เมื่อใช้เวลากว่า 15 ปี เอาตัวเองเข้าวัดฝึกปฏิบัติธรรม
เริ่มจากไม่เป็นอะไรเลย จนมาวันนี้ตกผลึกอะไรได้บ้าง
ทั้งหมดเป็นประสบการณ์ ความคิดเห็นส่วนตัว เรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเราเองคนเดียวเท่านั้น
ไม่ได้ดีกว่าใคร ไม่ได้ถูกต้องกว่าใคร ลองผิดลองถูกคนเดียว
1.การปฏิบัติธรรมได้ประโยชน์กับชีวิตจริง เป็นความรู้ประเภทความรู้จักตัวเอง
2.สมาธิคือความสุขแท้ สมดังที่พระพุทธเจ้าบอกเลยว่า สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบนั้นไม่มี
3.กว่าจะฝึกฝนจนจิตเป็นสมาธิได้นั้น ยากมาก ยากที่สุด ยากยิ่งกว่าเรียนศาสตร์สักเรื่องที่เคยเรียนมา
4.สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต ก็คือ สมาธิ นี่แหละ รสชาติประณีตสุดแล้ว อะไรก็สู้ไม่ได้เลย
5.การฝึกฝนให้จิตเป็นสมาธิ สามารถเปรียบเทียบได้คล้ายกะการฝึกยกน้ำหนัก ต้องฝึกฝน ต้องมีวินัย แล้วจะมีกำลังมากขึ้นๆ
6.ตอนเริ่มฝึกสมาธิ ต้องอาศัยสถานที่สงบวิเวก บ้านสู้วัดไม่ได้ ต้องวัดที่สงบและมีความเป็นส่วนตัวด้วยนะ
7.ไม่ใช่ทุกวัดนะ ที่จะสงบ ที่จะมีความเป็นส่วนตัวให้ได้ ต้องเลือก ต้องหา
8.คนที่ไปวัด มีสารพัดแบบ มีวัตถุประสงค์ในการมาวัดแตกต่างกันไป อย่าเผลอคิดว่าทุกคนตั้งใจมาในแบบเดียวกะเรา
9.คนไปวัด มีความดีร้ายทุกระดับ ดีมาก ร้ายมาก ดีน้อย ร้ายน้อย อย่าเผลอคิดว่า ทุกคนที่ไปวัดคือคนดีล่ะ
10.พระก็เช่นกัน มีทุกรูปแบบ อย่าเผลอคิดเองว่า พระทุกรูปคือพระดี ที่เจอมาคือ พระดีก็มี พระไม่ดีก็มี
11.ในวัด ก็มีเรื่องยุ่งคล้ายๆ สังคมนอกวัด เหมือนกันนะ อย่าเผลอคิดว่า โลกนอกวัดวุ่นวาย โลกในวัดจะหมดปัญหา เบื่อโลกภายนอก หลบไปอยู่วัด นึกว่าจะหมดปัญหา ไม่หมดนะ หรือบางวัดอาจมีปัญหามากกว่าด้วยซ้ำ
12.การได้สับเปลี่ยนสถานที่บ้าง อันนี้มีประโยชน์ อยู่วัดบ้าง อยู่กะโลกบ้าง จะได้มีข้อเปรียบวัดใจ
13.บั้นปลายชีวิต ถ้าจะเอาตัวลงไปอยู่วัด ต้องคิดดีๆ หาข้อมูลดีๆ ก่อน อย่าขายทุกอย่างทิ้ง เอาตัวไปอยู่วัด เพราะถ้าอยู่วัดไม่ได้ ทีนี้จะออกมาอยู่โลกก็ยากละ
14.คนมาวัดนี่หลากหลายยิ่งกว่าวงสังคมไหน สังคมใดก็ล้วนก็คัดคนที่เข้ามาแล้วในตัว คัดด้วยฐานะการเงิน ความรู้ ความชอบ ฯลฯ ส่วนวัดนี่มีคนทุกแบบเลยที่เข้ามา
15.สติ ไหวพริบ จำเป็นในการเอาตัวรอดในวัด ไม่ต่างกะการอยู่นอกวัด ไม่ใช่ว่าอยู่วัดแล้วไม่ต้องระวังอะไร
16.ต้องมั่นคงในเป้าหมายที่เรามาวัดให้ดี มาเพื่อฝึกจิต ยึดไว้ให้ดี ไม่งั้นจะไหลนอกเรื่องไปตามการดึงของคน พระ
17.มันก็หลายครั้งที่เราก็เผลอสนุกสนานไปกะใครเขา ลืมตัว (แพ้กิเลสตัวเอง) ไม่มั่นคงกะเป้าหมายของเราที่ตั้งไว้
18.ถึงจะตั้งเป้าไว้ซะดี แต่การจะปฏิบัติให้ได้ นั่นก็ยากจริงๆ
19.บางเวลาเราก็พึ่งตัวเองได้ บางเวลาก็พึ่งตัวเองไม่ได้ ล้มลุกคลุกคลาน
20.งานอะไรที่ว่ายากแล้ว หินแล้ว มาเจองานปฏิบัติธรรม งานเอาชนะใจตนเองนี่ยากยิ่งกว่า
21.เดี๋ยวเราก็แพ้ เดี๋ยวเราก็ชนะ ชนะคือสามารถควบคุมตัวเราจนทำจิตให้เป็นสมาธิได้ สันติสุข
22.ชนะใจตัวเองนี่ยากที่สุด
23.กัลญาณมิตร นี้จะช่วยเราได้มาก และหาได้ยากมากเช่นกัน
24.อย่าหวังพึ่งใคร ต้องพึ่งตน และจะมีตนที่พึ่งได้ ก็ต้องฝึกตนให้พึ่งได้เสียก่อน
25.โชคดีที่เราหันมาเรียนรู้ด้านนี้ตั้งแต่เรายังไม่แก่ เพราะทางยาวไกล ต้องใช้เวลามาก ต้องมีแรง
26.โชคดีที่เกิดในประเทศไทย มีวัดเยอะ คอร์สเยอะ แนวทางเยอะ
27.เรื่องแบบนี้มักฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย(ที่ออกปากชัดเจน) แต่ก็ไม่แน่ บางที่แจ้งราคาชัดเจนเบ็ดเสร็จแล้วยังน้อยกว่าแบบไม่ชัดเจน ค่อยๆเรียนรู้กันไป
28.เอาแค่ฝึกจิตให้เป็นสมาธิได้ ก็ส่งผลดีกะชีวิตเรามากเหลือหลาย แม้ไม่ได้คุณวิเศษลี้ลับอะไรเลยก็ตาม เป็นความสุขที่สัมผัสได้เห็นๆ ไม่ต้องให้ใครมาการันตี
29.กึ่งพุทธกาล (พ.ศ.2500+) ไม่รู้ว่าการฝึกฝนอย่างนี้ คือสิ่งที่ดีที่สุดที่คนนึงจะทำได้ หรือไม่หนอ
30.การปฏิบัติธรรม คือ การขัดเกลาตนเอง เรื่องของตนเองคนเดียว ไม่เกี่ยวกะคนอื่น
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการฝึกปฏิบัติธรรม การอยู่ในวงสังคมคนวัด
เริ่มจากไม่เป็นอะไรเลย จนมาวันนี้ตกผลึกอะไรได้บ้าง
ทั้งหมดเป็นประสบการณ์ ความคิดเห็นส่วนตัว เรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเราเองคนเดียวเท่านั้น
ไม่ได้ดีกว่าใคร ไม่ได้ถูกต้องกว่าใคร ลองผิดลองถูกคนเดียว
1.การปฏิบัติธรรมได้ประโยชน์กับชีวิตจริง เป็นความรู้ประเภทความรู้จักตัวเอง
2.สมาธิคือความสุขแท้ สมดังที่พระพุทธเจ้าบอกเลยว่า สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบนั้นไม่มี
3.กว่าจะฝึกฝนจนจิตเป็นสมาธิได้นั้น ยากมาก ยากที่สุด ยากยิ่งกว่าเรียนศาสตร์สักเรื่องที่เคยเรียนมา
4.สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต ก็คือ สมาธิ นี่แหละ รสชาติประณีตสุดแล้ว อะไรก็สู้ไม่ได้เลย
5.การฝึกฝนให้จิตเป็นสมาธิ สามารถเปรียบเทียบได้คล้ายกะการฝึกยกน้ำหนัก ต้องฝึกฝน ต้องมีวินัย แล้วจะมีกำลังมากขึ้นๆ
6.ตอนเริ่มฝึกสมาธิ ต้องอาศัยสถานที่สงบวิเวก บ้านสู้วัดไม่ได้ ต้องวัดที่สงบและมีความเป็นส่วนตัวด้วยนะ
7.ไม่ใช่ทุกวัดนะ ที่จะสงบ ที่จะมีความเป็นส่วนตัวให้ได้ ต้องเลือก ต้องหา
8.คนที่ไปวัด มีสารพัดแบบ มีวัตถุประสงค์ในการมาวัดแตกต่างกันไป อย่าเผลอคิดว่าทุกคนตั้งใจมาในแบบเดียวกะเรา
9.คนไปวัด มีความดีร้ายทุกระดับ ดีมาก ร้ายมาก ดีน้อย ร้ายน้อย อย่าเผลอคิดว่า ทุกคนที่ไปวัดคือคนดีล่ะ
10.พระก็เช่นกัน มีทุกรูปแบบ อย่าเผลอคิดเองว่า พระทุกรูปคือพระดี ที่เจอมาคือ พระดีก็มี พระไม่ดีก็มี
11.ในวัด ก็มีเรื่องยุ่งคล้ายๆ สังคมนอกวัด เหมือนกันนะ อย่าเผลอคิดว่า โลกนอกวัดวุ่นวาย โลกในวัดจะหมดปัญหา เบื่อโลกภายนอก หลบไปอยู่วัด นึกว่าจะหมดปัญหา ไม่หมดนะ หรือบางวัดอาจมีปัญหามากกว่าด้วยซ้ำ
12.การได้สับเปลี่ยนสถานที่บ้าง อันนี้มีประโยชน์ อยู่วัดบ้าง อยู่กะโลกบ้าง จะได้มีข้อเปรียบวัดใจ
13.บั้นปลายชีวิต ถ้าจะเอาตัวลงไปอยู่วัด ต้องคิดดีๆ หาข้อมูลดีๆ ก่อน อย่าขายทุกอย่างทิ้ง เอาตัวไปอยู่วัด เพราะถ้าอยู่วัดไม่ได้ ทีนี้จะออกมาอยู่โลกก็ยากละ
14.คนมาวัดนี่หลากหลายยิ่งกว่าวงสังคมไหน สังคมใดก็ล้วนก็คัดคนที่เข้ามาแล้วในตัว คัดด้วยฐานะการเงิน ความรู้ ความชอบ ฯลฯ ส่วนวัดนี่มีคนทุกแบบเลยที่เข้ามา
15.สติ ไหวพริบ จำเป็นในการเอาตัวรอดในวัด ไม่ต่างกะการอยู่นอกวัด ไม่ใช่ว่าอยู่วัดแล้วไม่ต้องระวังอะไร
16.ต้องมั่นคงในเป้าหมายที่เรามาวัดให้ดี มาเพื่อฝึกจิต ยึดไว้ให้ดี ไม่งั้นจะไหลนอกเรื่องไปตามการดึงของคน พระ
17.มันก็หลายครั้งที่เราก็เผลอสนุกสนานไปกะใครเขา ลืมตัว (แพ้กิเลสตัวเอง) ไม่มั่นคงกะเป้าหมายของเราที่ตั้งไว้
18.ถึงจะตั้งเป้าไว้ซะดี แต่การจะปฏิบัติให้ได้ นั่นก็ยากจริงๆ
19.บางเวลาเราก็พึ่งตัวเองได้ บางเวลาก็พึ่งตัวเองไม่ได้ ล้มลุกคลุกคลาน
20.งานอะไรที่ว่ายากแล้ว หินแล้ว มาเจองานปฏิบัติธรรม งานเอาชนะใจตนเองนี่ยากยิ่งกว่า
21.เดี๋ยวเราก็แพ้ เดี๋ยวเราก็ชนะ ชนะคือสามารถควบคุมตัวเราจนทำจิตให้เป็นสมาธิได้ สันติสุข
22.ชนะใจตัวเองนี่ยากที่สุด
23.กัลญาณมิตร นี้จะช่วยเราได้มาก และหาได้ยากมากเช่นกัน
24.อย่าหวังพึ่งใคร ต้องพึ่งตน และจะมีตนที่พึ่งได้ ก็ต้องฝึกตนให้พึ่งได้เสียก่อน
25.โชคดีที่เราหันมาเรียนรู้ด้านนี้ตั้งแต่เรายังไม่แก่ เพราะทางยาวไกล ต้องใช้เวลามาก ต้องมีแรง
26.โชคดีที่เกิดในประเทศไทย มีวัดเยอะ คอร์สเยอะ แนวทางเยอะ
27.เรื่องแบบนี้มักฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย(ที่ออกปากชัดเจน) แต่ก็ไม่แน่ บางที่แจ้งราคาชัดเจนเบ็ดเสร็จแล้วยังน้อยกว่าแบบไม่ชัดเจน ค่อยๆเรียนรู้กันไป
28.เอาแค่ฝึกจิตให้เป็นสมาธิได้ ก็ส่งผลดีกะชีวิตเรามากเหลือหลาย แม้ไม่ได้คุณวิเศษลี้ลับอะไรเลยก็ตาม เป็นความสุขที่สัมผัสได้เห็นๆ ไม่ต้องให้ใครมาการันตี
29.กึ่งพุทธกาล (พ.ศ.2500+) ไม่รู้ว่าการฝึกฝนอย่างนี้ คือสิ่งที่ดีที่สุดที่คนนึงจะทำได้ หรือไม่หนอ
30.การปฏิบัติธรรม คือ การขัดเกลาตนเอง เรื่องของตนเองคนเดียว ไม่เกี่ยวกะคนอื่น