เป็นที่แน่นอนแล้วว่า สนามเหย้าของ เรอัล มาดริด จะถูกใช้เป็นสังเวียนสำหรับเกม โกปา ลิเบอร์ตาดอเรส นัดสอง ระหว่าง ริเวอร์ เพลท กับ โบคา จูเนียร์ส วันที่ 9 ธ.ค. นี้
หลังจากที่แฟนบอล ริเวอร์ เพลท ก่อความวุ่นวายด้วยการขว้างปาสิ่งของใส่รถบัสของนักเตะ โบคาฯ จนทำให้มีคนในรถที่ได้รับบาดเจ็บ
ทำให้เกมส์นี้จะเล่นที่ต่างประเทศเป็นครั้งแรก
ทำไมเขาเกลียดกันขนาดนั้น
โบคา และ ริเวอร์เพลท เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของฟุตบอลอาร์เจนตินา เพราะการต่อสู้ของพวกเขาดำเนินมายาวนานกว่า100 ปี ดาร์บีแมตช์นัดแรกต้องย้อนกลับไปในปี 1913 ที่ริเวอร์เพลทเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 2-1 จากนั้นทั้งสองทีมก็ขับเคี่ยวแย่งชิงความสำเร็จมาโดยตลอด และเป็นริเวอร์เพลทที่ทำได้ดีกว่า จากตำแหน่งแชมป์ลีก 36 สมัย มากกว่าโบคาอยู่ 3 สมัย
แฟนของริเวอร์เพลท เรียกแฟนของโบคาว่า “ชานชิโตส” (หมูน้อย) และ “โบสเตโรส” (พวกชอบกินปุ๋ย) จากการมองว่าคู่แข่งเป็นทีมของคนจน ในขณะที่แฟนโบคา ก็ตอบโต้แฟนริเวอร์เพลทด้วยการเรียกว่า กาบินาส (ไก่อ่อน) เนื่องจาก ริเวอร์เพลท พ่ายเปเนารอลยับ 4-2 ทั้งที่ออกนำไปก่อน 2-0 ในศึกโคปา ลิเบอร์ตาดอเรสคัพเมื่อปี 1966 เรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว
นี่เป็นที่มาว่าทำไม เมื่อวานนี้เกิดเหตุช๊อค เมื่อสาวก ริเวอร์ เพลท โชว์ความโหดเกินลิมิต ด้วยการจับหมูที่ตายแล้วมาสวมเสื้อของ โบคาฯ ก่อนจะไล่เตะมันแบบสนุกสนาน รวมถึงโยนมันขึ้นฟ้าด้วย
และเหตุการณ์สำคัญ ที่เป็นชนวนความขัดแข้งมาจนถึงทุกวันนี้ คือปี 1968 กับเรื่องราวประตู ที่ 12 (Entrada Puepta 12)
ในวันนั้น ริเวอร์เพลท เป็นฝ่ายเปิดบ้านรับการมาเยือน โบคา และเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อแฟนบอลของโบคา เผาธงแล้วโยนไปที่ฝั่งแฟนบอลริเวอร์เพลท ทำให้ผู้คนต่างหนีตายกันจ้าละหวั่น และทางออกที่ใกล้ที่สุดคือประตูหมายเลข 12 แต่โชคร้ายเมื่อมีคนจำนวนมากเกินไป ทำให้บางส่วนถูกอัดกับประตู บางส่วนกลายเป็นฐานเหยียบ ทำให้มีผู้สังเวยชีวิตจากเหตุการณ์นี้ไปถึง 71 ราย บาดเจ็บอีก 150 ราย
เรื่องนี้ นอกจากแฟนบอลแล้ว ตัวการสำคัญคือผู้บริหารของสโมสรทั้งสองทีมต้องรับผิดชอบด้วย ถ้าทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ปล่อยให้ มีการนำอาวุธ เครื่องมือล้อเลียน ต่าง ๆเข้ามาได้ เรื่องก็ไม่จบ แถมยังไปกระตุ้นไปบิ้ว ทำให้เกลียดชังเข้าไปอีก และอย่าเอาอดีตที่ไม่ดีของตัวเอง มาใส่ให้คนรุ่นใหม่ มันไม่ใช่
และเกมส์นี้แหละที่ เบอร์นาบิว นี่แหละ จะแสดงให้โลกได้เห็นว่า
ทั้ง 2 ทีม มีทัศนคติอย่างไรกัน
ภาวนาครับ
สงครามใหม่ เบอร์นาบิว
หลังจากที่แฟนบอล ริเวอร์ เพลท ก่อความวุ่นวายด้วยการขว้างปาสิ่งของใส่รถบัสของนักเตะ โบคาฯ จนทำให้มีคนในรถที่ได้รับบาดเจ็บ
ทำให้เกมส์นี้จะเล่นที่ต่างประเทศเป็นครั้งแรก
ทำไมเขาเกลียดกันขนาดนั้น
โบคา และ ริเวอร์เพลท เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของฟุตบอลอาร์เจนตินา เพราะการต่อสู้ของพวกเขาดำเนินมายาวนานกว่า100 ปี ดาร์บีแมตช์นัดแรกต้องย้อนกลับไปในปี 1913 ที่ริเวอร์เพลทเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 2-1 จากนั้นทั้งสองทีมก็ขับเคี่ยวแย่งชิงความสำเร็จมาโดยตลอด และเป็นริเวอร์เพลทที่ทำได้ดีกว่า จากตำแหน่งแชมป์ลีก 36 สมัย มากกว่าโบคาอยู่ 3 สมัย
แฟนของริเวอร์เพลท เรียกแฟนของโบคาว่า “ชานชิโตส” (หมูน้อย) และ “โบสเตโรส” (พวกชอบกินปุ๋ย) จากการมองว่าคู่แข่งเป็นทีมของคนจน ในขณะที่แฟนโบคา ก็ตอบโต้แฟนริเวอร์เพลทด้วยการเรียกว่า กาบินาส (ไก่อ่อน) เนื่องจาก ริเวอร์เพลท พ่ายเปเนารอลยับ 4-2 ทั้งที่ออกนำไปก่อน 2-0 ในศึกโคปา ลิเบอร์ตาดอเรสคัพเมื่อปี 1966 เรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว
นี่เป็นที่มาว่าทำไม เมื่อวานนี้เกิดเหตุช๊อค เมื่อสาวก ริเวอร์ เพลท โชว์ความโหดเกินลิมิต ด้วยการจับหมูที่ตายแล้วมาสวมเสื้อของ โบคาฯ ก่อนจะไล่เตะมันแบบสนุกสนาน รวมถึงโยนมันขึ้นฟ้าด้วย
และเหตุการณ์สำคัญ ที่เป็นชนวนความขัดแข้งมาจนถึงทุกวันนี้ คือปี 1968 กับเรื่องราวประตู ที่ 12 (Entrada Puepta 12)
ในวันนั้น ริเวอร์เพลท เป็นฝ่ายเปิดบ้านรับการมาเยือน โบคา และเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อแฟนบอลของโบคา เผาธงแล้วโยนไปที่ฝั่งแฟนบอลริเวอร์เพลท ทำให้ผู้คนต่างหนีตายกันจ้าละหวั่น และทางออกที่ใกล้ที่สุดคือประตูหมายเลข 12 แต่โชคร้ายเมื่อมีคนจำนวนมากเกินไป ทำให้บางส่วนถูกอัดกับประตู บางส่วนกลายเป็นฐานเหยียบ ทำให้มีผู้สังเวยชีวิตจากเหตุการณ์นี้ไปถึง 71 ราย บาดเจ็บอีก 150 ราย
เรื่องนี้ นอกจากแฟนบอลแล้ว ตัวการสำคัญคือผู้บริหารของสโมสรทั้งสองทีมต้องรับผิดชอบด้วย ถ้าทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ปล่อยให้ มีการนำอาวุธ เครื่องมือล้อเลียน ต่าง ๆเข้ามาได้ เรื่องก็ไม่จบ แถมยังไปกระตุ้นไปบิ้ว ทำให้เกลียดชังเข้าไปอีก และอย่าเอาอดีตที่ไม่ดีของตัวเอง มาใส่ให้คนรุ่นใหม่ มันไม่ใช่
และเกมส์นี้แหละที่ เบอร์นาบิว นี่แหละ จะแสดงให้โลกได้เห็นว่า
ทั้ง 2 ทีม มีทัศนคติอย่างไรกัน
ภาวนาครับ