ละครเรื่อง “ชาติเสือพันธุ์มังกร” เป็นเรื่องราวของ “ลิ้มบุ่นโฮ่ว” ตัวละครเอกของเรื่องที่นิสัยใจคอกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวเหมือนเสือของเขาถูกความกตัญญูรู้คุณควบคุมทิศทางของชีวิตเอาไว้ เมื่อเขาเลือกการทดแทนบุญคุณเป็นแผนที่ใหญ่ในหัวใจ แล้วคุณธรรมข้ออื่นที่มนุษย์พึงมีเล่า เขาจะละทิ้งได้หรือ ?
นอกจากลิ้มบุ่นโฮ่วแล้ว ตัวละครพันธุ์มังกรตัวอื่นในเรื่องก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ตัวละครที่มีชื่อแส้จีนทุกตัวต่างยึดถือในสิ่งเดียวกันคือ บุญคุณ ความแค้น และครอบครัว แต่เพราะพวกเขาเกิดมาด้วยนิสัยใจคอที่แตกต่างกัน ชีวิตจึงมีความเป็นไปที่แตกต่างกันทั้ง ๆ ที่ยึดมั่นในสิ่งที่ไม่ต่างกัน คงเป็นดั่งคำที่โกวเล้ง นักเขียนนวนิยายจีนกำลังภายในได้เคยกล่าวเอาไว้ในเรื่องเหยี่ยวนรกทะเลทรายว่า
“มีบ้างบางคนเชื่อถือโชคชะตา เชื่อว่าโชคชะตาสามารถตัดสินชีวิตของคนคนหนึ่ง หาทราบไม่ว่าสิ่งที่ตัดสินโชคชะตาในชีวิตของคนผู้หนึ่ง มักเป็นนิสัยใจคอของมันเอง”
ด้วยความที่เจ้าของกระทู้ชื่นชอบโกวเล้งเป็นการส่วนตัว ในกระทู้นี้จึงจะขอชวนท่านผู้อ่านมาเม้าท์ถึงตัวละครในเรื่องชาติเสือพันธุ์มังกรด้วยคำคมของโกวเล้งกันนะคะ
ลิ้มเม่งฮง
“ผู้ที่หยามเหยียดตนเอง มักจงใจเสแสร้งเป็นเย่อหยิ่งลำพอง เพื่อปกป้องคุ้มครองปมด้อยในจิตใจตนเอง ผู้คนทั้งหลายมักกระทำเรื่องประหลาดพิกลออกมา” (โกวเล้ง / ดาบมรกต)
เราเลือกพูดถึง “ลิ้มเม่งฮง” อาเจ๊กของลิ้มบุ่นโฮ่วเป็นคนแรกเพราะชอบตัวละครตัวนี้เป็นการส่วนตัว ลิ้มเม่งฮงเป็นเจ้าของกิจการโรงน้ำชาและบ่อนการพนัน เส้นทางการเป็นผู้มีอิทธิพลระดับสูงในเยาวราชของเขาปูลาดด้วยเลือดและน้ำตาของทั้งตัวเองและคนอื่น ถ้าดูจากประวัติ เขาน่าจะเป็นคนเลือดเย็นและภูมิใจในตัวเองอยู่ไม่น้อย แต่การณ์กลับกลายเป็นว่าเขากลายเป็นตาแก่ที่อารมณ์อ่อนไหวเหลือเกินเมื่อมีใครปฏิเสธน้ำใจที่เขาหยิบยื่นให้ คำถามที่ติดปากลิ้มเม่งฮงเสมอคือประโยคที่ว่า “รังเกียจเงินของอั๊วะเหรอ ?” ทั้ง ๆ ที่คู่สนทนาไม่ได้คิดไปถึงเรื่องนั้นเลย มันสะท้อนว่าลึก ๆ แล้ว เขาไม่เคยมีความสุขกับอำนาจที่ตัวเองกำไว้ในมือเลย เขานั่นแหละที่รังเกียจมันยิ่งกว่าใคร ๆ
โอ๊วฮุ่ยเซี้ยง
“การคบค้าสมาคมของผู้คนบางคน ความจริงอยู่ที่คิดอาศัยกันและกันเป็นเครื่องมือ” (โกวเล้ง / ดาบมรกต)
โอ๊วฮุ่ยเซี้ยงเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับลิ้มเม่งฮง บางคนอาจรู้สึกว่าอาแปะสองคนนี้ไม่น่าจะคบหากันได้นานขนาดนี้เลย เพราะลิ้มเม่งฮงเป็นคนโผงผาง ตรงไปตรงมา ในขณะที่การกระทำของโอ๊วฮุ่ยเซี้ยงนั้นมีผลประโยชน์แอบแฝงเสมอ โอ๊วฮุ่ยเซียงอาศัยความมุทะลุดุดันของลิ้มเม่งฮงเป็นแขนขา เพราะลำพังตัวเองไม่ได้มีความกล้าขนาดนั้น ส่วนลิ้มเม่งฮงก็พึ่งพาความซับซ้อนของโอ๊วฮุ่ยเซียงเป็นมันสมอง เพราะลำพังความทื่อมะลื่อของตัวเองคงคิดไม่ทันใคร คนยิ้มเปิดเผยคนหนึ่ง กับคนยิ้มมีความนัยคนหนึ่งจึงยังเป็นเพื่อนกันได้ ตราบเท่าที่ยังพอใจในผลประโยชน์ที่แบ่งสรรกันอยู่
รัฐมนตรีการันต์
“สุราที่ไม่เมามายโดยง่าย หากเมามายยากที่จะฟื้นตื่นได้ บุคคลที่น่ารักที่สุด มักเป็นบุคคลที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด” (โกวเล้ง / เหยี่ยวนรกทะเลทราย)
การัตน์ พ่อบุญธรรมของลิ้มบุ่นโฮ่ว ภายนอกดูดีมีเมตตา แต่ข้างในกลับเหมือนไม่มีหัวใจอยู่ในนั้น เขาเป็นเจ้าพ่อที่อยู่เหนือเจ้าพ่อ เขาดูคนออกและใช้คนเป็น เราคิดว่าการันต์ดูลิ้มบุ่นโฮ่วออกตั้งแต่แวบแรกที่เห็น และเขารู้อยู่แล้วว่าจะเลือกใช้เด็กคนนี้ตั้งแต่เดินเข้าไปให้ขัดรองเท้าให้ ต่อให้ลิ้มบุ่นโฮ่วไม่ได้ช่วยชีวิตการันต์ไว้ เราก็เชื่อว่าเขาจะรับเด็กคนนี้เป็นลูกบุญธรรมอยู่ดีเพราะเขาดูออกว่าเด็กคนนี้จะใช้งานได้ และสามารถจองจำเอาไว้ได้ด้วยความจงรักภักดี
ลิ้มเฮ้งเตี๋ยง
“หุนหันเจ้าอารมณ์ ความจริงเป็นคนไม่สามารถสำเร็จกิจการใหญ่ มีแต่ทำงานล้มเหลว” (โกวเล้ง / ซาเสียว
)
ลิ้มเฮ้งเตี๋ยง ลูกชายคนโตของลิ้มเม่งฮง ลูกพี่ลูกน้องของลิ้มบุ่นโฮ่ว ลิ้มเม่งฮงชอบด่าลูกชายตัวเองว่าโง่ เอาแต่ใช้กำลัง เราอยากบอกอาแปะฮงว่าอย่าด่าอาเตี๋ยงเลย อีก็นิสัยเหมือนอาแปะนี่แหละ ลำพังจิตใจของลิ้มเฮ้งเตี๋ยงนั้นไม่มีพิษภัยอะไร แต่ก็เหมือนที่มีคนเคยพูดไว้ว่าคนฉลาดที่ขี้เกียจสร้างความวอดวายน้อยกว่าคนโง่ที่ขยัน อันที่จริงผู้ชายที่มีแต่หัวใจ ไม่มีสมองอย่างลิ้มเฮ้งเตี๋ยงนั้นต้องมีผู้หญิงฉลาดและซับซ้อนอย่างโอ๊วไต้เกียวเป็นเมีย จะได้มีคนคอยควบคุม แต่ก็นั่นแหละเนอะ ความรักเป็นเรื่องของหัวใจ ไม่ใช่สมอง ผู้หญิงมีไว้ให้รัก ไม่ใช่มีไว้หาผลประโยชน์ให้ตัว ดังนั้นสิ่งที่ลิ้มเฮ้งเตี๋ยงเป็นนั้นก็น่าชื่นชมแล้ว
ลิ้มลี่เง็ก
“ความจริงอเวจีอยู่ในหัวใจผู้คน หากหัวใจท่านไม่มีรัก มีแต่แค้น อเวจีก็อยู่ที่หัวใจท่าน หากหัวใจท่านไม่มีรัก ตัวของท่านก็อยู่ในอเวจี” (โกวเล้ง / ดาบจอมภพ)
ลิ้มลี่เง็ก เป็นลูกสาวของลิ้มเม่งฮง น้องสาวของลิ้มเฮ้งเตี๋ยง นางดูเป็นคนเก็บกด เจ้าคิดเจ้าแค้น ก้าวร้าว ปากร้าย ใช้ความรุนแรง ฯลฯ เท่าที่เห็นยังไม่มีอะไรดี แต่ถ้าจะพยายามหาเหตุผลว่าทำไมเธอถึงเป็นอย่างนี้ก็ยังพอคิดได้ เธอเป็นลูกสาวของนักเลงที่น่าจะเลี้ยงดูเธอแบบตามมีตามเกิด น่าจะขาดความอบอุ่นอย่างรุนแรง โตมาในโรงน้ำชาและบ่อน สภาพแวดล้อมเลวร้ายขั้นสุด รอบตัวมีแต่อันธพาล ถ้าทำตัวนุ่มนิ่มอ่อนแอคงไม่รอด และที่สำคัญที่สุดคือเธอเป็นลูกสาวที่มีพี่ชายเป็นลูกชายคนโต ครอบครัวคนจีนสมัยก่อนให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาวอยู่แล้ว กรณีของลิ้มลี่เง็กยิ่งหนักกว่าเพราะนอกจากพี่ชายตัวเองแล้ว ยังมีลิ้มบุ่นโฮ่วที่มาแบ่งเอาความรักความสนใจไปจากพ่อของเธออีก เธอจึงเป็นตัวละครที่ไร้ความสุขที่สุดในเรื่อง
โอ๊วไต้เกียว
“คนส่วนมากในโลกนี้ ต่างมีหน้ากากเยี่ยงนี้อยู่อันหนึ่ง ปกติแม้ไม่เห็น แต่เมื่อถึงยามจำเป็น จำต้องสวมหน้ากากนี้ไว้แทบทุกคนไป มีบ้างเพื่อปิดบังความโศกเศร้าเสียใจของตัวเอง มีบ้างต้องการปิดบังความขุ่นเคืองเดือดดาลของตัวเอง มีบ้างจำเป็นจำใจ มิอาจไม่ใช้สีหน้าแย้มยิ้มเข้าต้อนรับผู้คน มีบ้างเพื่อต้องการให้ผู้อื่นหวาดกลัวมัน และก็มีบ้าง เพื่อปิดบังความหวาดหวั่นของตนเอง !” (โกวเล้ง / ฤทธิ์มีดสั้น)
โอ๊วไต้เกียวเป็นหลานสาวคนเดียวของโอ๊วฮุ่ยเซี้ยง เธอเป็นหญิงสาวที่รูปร่างหน้าตาสะสวย กิริยามารยาทไม่ขาดตกบกพร่อง งานบ้านงานเรือนก็ทำได้สมบูรณ์พร้อม เธอควรเป็นผู้หญิงที่มีแต่คนต้องการ ถ้าไม่ติดที่ว่าเธอเป็นหลานสาวของนักเลงคุมซ่องที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากข้องเกี่ยว ชีวิตของเธอจึงต้องวน ๆ เวียน ๆ อยู่กับพวกนักเลง ที่คู่ควรกับเธอหน่อยอย่างลิ้มบุ่นโฮ่ว ก็ดันไปเห็นเด็กสาวขอทานดีกว่าเธอ โดนจับหมั้นกับลิ้มเฮ้งเตี๋ยง ก็ดันไปเห็นโสเภณีดีกว่าเธอ โอ๊วไต้เกียวจึงเป็นตัวละครที่ถูกวางให้เป็นตัวร้ายแต่เราเกลียดไม่ลง อาจเพราะเรารู้ว่าภายใต้รอยยิ้มหวานหยดย้อยฉาบยาพิษของเธอนั้น มันก่อตัวจากความขมขื่นอัดอั้นเพียงใด
ลี้เตียงจู
“คนส่วนมากในโลกนี้ ความจริงก็อยู่เพื่อผู้อื่น มีบ้างอยู่เพื่อคนรักของตัว และมีบ้างอยู่เพื่อคนที่ตนแค้น คนสองประเภทนี้ ต่างเจ็บปวดทรมานเช่นเดียวกัน” (โกวเล้ง / ฤทธิ์มีดสั้น)
ลี้เตียงจู เป็นเด็กสาวที่ลิ้วบุ่นโฮ่วเก็บมาเลี้ยงเพื่อไถ่โทษที่เธอต้องเป็นกำพร้าเพราะพ่อแม่ถูกลิ้มเม่งฮงและโอ๊วฮุ่ยเซียงฆ่า เธอเป็นเด็กสาวที่ฉลาด ร่าเริง เปิดเผย และมีชีวิตอยู่ด้วยแรงขับเคลื่อนสองสิ่งคือความแค้นและความรัก เธอจึงเป็นเด็กสาวที่มีทั้งด้านที่ดำมืดและด้านที่สว่างสดใส มีทั้งด้านที่น่าเข้าใกล้และด้านที่น่าผลักไสให้ห่างตัว
ทำไมเด็กสาวที่ลิ้มบุ่นโฮ่วเรียกว่า “ปีศาจน้อย” คนนี้ ถึงมีท่าทีว่าจะกุมหัวใจของเขาได้ ?
นอกจากความสงสารเห็นอกเห็นใจที่ทำให้คนเราเปิดหัวใจให้แก่กันได้ง่ายแล้ว เขามักหงุดหงิดหัวเสียกับเด็กในปกครองคนนี้เสมอ ฟังแล้วอาจไม่ใช่เรื่องดี แต่เขาก็ไม่เคยเป็นแบบนี้กับใคร การเปิดเผยด้านร้ายของตัวเองให้ใครสักคนเห็น ถ้าไม่ใช่เพราะไม่แคร์ความรู้สึกของคน ๆ นั้น ก็มักจะเป็นเพราะเราไว้ใจคน ๆ นั้นมากจนกระทั่งไม่จำเป็นต้องเก็บซ่อนอารมณ์ขุ่นมัวของตัวเอง และพอไว้ใจให้เห็นด้านร้ายของตัวเองสักด้านหนึ่งแล้ว เขาก็ไว้วางใจให้เธอรับรู้ด้านดำมืดด้านอื่นของเขาด้วย ลี้เตียงจูจึงไม่ใช่แค่เด็กสาวหน้าตาดีที่อยู่ในความดูแลของลิ้มบุ่นโฮ่ว แต่เธอยังเป็นเหมือนเพื่อนคนเดียวในชีวิตที่เขาสามารถระบายความทุกข์แสนสาหัสในใจได้ด้วย เธอเป็นเหมือนอากาศปลอดโปร่งเพียงแหล่งเดียวที่เขามี ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่ถ้าเสียเธอไป คนอย่างเจ้าพ่อลิ้มบุ่นโฮ่วอาจขาดใจได้อย่างนั้น
ลิ้มบุ่นโฮ่ว
“ในโลกความจริง มีเรื่องจนปัญญาอยู่มากหลาย ในบางโอกาส คนผู้หนึ่งแม้ทราบว่าสิ่งที่ตัวเองกระทำไม่ถูกต้อง ยังมิอาจไม่กระทำ” (โกวเล้ง / มีดบินกรีดฟ้า)
เก็บลิ้มบุ่นโฮ่วไว้พูดถึงเป็นคนสุดท้าย เพราะรักที่สุดก็ต้องเก็บไว้พูดถึงทีหลัง อิอิ ลิ้มบุ่นโฮ่ว เฮียโฮ่ว เถ้าแก่เสือ ทรงวาด ทั้งหมดล้วนหมายถึงคน ๆ เดียวกัน ชายหนุ่มเชื้อสายจีนแสนสงบที่อยู่ท่ามกลางผู้คนที่บ้าคลั่ง ทั้งหมดอยู่ในหัวอกของเขาแต่เพียงผู้เดียว เขาคอยแก้ปัญหาให้ทุกคนที่อยู่รอบข้างจนผลักตัวเองเข้าสู่เส้นทางสายนักเลงเยาวราชโดยที่ตัวเองก็ไม่ต้องการ มันเจ็บปวดแค่ไหนกันนะที่ว่าที่ผู้รักษากฎหมายอย่างเขาต้องมายืนอยู่ในฝั่งเดียวกับฝ่ายอาชญากร มันจะโดดเดี่ยวแค่ไหนกันที่ได้รับรู้ว่าคนที่เลี้ยงดูเราเป็นลูกบุญธรรม แท้จริงแล้วเค้าแค่ต้องการใช้เราเป็นคนทำงานสกปรกให้ โดยจองจำเราไว้ด้วยหนี้บุญคุณ ถ้ามีโอกาสได้คุยกับเถ้าแก่นะ เราอยากจะบอกกับเถ้าแก่ว่า
. . . เถ้าแก่ ไม่ต้องเสียใจไปนะ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วมันดีเสมอ ต่อให้เถ้าแก่เรียนจบโรงเรียนนายร้อย แต่เราคิดว่าเถ้าแก่ก็ยังต้องทำงานนี้ให้เขาอยู่ดี เพราะนั่นคือเหตุผลที่เขาเอาเถ้าแก่มาเลี้ยง ถ้าเถ้าแก่ได้เป็นตำรวจ เถ้าแก่จะเจ็บปวดใจยิ่งกว่านี้อีกที่ต้องเป็นผู้รักษากฎหมายพร้อมกับเป็นผู้คุ้มครองอาชญากรไปด้วย ดังนั้นเถ้าแก่ไม่ต้องเป็นตำรวจนั่นแหละดีแล้ว ส่วนที่เหลือ ถ้าเถ้าแก่คิดว่าที่ทำอยู่มันไม่ถูกและเกินจะทน มันก็อาจจะถึงเวลาแล้วเหมือนกัน ที่เถ้าแก่จะลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงมัน
เวลาเราดูละคร เรามักคิดถึงข้อดีของการดูละครอย่างหนึ่งก็คือ การดูละครทำให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจสภาพการใช้ชีวิตในรูปแบบ เงื่อนไข และตัวแปรที่แตกต่างได้อย่างกว้างขวางจนเกินขอบเขตของประสบการณ์ที่บุคคลเพียงคนเดียวจะได้พบเจอด้วยตัวเอง ขอบคุณโลกของเยาวราชในชาติเสือพันธุ์มังกรที่ทำให้เราได้รับประสบการณ์ใหม่ที่เราคงไม่มีวันพบเจอได้ด้วยตัวเอง ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกท่าน นักแสดงทุกคน และขอบคุณที่สร้างละครดี ๆ แบบนี้ออกมาให้พวกเราได้ชมกัน
ระหว่างการทดแทนบุญคุณและการยืนหยัดข้างความถูกต้อง สุดท้ายแล้วเจ้าพ่อลิ้มบุ่นโฮ่วจะเลือกเส้นทางไหน ความรักของเด็กในปกครองและคนสีเทา ๆ อย่างเขาจะเติบโตได้อย่างไร และอะไรคือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับปัญหาของผู้คนรอบข้างที่แสนวุ่นวาย ติดตามหาคำตอบได้ใน “ชาติเสือพันธุ์มังกร” นะคะ
**~ ชาติเสือพันธุ์มังกร ~** มานิยามตัวละครในเรื่อง “ชาติเสือพันธุ์มังกร” ด้วยคำคมของโกวเล้งกัน
ละครเรื่อง “ชาติเสือพันธุ์มังกร” เป็นเรื่องราวของ “ลิ้มบุ่นโฮ่ว” ตัวละครเอกของเรื่องที่นิสัยใจคอกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวเหมือนเสือของเขาถูกความกตัญญูรู้คุณควบคุมทิศทางของชีวิตเอาไว้ เมื่อเขาเลือกการทดแทนบุญคุณเป็นแผนที่ใหญ่ในหัวใจ แล้วคุณธรรมข้ออื่นที่มนุษย์พึงมีเล่า เขาจะละทิ้งได้หรือ ?
นอกจากลิ้มบุ่นโฮ่วแล้ว ตัวละครพันธุ์มังกรตัวอื่นในเรื่องก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ตัวละครที่มีชื่อแส้จีนทุกตัวต่างยึดถือในสิ่งเดียวกันคือ บุญคุณ ความแค้น และครอบครัว แต่เพราะพวกเขาเกิดมาด้วยนิสัยใจคอที่แตกต่างกัน ชีวิตจึงมีความเป็นไปที่แตกต่างกันทั้ง ๆ ที่ยึดมั่นในสิ่งที่ไม่ต่างกัน คงเป็นดั่งคำที่โกวเล้ง นักเขียนนวนิยายจีนกำลังภายในได้เคยกล่าวเอาไว้ในเรื่องเหยี่ยวนรกทะเลทรายว่า
“มีบ้างบางคนเชื่อถือโชคชะตา เชื่อว่าโชคชะตาสามารถตัดสินชีวิตของคนคนหนึ่ง หาทราบไม่ว่าสิ่งที่ตัดสินโชคชะตาในชีวิตของคนผู้หนึ่ง มักเป็นนิสัยใจคอของมันเอง”
ด้วยความที่เจ้าของกระทู้ชื่นชอบโกวเล้งเป็นการส่วนตัว ในกระทู้นี้จึงจะขอชวนท่านผู้อ่านมาเม้าท์ถึงตัวละครในเรื่องชาติเสือพันธุ์มังกรด้วยคำคมของโกวเล้งกันนะคะ
“ผู้ที่หยามเหยียดตนเอง มักจงใจเสแสร้งเป็นเย่อหยิ่งลำพอง เพื่อปกป้องคุ้มครองปมด้อยในจิตใจตนเอง ผู้คนทั้งหลายมักกระทำเรื่องประหลาดพิกลออกมา” (โกวเล้ง / ดาบมรกต)
เราเลือกพูดถึง “ลิ้มเม่งฮง” อาเจ๊กของลิ้มบุ่นโฮ่วเป็นคนแรกเพราะชอบตัวละครตัวนี้เป็นการส่วนตัว ลิ้มเม่งฮงเป็นเจ้าของกิจการโรงน้ำชาและบ่อนการพนัน เส้นทางการเป็นผู้มีอิทธิพลระดับสูงในเยาวราชของเขาปูลาดด้วยเลือดและน้ำตาของทั้งตัวเองและคนอื่น ถ้าดูจากประวัติ เขาน่าจะเป็นคนเลือดเย็นและภูมิใจในตัวเองอยู่ไม่น้อย แต่การณ์กลับกลายเป็นว่าเขากลายเป็นตาแก่ที่อารมณ์อ่อนไหวเหลือเกินเมื่อมีใครปฏิเสธน้ำใจที่เขาหยิบยื่นให้ คำถามที่ติดปากลิ้มเม่งฮงเสมอคือประโยคที่ว่า “รังเกียจเงินของอั๊วะเหรอ ?” ทั้ง ๆ ที่คู่สนทนาไม่ได้คิดไปถึงเรื่องนั้นเลย มันสะท้อนว่าลึก ๆ แล้ว เขาไม่เคยมีความสุขกับอำนาจที่ตัวเองกำไว้ในมือเลย เขานั่นแหละที่รังเกียจมันยิ่งกว่าใคร ๆ
“การคบค้าสมาคมของผู้คนบางคน ความจริงอยู่ที่คิดอาศัยกันและกันเป็นเครื่องมือ” (โกวเล้ง / ดาบมรกต)
โอ๊วฮุ่ยเซี้ยงเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับลิ้มเม่งฮง บางคนอาจรู้สึกว่าอาแปะสองคนนี้ไม่น่าจะคบหากันได้นานขนาดนี้เลย เพราะลิ้มเม่งฮงเป็นคนโผงผาง ตรงไปตรงมา ในขณะที่การกระทำของโอ๊วฮุ่ยเซี้ยงนั้นมีผลประโยชน์แอบแฝงเสมอ โอ๊วฮุ่ยเซียงอาศัยความมุทะลุดุดันของลิ้มเม่งฮงเป็นแขนขา เพราะลำพังตัวเองไม่ได้มีความกล้าขนาดนั้น ส่วนลิ้มเม่งฮงก็พึ่งพาความซับซ้อนของโอ๊วฮุ่ยเซียงเป็นมันสมอง เพราะลำพังความทื่อมะลื่อของตัวเองคงคิดไม่ทันใคร คนยิ้มเปิดเผยคนหนึ่ง กับคนยิ้มมีความนัยคนหนึ่งจึงยังเป็นเพื่อนกันได้ ตราบเท่าที่ยังพอใจในผลประโยชน์ที่แบ่งสรรกันอยู่
“สุราที่ไม่เมามายโดยง่าย หากเมามายยากที่จะฟื้นตื่นได้ บุคคลที่น่ารักที่สุด มักเป็นบุคคลที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด” (โกวเล้ง / เหยี่ยวนรกทะเลทราย)
การัตน์ พ่อบุญธรรมของลิ้มบุ่นโฮ่ว ภายนอกดูดีมีเมตตา แต่ข้างในกลับเหมือนไม่มีหัวใจอยู่ในนั้น เขาเป็นเจ้าพ่อที่อยู่เหนือเจ้าพ่อ เขาดูคนออกและใช้คนเป็น เราคิดว่าการันต์ดูลิ้มบุ่นโฮ่วออกตั้งแต่แวบแรกที่เห็น และเขารู้อยู่แล้วว่าจะเลือกใช้เด็กคนนี้ตั้งแต่เดินเข้าไปให้ขัดรองเท้าให้ ต่อให้ลิ้มบุ่นโฮ่วไม่ได้ช่วยชีวิตการันต์ไว้ เราก็เชื่อว่าเขาจะรับเด็กคนนี้เป็นลูกบุญธรรมอยู่ดีเพราะเขาดูออกว่าเด็กคนนี้จะใช้งานได้ และสามารถจองจำเอาไว้ได้ด้วยความจงรักภักดี
“หุนหันเจ้าอารมณ์ ความจริงเป็นคนไม่สามารถสำเร็จกิจการใหญ่ มีแต่ทำงานล้มเหลว” (โกวเล้ง / ซาเสียว)
ลิ้มเฮ้งเตี๋ยง ลูกชายคนโตของลิ้มเม่งฮง ลูกพี่ลูกน้องของลิ้มบุ่นโฮ่ว ลิ้มเม่งฮงชอบด่าลูกชายตัวเองว่าโง่ เอาแต่ใช้กำลัง เราอยากบอกอาแปะฮงว่าอย่าด่าอาเตี๋ยงเลย อีก็นิสัยเหมือนอาแปะนี่แหละ ลำพังจิตใจของลิ้มเฮ้งเตี๋ยงนั้นไม่มีพิษภัยอะไร แต่ก็เหมือนที่มีคนเคยพูดไว้ว่าคนฉลาดที่ขี้เกียจสร้างความวอดวายน้อยกว่าคนโง่ที่ขยัน อันที่จริงผู้ชายที่มีแต่หัวใจ ไม่มีสมองอย่างลิ้มเฮ้งเตี๋ยงนั้นต้องมีผู้หญิงฉลาดและซับซ้อนอย่างโอ๊วไต้เกียวเป็นเมีย จะได้มีคนคอยควบคุม แต่ก็นั่นแหละเนอะ ความรักเป็นเรื่องของหัวใจ ไม่ใช่สมอง ผู้หญิงมีไว้ให้รัก ไม่ใช่มีไว้หาผลประโยชน์ให้ตัว ดังนั้นสิ่งที่ลิ้มเฮ้งเตี๋ยงเป็นนั้นก็น่าชื่นชมแล้ว
“ความจริงอเวจีอยู่ในหัวใจผู้คน หากหัวใจท่านไม่มีรัก มีแต่แค้น อเวจีก็อยู่ที่หัวใจท่าน หากหัวใจท่านไม่มีรัก ตัวของท่านก็อยู่ในอเวจี” (โกวเล้ง / ดาบจอมภพ)
ลิ้มลี่เง็ก เป็นลูกสาวของลิ้มเม่งฮง น้องสาวของลิ้มเฮ้งเตี๋ยง นางดูเป็นคนเก็บกด เจ้าคิดเจ้าแค้น ก้าวร้าว ปากร้าย ใช้ความรุนแรง ฯลฯ เท่าที่เห็นยังไม่มีอะไรดี แต่ถ้าจะพยายามหาเหตุผลว่าทำไมเธอถึงเป็นอย่างนี้ก็ยังพอคิดได้ เธอเป็นลูกสาวของนักเลงที่น่าจะเลี้ยงดูเธอแบบตามมีตามเกิด น่าจะขาดความอบอุ่นอย่างรุนแรง โตมาในโรงน้ำชาและบ่อน สภาพแวดล้อมเลวร้ายขั้นสุด รอบตัวมีแต่อันธพาล ถ้าทำตัวนุ่มนิ่มอ่อนแอคงไม่รอด และที่สำคัญที่สุดคือเธอเป็นลูกสาวที่มีพี่ชายเป็นลูกชายคนโต ครอบครัวคนจีนสมัยก่อนให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาวอยู่แล้ว กรณีของลิ้มลี่เง็กยิ่งหนักกว่าเพราะนอกจากพี่ชายตัวเองแล้ว ยังมีลิ้มบุ่นโฮ่วที่มาแบ่งเอาความรักความสนใจไปจากพ่อของเธออีก เธอจึงเป็นตัวละครที่ไร้ความสุขที่สุดในเรื่อง
“คนส่วนมากในโลกนี้ ต่างมีหน้ากากเยี่ยงนี้อยู่อันหนึ่ง ปกติแม้ไม่เห็น แต่เมื่อถึงยามจำเป็น จำต้องสวมหน้ากากนี้ไว้แทบทุกคนไป มีบ้างเพื่อปิดบังความโศกเศร้าเสียใจของตัวเอง มีบ้างต้องการปิดบังความขุ่นเคืองเดือดดาลของตัวเอง มีบ้างจำเป็นจำใจ มิอาจไม่ใช้สีหน้าแย้มยิ้มเข้าต้อนรับผู้คน มีบ้างเพื่อต้องการให้ผู้อื่นหวาดกลัวมัน และก็มีบ้าง เพื่อปิดบังความหวาดหวั่นของตนเอง !” (โกวเล้ง / ฤทธิ์มีดสั้น)
โอ๊วไต้เกียวเป็นหลานสาวคนเดียวของโอ๊วฮุ่ยเซี้ยง เธอเป็นหญิงสาวที่รูปร่างหน้าตาสะสวย กิริยามารยาทไม่ขาดตกบกพร่อง งานบ้านงานเรือนก็ทำได้สมบูรณ์พร้อม เธอควรเป็นผู้หญิงที่มีแต่คนต้องการ ถ้าไม่ติดที่ว่าเธอเป็นหลานสาวของนักเลงคุมซ่องที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากข้องเกี่ยว ชีวิตของเธอจึงต้องวน ๆ เวียน ๆ อยู่กับพวกนักเลง ที่คู่ควรกับเธอหน่อยอย่างลิ้มบุ่นโฮ่ว ก็ดันไปเห็นเด็กสาวขอทานดีกว่าเธอ โดนจับหมั้นกับลิ้มเฮ้งเตี๋ยง ก็ดันไปเห็นโสเภณีดีกว่าเธอ โอ๊วไต้เกียวจึงเป็นตัวละครที่ถูกวางให้เป็นตัวร้ายแต่เราเกลียดไม่ลง อาจเพราะเรารู้ว่าภายใต้รอยยิ้มหวานหยดย้อยฉาบยาพิษของเธอนั้น มันก่อตัวจากความขมขื่นอัดอั้นเพียงใด
“คนส่วนมากในโลกนี้ ความจริงก็อยู่เพื่อผู้อื่น มีบ้างอยู่เพื่อคนรักของตัว และมีบ้างอยู่เพื่อคนที่ตนแค้น คนสองประเภทนี้ ต่างเจ็บปวดทรมานเช่นเดียวกัน” (โกวเล้ง / ฤทธิ์มีดสั้น)
ลี้เตียงจู เป็นเด็กสาวที่ลิ้วบุ่นโฮ่วเก็บมาเลี้ยงเพื่อไถ่โทษที่เธอต้องเป็นกำพร้าเพราะพ่อแม่ถูกลิ้มเม่งฮงและโอ๊วฮุ่ยเซียงฆ่า เธอเป็นเด็กสาวที่ฉลาด ร่าเริง เปิดเผย และมีชีวิตอยู่ด้วยแรงขับเคลื่อนสองสิ่งคือความแค้นและความรัก เธอจึงเป็นเด็กสาวที่มีทั้งด้านที่ดำมืดและด้านที่สว่างสดใส มีทั้งด้านที่น่าเข้าใกล้และด้านที่น่าผลักไสให้ห่างตัว
ทำไมเด็กสาวที่ลิ้มบุ่นโฮ่วเรียกว่า “ปีศาจน้อย” คนนี้ ถึงมีท่าทีว่าจะกุมหัวใจของเขาได้ ?
นอกจากความสงสารเห็นอกเห็นใจที่ทำให้คนเราเปิดหัวใจให้แก่กันได้ง่ายแล้ว เขามักหงุดหงิดหัวเสียกับเด็กในปกครองคนนี้เสมอ ฟังแล้วอาจไม่ใช่เรื่องดี แต่เขาก็ไม่เคยเป็นแบบนี้กับใคร การเปิดเผยด้านร้ายของตัวเองให้ใครสักคนเห็น ถ้าไม่ใช่เพราะไม่แคร์ความรู้สึกของคน ๆ นั้น ก็มักจะเป็นเพราะเราไว้ใจคน ๆ นั้นมากจนกระทั่งไม่จำเป็นต้องเก็บซ่อนอารมณ์ขุ่นมัวของตัวเอง และพอไว้ใจให้เห็นด้านร้ายของตัวเองสักด้านหนึ่งแล้ว เขาก็ไว้วางใจให้เธอรับรู้ด้านดำมืดด้านอื่นของเขาด้วย ลี้เตียงจูจึงไม่ใช่แค่เด็กสาวหน้าตาดีที่อยู่ในความดูแลของลิ้มบุ่นโฮ่ว แต่เธอยังเป็นเหมือนเพื่อนคนเดียวในชีวิตที่เขาสามารถระบายความทุกข์แสนสาหัสในใจได้ด้วย เธอเป็นเหมือนอากาศปลอดโปร่งเพียงแหล่งเดียวที่เขามี ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่ถ้าเสียเธอไป คนอย่างเจ้าพ่อลิ้มบุ่นโฮ่วอาจขาดใจได้อย่างนั้น
“ในโลกความจริง มีเรื่องจนปัญญาอยู่มากหลาย ในบางโอกาส คนผู้หนึ่งแม้ทราบว่าสิ่งที่ตัวเองกระทำไม่ถูกต้อง ยังมิอาจไม่กระทำ” (โกวเล้ง / มีดบินกรีดฟ้า)
เก็บลิ้มบุ่นโฮ่วไว้พูดถึงเป็นคนสุดท้าย เพราะรักที่สุดก็ต้องเก็บไว้พูดถึงทีหลัง อิอิ ลิ้มบุ่นโฮ่ว เฮียโฮ่ว เถ้าแก่เสือ ทรงวาด ทั้งหมดล้วนหมายถึงคน ๆ เดียวกัน ชายหนุ่มเชื้อสายจีนแสนสงบที่อยู่ท่ามกลางผู้คนที่บ้าคลั่ง ทั้งหมดอยู่ในหัวอกของเขาแต่เพียงผู้เดียว เขาคอยแก้ปัญหาให้ทุกคนที่อยู่รอบข้างจนผลักตัวเองเข้าสู่เส้นทางสายนักเลงเยาวราชโดยที่ตัวเองก็ไม่ต้องการ มันเจ็บปวดแค่ไหนกันนะที่ว่าที่ผู้รักษากฎหมายอย่างเขาต้องมายืนอยู่ในฝั่งเดียวกับฝ่ายอาชญากร มันจะโดดเดี่ยวแค่ไหนกันที่ได้รับรู้ว่าคนที่เลี้ยงดูเราเป็นลูกบุญธรรม แท้จริงแล้วเค้าแค่ต้องการใช้เราเป็นคนทำงานสกปรกให้ โดยจองจำเราไว้ด้วยหนี้บุญคุณ ถ้ามีโอกาสได้คุยกับเถ้าแก่นะ เราอยากจะบอกกับเถ้าแก่ว่า
. . . เถ้าแก่ ไม่ต้องเสียใจไปนะ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วมันดีเสมอ ต่อให้เถ้าแก่เรียนจบโรงเรียนนายร้อย แต่เราคิดว่าเถ้าแก่ก็ยังต้องทำงานนี้ให้เขาอยู่ดี เพราะนั่นคือเหตุผลที่เขาเอาเถ้าแก่มาเลี้ยง ถ้าเถ้าแก่ได้เป็นตำรวจ เถ้าแก่จะเจ็บปวดใจยิ่งกว่านี้อีกที่ต้องเป็นผู้รักษากฎหมายพร้อมกับเป็นผู้คุ้มครองอาชญากรไปด้วย ดังนั้นเถ้าแก่ไม่ต้องเป็นตำรวจนั่นแหละดีแล้ว ส่วนที่เหลือ ถ้าเถ้าแก่คิดว่าที่ทำอยู่มันไม่ถูกและเกินจะทน มันก็อาจจะถึงเวลาแล้วเหมือนกัน ที่เถ้าแก่จะลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงมัน
เวลาเราดูละคร เรามักคิดถึงข้อดีของการดูละครอย่างหนึ่งก็คือ การดูละครทำให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจสภาพการใช้ชีวิตในรูปแบบ เงื่อนไข และตัวแปรที่แตกต่างได้อย่างกว้างขวางจนเกินขอบเขตของประสบการณ์ที่บุคคลเพียงคนเดียวจะได้พบเจอด้วยตัวเอง ขอบคุณโลกของเยาวราชในชาติเสือพันธุ์มังกรที่ทำให้เราได้รับประสบการณ์ใหม่ที่เราคงไม่มีวันพบเจอได้ด้วยตัวเอง ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกท่าน นักแสดงทุกคน และขอบคุณที่สร้างละครดี ๆ แบบนี้ออกมาให้พวกเราได้ชมกัน
ระหว่างการทดแทนบุญคุณและการยืนหยัดข้างความถูกต้อง สุดท้ายแล้วเจ้าพ่อลิ้มบุ่นโฮ่วจะเลือกเส้นทางไหน ความรักของเด็กในปกครองและคนสีเทา ๆ อย่างเขาจะเติบโตได้อย่างไร และอะไรคือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับปัญหาของผู้คนรอบข้างที่แสนวุ่นวาย ติดตามหาคำตอบได้ใน “ชาติเสือพันธุ์มังกร” นะคะ