เพิ่งไปดูหนังไทยเรื่อง Gravity of Love มาค่ะ เลยจะมารีวิวให้เพื่อนๆ ที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าควรเข้าโรงหนังไปดูดีมั้ย ก่อนอื่นก็ต้องยอมรับเลยว่าช่วงวีคที่แล้วและวีคนี้ มีหนังใหญ่จากฝั่งฮอลลีวู้ดเข้าโรงเยอะมาก ละลานตาเลยล่ะ เราเป็นคนชอบดูหนังหลังเลิกงาน เลยไล่ดูหนังที่เข้าใหม่เกือบหมดละ คราวนี้ก็มาถึงตาหนังเรื่อง Gravity of Love รักแท้ แพ้แรงดึงดูด บ้าง

ก่อนได้ดู เราเผื่อใจไว้ประมาณหนึ่งเหมือนกันสำหรับหนังเรื่องนี้เพราะไม่อยากอกหัก เนื่องจากหนังไทยยุคหลังๆ มานี้ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว อาจจะด้วยเราโตขึ้น เสพหนังดูหนังมากขึ้นด้วย

แต่คุณเอ้ย กลายเป็นว่าเวลา 1 ชั่วโมงกว่าๆ ผ่านไปเร็วมาก ด้วยการเล่าหนังรวดเร็ว ฉับไว
หลายรสชาติ มีทั้งช่วงซึ้ง ช่วงฮา
มีการเชื่อมเรื่องแบบตัดสลับ สร้างรอยต่อหนังให้เรารู้สึกฟอลโล่วและคิดตาม

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องเกี่ยวกับ ฟ้า (รับบทโดย เต้ย จรินทร์พร) ผู้หญิงที่ไม่เชื่อในพรมลิขิตเพราะในอดีตเคยเชื่อเรื่องนี้มากๆ แต่กลายเป็นว่าแฟน 3 คนที่คบมาก่อนหน้า ดันบอกเลิกเธอด้วยเหตุผล bullsh*t ต่างๆ นานา เธอเลยปฏิญาณกับตัวเองว่าจะไม่เชื่อเรื่องนี้อีกแล้ว

ฟ้าได้ยินข่าวมาว่าแฟนเก่าคนล่าสุดของเธอกำลังจะแต่งงาน ด้วยความแค้นฝังหุ่น เธอเลยกะไปเซอร์ไพรส์ในงานแต่งและหย่อนระเบิดทำลายความรักของคู่บ่าวสาว

แต่ด้วยความเมาทำให้เธอเข้าไปในงานแต่งผิดงาน จนได้พบกับ เซน (รับบทโดย บอย ปกรณ์) ลูกครึ่งญี่ปุ่นที่มาร่วมงานแต่งงานนั้นด้วยเช่นกัน เธอกับเซนมีเรื่องกันนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ติดใจเอาความกัน ก่อนที่ฟ้าจะออกมาจากงานแต่งแล้วขับรถกลับบ้านด้วยตัวเอง โชคร้าย ฟ้าดันเจอด่านตรวจแอลกอฮอล์ ทำให้เธอถูกรวบตัวไปที่โรงพัก (ซึ่งตำรวจหญิง รับบทโดย ตลกหญิงหนูเล็ก ปล่อยมุขฮากระจายจริงๆ)

เซนที่เพิ่งมีเรื่องกับเธอ เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพอดี จึงอาสาเข้ามาช่วยประกันตัว
ทำให้เธอกับเซนได้มีช่วงเวลาดีๆ ด้วยกันที่ร้านข้าวต้มโต้รุ่ง ฟ้าเล่าเรื่องราวความรักของเธอให้เซนฟัง เซนบอกว่าเขาคุ้นเคยกับเธอมาก เหมือนกับว่าเคยเจอมาก่อน

แถมยังคิดติต่างว่าการพบเจอของเขากับเธอนั้นมันเป็นเรื่องของพรมลิขิต
ฟ้าค้านหัวชนฝา บอกเป็นเรื่องไร้สาระ

ทั้งเขาและเธอจึงพนันกันว่า ถ้าสมมติพวกเขาได้พบเจอกันอีกครั้งโดยบังเอิญ (ทั้งสองไม่ได้ให้คอนแท็กเพื่อติดต่อกัน) ฟ้าจะเชื่อว่าการพบเจอของทั้งเซนและเธอเป็นเรื่องของพรหมลิขิต

คงคิดกันสินะคะว่า เรื่องจะจบลงง่ายๆ เมื่อทั้งสองได้พบเจอกัน เปล่าหรอกค่ะ มีเรื่องยุ่งยากกว่านั้นเยอะ ไหนจะมี เต้ (รับบทโดย หลุยส์ สก๊อต) เพื่อนสนิทที่คิดไม่ซื่อกับฟ้า และแก๊งค์เพื่อนที่คอยเป็นแม่สื่อแม่ชักให้กับเต้และฟ้าให้รักกันอีก!



จากที่เล่าไปบวกกับดูจากทีเซอร์ ใครที่คิดว่าตัวหนังมีแค่นั้น เราขอบอกว่าคิดผิดค่าาา ในเรื่องยังมีอะไรอีกเยอะ  ไม่ได้เล่าหนังแค่ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นแล้วก็จบค่ะ มีอีก การันตีเลย

ที่เราชอบมากๆ หนังเรื่องนี้เลยก็คือ วิธีการเล่าเรื่องที่มีความกระชับฉับไว มีการตัดสลับเรื่องไปมา ทำให้เราไม่เบื่อตอนดู แถมยังมี visual แปลกๆ โผล่มาในเรื่องเพื่อช่วยสร้างความรู้สึกให้กับคนดูด้วย ยกตัวอย่าง (สปอยล์) ตอนที่นางนางเมา แล้วนางขับรถ

ปกติถ้าเห็นในหนังไทยทั่วไปก็คงให้นักแสดงขับรถไปตามทางแล้วก็ทำท่าทางสลึมสลือ ลืมตาไม่ขึ้นอะไรงี้ แต่กับเรื่องนี้ เขาทำ visual ตอนเมาขึ้นมาด้วยจ้ะ นับว่าแปลกตาดี

อีกอย่างที่เหนือความคาดหมายมากๆ ก็คือ เรื่องของมุขตลกในหนังค่ะ 5555555 ทีแรกเผื่อใจมากว่า ชั้นนั่งขำแห้งแน่ๆ แต่เปล่าจ้ะ หนังเรื่องนี้ทำให้เราอมยิ้มไปกับความคิดความอ่านของตัวละครอยู่เรื่อยๆ แล้วบางทีก็ฮุกคนดูด้วยการปล่อยมุขที่ไม่คาดฝันออกมา อิ๊บ้า วายป่วงอยู่นะ ยิ่งช่วงหลังๆ ของเรื่อง โอ๊ยยย เราถึงกับอุทานว่า เหรอวะ 5555555


สรุปได้ว่า ถ้าอยากดูหนังขำๆ เบาสมอง คลายเครียด เราเชียร์ให้ลองไปดูนะ แล้วยิ่งไปสาววัยทำงานที่ตอนนี้ชีวิตยังโสดอยู่ล่ะ ลองไปดูค่ะ อาจจะได้แรงบันดาลใจในการหาคู่อีกครั้งก็ได้ค่ะ 55555 เพราะใครจะรู้ว่าพรมลิขิตอาจจะเกิดขึ้นแบบไม่ตั้งตัวแบบนางเอกของเรื่องก็ได้