สวัสดีค่ะ ^_^
** นี้เป็นการรีวิวในพันทิปครั้งแรก พึ่งสมัครสดๆร้อนๆเลย เพื่องานนี้โดยเฉพาะ หากขาดตกบกพร่องผิดพลาดประการใด ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะคะ **
• กระทู้นี้เป็นการรีวิวเพื่อเป็นความทรงจำของตัวเอง
ปล.ไฟล์ภาพอาจจะไม่สวย เพราะใช้โทรศัพท์มือถือถ่าย (IPhone 6s, Huawei)
ค่าใช้จ่ายแบบคร่าวๆ
ค่าเครื่องบิน(รวมภาษี)ไป-กลับ สายการบิน Air Asia : 6,523/คน บาท
ค่าที่พัก Hotel Hart : 3,368/คืน บาท
ประกันการเดินทาง MISG : 220/คน บาท (แบบ 4 วัน : 15-18 พ.ย.2561)
ค่ากระเช้านองปิงแบบคริสตัล ไป-กลับ : 990/คน บาท (ซื้อจากเว็ป KLOOK)
ค่าบัตรเข้า Disneyland : 2,224/คน บาท (ซื้อจากเว็ป KLOOK)
- แผนที่ MTR ของฮ่องกง
DAY 1 : 15/11/2018
Che Kung Temple (วัดกังหัน) : Wong Tai Sin (วัดหวังต้าเซียน): Chi Lin Nunnery and Nan Lian Garden (วัดนางชีฉีหลินและสวนหนานเหลียน) : The Symphony of Light (SOL) : Ladies Market
เราบินไฟล์ทเช้าเวลา 06.35 น. จึงออกเดินทางไปสนามบินดอนเมืองแต่เช้ามืด เพราะเราควรถึงสนามบินล่วงหน้าอย่างน้อยก่อนสัก 2 ช.ม. ใช้เวลาบินประมาณ 2-3 ช.ม. ถึงสนามบินฮ่องกงเวลา 10.20 น. (เวลาที่ฮ่องกงจะเร็วกว่าไทย 1 ช.ม.)
เดินผ่าน ตม.เข้ามาในสนามบินฮ่องกงแล้ว ก็หาซื้อบัตรขึ้นรถไฟที่เคาน์เตอร์ Hong Kong Airport Express Service Counter ทันที เราเลือกซื้อบัตร Airport Express Travel Pass ซึ่งเป็นบัตรนั่ง Airport Express พร้อมนั่งรถ MTR ไม่จำกัดเที่ยวได้ในเวลา 3 วัน ราคา AE เที่ยวเดียว 250HKD/ใบ เมื่อนำบัตรมาคืนจะได้เงินคืน 50HKD พร้อมเงินที่ใช้เหลือ
ถ้าจะนั่งรถเมล์ รถราง หรือซื้อของ หรือจะนั่ง Airport Express อีก 1 เที่ยว (เนื่องจากเราซื้อบัตรแบบเที่ยวเดียว) ก็ใช้เติมเงินได้แบบเดียวกับ Octopus เลยค่ะ
เรานั่งรถไฟจากสนามบินเข้าตัวเมือง Hong Kong (จอดแค่ 3 สถานี คือ Tsing Yi, Kowloon, และ Hong Kong เราลงสถานีสุดท้ายเลย คือ สถานี Hong Kong)
หลังจากนั่ง AE มาถึงสถานี Hong Kong ก็ต่อ MTR สายสีแดงจากสถานี Central มาลงสถานี Tsim Sha Tsui ทางออก A2 เพราะเราจองที่พักไว้แถวนั้น
เรามาถึงโรงแรมก่อนเวลาเช็คอินค่อนข้างเยอะ (ปกติเขาให้เข้าเช็คอินได้ตั้งแต่ 14.00 น.) เลยฝากกระเป๋าไว้ที่ Lobby โรงแรม
แวะกินบะหมี่ร้าน Noodle in Soup ที่เขาลือว่าอร่อย แถว Tsim Sha Tsui ร้านนี้มีเมนูภาษาไทยด้วยค่ะ เราสั่งบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง+เกี๊ยวปลา(ราคา 55 HKD) ให้เยอะมาก ชามนึงกินได้ 2 คนเลยค่ะ เกี๊ยวปลาอร่อยมากเลยค่ะ ในความรู้สึกของเรานะ
น้ำเปล่า(ราคา 10HKD)
หลังจากกินบะหมี่เรียบร้อย เราก็แวะกินต่อที่ร้าน DELICIOUS KITCHEN เราสั่งข้าวหน้าหมูทอด(ราคา 50 HKD) รสชาติถือว่าอร่อยทีเดียวเลยค่ะ ชาเขียวร้อน(ราคา 2 HKD) ชานม(ราคา 17 HKD) รสชาติอร่อยเข้มข้นจริงๆค่ะ
หลังจากอิ่มท้องแล้ว ก็ลุยกันต่อ เป้าหมายต่อไปคือ Che Kung Temple (วัดกังหัน) ซึ่งเราเดินทางจากสถานี East Tsim Sha Tsui สายสีฟ้า ไปลงที่สถานี Tai Wai ทางออก B เดินประมาณอีก 5-10 นาที ตามทางเดินจะมีป้ายบอกทางไปวัด Che Kung Temple ตลอดทาง เดินได้สบายไม่หลงแน่นอนค่ะ ^_^
มาถึงแล้ว Che Kung Temple (เปิด-ปิด 07.00 – 18.00 MTR สถานี Che Kung Temple หรือ Tai Wai ทางออก B)
ทางเข้าวัดตรงประตูจะมีร้ายขายธูปอยู่ร้านเดียว ซึ่งเจ้าของร้านสามารถฟังและพูดภาษาไทยได้ด้วยค่ะ ธูปมีหลายขนาด แต่ละขนาด ราคาแตกต่างกันไป เราเลือกซื้อขนาดเล็ก ราคา 40HKD
เมื่อซื้อธูปแล้ว เดินไปที่โต๊ะข้างใน จะมีคนคอยจุดธูปให้เลยค่ะ และยังคอยบอกว่าต้องไหว้ตรงไหนบ้าง น่ารัก ใจดีมากค่ะ
ไหว้ตามจุดต่างๆ เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมหมุนกังหันข้างในด้วยนะคะ (ให้หมุนด้วยมือซ้ายตามเข็มนาฬิกา) ที่ขึ้นชื่อของที่นี้อีกอย่างหนึ่ง คือ
การเสี่ยงเซียมซี ไม่รอช้าไปกันค่ะ เซียมซีจะอยู่ข้างนอก ตรงทางไปห้องน้ำผู้ชายข้างกำแพงวัด ก่อนจะหยิบเซียมซี เราต้องจ่ายค่ามัดจำ 20HKD ก่อนนะคะ เขาถึงจะให้เซียมซีเรามา
ได้หมายเลขเซียมซีแล้ว ก็นำกลับมาไว้ที่เดิม พร้อมกันนั้น เขาจะจ่ายเงินคืนให้เรา 15 HKD อีก 5 HKD ถือเป็นค่าใบทำนายค่ะ
ได้มาแล้วคร่า แต่! เราแปลไม่ออก T^T จะให้เขาแปลให้ก็สู้ราคาไม่ไหว วานผู้รู้ช่วยแปลให้ทีค่ะ Please
หลังจากนั้นเราก็หาซื้อของฝากที่นี้เลยค่ะ สร้อยกังหัน ราคา 60 HKD และแผ่นทอง ราคา 50 HKD (ไหนๆก็มาแล้ว ซื้อที่วัดนี้แหละ เผื่อที่อื่นไม่มีขาย ^_^)
หลังจากนั้นเราก็เดินกลับทางเดิม ขึ้นสถานี Tai Wai ลงสถานี Kowloon Tong สายสีฟ้า เมื่อถึงสถานีแล้ว เปลี่ยน MTR สายสีเขียว ถึงแล้วค่ะ Wong Tai Sin (วัดหวังต้าเซียน/หว่องไท่ซิน) (เปิด-ปิด 07.00 – 17.30 MTR สถานี Wong Tai Sin ทางออก B) หรือที่รู้จักกัน คือ
วัดด้ายแดง เชื่อกันว่าถ้าคนโสดมาขอพรในเรื่องเนื้อคู่กับ เทพเจ้าหยุคโหลว จะสมหวัง (อันนี้แล้วแต่ความเชื่อนะคะ)
ทำการไหว้ขอพรเรื่องเนื้อคู่สักหน่อย เผื่อจะได้คู่กับเขาสักที ไหนๆก็มาถึงที่แล้ว
วิธีการทำมือ อันนี้ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เขาจะมีรูปให้เราทำมือตามในการจับด้ายแดง ทำตามง่ายหายห่วงค่ะ
หลังจากนั้น เราก็ถ่ายรูป แวะซื้อของฝาก (ด้ายแดง) อันนี้คนอื่นฝากซื้อค่ะ ซึ่งจะอยู่หน้าวัด ร้านส่วนใหญ่พูดไทยได้ค่ะ ด้ายแดงแต่ละแบบราคาจะแตกต่างกันไปค่ะ
เดินทางเหนื่อยขอดื่มน้ำสักนิด ชาเขียวแอปเปิ้ล ราคา 20 HKD
เดินทางต่อไม่รอละค่ะ สถานีต่อไป Chi Lin Nunnery (เปิด-ปิด 07.00 – 19.00) and Nan Lian Garden (เปิด-ปิด 07.30 – 21.00) MTR สถานี Diamond Hill ทางออก C2 ทีแรกเราไม่แวะ เพราะฝนเริ่มตกปรอยๆ และท้องฟ้ามืดมากค่ะ สุดท้ายก็ แวะถ่ายรูปสักหน่อย ไหนๆก็มาถึงแล้ว
มาถึงฮ่องกงต้องลองชานม ราคา 28 HKD ร้าน Milksha รสชาติอร่อยใช้ได้ค่ะ ไม่เสียแรงที่ซื้อ 555+
สักพักเราก็ไปสะดุ้งตากับ ลูกชิ้นปลาต้ม ราคา 20 HKD ลองชิมสักถ้วย เพราะคนต่อคิวเยอะมาก (เขามุงกันเยอะ ^_^) น้ำจิ้มแซ่บมากค่ะ อร่อยให้ผ่านค่ะ
ถึงเวลา Check in เพื่อพักผ่อน เก็บของ นอนเอาแรงสักหน่อย ก่อนจะไปดูการแสดง The Symphony of Light (SOL) ทีเด็ดของฮ่องกง โรงแรมถือว่าสะอาดดีมาก แต่ขนาดเล็กไปน้อย มีสบู่ ยาสระผม ครีมนวด โลชั่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน น้ำเปล่า 2 ขวด ไดร์เป่าผม โทรศัพท์ทมีเน็ตให้เล่นฟรี และอื่นๆ ครบครันทีเดียวเลยค่ะ
หลังจากนอนพักแล้วพลังมาค่ะ หาอะไรกินอีกหน่อยละกัน เคบับ (27 Kebab House) ร้านนี้เขาว่าเด็ด คนอย่างเราไม่เชื่อต้องลองเท่านั้นค่ะ นั่งรอแบบใจจดใจจ่อ จะอร่อยสมคำร่ำลือหรือไม่ (คนสั่งก่อนหน้าเราก็เยอะอยู่)
ผ่างงงงงง ได้มาแล้ว โอ้โห เคบับ มันใหญ่มากกกกกกก เราสั่งเคบับเนื้อชีส ราคา 55 HKD
กัดเข้าไป อืมมมมม มันอร่อยมากกกกกก สำหรับคนชอบกินเนื้อและชีสนะคะ สำหรับเราเนื้อมันนุ่มมาก ชีสทั่วถึงทั้งชิ้น กินไป 1 ชิ้นอิ่มพอดีเลยค่ะ
เดินทางต่อเพื่อไปดู The Symphony of Light เราเดินจากยาน Tsim Sha Tsui เพื่อไปบริเวณริมแม่น้ำ ด้านหน้า Hong Kong Cultural Center โชคดีที่เราพักใกล้จุดที่แสดงเลยใช้เวลาเดินไปประมาณ 15-20 นาที
เราเดินมาถึงก่อนการแสดงจะเริ่มสักครึ่งชั่วโมง (19.30) ก็จับจองพื้นที่ ยืนรอถ่ายรูป(สวยๆ) ไปก่อน
และแล้วการแสดงก็เริ่มขึ้น (เริ่มเวลา 20.00 น. ของทุกวัน) เย้ๆๆๆๆๆ สวยงามตามท้องเรื่องค่ะ มันสวยมากกกกกกกก แสง สี เสียง เต้นไปตามจังหวะเดียวกัน ดูแล้วเพลิดเพลินพร้อมกับอากาศเย็นๆ ช่างเข้ากันดีค่ะ สมกับที่รอคอย ใช้เวลาในการแสดงประมาณ 15 นาทีค่ะ
ชมการแสดงเสร็จแล้ว ถ่ายรูปหน่อยค่ะ ก่อนจะไปเดินเที่ยว ซื้อของที่ Ladies Market โดยการนั่ง MTR จากสถานี Tsim Sha Tsui สายสีแดง ไปลงสถานี Mong kok สายสีเขียว (เราจำทางออกไม่ได้ แหะๆ)
ตลาด Ladies Market ขอกินไอศกรีมให้เข้ากับบรรยากาศเย็นๆ ฝนเริ่มตกหน่อยๆ
สำคัญ!! การซื้อของที่ Ladies Market อย่าเพิ่งใจร้อนซื้อของทันที ให้เดินเรื่อยๆก่อน และให้ต่อราคาที่เราต้องการกับร้านค้านั้นๆ ทีแรกก็ไม่ยอม แต่พอเราเดินออกจากร้าน ราคาจะลดลงทันที
จบทริปวันแรกเดินจนขาลาก เหนื่อยแล้วคร่าพร้อมกันฝนเริ่มตกหนัก เราจึงกลับโรงแรม เพื่อเก็บแรงไว้ไปเที่ยวในวันรุ่งขึ้น
ขอจบวันที่ 15/11/18 ไว้มาต่อนะคะ
[CR] Hong Kong 2018 l 3 Day 2 Nights (ฮ่องกง 2018 l 3 วัน 2 คืน
• กระทู้นี้เป็นการรีวิวเพื่อเป็นความทรงจำของตัวเอง
ปล.ไฟล์ภาพอาจจะไม่สวย เพราะใช้โทรศัพท์มือถือถ่าย (IPhone 6s, Huawei)
ค่าใช้จ่ายแบบคร่าวๆ
ค่าเครื่องบิน(รวมภาษี)ไป-กลับ สายการบิน Air Asia : 6,523/คน บาท
ค่าที่พัก Hotel Hart : 3,368/คืน บาท
ประกันการเดินทาง MISG : 220/คน บาท (แบบ 4 วัน : 15-18 พ.ย.2561)
ค่ากระเช้านองปิงแบบคริสตัล ไป-กลับ : 990/คน บาท (ซื้อจากเว็ป KLOOK)
ค่าบัตรเข้า Disneyland : 2,224/คน บาท (ซื้อจากเว็ป KLOOK)
- แผนที่ MTR ของฮ่องกง
DAY 1 : 15/11/2018
Che Kung Temple (วัดกังหัน) : Wong Tai Sin (วัดหวังต้าเซียน): Chi Lin Nunnery and Nan Lian Garden (วัดนางชีฉีหลินและสวนหนานเหลียน) : The Symphony of Light (SOL) : Ladies Market
เราบินไฟล์ทเช้าเวลา 06.35 น. จึงออกเดินทางไปสนามบินดอนเมืองแต่เช้ามืด เพราะเราควรถึงสนามบินล่วงหน้าอย่างน้อยก่อนสัก 2 ช.ม. ใช้เวลาบินประมาณ 2-3 ช.ม. ถึงสนามบินฮ่องกงเวลา 10.20 น. (เวลาที่ฮ่องกงจะเร็วกว่าไทย 1 ช.ม.)
เดินผ่าน ตม.เข้ามาในสนามบินฮ่องกงแล้ว ก็หาซื้อบัตรขึ้นรถไฟที่เคาน์เตอร์ Hong Kong Airport Express Service Counter ทันที เราเลือกซื้อบัตร Airport Express Travel Pass ซึ่งเป็นบัตรนั่ง Airport Express พร้อมนั่งรถ MTR ไม่จำกัดเที่ยวได้ในเวลา 3 วัน ราคา AE เที่ยวเดียว 250HKD/ใบ เมื่อนำบัตรมาคืนจะได้เงินคืน 50HKD พร้อมเงินที่ใช้เหลือ
ถ้าจะนั่งรถเมล์ รถราง หรือซื้อของ หรือจะนั่ง Airport Express อีก 1 เที่ยว (เนื่องจากเราซื้อบัตรแบบเที่ยวเดียว) ก็ใช้เติมเงินได้แบบเดียวกับ Octopus เลยค่ะ
เรานั่งรถไฟจากสนามบินเข้าตัวเมือง Hong Kong (จอดแค่ 3 สถานี คือ Tsing Yi, Kowloon, และ Hong Kong เราลงสถานีสุดท้ายเลย คือ สถานี Hong Kong)
หลังจากนั่ง AE มาถึงสถานี Hong Kong ก็ต่อ MTR สายสีแดงจากสถานี Central มาลงสถานี Tsim Sha Tsui ทางออก A2 เพราะเราจองที่พักไว้แถวนั้น
เรามาถึงโรงแรมก่อนเวลาเช็คอินค่อนข้างเยอะ (ปกติเขาให้เข้าเช็คอินได้ตั้งแต่ 14.00 น.) เลยฝากกระเป๋าไว้ที่ Lobby โรงแรม
แวะกินบะหมี่ร้าน Noodle in Soup ที่เขาลือว่าอร่อย แถว Tsim Sha Tsui ร้านนี้มีเมนูภาษาไทยด้วยค่ะ เราสั่งบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง+เกี๊ยวปลา(ราคา 55 HKD) ให้เยอะมาก ชามนึงกินได้ 2 คนเลยค่ะ เกี๊ยวปลาอร่อยมากเลยค่ะ ในความรู้สึกของเรานะ น้ำเปล่า(ราคา 10HKD)
หลังจากกินบะหมี่เรียบร้อย เราก็แวะกินต่อที่ร้าน DELICIOUS KITCHEN เราสั่งข้าวหน้าหมูทอด(ราคา 50 HKD) รสชาติถือว่าอร่อยทีเดียวเลยค่ะ ชาเขียวร้อน(ราคา 2 HKD) ชานม(ราคา 17 HKD) รสชาติอร่อยเข้มข้นจริงๆค่ะ
หลังจากอิ่มท้องแล้ว ก็ลุยกันต่อ เป้าหมายต่อไปคือ Che Kung Temple (วัดกังหัน) ซึ่งเราเดินทางจากสถานี East Tsim Sha Tsui สายสีฟ้า ไปลงที่สถานี Tai Wai ทางออก B เดินประมาณอีก 5-10 นาที ตามทางเดินจะมีป้ายบอกทางไปวัด Che Kung Temple ตลอดทาง เดินได้สบายไม่หลงแน่นอนค่ะ ^_^
มาถึงแล้ว Che Kung Temple (เปิด-ปิด 07.00 – 18.00 MTR สถานี Che Kung Temple หรือ Tai Wai ทางออก B)
ทางเข้าวัดตรงประตูจะมีร้ายขายธูปอยู่ร้านเดียว ซึ่งเจ้าของร้านสามารถฟังและพูดภาษาไทยได้ด้วยค่ะ ธูปมีหลายขนาด แต่ละขนาด ราคาแตกต่างกันไป เราเลือกซื้อขนาดเล็ก ราคา 40HKD
เมื่อซื้อธูปแล้ว เดินไปที่โต๊ะข้างใน จะมีคนคอยจุดธูปให้เลยค่ะ และยังคอยบอกว่าต้องไหว้ตรงไหนบ้าง น่ารัก ใจดีมากค่ะ
ไหว้ตามจุดต่างๆ เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมหมุนกังหันข้างในด้วยนะคะ (ให้หมุนด้วยมือซ้ายตามเข็มนาฬิกา) ที่ขึ้นชื่อของที่นี้อีกอย่างหนึ่ง คือ การเสี่ยงเซียมซี ไม่รอช้าไปกันค่ะ เซียมซีจะอยู่ข้างนอก ตรงทางไปห้องน้ำผู้ชายข้างกำแพงวัด ก่อนจะหยิบเซียมซี เราต้องจ่ายค่ามัดจำ 20HKD ก่อนนะคะ เขาถึงจะให้เซียมซีเรามา
ได้หมายเลขเซียมซีแล้ว ก็นำกลับมาไว้ที่เดิม พร้อมกันนั้น เขาจะจ่ายเงินคืนให้เรา 15 HKD อีก 5 HKD ถือเป็นค่าใบทำนายค่ะ
ได้มาแล้วคร่า แต่! เราแปลไม่ออก T^T จะให้เขาแปลให้ก็สู้ราคาไม่ไหว วานผู้รู้ช่วยแปลให้ทีค่ะ Please
หลังจากนั้นเราก็หาซื้อของฝากที่นี้เลยค่ะ สร้อยกังหัน ราคา 60 HKD และแผ่นทอง ราคา 50 HKD (ไหนๆก็มาแล้ว ซื้อที่วัดนี้แหละ เผื่อที่อื่นไม่มีขาย ^_^)
หลังจากนั้นเราก็เดินกลับทางเดิม ขึ้นสถานี Tai Wai ลงสถานี Kowloon Tong สายสีฟ้า เมื่อถึงสถานีแล้ว เปลี่ยน MTR สายสีเขียว ถึงแล้วค่ะ Wong Tai Sin (วัดหวังต้าเซียน/หว่องไท่ซิน) (เปิด-ปิด 07.00 – 17.30 MTR สถานี Wong Tai Sin ทางออก B) หรือที่รู้จักกัน คือ วัดด้ายแดง เชื่อกันว่าถ้าคนโสดมาขอพรในเรื่องเนื้อคู่กับ เทพเจ้าหยุคโหลว จะสมหวัง (อันนี้แล้วแต่ความเชื่อนะคะ)
ทำการไหว้ขอพรเรื่องเนื้อคู่สักหน่อย เผื่อจะได้คู่กับเขาสักที ไหนๆก็มาถึงที่แล้ว
วิธีการทำมือ อันนี้ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เขาจะมีรูปให้เราทำมือตามในการจับด้ายแดง ทำตามง่ายหายห่วงค่ะ
หลังจากนั้น เราก็ถ่ายรูป แวะซื้อของฝาก (ด้ายแดง) อันนี้คนอื่นฝากซื้อค่ะ ซึ่งจะอยู่หน้าวัด ร้านส่วนใหญ่พูดไทยได้ค่ะ ด้ายแดงแต่ละแบบราคาจะแตกต่างกันไปค่ะ
เดินทางเหนื่อยขอดื่มน้ำสักนิด ชาเขียวแอปเปิ้ล ราคา 20 HKD
เดินทางต่อไม่รอละค่ะ สถานีต่อไป Chi Lin Nunnery (เปิด-ปิด 07.00 – 19.00) and Nan Lian Garden (เปิด-ปิด 07.30 – 21.00) MTR สถานี Diamond Hill ทางออก C2 ทีแรกเราไม่แวะ เพราะฝนเริ่มตกปรอยๆ และท้องฟ้ามืดมากค่ะ สุดท้ายก็ แวะถ่ายรูปสักหน่อย ไหนๆก็มาถึงแล้ว
มาถึงฮ่องกงต้องลองชานม ราคา 28 HKD ร้าน Milksha รสชาติอร่อยใช้ได้ค่ะ ไม่เสียแรงที่ซื้อ 555+
สักพักเราก็ไปสะดุ้งตากับ ลูกชิ้นปลาต้ม ราคา 20 HKD ลองชิมสักถ้วย เพราะคนต่อคิวเยอะมาก (เขามุงกันเยอะ ^_^) น้ำจิ้มแซ่บมากค่ะ อร่อยให้ผ่านค่ะ
ถึงเวลา Check in เพื่อพักผ่อน เก็บของ นอนเอาแรงสักหน่อย ก่อนจะไปดูการแสดง The Symphony of Light (SOL) ทีเด็ดของฮ่องกง โรงแรมถือว่าสะอาดดีมาก แต่ขนาดเล็กไปน้อย มีสบู่ ยาสระผม ครีมนวด โลชั่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน น้ำเปล่า 2 ขวด ไดร์เป่าผม โทรศัพท์ทมีเน็ตให้เล่นฟรี และอื่นๆ ครบครันทีเดียวเลยค่ะ
หลังจากนอนพักแล้วพลังมาค่ะ หาอะไรกินอีกหน่อยละกัน เคบับ (27 Kebab House) ร้านนี้เขาว่าเด็ด คนอย่างเราไม่เชื่อต้องลองเท่านั้นค่ะ นั่งรอแบบใจจดใจจ่อ จะอร่อยสมคำร่ำลือหรือไม่ (คนสั่งก่อนหน้าเราก็เยอะอยู่)
ผ่างงงงงง ได้มาแล้ว โอ้โห เคบับ มันใหญ่มากกกกกกก เราสั่งเคบับเนื้อชีส ราคา 55 HKD
กัดเข้าไป อืมมมมม มันอร่อยมากกกกกก สำหรับคนชอบกินเนื้อและชีสนะคะ สำหรับเราเนื้อมันนุ่มมาก ชีสทั่วถึงทั้งชิ้น กินไป 1 ชิ้นอิ่มพอดีเลยค่ะ
เดินทางต่อเพื่อไปดู The Symphony of Light เราเดินจากยาน Tsim Sha Tsui เพื่อไปบริเวณริมแม่น้ำ ด้านหน้า Hong Kong Cultural Center โชคดีที่เราพักใกล้จุดที่แสดงเลยใช้เวลาเดินไปประมาณ 15-20 นาที
เราเดินมาถึงก่อนการแสดงจะเริ่มสักครึ่งชั่วโมง (19.30) ก็จับจองพื้นที่ ยืนรอถ่ายรูป(สวยๆ) ไปก่อน
และแล้วการแสดงก็เริ่มขึ้น (เริ่มเวลา 20.00 น. ของทุกวัน) เย้ๆๆๆๆๆ สวยงามตามท้องเรื่องค่ะ มันสวยมากกกกกกกก แสง สี เสียง เต้นไปตามจังหวะเดียวกัน ดูแล้วเพลิดเพลินพร้อมกับอากาศเย็นๆ ช่างเข้ากันดีค่ะ สมกับที่รอคอย ใช้เวลาในการแสดงประมาณ 15 นาทีค่ะ
ชมการแสดงเสร็จแล้ว ถ่ายรูปหน่อยค่ะ ก่อนจะไปเดินเที่ยว ซื้อของที่ Ladies Market โดยการนั่ง MTR จากสถานี Tsim Sha Tsui สายสีแดง ไปลงสถานี Mong kok สายสีเขียว (เราจำทางออกไม่ได้ แหะๆ)
ตลาด Ladies Market ขอกินไอศกรีมให้เข้ากับบรรยากาศเย็นๆ ฝนเริ่มตกหน่อยๆ
สำคัญ!! การซื้อของที่ Ladies Market อย่าเพิ่งใจร้อนซื้อของทันที ให้เดินเรื่อยๆก่อน และให้ต่อราคาที่เราต้องการกับร้านค้านั้นๆ ทีแรกก็ไม่ยอม แต่พอเราเดินออกจากร้าน ราคาจะลดลงทันที
จบทริปวันแรกเดินจนขาลาก เหนื่อยแล้วคร่าพร้อมกันฝนเริ่มตกหนัก เราจึงกลับโรงแรม เพื่อเก็บแรงไว้ไปเที่ยวในวันรุ่งขึ้น
ขอจบวันที่ 15/11/18 ไว้มาต่อนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้