำให้ประสาทหลอน จึงแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับพ่อโหดรายนี้ตามกฎหมายต่อไป
https://www.thairath.co.th/content/216952