ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า อันนี้เป็นรีวิวครั้งแรกของเรานะ แล้วก็เป็นการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกของเราด้วยค่า ทริปนี้ เดินทางกัน สามคน หญิงล้วนจ้า ละก็ไม่เคยไปญี่ปุ่นทั้งสามเลย รีวิวนี้รูปถ่ายไม่เยอะนะ เพราะเราไม่ชอบถ่ายรูป อยากให้เป็นรีวิววิธีการเดินทางกับประสบการณ์ผ่านตัวหนังสือมากกว่าค่ะ
ทริปนี้ เราไปเที่ยวกันตามนี้
Day 1 Hello Japan
Day 2 Tokyo Disney land
Day 3 Hakone
Day 4 Kawaguchiko
Day 5-6 Shopping Tokyo
Day 7 Bye japan
Day 1 Hello Japan
ทริปนี้เราจองการบินไทยไว้นานมากค่ะ จัดไป ไปกลับ 16,000 นิดๆ ตอนแรกกะว่าขอนั่งสบายๆหน่อย แต่พอเห็นโปรเจ้าอื่นก็แอบเสียดายนิดๆ ออกจากสุวรรณภูมิ 7.35 ถึงโน่น 15.45 (เวลาที่โน่น) เสียเวลาเที่ยวไปวันนึงเต็มๆเลยค่ะ
สำหรับแพลนการเดินทางเราก็วางแผนกันเองหมดเลยค่ะ ได้จากทั้งในพันทิปนี่แหละ กะเราซื้อหนังสือมาเล่มนึง เล่มนี้ค่ะ เพราะเราไม่เคยไป แล้วก็ไม่มีแพลนที่ท่องเที่ยวมาก่อน พออ่านหนังสือ เราก็จะได้แนวทางคร่าวๆว่าเราอยากเที่ยวอะไรบ้าง แล้วก็วางแผนต่อเอาเอง
สำหรับอินเทอร์เน็ตเราใช้ Sim 2 fly ของ Ais ราคา 399 ค่ะ สัญญาณก็โอเคอยู่นะคะ ใช้ได้ทั้งทริปไม่มีปัญหา ใส่ซิม เปิดโรมมิ่ง พอถึงที่โน่นก็ใช้ได้เลยค่ะ ง่ายอยู่
พอไปถึงก็ผ่านตม กรอกเอกสารในใบตรวจคนเข้าเมืองให้เรียบร้อยตั้งแต่บนเครื่องค่ะ กรอกตามแนะนำในเน็ต แต่ถ้ามีอะไรสงสัยก็ถามพี่แอร์บนเครื่องได้เลยค่ะ ตมก็ใจดีอยู่นะ ไม่ถามไรมาก ถามแค่มากี่คนไปไหนบ้างแค่นั้น ละก็ให้เราเข้าประเทศเค้าโดยดี
เดินทางไปถึงก็เข้าเมืองค่ะ คืนนี้เรานอนที่ Ueno กะว่านั่ง access express ของเรามีไปถึง Ueno เลยค่ะ ไม่ต้องต่อรถ ก็ซื้อตั๋วรถไฟที่ Keisei ticket หาไม่ยาก เดินตามป้าย train to city ไปเลย เค้าจะมีแยกขายตั๋วสำหรับชาวต่างชาติโดยเฉพาะ ก็ตามนั้นค่ะ เคาน์เตอร์สอบถามได้ ราคา 1240 เยน ไปขาเดียวก็ 65 นาทีถึงเลยค่ะ
หลังจากนั้นก็ลงมาตามป้ายเลย ถึงสถานีรถออกตรงเวลาเป๊ะ ถึงก็ตรงเวลาอยู่ค่ะ
พอถึงสถานี keisei ueno ก็เอากระเป๋าไปเก็บที่พักก่อน ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศบ้านเมือง และ อากาศมาก มันแอบหนาวนิดนึงค่ะ
คืนนี้เรานอนที่ Century lady hostel 2700 B จองผ่านเว็บ จ่ายเงินไปเลย ที่พักเราว่า OK นะ เป็น Hostel เรานอนห้องสี่เตียง นอนกันสามคน ห้องก็สะอาดดี ไม่ไกล ไม่เปลี่ยวเดินได้ค่ะ แต่ห้องไม่กว้างมาก
ขอรีวิวโถส้วม เราชอบห้องน้ำที่นี่มาก ไม่ว่า ที่ไหน ก็ค่อนข้างสะอาด ขนาดในสถานีรถไฟก้ยังสะอาด และมีที่ฉีดก้นในโถ และ ระบบอุ่นก้น ซึ่งสำหรับอากาศหนาวมีระบบนี้นี่ฟินมากกกกก ใช้ไม่ยาก ถ้าจะกดฉีดก็กดสัญลักษณ์ฉีด อยากให้หยุดก็กด stop ค่ะ
พอเก็บของเสร็จก็ได้เวลากินข้าวพอดี วันนี้เราจะไปลองชิมราเมงข้อสอบ Ichiran ramen ที่เค้าว่าโด่งดังกัน ก็เดินไปกิน สาขา Ueno จะอยู่ตรง JR Ueno เดินไม่ไกลมาก เรามาโชคดีพอดีที่คิวไม่นาน รอแปบนึงก็ได้กิน แต่ตอนเราออกมาคนต่อคิวเยอะมาก เวลาสั่งกดตู้ค่ะ ราคาถ้าไม่เพิ่มอะไรก็ 890 เยน แต่ใครจะเพิ่มก็ตามใจ พอถึงคิวก้ไปนั่งกิน มีน้ำฟริให้กด ถ้าอยากจะคุยกะเพื่อน ก็พับบานประดู ด้านข้างคุยกันได้ กินเสร็จก็พออิ่มพอดี เราว่าอร่อยดีนะคะ ให้ผ่านค่ะ
สำหรับการเดินทางวันที่สอง เราแพลนจะใช้บัตร suica เป็นหลัก ก็ต้องไปตามหาบัตรกันก่อน มันมีขายที่ สถานี JR เราก็ซื้อที่ JR ueno เลือกเครื่องที่เขียนว่า Charge ซื้อบัตรครั้งแรก จะถูกกันเป็นมัดจำบัตร 500 ซึ่งจะได้คืน เมื่อเราคืนบัตรค่ะ
หลักการใช้บัตร suica ง่ายๆ คือ ให้ใช้ให้หมด เพราะ ถ้าเราเหลือเงิน จะถูกตัดเป็นค่าบัตร 220 เยนดังนั้น สมมติ ถ้าเราเหลือเงินในบัตร 250 เยนก็จะได้เงิน คืน 250-220 = 30 รวมกับ 500 ค่ามัดจำ แต่ถ้าเราเหลือเงิน 100 เราก็จะได้เงินคืน 500 และถ้าเราเหลือ 0 เราก็จะได้เงินคืน 500 ดังนั้น วันสุดท้ายก็เอาบัตรไปใช้ให้หมดจ้า เวลาไปใช้ให้หมด ก็บอกเค้าว่า ขอจ่ายบัตรก่อน แล้วที่เหลือ จ่ายเป็นเงินสด ทีนี้ก็สบายจ้า ไม่ต้องจ่ายค่าบัตรค่ะ ที่รับคืนบัตรเราคืนที่ตู้รับ refund ที่สนามบินค่ะ
ส่วนใหญ่บัตรเราก็จะเอาไปใช้จ่ายค่าตั๋วรถไฟ และค่าcoin locker แต่จริงๆเอาไปใช้ได้มากกว่านั้นเยอะ จ่ายซื้อของตามร้านสะดวกซื้อก็ได้ บางร้านของฝากก็รับ ถือว่า สะดวกสบายและควรมีอย่างยิ่งค่ะ
และก็การเดินทางใน Tokyo day 5-6 เรา plan ใช้ Tokyo metro 48 hr เราซื้อที่ Tokyo metro Ueno เช่นกันจ้า อันนี้ต้องซื้อที่ information center ของสถานี แค่ยื่น passport เค้าก็จะออกบัตรให้ ราคา 48 hr 1200 เยนจ้า เราใช้คุ้มมาก เวลาที่เปิดบัตรก็นับจาก เวลาที่ใช้ครั้งแรก เราซื้อไว้ก่อน ไปเปิดใช้ทีหลังค่ะ
หลังจากได้บัตรต่างๆครบก็ถึงเวลากลับโรงแรมนอนเก็บแรงสำหรับพรุ่งนี้ค่า
[CR] ๋Japan Trip 1st time 17-23 Oct 2018 : Tokyo-Hakone-Kawaguchiko
ทริปนี้ เราไปเที่ยวกันตามนี้
Day 1 Hello Japan
Day 2 Tokyo Disney land
Day 3 Hakone
Day 4 Kawaguchiko
Day 5-6 Shopping Tokyo
Day 7 Bye japan
ทริปนี้เราจองการบินไทยไว้นานมากค่ะ จัดไป ไปกลับ 16,000 นิดๆ ตอนแรกกะว่าขอนั่งสบายๆหน่อย แต่พอเห็นโปรเจ้าอื่นก็แอบเสียดายนิดๆ ออกจากสุวรรณภูมิ 7.35 ถึงโน่น 15.45 (เวลาที่โน่น) เสียเวลาเที่ยวไปวันนึงเต็มๆเลยค่ะ
สำหรับแพลนการเดินทางเราก็วางแผนกันเองหมดเลยค่ะ ได้จากทั้งในพันทิปนี่แหละ กะเราซื้อหนังสือมาเล่มนึง เล่มนี้ค่ะ เพราะเราไม่เคยไป แล้วก็ไม่มีแพลนที่ท่องเที่ยวมาก่อน พออ่านหนังสือ เราก็จะได้แนวทางคร่าวๆว่าเราอยากเที่ยวอะไรบ้าง แล้วก็วางแผนต่อเอาเอง
สำหรับอินเทอร์เน็ตเราใช้ Sim 2 fly ของ Ais ราคา 399 ค่ะ สัญญาณก็โอเคอยู่นะคะ ใช้ได้ทั้งทริปไม่มีปัญหา ใส่ซิม เปิดโรมมิ่ง พอถึงที่โน่นก็ใช้ได้เลยค่ะ ง่ายอยู่
พอไปถึงก็ผ่านตม กรอกเอกสารในใบตรวจคนเข้าเมืองให้เรียบร้อยตั้งแต่บนเครื่องค่ะ กรอกตามแนะนำในเน็ต แต่ถ้ามีอะไรสงสัยก็ถามพี่แอร์บนเครื่องได้เลยค่ะ ตมก็ใจดีอยู่นะ ไม่ถามไรมาก ถามแค่มากี่คนไปไหนบ้างแค่นั้น ละก็ให้เราเข้าประเทศเค้าโดยดี
เดินทางไปถึงก็เข้าเมืองค่ะ คืนนี้เรานอนที่ Ueno กะว่านั่ง access express ของเรามีไปถึง Ueno เลยค่ะ ไม่ต้องต่อรถ ก็ซื้อตั๋วรถไฟที่ Keisei ticket หาไม่ยาก เดินตามป้าย train to city ไปเลย เค้าจะมีแยกขายตั๋วสำหรับชาวต่างชาติโดยเฉพาะ ก็ตามนั้นค่ะ เคาน์เตอร์สอบถามได้ ราคา 1240 เยน ไปขาเดียวก็ 65 นาทีถึงเลยค่ะ
หลังจากนั้นก็ลงมาตามป้ายเลย ถึงสถานีรถออกตรงเวลาเป๊ะ ถึงก็ตรงเวลาอยู่ค่ะ
พอถึงสถานี keisei ueno ก็เอากระเป๋าไปเก็บที่พักก่อน ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศบ้านเมือง และ อากาศมาก มันแอบหนาวนิดนึงค่ะ
คืนนี้เรานอนที่ Century lady hostel 2700 B จองผ่านเว็บ จ่ายเงินไปเลย ที่พักเราว่า OK นะ เป็น Hostel เรานอนห้องสี่เตียง นอนกันสามคน ห้องก็สะอาดดี ไม่ไกล ไม่เปลี่ยวเดินได้ค่ะ แต่ห้องไม่กว้างมาก
ขอรีวิวโถส้วม เราชอบห้องน้ำที่นี่มาก ไม่ว่า ที่ไหน ก็ค่อนข้างสะอาด ขนาดในสถานีรถไฟก้ยังสะอาด และมีที่ฉีดก้นในโถ และ ระบบอุ่นก้น ซึ่งสำหรับอากาศหนาวมีระบบนี้นี่ฟินมากกกกก ใช้ไม่ยาก ถ้าจะกดฉีดก็กดสัญลักษณ์ฉีด อยากให้หยุดก็กด stop ค่ะ
พอเก็บของเสร็จก็ได้เวลากินข้าวพอดี วันนี้เราจะไปลองชิมราเมงข้อสอบ Ichiran ramen ที่เค้าว่าโด่งดังกัน ก็เดินไปกิน สาขา Ueno จะอยู่ตรง JR Ueno เดินไม่ไกลมาก เรามาโชคดีพอดีที่คิวไม่นาน รอแปบนึงก็ได้กิน แต่ตอนเราออกมาคนต่อคิวเยอะมาก เวลาสั่งกดตู้ค่ะ ราคาถ้าไม่เพิ่มอะไรก็ 890 เยน แต่ใครจะเพิ่มก็ตามใจ พอถึงคิวก้ไปนั่งกิน มีน้ำฟริให้กด ถ้าอยากจะคุยกะเพื่อน ก็พับบานประดู ด้านข้างคุยกันได้ กินเสร็จก็พออิ่มพอดี เราว่าอร่อยดีนะคะ ให้ผ่านค่ะ
สำหรับการเดินทางวันที่สอง เราแพลนจะใช้บัตร suica เป็นหลัก ก็ต้องไปตามหาบัตรกันก่อน มันมีขายที่ สถานี JR เราก็ซื้อที่ JR ueno เลือกเครื่องที่เขียนว่า Charge ซื้อบัตรครั้งแรก จะถูกกันเป็นมัดจำบัตร 500 ซึ่งจะได้คืน เมื่อเราคืนบัตรค่ะ
หลักการใช้บัตร suica ง่ายๆ คือ ให้ใช้ให้หมด เพราะ ถ้าเราเหลือเงิน จะถูกตัดเป็นค่าบัตร 220 เยนดังนั้น สมมติ ถ้าเราเหลือเงินในบัตร 250 เยนก็จะได้เงิน คืน 250-220 = 30 รวมกับ 500 ค่ามัดจำ แต่ถ้าเราเหลือเงิน 100 เราก็จะได้เงินคืน 500 และถ้าเราเหลือ 0 เราก็จะได้เงินคืน 500 ดังนั้น วันสุดท้ายก็เอาบัตรไปใช้ให้หมดจ้า เวลาไปใช้ให้หมด ก็บอกเค้าว่า ขอจ่ายบัตรก่อน แล้วที่เหลือ จ่ายเป็นเงินสด ทีนี้ก็สบายจ้า ไม่ต้องจ่ายค่าบัตรค่ะ ที่รับคืนบัตรเราคืนที่ตู้รับ refund ที่สนามบินค่ะ
ส่วนใหญ่บัตรเราก็จะเอาไปใช้จ่ายค่าตั๋วรถไฟ และค่าcoin locker แต่จริงๆเอาไปใช้ได้มากกว่านั้นเยอะ จ่ายซื้อของตามร้านสะดวกซื้อก็ได้ บางร้านของฝากก็รับ ถือว่า สะดวกสบายและควรมีอย่างยิ่งค่ะ
และก็การเดินทางใน Tokyo day 5-6 เรา plan ใช้ Tokyo metro 48 hr เราซื้อที่ Tokyo metro Ueno เช่นกันจ้า อันนี้ต้องซื้อที่ information center ของสถานี แค่ยื่น passport เค้าก็จะออกบัตรให้ ราคา 48 hr 1200 เยนจ้า เราใช้คุ้มมาก เวลาที่เปิดบัตรก็นับจาก เวลาที่ใช้ครั้งแรก เราซื้อไว้ก่อน ไปเปิดใช้ทีหลังค่ะ
หลังจากได้บัตรต่างๆครบก็ถึงเวลากลับโรงแรมนอนเก็บแรงสำหรับพรุ่งนี้ค่า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้