ทำบริษัทกับแฟนมาเกือบจะสิบปี กิจการเหมือนจะดี แต่กลับมีหนี้ธนาคารอยู่ 2 แห่ง รวมแล้วประมาณ 17 ล้าน เนื่องจากค้าขายดี สเตทเม้นดี แบงค์วิ่งมาให้กู้กันใหญ่ เราก็รับไว้ แล้วเอาเงินไปลงทุนไม่ถูกทาง ทำให้สูญเงินไปจนเป็นหนี้ที่ว่าค่ะ มาปีนี้ดูแววแล้วกิจการน่าจะไปต่อได้ไม่ดีเท่าแต่ก่อน ลูกค้ารายใหญ่ ลดจำนวนการสั่งของลง และน่าจะไม่มีการสั่งของอีกในเร็ววันนี้ ทำให้ในไม่ช้านี้เราน่าจะไม่มีกำลังส่งหนี้รายเดือนให้กับธนาคารทั้งสอง

กิจการเป็นชื่อของเราทั้งหมด โดยเราดูแลบัญชี แฟนดูแลเรื่องการขาย ชื่อในกิจการเป็นของเราทั้งหมด แฟนทำงานโดยไมได้มีชื่อในกิจการ ไม่ได้มีชื่อเป็นพนักงาน แต่รับเงินเป็นเงินตอบแทนที่ปรึกษา และใช้เงินร่วมกันกับเราค่ะ เราสมรสกันแต่ไม่ได้จดทะเบียนกันค่ะ อยู่กินด้วยกันและมีลูกสาวห้าขวบ 1 คน เรื่องส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน รักและช่วยเหลือกันดีค่ะ

อยากจะรบกวนปรึกษาค่ะ ถ้าในไม่ช้านี้เราไม่มีเงินที่จะจ่ายธนาคาร และต้องหยุดจ่ายไป ธนาคารก็คงมาเร่งรัดเงินจากเรา ถ้าไม่มีให้ก็คงฟ้อง ต้องยึดทรัพย์ ต่อเนื่องไปจนถึงถูกฟ้องล้มละลาย เพราะสมบัติที่เรามีถึงยึดไปก็คงไม่พอจ่ายหนี้ได้ทั้งหมด คำถามคือ

- ในส่วนของแฟนเราจะโดนฟ้องด้วยมั้ยคะ หนี้ทั้งสองแบงค์แฟนเราไม่ได้เซ็นต์ชื่อใดๆ เกี่ยวข้องด้วยค่ะ ปัจจุบันเค้ามีกิจการที่ทำกับหุ้นส่วนเค้าอยู่ด้วยค่ะ เป็นความหวังว่าถ้าเราโดนฟ้องล้มละลาย แฟนเราก็ยังพอจะเลี้ยงครอบครัวต่อไปได้ แต่ถ้าแฟนโดนฟ้องด้วย แล้วโดนตามไปยึดกิจการแฟนเราด้วย คงแย่เหมือนกันค่ะ
- ขณะนี้เราจ่ายหนี้รายเดือนไม่เคยขาดค่ะ และไม่มีสัญญาณใดๆ ให้ธนาคารรู้เลยว่ากิจการเรากำลังจะมีปัญหา ถ้าเราทยอยขายทรัพย์สินบางส่วนของเราเพื่อเก็บเงินสดไว้ เราจะผิดอะไรมั้ยคะ
- ถ้านับตั้งแต่วันที่เราหยุดจ่าย นับไปจนถึงขึ้นถูกตัดสินเป็นคนล้มละลาย ระยะเวลามันนานขนาดไหนคะ จะได้เตรียมตัวเตรียมใจถูก

เราไม่ได้มีหนี้สินทางอื่นเลยค่ะ เราจ่ายเงิน supplier ทุกเจ้าอย่างเคร่งครัด เครดิตเราดีมาก เสียแต่ว่าเราเอาเงินไปลงทุนผิดทาง และกิจการหลักอิงกับลูกค้ารายใหญ่เพียงเจ้าเดียวมากเกินไป (รายอื่นๆก็มีค่ะแต่ส่วนน้อย) พอไม่มีลูกค้ารายนี้ กิจการเลยไปต่อไม่ได้ค่ะ

ถ้าต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเราจะพยายามมาตอบให้นะคะ เผื่อเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆ ที่ทำกิจการด้วยค่ะ