สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเจ้าของกระทู้ถ้ามีอะไรผิดพลาดหรือพิมพ์ไม่ค่อยเข้าใจก็ขออภัยล่วงหน้าก่อนเลยล้ะกันนะคะ
เกริ่นก่อนเลยนะคะว่า เรากับแฟนอายุเท่ากันค่ะ 25ปี ทำงานอยู่ที่กรุงเทพทั้งคู่
หน้าที่การงานก็กำลังไปได้ดี ได้ทำงานกับบริษัทใหญ่ๆทั้งคู่ค่ะฐานะทางบ้านเราและแฟนเราค่อนข้างโอเคค่ะ
เรากับแฟนเราคบกันมา1ปีกว่าๆแล้วค่ะแต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเจอพ่อแม่ของแฟนเลย
คือจริงๆแฟนเราเค้าก็อยากให้เราไปหลายรอบแล้วแหละ เพราะทางแม่แฟนก็อยากเจอเหมือนกันแม่เขาก็ถามว่าเมื่อไรจะพามาสักที
แต่ด้วยภาระงาน ด้วยเวลาอะไรต่างๆด้วยทำให้ไม่ได้ไปสักที
จนเมื่อช่วงสงกรานที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไปเที่ยวที่บ้านแฟนที่เชียงใหม่ค่ะ
ทางนู้นเขาก็ต้อนรับอย่างดี เตรียมอาหารเตรียมห้องนอนให้ แต่ทางบ้านเขาจะเป็นคนชวนคุยไม่ค่อยเก่งเท่าไรค่ะ ออกแนวพูดน้อยกันซะส่วนใหญ่
ซึ่งอันนี้ก็รู้อยู่แล้วค่ะ แฟนบอกตลอดทำให้เวลาคุยๆกันอยู่มันจะมีเดดแอร์อ่ะ พอนึกออกกันใช่มั้ยคะ
เราเลยกลัวว่าที่บ้านเค้าจะอึดอัดกันมั้ยเพราะเราเองอึดอัดนิดนึงเนื่องจากครอบครัวเรามาสายฮากันหมดเราเลยรู้สึกแล้วว่าบ้านเราสองคนต่างกันมากเลย พยายามคิดให้สบายใจว่าพึ่งเจอครั้งแรกเขาอาจจะยังเขินๆกันอยู่
ซึ่งเราอยู่บ้านแฟน13-16เมษาทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้นนะคะเริ่มเข้ากันได้มากขึ้น ตื่นแต่เช้าช่วยแม่แฟนทำกับข้าวทำงานบ้านหมดทุกอย่าง
พยายามชวนเขาคุย เล่าเรื่องงานเรื่องที่บ้านของเราให้เขาฟังตลอด
แล้วดูเหมือนทุกอย่างจะไปได้สวยใช่มั้ยคะ
แต่มันมาพีคตรงช่วงที่จะกลับกรุงเทพนี่ล้ะค่ะ ในขณะที่กินข้าวเช้าก็มีการคุยเรื่องในอนาคตกันค่ะ เช่นเรื่องแต่งงาน เรื่องสร้างบ้านที่กรุงเทพอะไรทำนองนั้น
ซึ่งเรากับแฟนก็บอกไปว่าอยากคบกันสัก4-5ปีก่อนให้แน่ใจก่อน มีเงินเก็บมีอะไรพร้อมกว่านี้ก่อนค่อยแต่งงาน
แฟนเราก็แซวขำๆอ่ะค่ะว่าถ้าพ่อเธอเรียกสินสอดแพงเค้าต้องใช้เวลาเก็บกี่ปีเนี่ยแล้วแฟนเราก็หัวเราะ
ซึ่งบอกไว้ก่อนเลยว่าเรื่องแต่งงานค่อยข้างไกลตัวเรามากเพราะในอนาคตเราไม่รู้ว่าเราจะยังคบกันอยู่มั้ยอะไรก็เกิดขึ้นได้ใช่มั้ยคะ
แล้วตอนนี้อายุแค่25อยู่เลย เราก็เลยไม่ได้ซีเรียสเรื่องสินสอดอะไรเลยเพราะบ้านเราอ่ะค่ะเวลาพี่ๆหรือลูกพี่ลูกน้องที่เป็นผู้หญิงแต่งงานกันแล้วทางฝ่ายชายให้สินสอดมาพอจบงานทางฝ่ายเราไม่เคยเก็บเงินไว้สักบาทเลยนะคะก็คืนบ่าวสาวไปทั้งหมด ให้เขาเอาไปใช้กันเอง
เพราะงี้เราเลยเลยบอกไปว่ามีแค่พอเป็นพิธีก็ได้ แล้วแม่เขาก็พูดขึ้นมาทันทีหลังเราพูดว่าถ้าอยากแต่งงาน สินสอดไม่มีให้นะถ้าอยากแต่งก็ท้องก่อนแต่งไปเลยแล้วตบท้ายด้วย แม่ล้อเล่นแล้วทุกคนที่บ้านนั้นก็หัวเราะรวมถึงแฟนเราด้วย แต่เราอึ้งมากแบบกินข้าวต่อไม่ลงเลย
เรากลับมากรุงเทพคิดเรื่องนี้ซ้ำๆทุกคืนจนถึงเมื่อกลางเดือนพ.ย. เลยตัดสินใจคุยกับแฟน
ถามแฟนไปว่าเธอมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่ายังไง เธอรู้มั้ยเราคิดเรื่องนี้ทุกคืนถึงแม้ว่าแม่เธอจะแค่ล้อเล่นแต่เราหยุดคิดมากไม่ได้จริงๆ
เขาก็ตอบกลับมาว่า ก็แม่แค่ล้อเล่นอ่ะ เธอจะเอาเก็บมาจริงจังทำไม ก็แค่ขำๆป่าวตลกดีออก
เราอึ้งรอบสอง แบบเห้ยมันมีบ้านไหนบ้างวะ ที่เอาเรื่องท้องก่อนแต่งมาล้อเล่นกันอ่ะ แล้วออกมาจากปากผู้หญิงที่เป็นแม่คนแล้วด้วยเนี่ยนะ
เราคิดมาตลอดหลายคืนเลยว่าเราจะคบกับคนที่ครอบครัวเขามีทัศนคติแบบนี้เนี่ยนะ ไม่สบายใจเลยอ่ะค่ะ
เมื่อแม่แฟนบอกให้ไปท้องก่อน แล้วค่อยแต่งล้ะกัน
เกริ่นก่อนเลยนะคะว่า เรากับแฟนอายุเท่ากันค่ะ 25ปี ทำงานอยู่ที่กรุงเทพทั้งคู่
หน้าที่การงานก็กำลังไปได้ดี ได้ทำงานกับบริษัทใหญ่ๆทั้งคู่ค่ะฐานะทางบ้านเราและแฟนเราค่อนข้างโอเคค่ะ
เรากับแฟนเราคบกันมา1ปีกว่าๆแล้วค่ะแต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเจอพ่อแม่ของแฟนเลย
คือจริงๆแฟนเราเค้าก็อยากให้เราไปหลายรอบแล้วแหละ เพราะทางแม่แฟนก็อยากเจอเหมือนกันแม่เขาก็ถามว่าเมื่อไรจะพามาสักที
แต่ด้วยภาระงาน ด้วยเวลาอะไรต่างๆด้วยทำให้ไม่ได้ไปสักที
จนเมื่อช่วงสงกรานที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไปเที่ยวที่บ้านแฟนที่เชียงใหม่ค่ะ
ทางนู้นเขาก็ต้อนรับอย่างดี เตรียมอาหารเตรียมห้องนอนให้ แต่ทางบ้านเขาจะเป็นคนชวนคุยไม่ค่อยเก่งเท่าไรค่ะ ออกแนวพูดน้อยกันซะส่วนใหญ่
ซึ่งอันนี้ก็รู้อยู่แล้วค่ะ แฟนบอกตลอดทำให้เวลาคุยๆกันอยู่มันจะมีเดดแอร์อ่ะ พอนึกออกกันใช่มั้ยคะ
เราเลยกลัวว่าที่บ้านเค้าจะอึดอัดกันมั้ยเพราะเราเองอึดอัดนิดนึงเนื่องจากครอบครัวเรามาสายฮากันหมดเราเลยรู้สึกแล้วว่าบ้านเราสองคนต่างกันมากเลย พยายามคิดให้สบายใจว่าพึ่งเจอครั้งแรกเขาอาจจะยังเขินๆกันอยู่
ซึ่งเราอยู่บ้านแฟน13-16เมษาทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้นนะคะเริ่มเข้ากันได้มากขึ้น ตื่นแต่เช้าช่วยแม่แฟนทำกับข้าวทำงานบ้านหมดทุกอย่าง
พยายามชวนเขาคุย เล่าเรื่องงานเรื่องที่บ้านของเราให้เขาฟังตลอด
แล้วดูเหมือนทุกอย่างจะไปได้สวยใช่มั้ยคะ
แต่มันมาพีคตรงช่วงที่จะกลับกรุงเทพนี่ล้ะค่ะ ในขณะที่กินข้าวเช้าก็มีการคุยเรื่องในอนาคตกันค่ะ เช่นเรื่องแต่งงาน เรื่องสร้างบ้านที่กรุงเทพอะไรทำนองนั้น
ซึ่งเรากับแฟนก็บอกไปว่าอยากคบกันสัก4-5ปีก่อนให้แน่ใจก่อน มีเงินเก็บมีอะไรพร้อมกว่านี้ก่อนค่อยแต่งงาน
แฟนเราก็แซวขำๆอ่ะค่ะว่าถ้าพ่อเธอเรียกสินสอดแพงเค้าต้องใช้เวลาเก็บกี่ปีเนี่ยแล้วแฟนเราก็หัวเราะ
ซึ่งบอกไว้ก่อนเลยว่าเรื่องแต่งงานค่อยข้างไกลตัวเรามากเพราะในอนาคตเราไม่รู้ว่าเราจะยังคบกันอยู่มั้ยอะไรก็เกิดขึ้นได้ใช่มั้ยคะ
แล้วตอนนี้อายุแค่25อยู่เลย เราก็เลยไม่ได้ซีเรียสเรื่องสินสอดอะไรเลยเพราะบ้านเราอ่ะค่ะเวลาพี่ๆหรือลูกพี่ลูกน้องที่เป็นผู้หญิงแต่งงานกันแล้วทางฝ่ายชายให้สินสอดมาพอจบงานทางฝ่ายเราไม่เคยเก็บเงินไว้สักบาทเลยนะคะก็คืนบ่าวสาวไปทั้งหมด ให้เขาเอาไปใช้กันเอง
เพราะงี้เราเลยเลยบอกไปว่ามีแค่พอเป็นพิธีก็ได้ แล้วแม่เขาก็พูดขึ้นมาทันทีหลังเราพูดว่าถ้าอยากแต่งงาน สินสอดไม่มีให้นะถ้าอยากแต่งก็ท้องก่อนแต่งไปเลยแล้วตบท้ายด้วย แม่ล้อเล่นแล้วทุกคนที่บ้านนั้นก็หัวเราะรวมถึงแฟนเราด้วย แต่เราอึ้งมากแบบกินข้าวต่อไม่ลงเลย
เรากลับมากรุงเทพคิดเรื่องนี้ซ้ำๆทุกคืนจนถึงเมื่อกลางเดือนพ.ย. เลยตัดสินใจคุยกับแฟน
ถามแฟนไปว่าเธอมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่ายังไง เธอรู้มั้ยเราคิดเรื่องนี้ทุกคืนถึงแม้ว่าแม่เธอจะแค่ล้อเล่นแต่เราหยุดคิดมากไม่ได้จริงๆ
เขาก็ตอบกลับมาว่า ก็แม่แค่ล้อเล่นอ่ะ เธอจะเอาเก็บมาจริงจังทำไม ก็แค่ขำๆป่าวตลกดีออก
เราอึ้งรอบสอง แบบเห้ยมันมีบ้านไหนบ้างวะ ที่เอาเรื่องท้องก่อนแต่งมาล้อเล่นกันอ่ะ แล้วออกมาจากปากผู้หญิงที่เป็นแม่คนแล้วด้วยเนี่ยนะ
เราคิดมาตลอดหลายคืนเลยว่าเราจะคบกับคนที่ครอบครัวเขามีทัศนคติแบบนี้เนี่ยนะ ไม่สบายใจเลยอ่ะค่ะ