สวัสดีค่ะ เราอยากมาแชร์ประสบการณ์การจัดฟันของเรา   เราเป็นคนกลัวการจัดฟันแต่เด็ก เราเป็นคนไม่ชอบความเจ็บปวดที่มาจากความสวย       มาตัดสินใจดัดฟันก็แก่แล้วตอนอายุ 32 ปี แน่นอนมันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเรามาก สาเหตุที่เราเปลี่ยนใจจะจัดฟันเพราะอยากเห็นการพัฒนาที่มากขึ้นในด้านบุคลิกภาพ ในอดีตเราไม่กล้ายิ้มเห็นฟันเลยแต่ก่อน และงานที่เราทำต้องใช้การพูดค่ะ  ก่อนจะทำการจัดฟันเราทำการบ้านเยอะมาก  ในการหาข้อมูลการจัดฟัน และสำคัญที่สุดการเลือกหมอ  เนื่องจากเพื่อนเราจัดฟันกับอาจารย์หมอท่านนึงจัดมา 6 ปี ยังจัดไม่เสร็จสักที แล้วฟันก็ยังไม่เข้าทีพร้อมทั้งทุกเดือนที่ไปหาหมอให้หมอดึงฟัน ก็มีแผลในปากกลับมาตลอด

ก่อนการจัดฟัน  เราหาข้อมูลทุกด้าน ความเจ็บของการจัด  ปัญหาที่อาจจะพบ  ข้อมูลของหมอฟันใกล้บ้านที่ดีและราคาสมควร  เพราะการที่จัดฟันไกลบ้านจะส่งผลต่อการที่เราจะลำบากในการไปพบหมอฟันในทุกๆเดือน(บ้านเราอยู่ย่านรังสิต)    และหลังจากเลือกได้ 3 คลีนิคตระเวนไปคลีนิคเพื่อพูดคุยกับหมอฟันทั้ง 3 แห่งที่เราเลือก ถามข้อมูลของเพื่อนที่เคยจัดฟัน  และเราก็กลับมาตัดสินใจอีกทีเพื่อเลือกหมอที่ถูกจริต และเรารู้สึกว่าน่าจะดูแลฟันเราได้ดีตลอด 3 ปีที่เราจัดฟันค่ะ  เราเลยตัดสินใจเลือกหมอฟันคลีนิคนี้
ปัจจุบันผ่านมา 1 ปี 9 เดือนฟันเราเรียงสวยแล้วค่ะ เราถอน 4 ซี่ฟันหลังเขี้ยว ฟันคุดผ่าออกแต่เด็ก หมอบอกเมื่อเดือนก่อนว่าไม่น่าเกิน 6 เดือนก็น่าจะถอดเหล็กได้แล้ว  ดังนั้นเพื่อนๆที่สนใจจะจัดฟัน เราอยากให้พิถีพิถันในการเลือกหมอให้ดีค่ะ เพราะถ้าคุณจัดไปแล้วไม่โอเค ทั้งที่เราปฏิบัติตนไปตามนัด ดูแลฟันตามคำแนะนำอย่างดี  แล้วคุณต้องย้ายหมอใหม่กลางคัน นั่นคือคุณต้องมาเริ่มต้นนับนึงใหม่ค่ะ ช้าๆแต่ได้หมอดีๆๆ ดีกว่าเสียเวลาเป็นปีๆอยู่กับหมอที่ไม่โอเค เสียใจ เสียเวลา และเสียเงินค่ะ ถ้าจะต้องกลับมาเริ่มต้นจัดใหม่อีกครั้ง การจัดฟันก็เหมือนกันการเลือกคู่ชีวิต จัดฟันผิดคิดจนผมร่วงค๊า   
สภาพฟันเราตอนนี้  เราจัดแบบธรรมดา จะสังเกตได้ว่า ก่อนจัดฟันล่างเราคล่อมฟันบน  บางคลีนิคแนะนำให้เราผ่าตัดกรามด้วย  แต่หมอท่านนี้แนะนำว่าไม่ต้องผ่าตัดกราม หมอท่านจัดให้ได้ ไม่ต้องมีเครื่องมือพิเศษใดๆ เพิ่มเติมนอกจากการดึงเหล็กปกติ แต่ความเจ็บปวดก็เป็นปกติ ที่ทนได้สำหรับคนไข้
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่จัดฟันค่า ^^^