‘ทีลอเร’ ฉบับฉุบฉับไม่รีรอและมหัศจรรย์ ‘น้ำตกบันได’
. . .
จริงๆ ช่วง 2 ปีที่แล้วตอนไปทีลอซู ก็ได้ยินชื่อ ‘ทีลอเร’ จากที่เค้าคุยกัน ได้แต่คิดแล้วก็สงสัยเลยเซ้าซี้พี่เค้าไปนั่นนี่ ได้คำตอบมาว่า ‘มันคือที่ล่องแก่ง’ ตอนนั้นแค่ได้ยินว่าล่องแก่งก็ เฮ้ย! เอาๆ จะไปๆ แล้วพี่เค้าก็ตอบกลับมาว่า ‘ไปไม่ค่อยได้หรอก บางทัวร์เค้าก็ไม่ได้จัด พี่อาร์มก็ไม่รู้จะจัดเปล่า มันต้องใช้ช้างขนของ’ โอเค! ไปไม่ได้ตอนนี้ ไว้คราวหน้าค่อยไปก็ได้ ก่อนออกจากอุ้มผางคราวนั้นเลยบอกพี่อาร์มว่า ‘มีทริปทีลอเรบอกหนูด้วยนะคะ’ . . .
และแล้ววันหนึ่ง . . .
ระหว่างที่คุยไลน์กับพี่อาร์มนั้น นี่ก็ใจง่าย ตอบตกลงว่า ‘ไปค่ะ’ แบบยังไม่ได้คิดว่าต้องลางานกี่วัน ต้องเตรียมอะไรบ้าง และที่สำคัญเคยได้ยินแต่ชื่อ ยังไม่เคยอ่านรีวิว ไม่รู้อะไรทั้งนั้น !!!
Day 0/5
17/11/18 : จองตั๋วรถทัวร์ บขส. 999 รอบ 22:20 จาก website นี้เลยค่ะ
https://www.busticket.in.th รอบรถที่เราไปคือขึ้นที่หมอชิต 2 ลงที่ บขส. แม่สอด (ออกจากหมอชิต 2 เวลา 22:20 น.) ส่วนขากลับเป็นรอบ 21:00 ออกจาก บขส. แม่สอด
Day 1/5
19/11/18 : วันแห่งการเดินทาง (ที่ยาวนาน)
สองทุ่มนิดๆ เรามาถึงหมอชิต 2 ไปที่เค้าน์เตอร์ 26 (ด้านนอก) เพื่อเอาใบเสร็จค่ารถทัวร์ไปออกตั๋ว ระหว่างรอรถมาก็ไปกินข้าวที่ฟู้ดคอร์ทแล้วก็ล้างหน้าปะแป้งเตรียมนอนยาว 9 ชั่วโมง เกือบๆ 4 ทุ่ม รถแม่สอดมาจอดเทียบท่าทางออกหมายเลข 115 รอช้าอยู่ใย เอากระเป๋าฝากใต้รถแล้วขึ้นไปนอนซะ!
ปล. ไม่ได้ขึ้นรถทัวร์มาปีกว่า รอบนี้ได้นั่งรถทัวร์ VIP เบาะนวดได้พอสังเขป แอร์เย็นมาก และมีพอร์ท usb ชาร์จแบตได้ด้วย ^^
Day 2/5
20/11/18 : เช้านี้ที่แม่สอด
ตี 5 กว่าๆ โดนพี่ทหารสะกิดอย่างเบามือพร้อมบอกว่า ‘ขอดูบัตรหน่อย’ ปีก่อนที่มาที่นี่ไม่ต้องโชว์บัตร แต่โดนถามว่า ‘เป็นคนไทยรึเปล่า?!’ ส่วนปีนี้สงสัยหน้าไม่ผ่าน โอเค ให้ดูบัตรแล้วนอนต่อ
หกโมงกว่าๆ ตื่นมาอีกครั้ง พร้อมไลน์พี่อาร์มที่ว่า ‘. . . รอที่แม่สอดนะ ลูกสาวพี่กำลังจะกลับอุ้มผาง นั่งรถเป็นเพื่อนกันเข้ามาเลย’ ต้องขอบคุณน้องอายมากๆ ที่ให้ติดรถมาด้วยนะคะ แต่สำหรับใครที่มาอุ้มผางเองก็ไม่ต้องกังวล พอลงรถทัวร์ที่ บขส. แม่สอดแล้ว จะมีรถสองแถวจอดรออยู่ เลือกขึ้นคันที่ไปอุ้มผางพร้อมยื่นเงิน 130 บาทให้คนขับ (น่าจะยังราคาเดิม) บอกเค้าว่าลง ‘กัญญาภัครีสอร์ท’ และนั่งยาวๆ 3 ชั่วโมง พี่เค้าจะเลี้ยวเข้าไปจอดในรีสอร์ทให้เลยค่ะ
อุ้มผางเป็นอำเภอเล็กๆ ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา อากาศดี และคนที่นี่ใจดีมากถึงมากที่สุด นี่เลยเป็นเหตุผลนึงที่ไม่กลัวเลยว่าจะต้องมาที่นี่คนเดียวและนี่ก็เป็นครั้งที่สามแล้ว การต้อนรับของรีสอร์ทนี้ก็ยังอบอุ่นเหมือนเดิม ขอบคุณพี่อาร์ม น้องอายและพี่หนึ่งมากๆ ค่ะ และก่อนจะผ่านพ้นวันแรกไป พี่อาร์มบรีฟว่าพรุ่งนี้ไปกับพี่ๆ กรุ๊ปนึง เค้ามากัน 4 คน เช้าๆ 6 โมงกว่าๆ ให้เอาของที่จะเข้าป่ามาวางไว้ เพราะต้องให้ช้างแบกไป ช้างจะออกเดินทางเร็วกว่าเรา ส่วนเราเริ่มออกเดินทางตอน 8 โมงกว่า งงล่ะสิ ว่าช้างมาเกี่ยวยังไง แล้วเราเดินทางยังไง มาๆ จะเล่าให้ฟัง
Day 3/5
21/11/18 ออกเดินทางสู่น้ำตกทีลอเร
พี่อาร์ม : ก๊อกๆ น้อง . . . ตื่นยางงงงงง
เรา : ตื่นแล้วค่ะ (เพิ่งตื่นจริงๆ เพราะตั้งปลุก 6:30)
พี่อาร์ม : เอาของมาวางเลย เดี๋ยวจะใส่ช้างแบกไปละ
เรา : (ลืมจัดของ! ยัดๆ แล้วรีบเอาไปวาง)
พี่อาร์ม : อาบน้ำ แต่งตัวเลย 8 โมงไปละ
ประมาณ 8 โมงกว่าๆ เริ่มออกเดินทางจากรีสอร์ท โดยพี่อาร์มขับพาไปยังจุดเริ่มล่องแก่งที่ บ. ปะหละทะ ห่างจาก อ. อุ้มผางประมาณ 30 กม. มีน้าดำและพี่วันที่เป็นทั้งไกด์ คนพายเรือ และพ่อครัวให้เราสำหรับทริปนี้ ซึ่งคนนึงเป็นชาวพม่า ส่วนพี่อีกคนเป็นชาวกะเหรี่ยง จำไม่ได้ว่าคนไหนเป็นชาวไหน แต่ที่สำคัญ ฮามาก! มุกเยอะมาก!
เราเริ่มล่องเรือประมาณ 9 โมงกว่าไม่ถึงครึ่งดี ในช่วงแรกจะเป็นการล่องเรือชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ ระหว่างทางจะเห็นลิงบ้าง ตัวเงินตัวทองบ้าง และก็นก ส่วนต้นไม้ก็เยอะ เยอะจนไม่รู้ว่าชื่ออะไรบ้าง จนถึงตอนเที่ยงน้าดำและพี่วันแวะจอดแพยางให้เรากินข้าวที่ทางรีสอร์ทแพ็คใส่กล่องมาให้ และทำธุระส่วนตัว (ไม่มีห้องน้ำ) ให้เรียบร้อยก่อนจะไปล่องแก่งจริงๆ
แก่งที่เราต้องล่องผ่านมีทั้งหมด 9 แก่ง โดยแต่ละแก่งจะไม่ใกล้กันมาก ไม่ถี่ และไม่อันตราย ถ้าใครไม่เคยล่องแก่งก็ลองมาล่องที่นี่ดูก่อนก็ได้ บางแก่งมีชื่อด้วย จริงๆ น่าจะมีชื่อทุกแก่ง เอาที่จำได้ก็จะมีแก่งคนมอง เพราะตรงแก่งนั้นจะมีผาสูงๆ แล้วมีหินทรงคล้ายๆ คนกำลังมองเราอยู่ ส่วนอีกแก่ง (ประมาณแก่งที่ 7) จะเป็นแก่งหักศอก น้าดำกับพี่วันให้เราลงเดิน เพราะแก่งนี้ค่อนข้างอันตรายอาจจะทำให้แพคว่ำได้
แฮ่ มีคลิปด้วยค่ะ แต่กากๆ หน่อย ถ่ายตอนที่มือถืออยู่ในซองกันน้ำ มันเลยไม่ค่อยชัด
ประมาณบ่าย 2 นิดๆ เราก็มาถึงจุดกางเต้นท์ พี่วันกับน้าดำช่วยกันถางหญ้าให้เรากางเต๊นท์ ก่อไฟรอเตรียมทำอาหารเย็น ที่สำคัญทางรีสอร์ททำห้องน้ำไว้ให้ (แบบกั้นคอก) พี่วันบอกว่าถ้าบ่าย 2 ครึ่งช้างยังไม่มา เราจะไปเล่นน้ำตกก่อน ติ๊กต่อก . . . ติ๊กต่อก . . . และแล้วน้องจ๊างก็ยังไม่มาจริงๆ พี่วันเลยพาไปเล่นน้ำตกตามนั้น
น้ำตกที่เราจะเจอต่อจากนี้มี 2 น้ำตก ซึ่งน้ำตกที่เราถึงก่อนคือ ‘น้ำตกทีลอเร’ แปลว่า น้ำตกที่ตกลงหิน ซึ่งตรงที่น้ำตกลงมาจะมีโขดหินใหญ่ๆ รองอยู่ข้างล่าง น้ำจะตกลงมาพอดี ของจริงน้ำตกลงมาค่อนข้างแรง เรามาแวะเล่นน้ำตกนี้ตอนขากลับไปกางเต๊นท์
:: ชอบรากต้นไม้นี้มาก ธรรมชาติจริงๆ ::
:: มีน้ำตกน้อยๆ ระหว่างทางด้วย ::
:: น้ำตกทีลอเรอยู่ข้างหน้าแล้ว ::
พี่วันพายแพยางเลยทีลอเรไปก่อนเพื่อให้เราไปเจอสิ่งนี้ . . . น้ำตกมาได ฮึ! ชื่อว่าอะไรนะคะ น้ำตกมาได! อ๋อออ น้ำตกบันได!!! ชื่อก็ตามรูปทรงเลย เป็นน้ำตกหินปูนทรงกลมมนๆ เป็นขั้นๆ ความสูงน่าจะมีตึก 4-5 ชั้นได้ (มั้ง) น้ำแรงมาก ต้นไม้ขึ้นหนาด้วย สวยมาก สวยจนลืมทีลอเรไปเลย
:: นี่แบบไกลหน่อย ::
:: นี่แบบมุมเสย ::
:: ส่วนนี่ชัดเลย สวยมาก เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแล้วเท่าที่เคยเห็นมา ::
มีคลิปอีกแล้ว แต่กากเช่นเดิม
::ถ่ายได้แป๊บเดียว เพราะน้ำตกไหลแรงมาก ละอองน้ำมาเต็ม ลืมตาไม่ไหวเลยได้มาแค่นี้ มือถือเกือบไปเหมือนกัน ::
:: ต้นอะไร ใครรู้บอกที พอมันมาอยู่รวมกันเยอะแล้วสวยจัง ::
หลังจากที่เราเล่นน้ำตกบันไดอยู่พักใหญ่น้าดำกะพี่วันก็พาเรากลับไปเล่นน้ำตกทีลอเร (น้ำตกแรกที่เราผ่านมาก่อน) ซึ่งต้องพายแพยางทวนน้ำ พี่ๆ สุดมาก กรี้ดดดดดดด
:: เห็นแบบนี้ไหลแรงมากนะ ::
:: ซู่ ! ! ! ::
(มีคลิปอีกแล้วจ้า)
หลังจากเล่นน้ำตกอยู่พักใหญ่ๆ ถึงเวลาที่น้าดำกับพี่วันต้องพาเรากลับไปพักกินข้าวเย็นและพักผ่อน ความอึ้งคือ พี่ๆ พายแพยางทวนกระแสน้ำเพื่อให้เรากลับไปยังจุดกางเต๊นท์ซึ่งระยะทางก็ไม่ได้ใกล้เลย โคตรสุดยอดมากกกกก ขอบคุณนะคะ
เมื่อกลับมาถึงจุดกางเต๊นท์ ก็พบว่าสัมภาระถูกกองบนพื้น นั่นก็แปลว่าน้องจ๊างของเรามาถึงแล้ว อยากเห็นหน้าน้องเหลือเกิน แต่ต้องนอนห่างๆ เราหน่อย เดี๋ยวน้องจะตื๊บเอาได้ พรุ่งนี้เดี๋ยวน้องจะมารับของกลับแล้วเจอกัน^^
ท๊าดาาา . . . หน้าตาวัตถุดิบอาหารเย็นของเราวันนี้มีเห็ดโคนด้วย มันคือเห็ดโคนป่ามั้ง หน้าตาไม่ค่อยเหมือนที่เราเคยเห็น พี่เค้าไปเก็บแถวๆ ตรงที่เรากางเต๊นท์ และผักอีกชนิดที่มาอุ้มผางทีไรได้กินทุกที . . . ผักกูด นั่นเอง สดจากข้างแม่น้ำ
:: น้าดำลงมือเอง เขียงไม่มี เอาไม้พายก็ได้ ::
:: เมนูเย็นนี้มี ไก่ผัดพริกแกง แกงจืดเห็ดโคน ผัดผักกูด เห็ดโคนผัดน้ำมันหอย กินข้าวใต้แสงเทียนไขได้บรรยากาศมากกกกกกก ::
หลังจากกินข้าวเสร็จ พี่ดำนัดแนะว่าพรุ่งเราจะออกเดินทางประมาณ 8 โมงครึ่ง เดี๋ยวช้างจะมารับของ (สัมภาระ) ตรงนี้เลย แล้วใครจะนั่งช้างก็นั่ง ใครอยากเดินก็เดิน ตื่นเต้นอยากขี่น้อง!!!
[CR] ‘ทีลอเร’ ฉบับฉุบฉับไม่รีรอและมหัศจรรย์ ‘น้ำตกบันได’
จริงๆ ช่วง 2 ปีที่แล้วตอนไปทีลอซู ก็ได้ยินชื่อ ‘ทีลอเร’ จากที่เค้าคุยกัน ได้แต่คิดแล้วก็สงสัยเลยเซ้าซี้พี่เค้าไปนั่นนี่ ได้คำตอบมาว่า ‘มันคือที่ล่องแก่ง’ ตอนนั้นแค่ได้ยินว่าล่องแก่งก็ เฮ้ย! เอาๆ จะไปๆ แล้วพี่เค้าก็ตอบกลับมาว่า ‘ไปไม่ค่อยได้หรอก บางทัวร์เค้าก็ไม่ได้จัด พี่อาร์มก็ไม่รู้จะจัดเปล่า มันต้องใช้ช้างขนของ’ โอเค! ไปไม่ได้ตอนนี้ ไว้คราวหน้าค่อยไปก็ได้ ก่อนออกจากอุ้มผางคราวนั้นเลยบอกพี่อาร์มว่า ‘มีทริปทีลอเรบอกหนูด้วยนะคะ’ . . .
ระหว่างที่คุยไลน์กับพี่อาร์มนั้น นี่ก็ใจง่าย ตอบตกลงว่า ‘ไปค่ะ’ แบบยังไม่ได้คิดว่าต้องลางานกี่วัน ต้องเตรียมอะไรบ้าง และที่สำคัญเคยได้ยินแต่ชื่อ ยังไม่เคยอ่านรีวิว ไม่รู้อะไรทั้งนั้น !!!
Day 0/5
17/11/18 : จองตั๋วรถทัวร์ บขส. 999 รอบ 22:20 จาก website นี้เลยค่ะ https://www.busticket.in.th รอบรถที่เราไปคือขึ้นที่หมอชิต 2 ลงที่ บขส. แม่สอด (ออกจากหมอชิต 2 เวลา 22:20 น.) ส่วนขากลับเป็นรอบ 21:00 ออกจาก บขส. แม่สอด
Day 1/5
19/11/18 : วันแห่งการเดินทาง (ที่ยาวนาน)
สองทุ่มนิดๆ เรามาถึงหมอชิต 2 ไปที่เค้าน์เตอร์ 26 (ด้านนอก) เพื่อเอาใบเสร็จค่ารถทัวร์ไปออกตั๋ว ระหว่างรอรถมาก็ไปกินข้าวที่ฟู้ดคอร์ทแล้วก็ล้างหน้าปะแป้งเตรียมนอนยาว 9 ชั่วโมง เกือบๆ 4 ทุ่ม รถแม่สอดมาจอดเทียบท่าทางออกหมายเลข 115 รอช้าอยู่ใย เอากระเป๋าฝากใต้รถแล้วขึ้นไปนอนซะ!
ปล. ไม่ได้ขึ้นรถทัวร์มาปีกว่า รอบนี้ได้นั่งรถทัวร์ VIP เบาะนวดได้พอสังเขป แอร์เย็นมาก และมีพอร์ท usb ชาร์จแบตได้ด้วย ^^
Day 2/5
20/11/18 : เช้านี้ที่แม่สอด
ตี 5 กว่าๆ โดนพี่ทหารสะกิดอย่างเบามือพร้อมบอกว่า ‘ขอดูบัตรหน่อย’ ปีก่อนที่มาที่นี่ไม่ต้องโชว์บัตร แต่โดนถามว่า ‘เป็นคนไทยรึเปล่า?!’ ส่วนปีนี้สงสัยหน้าไม่ผ่าน โอเค ให้ดูบัตรแล้วนอนต่อ
หกโมงกว่าๆ ตื่นมาอีกครั้ง พร้อมไลน์พี่อาร์มที่ว่า ‘. . . รอที่แม่สอดนะ ลูกสาวพี่กำลังจะกลับอุ้มผาง นั่งรถเป็นเพื่อนกันเข้ามาเลย’ ต้องขอบคุณน้องอายมากๆ ที่ให้ติดรถมาด้วยนะคะ แต่สำหรับใครที่มาอุ้มผางเองก็ไม่ต้องกังวล พอลงรถทัวร์ที่ บขส. แม่สอดแล้ว จะมีรถสองแถวจอดรออยู่ เลือกขึ้นคันที่ไปอุ้มผางพร้อมยื่นเงิน 130 บาทให้คนขับ (น่าจะยังราคาเดิม) บอกเค้าว่าลง ‘กัญญาภัครีสอร์ท’ และนั่งยาวๆ 3 ชั่วโมง พี่เค้าจะเลี้ยวเข้าไปจอดในรีสอร์ทให้เลยค่ะ
อุ้มผางเป็นอำเภอเล็กๆ ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา อากาศดี และคนที่นี่ใจดีมากถึงมากที่สุด นี่เลยเป็นเหตุผลนึงที่ไม่กลัวเลยว่าจะต้องมาที่นี่คนเดียวและนี่ก็เป็นครั้งที่สามแล้ว การต้อนรับของรีสอร์ทนี้ก็ยังอบอุ่นเหมือนเดิม ขอบคุณพี่อาร์ม น้องอายและพี่หนึ่งมากๆ ค่ะ และก่อนจะผ่านพ้นวันแรกไป พี่อาร์มบรีฟว่าพรุ่งนี้ไปกับพี่ๆ กรุ๊ปนึง เค้ามากัน 4 คน เช้าๆ 6 โมงกว่าๆ ให้เอาของที่จะเข้าป่ามาวางไว้ เพราะต้องให้ช้างแบกไป ช้างจะออกเดินทางเร็วกว่าเรา ส่วนเราเริ่มออกเดินทางตอน 8 โมงกว่า งงล่ะสิ ว่าช้างมาเกี่ยวยังไง แล้วเราเดินทางยังไง มาๆ จะเล่าให้ฟัง
Day 3/5
21/11/18 ออกเดินทางสู่น้ำตกทีลอเร
พี่อาร์ม : ก๊อกๆ น้อง . . . ตื่นยางงงงงง
เรา : ตื่นแล้วค่ะ (เพิ่งตื่นจริงๆ เพราะตั้งปลุก 6:30)
พี่อาร์ม : เอาของมาวางเลย เดี๋ยวจะใส่ช้างแบกไปละ
เรา : (ลืมจัดของ! ยัดๆ แล้วรีบเอาไปวาง)
พี่อาร์ม : อาบน้ำ แต่งตัวเลย 8 โมงไปละ
ประมาณ 8 โมงกว่าๆ เริ่มออกเดินทางจากรีสอร์ท โดยพี่อาร์มขับพาไปยังจุดเริ่มล่องแก่งที่ บ. ปะหละทะ ห่างจาก อ. อุ้มผางประมาณ 30 กม. มีน้าดำและพี่วันที่เป็นทั้งไกด์ คนพายเรือ และพ่อครัวให้เราสำหรับทริปนี้ ซึ่งคนนึงเป็นชาวพม่า ส่วนพี่อีกคนเป็นชาวกะเหรี่ยง จำไม่ได้ว่าคนไหนเป็นชาวไหน แต่ที่สำคัญ ฮามาก! มุกเยอะมาก!
เราเริ่มล่องเรือประมาณ 9 โมงกว่าไม่ถึงครึ่งดี ในช่วงแรกจะเป็นการล่องเรือชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ ระหว่างทางจะเห็นลิงบ้าง ตัวเงินตัวทองบ้าง และก็นก ส่วนต้นไม้ก็เยอะ เยอะจนไม่รู้ว่าชื่ออะไรบ้าง จนถึงตอนเที่ยงน้าดำและพี่วันแวะจอดแพยางให้เรากินข้าวที่ทางรีสอร์ทแพ็คใส่กล่องมาให้ และทำธุระส่วนตัว (ไม่มีห้องน้ำ) ให้เรียบร้อยก่อนจะไปล่องแก่งจริงๆ
แก่งที่เราต้องล่องผ่านมีทั้งหมด 9 แก่ง โดยแต่ละแก่งจะไม่ใกล้กันมาก ไม่ถี่ และไม่อันตราย ถ้าใครไม่เคยล่องแก่งก็ลองมาล่องที่นี่ดูก่อนก็ได้ บางแก่งมีชื่อด้วย จริงๆ น่าจะมีชื่อทุกแก่ง เอาที่จำได้ก็จะมีแก่งคนมอง เพราะตรงแก่งนั้นจะมีผาสูงๆ แล้วมีหินทรงคล้ายๆ คนกำลังมองเราอยู่ ส่วนอีกแก่ง (ประมาณแก่งที่ 7) จะเป็นแก่งหักศอก น้าดำกับพี่วันให้เราลงเดิน เพราะแก่งนี้ค่อนข้างอันตรายอาจจะทำให้แพคว่ำได้
แฮ่ มีคลิปด้วยค่ะ แต่กากๆ หน่อย ถ่ายตอนที่มือถืออยู่ในซองกันน้ำ มันเลยไม่ค่อยชัด
ประมาณบ่าย 2 นิดๆ เราก็มาถึงจุดกางเต้นท์ พี่วันกับน้าดำช่วยกันถางหญ้าให้เรากางเต๊นท์ ก่อไฟรอเตรียมทำอาหารเย็น ที่สำคัญทางรีสอร์ททำห้องน้ำไว้ให้ (แบบกั้นคอก) พี่วันบอกว่าถ้าบ่าย 2 ครึ่งช้างยังไม่มา เราจะไปเล่นน้ำตกก่อน ติ๊กต่อก . . . ติ๊กต่อก . . . และแล้วน้องจ๊างก็ยังไม่มาจริงๆ พี่วันเลยพาไปเล่นน้ำตกตามนั้น
น้ำตกที่เราจะเจอต่อจากนี้มี 2 น้ำตก ซึ่งน้ำตกที่เราถึงก่อนคือ ‘น้ำตกทีลอเร’ แปลว่า น้ำตกที่ตกลงหิน ซึ่งตรงที่น้ำตกลงมาจะมีโขดหินใหญ่ๆ รองอยู่ข้างล่าง น้ำจะตกลงมาพอดี ของจริงน้ำตกลงมาค่อนข้างแรง เรามาแวะเล่นน้ำตกนี้ตอนขากลับไปกางเต๊นท์
พี่วันพายแพยางเลยทีลอเรไปก่อนเพื่อให้เราไปเจอสิ่งนี้ . . . น้ำตกมาได ฮึ! ชื่อว่าอะไรนะคะ น้ำตกมาได! อ๋อออ น้ำตกบันได!!! ชื่อก็ตามรูปทรงเลย เป็นน้ำตกหินปูนทรงกลมมนๆ เป็นขั้นๆ ความสูงน่าจะมีตึก 4-5 ชั้นได้ (มั้ง) น้ำแรงมาก ต้นไม้ขึ้นหนาด้วย สวยมาก สวยจนลืมทีลอเรไปเลย
มีคลิปอีกแล้ว แต่กากเช่นเดิม
หลังจากที่เราเล่นน้ำตกบันไดอยู่พักใหญ่น้าดำกะพี่วันก็พาเรากลับไปเล่นน้ำตกทีลอเร (น้ำตกแรกที่เราผ่านมาก่อน) ซึ่งต้องพายแพยางทวนน้ำ พี่ๆ สุดมาก กรี้ดดดดดดด
(มีคลิปอีกแล้วจ้า)
หลังจากเล่นน้ำตกอยู่พักใหญ่ๆ ถึงเวลาที่น้าดำกับพี่วันต้องพาเรากลับไปพักกินข้าวเย็นและพักผ่อน ความอึ้งคือ พี่ๆ พายแพยางทวนกระแสน้ำเพื่อให้เรากลับไปยังจุดกางเต๊นท์ซึ่งระยะทางก็ไม่ได้ใกล้เลย โคตรสุดยอดมากกกกก ขอบคุณนะคะ
เมื่อกลับมาถึงจุดกางเต๊นท์ ก็พบว่าสัมภาระถูกกองบนพื้น นั่นก็แปลว่าน้องจ๊างของเรามาถึงแล้ว อยากเห็นหน้าน้องเหลือเกิน แต่ต้องนอนห่างๆ เราหน่อย เดี๋ยวน้องจะตื๊บเอาได้ พรุ่งนี้เดี๋ยวน้องจะมารับของกลับแล้วเจอกัน^^
ท๊าดาาา . . . หน้าตาวัตถุดิบอาหารเย็นของเราวันนี้มีเห็ดโคนด้วย มันคือเห็ดโคนป่ามั้ง หน้าตาไม่ค่อยเหมือนที่เราเคยเห็น พี่เค้าไปเก็บแถวๆ ตรงที่เรากางเต๊นท์ และผักอีกชนิดที่มาอุ้มผางทีไรได้กินทุกที . . . ผักกูด นั่นเอง สดจากข้างแม่น้ำ
หลังจากกินข้าวเสร็จ พี่ดำนัดแนะว่าพรุ่งเราจะออกเดินทางประมาณ 8 โมงครึ่ง เดี๋ยวช้างจะมารับของ (สัมภาระ) ตรงนี้เลย แล้วใครจะนั่งช้างก็นั่ง ใครอยากเดินก็เดิน ตื่นเต้นอยากขี่น้อง!!!
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น