สวัสดีครับชาวพันทิพทุกท่าน หายไปนานเลยสำหรับการเขียนรีวิวของผม ทริปนี้คือต้นเหตุมาจาก คุณนายแม่ผมอยากไปพักผ่อน แล้วอีกไม่กี่สัปดาห์ผมก็เปิดเทอมแล้ว เราก็เลยหาที่เที่ยวพักผ่อนกันดีกว่า เราก็ดูทั้งในและนอกประเทศ แต่เนื่องจากมีเวลาเตรียมตัวแค่สัปดาห์เดียว เราก็เลยเลือกประเทศที่เราไปบ่อยที่สุดในชีวิตแล้ว นั่นก็คือเวียดนาม ตั้งแต่ที่บ้านผมเริ่มเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกจนมาถึงครั้งนี้ก็ 13 ประเทศได้แล้วใน 6 ปีที่ผ่านมา ผมไปประเทศเวียดนามมาแล้วประมาณ 4 รอบ 3 ปีติด ไปโฮจิมินท์ 2 รอบ ไปซาปา(แต่ไม่ได้ไปฮานอยนะครับ) 1 รอบ แล้วก็มีครั้งนี้ที่มา "ดานัง"
          เนื่องด้วยเรามีเวลาไม่มากแค่ 4 วัน แล้วก็เครื่องบินถึงดานังประมาณช่วงเที่ยง และ ออกจากดานังช่วงสายๆเกือบเที่ยง แพลนที่เที่ยวคร่าวๆของเราก็คือ

      วันที่ 1 พอลงจากเครื่อง ผมจองรถของบริษัทหนึ่ง ไปส่งที่โรงแรมที่ฮอยอัน แล้วก็เที่ยวในเมืองฮอยอันจนถึงค่ำ แล้วกลับที่พัก
      วันที่ 2 เราก็เช็คเอ้าท์ที่โรงแรมช่วงสายๆ แล้วไปเก็บตกในเมืองฮอยอัน แล้วเรียกรถไปที่ บาน่าฮิลล์ แล้วก็เที่ยวและพักที่บาน่าฮิลล์
      วันที่ 3 เที่ยงๆเราก็เช็คเอ้าท์จากบาน่าฮิลล์ มาพักในตัวเมืองดานัง แล้วก็เที่ยวในเมือง ตอนเย็นหาอาหารซีฟู๊ตกิน
      วันที่ 4 บินกลับไทย

*อันนี้คือแพลนที่ผมวางไว้ก่อนไปนะครับ อาจจะเห็นว่าทำไมมันว่างๆเหมือนไม่มีอะไร แต่ผมบอกก่อนเลยครับ ทริปนี้เป็นทริปที่ผมได้รูปสวยๆเพียบเลย ตากล้องและนางแบบหลายๆคนน่าจะชอบมากเลยนะครับ

       สิ่งที่ผมจองไว้ตั้งแต่ไทย
      1. ตั๋วเครื่องบิน การไปดานังนั้น ถ้าบินตรงจากไทย จะมีของ Airasia กับ Bangkok Airways แต่เนื่องจากคุณแม่สะสมแต้มของ Airasia อยู่เลยจอง Airasia ไปครับ ไป-กลับตกคนละ 4500 บาท
      2. โรงแรม 3 คืน (โรงแรมอะไรบ้าง จะเป็นอย่างไรบ้าง ราคาเท่าไหร่ ติดตามกันนะครับ แต่ผมขอบอกเลย คุ้มมาก)
      3. รถมารับที่สนามบินดานัง (ซึ่งจริงๆไม่ต้องจองรถก็ได้ ทำไมอะหรอ ขออุ๊บไว้ก่อนละกันครับ 555 )

       กล้องที่ใช้ถ่ายภาพในทริปนี้
      1. Leica M9
      2. Sony A7 iii
      3. Iphone X

       Day 1
      เช้ามืดของวันที่ 24 ตุลาคม 2561 เวลา 5.00น. ทุกคนต่างตื่นมาด้วยความรีบร้อน เนื่องจากไม่ได้บินเครื่องบินไฟล์ทเช้ามานานแล้ว เนื่องจากตอนเช้าไม่ค่อยตื่นกัน55555 ผนวกกับกลัวรถติดของกรุงเทพมหานครยามเช้าตรู่ และ ไม่ได้ขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมืองมานานมากแล้ว พอถึงเวลา 6.00น. เรานัดรถแท๊กซี่ไว้ ซึ่งเป็นครั้งแรกเหมือนกันที่นั่ง Taxi VIP ไปสนามบิน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพราะปกติมักจะใช้สิทธิลีมูซีนจากบัตรเครดิต ไม่ก็แอร์พอร์ตลิ้งค์ ไปสุวรรณภูมิ ห่างไกลจากรถติด ผมก็จองไปก่อนเดินทาง 1 วัน ซึ่งคอลเซ็นเตอร์ของ All thai ก็โทรติดยากเอาเรื่องเหมือนกัน 555 แต่พอถึงเวลานัด คนขับรถก็มาตรงเวลาเลย
7.00น. นั่งรถยังไม่ทันหลับก็ถึงสนามบินดอนเมืองแล้วครับ ค่าเสียหายแท๊กซี่ VIP ครั้งนี้ก็ประมาณ 900 บาทรับจากตรงท่าพระ ถือว่าถูกกว่าลีมูซีนหลายๆเจ้ามากเลยนะครับ ก็เช็คอินอะไรเสร็จสรรพ แลกเงิน เหลือเวลาอีกเยอะกะว่าจะไปนั่งชิลล์ๆ หาอะไรกินใน Lounge ซะหน่อยก่อนขึ้นเครื่อง
แต่! ผมดันเป็นหวัดแล้วเสียงวันนั้นคือไม่มีเลย ก็เลยต้องไปหาหมอของโรงพยาบาลสมิติเวชในสนามบินก่อน เซ็งเลยครับทริปนี้ ดันป่วยซะงั้น ก็หาหมอเสร็จประมาณ 8 โมงกว่า รีบผ่านตม. ตรวจกระเป๋าทุกอย่าง ก็รีบไปหาของกินที่ The Coral Lounge ก่อนบินครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ยังไม่ทันบิน ก็มีของกินละ เห้อม555







โดยรวม Lounge ที่นี่ก็ถือว่าดีที่สุดในสนามบินดอนเมืองแล้วแหละครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อย่าไปเทียบกับ Lounge โดยตรงของสายการบินแล้วกันครับ 555 คนละเรื่องเลย คุณแม่ผมเทียบกับของการบินไทย แม่บอกไม่คุ้มเลย นึกในใจ"แลกไมล์เข้า Lounge การบินไทยถ้าเทียบเป็นเงิน ผมยอมอันนี้ดีกว่า555"

บินไว เหมือนโกหก ไม่ถึง 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพ ก็มาถึงเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม เรียบร้อยแล้ว



พอเราออกจาก ตม. ปุ๊ป เป็นธรรมเนียมเลยครับ ซิมมือถือ! ไม่ต้องหาที่ไหนไกลครับ ออกตม.ปุ๊ป เจอปั๊ป เขียนเป็นภาษาไทยด้วย มีหลายเจ้าเลยครับให้[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ของผมเลือกเจ้าแรกเลย ไม่จำกัดความแรงก็จริง แต่จำกัดการใช้ต่อวัน ซึ่งผมแนะนำให้ถามแต่ละเจ้าดีๆนะครับเลือกตรงนั้น ส่วนใครจะแลกเงิน ธนาคารจะอยู่ด้านนอกสนามบินนะครับ




แลกเงินเสร็จแล้ว ซื้อซิมแล้ว ออกจากสนามบินสิครับ คุณจะพบกับกลุ่มคนขับ Grab ซึ่งเขาจะมารุมถามคุณว่าไปนู่นไปนี่ไหม ราคาเท่าแกร๊บเลย ผมว่าดีมากเลยนะ แต่! เดี๋ยวก่อน ผมจองรถมาแล้วจากไทย พอผมปฏิเสธเขาเหล่านั้นไป พวกเขาเหล่านั้นก็จะถาม เขาให้ราคาคุณเท่าไหร่ ผมให้ถูกกว่านั้นเลย ผมก็บอกจองแล้ว เขาก็ตื้ออยู่นั่นแหละ5555 ซึ่งจริงๆถ้าผมรู้อย่างนี้แล้วผมไม่น่าจองรถตั้งแต่ที่ไทยมาเลย ทำไมหรอ? เดี๋ยวจะบอกให้ครับว่าทำไม!




ไม่ทันไร คนขับรถสุดหล่อก็พาเราออกจากวงล้อมหมู่คนขับรถแกร๊บกลุ่มนั้นเสียที หลายๆคนคงรู้สไตล์การขับรถของเวียดนามแล้วใช่ไหมครับ ทั้งเสียงแตร ทั้งจิตใจนักขับแต่ละคนที่ไม่ต้องมองหน้าก็รู้ใจกันได้ ใครยังไม่รู้เชิญมาผจญภัยกับวิกฤตนี้เลยครับ แล้วคุณจะคิดว่าประเทศไทยขับรถกัน แทรกกันแต่ละที ธรรมดาไปเลย








นั่งรถมาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงฮอยอันละครับ ผมพักที่ Sunrise Premium Resort Hoi An คืนละประมาณ 5000 บาท จองใน Agoda ซึ่งรวมเตียงเสริม 1 เตียง ซึ่งผมว่าราคาก็รีสอร์ท 5 ดาวทั่วไปแหละครับอันนี้ พอมาถึง Reception ก็มี Welcome drink ซึ่งตรงนี้คือจริงๆจะเป็นที่นั่งพักผ่อนแล้วมีเครื่องดื่มให้ตลอด เที่ยวมาเหนื่อยๆก็มานั่งดื่มน้ำมะขามเย็นๆก่อนเข้าห้องพักก็ได้ ซึ่งของผมดื่มไป 3 รอบแหนะ555







เดี๋ยวมาต่อพรุ่งนี้นะครับผม