ห่างหายไปนานถึง 4 ปี จากภาคแรกมาถึงภาคสอง โดยในภาคแรกตอนจบ หนังทิ้งปริศนาไว้ให้คนดูตั้งตารอภาคสอง แต่ก็ทิ้งช่วงนานไปนิด กลับมาคราวนี้ หนังทำออกมาได้ค่อนข้างดี ดูสนุกเลยทีเดียว เนื้อเรื่องไปแนวหนังจีนย้อนยุค ไม่ใช่ร่วมสมัยเหมือนภาคแรก แถมยังบวก CG ล้ำๆ สวยๆ เข้ามาทำให้หนังสนุกขึ้นอีกด้วย
“ไอซ์แมน 2” (Iceman: The Time Traveler) เล่าเรื่องต่อจากภาคแรก หลังจากที่ เหอหยิง ถูกไล่ล่า จนกระทั่งพี่น้องทั้งหมด ได้ปะทะกันบนสะพานสิ่งหมา การต่อสู้นั้นรุนแรงและดุเดือดจนกลายเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่วประเทศ เหอหยิง ได้รับบาดเจ็บและตกลงไปจากสะพานโดยที่ไม่รู้ชะตากรรม แต่ในที่สุด หยวนหลง พี่ชายคนโตที่ฟื้นจากการแช่แข็งก่อนหน้าเหอหยิง 16 ปี ได้ใช้อำนาจทางกรมตำรวจตามหาเหอหยิงจนเจอ เมื่อทั้งสองได้พบกัน หยวนหลง บอกกับ เหอหยิง ว่าหมู่บ้านเต๋าหยวนที่พวกเขาได้เติบโตมานั้นได้ถูกทำลายอย่างย่อยยับ เหอหยิงเศร้าโศกกับอดีตที่ตนเองแก้ไขไม่ได้ เขาจึงร่วมมือกับ หยวนหลง ตามหาวงล้อแห่งกาลเวลาและใช้มันเพื่อกลับไปเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ โดยที่เขาเองไม่รู้เลยว่านี่คือกับดักที่ หยวนหลง ได้วางแผนเอาไว้
ในภาคนี้หนังเน้นพาคนดูย้อนไปยุคราชวงศ์หมิงเป็นหลัก เพื่อที่จะบอกที่มาที่ไปของตัวละครทั้ง 4 ก่อนที่จะต้องมาปะทะกันเอง ซึ่งจะทำให้คนดูรู้ตื้นลึกหนาบางของตัวละครแต่ละตัวอย่างละเอียดมากขึ้น และยังเป็นการเฉลยปมที่ถูกทิ้งให้เดากันไว้ในภาคแรกอีกด้วย แต่ตอนจบภาคนี้ก็ทิ้งไว้ให้คิดอีก ว่าอาจจะมีภาค 3 เพราะจะว่าจบก็จบได้นะ แต่ก็ยังค้างๆ คาๆ อาจจะกั๊กไว้ทำภาคต่อ ถ้าภาคนี้รายได้โอเค
เนื้อเรื่องของภาคนี้ผมว่าดีกว่าภาคที่แล้วนะ ถึงจะตัดไปตัดมาในช่วงแรกนิดหน่อย แต่พอเข้าที่เข้าทางก็โอเคอยู่ หนังพาย้อนกลับไปถึงที่มาก่อนที่ทั้งหมดจะโดนส่งมาอนาคต ทำให้คนดูรู้เรื่องราวต่างๆ และสนุกไปกับมัน หนังอัดความเป็นหนังจีนยุคเก่าได้แบบไม่แคร์สื่อ ความซื่อสัตย์จงรักภักดี ความรักครอบครัวรักพี่น้อง รักเพื่อนฝูง รักความยุติธรรม ถูกอัดเข้าไปในตัว เหอหยิง เหมือนกับพระเอกหนังจีนสมัยโบราณแบบไม่ต้องแปล ส่วนตัวร้ายก็ถูกยัดความเป็นคนโกง ตัวหักหลัง ตัวเลวแบบไม่ต้องเดาเช่นกัน ซึ่งมันก็ทำให้ดูง่ายและไม่ต้องแปลความอะไรมากนัก กับเรื่องราวที่เราคุ้นชินกันอยู่แล้ว
แต่ถ้ามีแค่เนื้อเรื่องธรรมดาๆ หนังคงไม่มีจุดที่น่าสนใจ หนังเลยใส่ความเป็นแฟนตาซีเรื่องเครื่องย้อนเวลาเข้าไป และพอมีความเป็นแฟนตาซี หนังก็เลยจัด CG มาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งข้อดีของภาคนี้คือการทำ CG สวยๆ ออกมาโดยไม่ต้องไปพะวงถึง 3D เหมือนภาคแรกที่ไปเน้น 3D ซะจนดูหลอกตาไปหมด ในภาคนี้ฉากหลายๆ ฉากทำออกมาได้สวยเนียนตา ช่วยเพิ่มอารมณ์ความสนุกได้เยอะ
จุดนึงที่น่าเสียดายคือ ในภาคนี้ฉากต่อสู้ที่เป็นจุดขายหลักของ ดอนนี่ เยน ดูเบาบางมาก เรียกว่าแทบจะไม่ได้เห็นฉากต่อสู้แบบยาวๆ เลย มีเป็นฉากสั้นถึงสั้นมากให้ดูแซมๆ ตลอดเรื่อง แล้วก็มาสู้อีกทีตอนท้ายเรื่อง ซึ่งก็ไม่ได้สู้กันยาวและดุเดือดเหมือนเรื่องก่อนๆ เรียกว่าเป็นจุดที่จางและน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งสำหรับแฟนๆ ของ ดอนนี่ เยน ที่รอดูอยู่
เอาเป็นว่า ถึงแม้จะเป็นหนังจีน แต่ก็มีความสนุกและมีความแฟนตาซีเยอะพอสมควร เนื้อเรื่องดูสนุกกว่าภาคแรก และขมวดปมได้ดี มีทิ้งท้ายไว้เผื่อทำภาคต่อ และคิดว่าน่าจะมีแน่ๆ แฟนๆ ดอนนี่ เยน ก็ลองไปดูกันครับ ส่วนคนที่ไม่ใช่แฟนคลับ ก็ดูได้ เพราะหนังสนุกไม่ได้ขี้เหร่เลยครับ
ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] [#Review] #Iceman 2 : The Time Traveler - หนังภาคต่อสุดมันส์ เล่าเรื่องแบบหนังจีนจ๋า มาพร้อม CG ล้ำๆ
“ไอซ์แมน 2” (Iceman: The Time Traveler) เล่าเรื่องต่อจากภาคแรก หลังจากที่ เหอหยิง ถูกไล่ล่า จนกระทั่งพี่น้องทั้งหมด ได้ปะทะกันบนสะพานสิ่งหมา การต่อสู้นั้นรุนแรงและดุเดือดจนกลายเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่วประเทศ เหอหยิง ได้รับบาดเจ็บและตกลงไปจากสะพานโดยที่ไม่รู้ชะตากรรม แต่ในที่สุด หยวนหลง พี่ชายคนโตที่ฟื้นจากการแช่แข็งก่อนหน้าเหอหยิง 16 ปี ได้ใช้อำนาจทางกรมตำรวจตามหาเหอหยิงจนเจอ เมื่อทั้งสองได้พบกัน หยวนหลง บอกกับ เหอหยิง ว่าหมู่บ้านเต๋าหยวนที่พวกเขาได้เติบโตมานั้นได้ถูกทำลายอย่างย่อยยับ เหอหยิงเศร้าโศกกับอดีตที่ตนเองแก้ไขไม่ได้ เขาจึงร่วมมือกับ หยวนหลง ตามหาวงล้อแห่งกาลเวลาและใช้มันเพื่อกลับไปเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ โดยที่เขาเองไม่รู้เลยว่านี่คือกับดักที่ หยวนหลง ได้วางแผนเอาไว้
ในภาคนี้หนังเน้นพาคนดูย้อนไปยุคราชวงศ์หมิงเป็นหลัก เพื่อที่จะบอกที่มาที่ไปของตัวละครทั้ง 4 ก่อนที่จะต้องมาปะทะกันเอง ซึ่งจะทำให้คนดูรู้ตื้นลึกหนาบางของตัวละครแต่ละตัวอย่างละเอียดมากขึ้น และยังเป็นการเฉลยปมที่ถูกทิ้งให้เดากันไว้ในภาคแรกอีกด้วย แต่ตอนจบภาคนี้ก็ทิ้งไว้ให้คิดอีก ว่าอาจจะมีภาค 3 เพราะจะว่าจบก็จบได้นะ แต่ก็ยังค้างๆ คาๆ อาจจะกั๊กไว้ทำภาคต่อ ถ้าภาคนี้รายได้โอเค
เนื้อเรื่องของภาคนี้ผมว่าดีกว่าภาคที่แล้วนะ ถึงจะตัดไปตัดมาในช่วงแรกนิดหน่อย แต่พอเข้าที่เข้าทางก็โอเคอยู่ หนังพาย้อนกลับไปถึงที่มาก่อนที่ทั้งหมดจะโดนส่งมาอนาคต ทำให้คนดูรู้เรื่องราวต่างๆ และสนุกไปกับมัน หนังอัดความเป็นหนังจีนยุคเก่าได้แบบไม่แคร์สื่อ ความซื่อสัตย์จงรักภักดี ความรักครอบครัวรักพี่น้อง รักเพื่อนฝูง รักความยุติธรรม ถูกอัดเข้าไปในตัว เหอหยิง เหมือนกับพระเอกหนังจีนสมัยโบราณแบบไม่ต้องแปล ส่วนตัวร้ายก็ถูกยัดความเป็นคนโกง ตัวหักหลัง ตัวเลวแบบไม่ต้องเดาเช่นกัน ซึ่งมันก็ทำให้ดูง่ายและไม่ต้องแปลความอะไรมากนัก กับเรื่องราวที่เราคุ้นชินกันอยู่แล้ว
แต่ถ้ามีแค่เนื้อเรื่องธรรมดาๆ หนังคงไม่มีจุดที่น่าสนใจ หนังเลยใส่ความเป็นแฟนตาซีเรื่องเครื่องย้อนเวลาเข้าไป และพอมีความเป็นแฟนตาซี หนังก็เลยจัด CG มาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งข้อดีของภาคนี้คือการทำ CG สวยๆ ออกมาโดยไม่ต้องไปพะวงถึง 3D เหมือนภาคแรกที่ไปเน้น 3D ซะจนดูหลอกตาไปหมด ในภาคนี้ฉากหลายๆ ฉากทำออกมาได้สวยเนียนตา ช่วยเพิ่มอารมณ์ความสนุกได้เยอะ
จุดนึงที่น่าเสียดายคือ ในภาคนี้ฉากต่อสู้ที่เป็นจุดขายหลักของ ดอนนี่ เยน ดูเบาบางมาก เรียกว่าแทบจะไม่ได้เห็นฉากต่อสู้แบบยาวๆ เลย มีเป็นฉากสั้นถึงสั้นมากให้ดูแซมๆ ตลอดเรื่อง แล้วก็มาสู้อีกทีตอนท้ายเรื่อง ซึ่งก็ไม่ได้สู้กันยาวและดุเดือดเหมือนเรื่องก่อนๆ เรียกว่าเป็นจุดที่จางและน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งสำหรับแฟนๆ ของ ดอนนี่ เยน ที่รอดูอยู่
เอาเป็นว่า ถึงแม้จะเป็นหนังจีน แต่ก็มีความสนุกและมีความแฟนตาซีเยอะพอสมควร เนื้อเรื่องดูสนุกกว่าภาคแรก และขมวดปมได้ดี มีทิ้งท้ายไว้เผื่อทำภาคต่อ และคิดว่าน่าจะมีแน่ๆ แฟนๆ ดอนนี่ เยน ก็ลองไปดูกันครับ ส่วนคนที่ไม่ใช่แฟนคลับ ก็ดูได้ เพราะหนังสนุกไม่ได้ขี้เหร่เลยครับ
ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้