เวียนมาบรรจบครบอีก 1 ปีสำหรับเทศกาลมหกรรมเสี่ยงดวงประจำปีของชาวกรุงเทพฯ ที่จัดมาทุกปี แต่ห่างหายไปเมื่อปีที่ผ่านมา กับงานกาชาดไทยประจำปี 2561
จริงๆ จะใช้ชื่อว่าตามล่าหา โอวันติน ภูเขาไฟ ในงานกาชาด แต่หาได้ไม่ครบจริงๆ เท่าที่เห็นมี 3 บูธ ไม่แน่ใจว่ามีมากกว่านี้หรือเปล่า ใครเจอมากกว่า 3 บูธบอกหน่อยนะ 555
กินกับเนมขอพาเชิญชวนทุกท่านไปร่วมงานกาชาดที่กำลังจะจัดขึ้นในรูปแบบของคนขี้สงสัยกับคำถามทั้ง 5 ข้อดังนี้
1. ไปงานกาชาดทำไม มาเพื่ออะไร
2. งานกาชาดมีอะไรบ้าง
3. ไปงานกาชาดอย่างไร
4. ไปงานกาชาดได้เมื่อไร
5. ไปงานกาชาดกับใครดี 555
เริ่มกับคำถามแรก 1. ไปงานกาชาดกันทำไม ไปเพื่ออะไร ขอเก็บคำถามนี้ไว้ตอบหลังสุดละกันเพราะจะเป็นเนื้อหาที่ออกแนวประวัติศาสตร์ + วิชาการมาก กลัวหลายๆ คนอ่านคำถามแรกจบแล้วปิดกระทู้ของผมสักก่อน
มาถึงคำถามข้อที่ 2.งานกาชาดมีอะไรบ้าง ข้อนี้ขออ้างอิงหลายแหล่งข้อมูลที่จะนำมาตอบเลยเพราะมีหลาย Page หลายเว็ปที่ให้คำตอบเยอะมาก ทั้งแบบละเอียดมาก ละเอียดน้อยหรือ แบบละเอียดน้อยๆ อยู่แล้ว กินกับเนมจึงขอซอยย่อยคำถามนี้ออกมาเป็น
- คนเยอะไหม
>>> คนเยอะมากครับขนาดผมไปวันแรก (เมื่อวานเป็นวันเปิด) คนยังเยอะ ยิ่งมาจัดที่กลางใจเมื่อการเดินทางง่ายทั้ง BTS, MRT แล้วละก็หึๆ คนเพียบแน่นอนสำหรับงานนี้ ปล. แอบเห็นเพื่อนๆ เช็คอินสวนลุมงานกาชาดกันแล้วละก็คุณพระ!!! ไม่ได้มีประท้วงกันใช่ไหม 555
- อากาศร้อนเปล่า
>>> แน่นอนครับเมืองไทย เป็นเมืองร้อนเพราะฉะนั้นสถาพอากาศในเมืองไทยก็ร้อนด้วยเช่นกัน ถึงช่วงนี้จะเป็นช่วงที่แอบมีลมหนาวพัดมาแล้วบางก็ตาม แต่ต้องบอกเลยว่า ร้อน จริงถ้ามใครช่วงก่อนพระอาทิตย์ตกแล้วละก็อย่าลืมร่มไปด้วย
- มีของกินขายไหม
>>> คำตอบคือเพียบคำ งานนี้ไม่ต่างจากเทศกาลงานของกินนานาภาค มาครบทุกอย่างเหมือนงานทั่วไปที่มีของกินจากทุกทิศทั่วไทยมากันตรึม
-ที่นั่งไหม
>>> เพื่อมีคนที่พาผู้สูงอายุหรือคนที่เดินนานไม่ได้มาด้วยต้องบอกว่านี่คือข้อแตกต่างจากที่จัดที่สวนอัมพรคือมีที่นั่งให้รับประทานอาหาร และที่นั่งพักผ่อนเยอะมาก เพราะเค้าทำให้คนที่ออกกำลังกายได้พักผ่อนกันอยู่แล้ว
- ไปตอนไหนดี
>>> คำตอบนี้ขอแบ่งเป็น 2 แบบ 2 สายครับ สายแรกสำหรับสายวัยรุ่นชอบถ่ายรูปไม่กลัวแดดแนะนำให้ไปช่วงเปิดเลย ก่อนเที่ยง ครับจะได้ภาพสวยๆ คนเดินผ่านน้อยๆ แต่สำหรับสายเดินชิว กลัวแดด ไม่กลัวคน แนะนำให้ไปหลังพระอาทิตย์ตกช่วง 5 โมงหน่อยๆ เพราะสวนลุมเป็นสวนสาธารณะกลางแจ้งครับยังไงก็ไม่มีที่หลบได้เพียงพอกับผู้ร่วมงานแน่นอน
- ของเล่น
>>> คำถามนี้เอาใจคนมีครอบครัวครับ สำหรับพ่อ แม่ที่พาลูกไปงานนี้นอกจากสิ่งที่พบเจอได้จากงานกาชาดที่เราคุ้นชินแล้วคือ การสอยด้วย จับฉลากที่มีมากมาย ปีนี้เค้ามีพื้นที่สำหรับลูกๆ ของท่านโดยเฉพาะ มีทั้งชิงช้าม้าหมุน รถไถ่ถัง บ้านผีสิง เรือถีบสำหรับเด็กแบบจัดเต็ม
- ตารางการแสดง
>>> คำตอบนี้ขออนุญาตให้ไปดูได้จาก ภาพด้านล่าง
3. ไปงานกาชาดอย่างไร
การเดินทางไปสวนลุมจริงๆ แล้วสามารถขับรถไปได้จากถนนหลายสาย แต่ปัญหาคือที่จอดรถจากวันที่ผมไปเอารถไปจอดที่ Silom Complex ถึงจะเดินไปสวนลุมไม่ไกล แต่ก็มีค่าใช้จ่ายอยู่ จึงอย่างแนะนำให้เดินทางโดยรถไฟฟ้าสองสาย ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที สถานีลุมพินี (ทางออก 3 แล้วข้ามถนนวิทยุ) สถานีสีลม (ทางออก 3) และรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีศาลาแดง (ทางออก 6) สะดวก รวดเร็วกว่าแน่นอนครับ
4. ไปงานกาชาดได้เมื่อไร
ตั้งแต่วันที่ 23/11/2018 - 1/12/2018 ตลอด 9 วัน 9 คืน เวลา 10.30 - 22.00 น.
5. ไปงานกาชาดกับใครดี 555
คำถามข้อนี้คือแบบ ตั้งมาเพื่อ !!!!!!! คิดว่าคงมีหลายคนแอบถามผมต่อมาอีกที 555
เอาจริงๆ คือจะไปกับใครก็ได้ครับ มีแฟนก็ชวนแฟน ไม่มีแฟนก็ชวนเพื่อน มีลูกก็พาลูกไป ไม่มีลูกก็พาครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ คุณลุง คุณน้า คุณอาไปละกันเนอะ
กลับมาสู่คำถามข้อแรก ไปงานกาชาดกันทำไม ไปเพื่ออะไร
ข้อย้อนเวลาไปนิดหนึ่งว่า สภากาชาดไทยได้เริ่มขึ้นเมื่อครั้งสมัยแผ่นดิน “พระพุทธเจ้าหลวง” รัชกาลที่ 5 ในต้น ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) ซึ่งประเทศสยามเกิดกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสในเรื่องดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ทำให้เกิดการสู้รบกันยังผลให้มีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต และได้รับความทุกข์ทรมานเป็นจำนวนมาก โดยในขณะนั้นยังไม่มีกองการกุศลใดๆ ทำหน้าที่ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ในยามสงครามอย่างเป็นกิจจะลักษณะ
“พระพุทธเจ้าหลวง” ทรงมีความห่วงใยเหล่าทหารหาญและบรรดาอาสาสมัครที่เสียสละเอาชีวิตร่างกายต่อสู้เพื่อรักษาพระราชอาณาเขต จึงพระราชทานพระบรมราชานุญาติให้จัดตั้งสภาอุณาโลมแดงแห่งสยามขึ้นเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2436 เพื่อทำหน้าที่จัดส่งยา เวชภัณฑ์ อาหาร เสื้อผ้า และเครื่องใช้ต่างๆ ไปยังทหารและประชาชนที่เดือดร้อน อันเป็นหลักการที่ละม้ายกับหลักการของสภากาชาดสากล
หลังจากนั้นก็เริ่มมีการจัดให้มีงานกาชาดขึ้นครั้งแรกระหว่างวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2465 – 8 เมษายน 2466 (ขณะนั้นเปลี่ยนพุทธศักราชในเดือนเมษายน) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหา “ประชาสมาชิก” ให้แก่สภากาชาดไทย การสมัครเป็นสมาชิกนี้ เสียค่าบำรุง 1 บาทต่อปี สถานที่จัดงานคือ สนามหลวง
เริ่มมีลอตเตอรี่ออกจำหน่ายเป็นครั้งแรก เพื่อหารายได้ให้สภากาชาดไทยในราคาฉบับละ 1 บาท ต่อมาในช่วง 2481 – 2499 ได้ย้ายมาจัดที่สถานเสาวภา และบริเวณกรีฑาสถานแห่งชาติซึ่งในการจัดงานแต่ละครั้ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ บรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์จะเสด็จทอดพระเนตรด้วย งานกาชาดนี้เจริญก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ
ส่วนคำถามที่ว่าไปงานกาชาดเพื่ออะไร ขอบอกเลยว่า ไปเพื่อให้ เราจะได้ช่วยกาชาด แล้วกาชาดจะได้ช่วยเรา
เพราะทุกวันนี้กาชาดช่วนเราเยอะมากทั้ง
1. การบริการทางการแพทย์และสุขภาพอนามัย
สภากาชาดไทยให้บริการรักษาพยาบาล ฟื้นฟูสภาพ สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้แก่ประชาชนและผู้ด้อยโอกาส ให้บริการชีววัตถุและยาปราศจากเชื้อที่มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วยและปลอดภัยตามมาตรฐานสากล พร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางจัดหาและบริการดวงตาและอวัยวะที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลให้กับผู้ป่วยทั่วประเทศ จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และบุคลากรด้านสาธารณสุข อีกทั้งผลิตบุคลากรพยาบาลเฉพาะทาง
2. การบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย
สภากาชาดไทยสามารถเข้าถึงผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว และให้บริการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย ภัยแล้ง และภัยหนาว ผู้ประสบภัยได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีโดยการมีส่วนร่วมของสังคมและชุมชน มีการจัดการระบบอาสาสมัครอย่างเป็นระบบ พร้อมจัดทำแผนรับมือภัยพิบัติให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อพัฒนาให้เป็นชุมชนต้นแบบพร้อมรับภัยพิบัติอีกด้วย
3. การบริการโลหิต
สภากาชาดไทย ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้มีหน้าที่หลักในการจัดหาโลหิตให้มีปริมาณเพียงพอ ปลอดภัย และมีคุณภาพสูงสุด จากผู้บริจาคโลหิตด้วยความสมัครใจไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ ทั้งในรูปโลหิต ส่วนประกอบโลหิต และผลิตภัณฑ์โลหิต ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการโดยยึดมั่นในนโยบายคุณภาพ คือ บริการประทับใจ โลหิตและผลิตภัณฑ์ มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ปลอดภัยทั้งผู้ให้และผู้รับ
4. การส่งเสริมคุณภาพชีวิต
สภากาชาดไทยเป็นองค์กรผู้นำด้านอาสาสมัครของประเทศ ด้วยระบบบริหารจัดการอาสาสมัครแบบบูรณาการ เพื่อให้โอกาสอาสาสมัครของสภากาชาดไทยได้ออกปฏิบัติงานที่เป็นการพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ เด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาส รวมถึงพระภิกษุ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งเพิ่มจำนวนอาสาสมัครที่ผ่านการอบรมตามเกณฑ์ของสภากาชาดไทยเข้าถึงประชาชนและประชาชนได้รับประโยชน์จากการปฏิบัติงานของอาสาสมัครอย่างทั่วถึง
พอแล้วนะครับสำหรับคำตอบว่ากาชาดช่วยเรายังไง มาถึงเรื่องของงานกาชาดกันบ้างที่เพิ่งเริ่มไปเมื่อวานเป็นวันแรกหลายๆ คงคงมีคำถามมากมายกับงานที่จัดขึ้นเลยขอ ตอบคำถามสงสัยกับงานกาชาด 5 ข้อคือ ไปต่อกันที่รีวิวงานเนอะ
เริ่มต้นที่บรรยากาศการเสี่ยงดวง
ความหวังมาแล้วครับ ไม่พัดลมก็ทีวิ
มาแน่นครับงานนี้
สิ่งที่คิดกับสิ่งที่หวังบ้างครั้ง ก็แตกต่างกันออกไป T_T
เป็นอีก 1 บูธที่ชอบครับ จับฉลากในรูปแบบออนไลท์
เลือกจากใน TV เลย
ประกาศผลเลยจร้า
หลอดไฟนั่นเอง 555
ไปต่อกันที่ Zone ของกิน
หลังจากของกินก็มาต่อที่ของลดราคา ตามกันต่อที่ Comment นะ
[CR] 5 คำถามกับงานกาชาด 2561 ( รีวิวงานกาชาด ฉบับกินกับเนม )
จริงๆ จะใช้ชื่อว่าตามล่าหา โอวันติน ภูเขาไฟ ในงานกาชาด แต่หาได้ไม่ครบจริงๆ เท่าที่เห็นมี 3 บูธ ไม่แน่ใจว่ามีมากกว่านี้หรือเปล่า ใครเจอมากกว่า 3 บูธบอกหน่อยนะ 555
กินกับเนมขอพาเชิญชวนทุกท่านไปร่วมงานกาชาดที่กำลังจะจัดขึ้นในรูปแบบของคนขี้สงสัยกับคำถามทั้ง 5 ข้อดังนี้
1. ไปงานกาชาดทำไม มาเพื่ออะไร
2. งานกาชาดมีอะไรบ้าง
3. ไปงานกาชาดอย่างไร
4. ไปงานกาชาดได้เมื่อไร
5. ไปงานกาชาดกับใครดี 555
เริ่มกับคำถามแรก 1. ไปงานกาชาดกันทำไม ไปเพื่ออะไร ขอเก็บคำถามนี้ไว้ตอบหลังสุดละกันเพราะจะเป็นเนื้อหาที่ออกแนวประวัติศาสตร์ + วิชาการมาก กลัวหลายๆ คนอ่านคำถามแรกจบแล้วปิดกระทู้ของผมสักก่อน
มาถึงคำถามข้อที่ 2.งานกาชาดมีอะไรบ้าง ข้อนี้ขออ้างอิงหลายแหล่งข้อมูลที่จะนำมาตอบเลยเพราะมีหลาย Page หลายเว็ปที่ให้คำตอบเยอะมาก ทั้งแบบละเอียดมาก ละเอียดน้อยหรือ แบบละเอียดน้อยๆ อยู่แล้ว กินกับเนมจึงขอซอยย่อยคำถามนี้ออกมาเป็น
- คนเยอะไหม
>>> คนเยอะมากครับขนาดผมไปวันแรก (เมื่อวานเป็นวันเปิด) คนยังเยอะ ยิ่งมาจัดที่กลางใจเมื่อการเดินทางง่ายทั้ง BTS, MRT แล้วละก็หึๆ คนเพียบแน่นอนสำหรับงานนี้ ปล. แอบเห็นเพื่อนๆ เช็คอินสวนลุมงานกาชาดกันแล้วละก็คุณพระ!!! ไม่ได้มีประท้วงกันใช่ไหม 555
- อากาศร้อนเปล่า
>>> แน่นอนครับเมืองไทย เป็นเมืองร้อนเพราะฉะนั้นสถาพอากาศในเมืองไทยก็ร้อนด้วยเช่นกัน ถึงช่วงนี้จะเป็นช่วงที่แอบมีลมหนาวพัดมาแล้วบางก็ตาม แต่ต้องบอกเลยว่า ร้อน จริงถ้ามใครช่วงก่อนพระอาทิตย์ตกแล้วละก็อย่าลืมร่มไปด้วย
- มีของกินขายไหม
>>> คำตอบคือเพียบคำ งานนี้ไม่ต่างจากเทศกาลงานของกินนานาภาค มาครบทุกอย่างเหมือนงานทั่วไปที่มีของกินจากทุกทิศทั่วไทยมากันตรึม
-ที่นั่งไหม
>>> เพื่อมีคนที่พาผู้สูงอายุหรือคนที่เดินนานไม่ได้มาด้วยต้องบอกว่านี่คือข้อแตกต่างจากที่จัดที่สวนอัมพรคือมีที่นั่งให้รับประทานอาหาร และที่นั่งพักผ่อนเยอะมาก เพราะเค้าทำให้คนที่ออกกำลังกายได้พักผ่อนกันอยู่แล้ว
- ไปตอนไหนดี
>>> คำตอบนี้ขอแบ่งเป็น 2 แบบ 2 สายครับ สายแรกสำหรับสายวัยรุ่นชอบถ่ายรูปไม่กลัวแดดแนะนำให้ไปช่วงเปิดเลย ก่อนเที่ยง ครับจะได้ภาพสวยๆ คนเดินผ่านน้อยๆ แต่สำหรับสายเดินชิว กลัวแดด ไม่กลัวคน แนะนำให้ไปหลังพระอาทิตย์ตกช่วง 5 โมงหน่อยๆ เพราะสวนลุมเป็นสวนสาธารณะกลางแจ้งครับยังไงก็ไม่มีที่หลบได้เพียงพอกับผู้ร่วมงานแน่นอน
- ของเล่น
>>> คำถามนี้เอาใจคนมีครอบครัวครับ สำหรับพ่อ แม่ที่พาลูกไปงานนี้นอกจากสิ่งที่พบเจอได้จากงานกาชาดที่เราคุ้นชินแล้วคือ การสอยด้วย จับฉลากที่มีมากมาย ปีนี้เค้ามีพื้นที่สำหรับลูกๆ ของท่านโดยเฉพาะ มีทั้งชิงช้าม้าหมุน รถไถ่ถัง บ้านผีสิง เรือถีบสำหรับเด็กแบบจัดเต็ม
- ตารางการแสดง
>>> คำตอบนี้ขออนุญาตให้ไปดูได้จาก ภาพด้านล่าง
3. ไปงานกาชาดอย่างไร
การเดินทางไปสวนลุมจริงๆ แล้วสามารถขับรถไปได้จากถนนหลายสาย แต่ปัญหาคือที่จอดรถจากวันที่ผมไปเอารถไปจอดที่ Silom Complex ถึงจะเดินไปสวนลุมไม่ไกล แต่ก็มีค่าใช้จ่ายอยู่ จึงอย่างแนะนำให้เดินทางโดยรถไฟฟ้าสองสาย ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที สถานีลุมพินี (ทางออก 3 แล้วข้ามถนนวิทยุ) สถานีสีลม (ทางออก 3) และรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีศาลาแดง (ทางออก 6) สะดวก รวดเร็วกว่าแน่นอนครับ
4. ไปงานกาชาดได้เมื่อไร
ตั้งแต่วันที่ 23/11/2018 - 1/12/2018 ตลอด 9 วัน 9 คืน เวลา 10.30 - 22.00 น.
5. ไปงานกาชาดกับใครดี 555
คำถามข้อนี้คือแบบ ตั้งมาเพื่อ !!!!!!! คิดว่าคงมีหลายคนแอบถามผมต่อมาอีกที 555
เอาจริงๆ คือจะไปกับใครก็ได้ครับ มีแฟนก็ชวนแฟน ไม่มีแฟนก็ชวนเพื่อน มีลูกก็พาลูกไป ไม่มีลูกก็พาครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ คุณลุง คุณน้า คุณอาไปละกันเนอะ
กลับมาสู่คำถามข้อแรก ไปงานกาชาดกันทำไม ไปเพื่ออะไร
ข้อย้อนเวลาไปนิดหนึ่งว่า สภากาชาดไทยได้เริ่มขึ้นเมื่อครั้งสมัยแผ่นดิน “พระพุทธเจ้าหลวง” รัชกาลที่ 5 ในต้น ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) ซึ่งประเทศสยามเกิดกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสในเรื่องดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ทำให้เกิดการสู้รบกันยังผลให้มีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต และได้รับความทุกข์ทรมานเป็นจำนวนมาก โดยในขณะนั้นยังไม่มีกองการกุศลใดๆ ทำหน้าที่ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ในยามสงครามอย่างเป็นกิจจะลักษณะ
“พระพุทธเจ้าหลวง” ทรงมีความห่วงใยเหล่าทหารหาญและบรรดาอาสาสมัครที่เสียสละเอาชีวิตร่างกายต่อสู้เพื่อรักษาพระราชอาณาเขต จึงพระราชทานพระบรมราชานุญาติให้จัดตั้งสภาอุณาโลมแดงแห่งสยามขึ้นเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2436 เพื่อทำหน้าที่จัดส่งยา เวชภัณฑ์ อาหาร เสื้อผ้า และเครื่องใช้ต่างๆ ไปยังทหารและประชาชนที่เดือดร้อน อันเป็นหลักการที่ละม้ายกับหลักการของสภากาชาดสากล
หลังจากนั้นก็เริ่มมีการจัดให้มีงานกาชาดขึ้นครั้งแรกระหว่างวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2465 – 8 เมษายน 2466 (ขณะนั้นเปลี่ยนพุทธศักราชในเดือนเมษายน) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหา “ประชาสมาชิก” ให้แก่สภากาชาดไทย การสมัครเป็นสมาชิกนี้ เสียค่าบำรุง 1 บาทต่อปี สถานที่จัดงานคือ สนามหลวง
เริ่มมีลอตเตอรี่ออกจำหน่ายเป็นครั้งแรก เพื่อหารายได้ให้สภากาชาดไทยในราคาฉบับละ 1 บาท ต่อมาในช่วง 2481 – 2499 ได้ย้ายมาจัดที่สถานเสาวภา และบริเวณกรีฑาสถานแห่งชาติซึ่งในการจัดงานแต่ละครั้ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ บรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์จะเสด็จทอดพระเนตรด้วย งานกาชาดนี้เจริญก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ
ส่วนคำถามที่ว่าไปงานกาชาดเพื่ออะไร ขอบอกเลยว่า ไปเพื่อให้ เราจะได้ช่วยกาชาด แล้วกาชาดจะได้ช่วยเรา
เพราะทุกวันนี้กาชาดช่วนเราเยอะมากทั้ง
1. การบริการทางการแพทย์และสุขภาพอนามัย
สภากาชาดไทยให้บริการรักษาพยาบาล ฟื้นฟูสภาพ สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้แก่ประชาชนและผู้ด้อยโอกาส ให้บริการชีววัตถุและยาปราศจากเชื้อที่มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วยและปลอดภัยตามมาตรฐานสากล พร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางจัดหาและบริการดวงตาและอวัยวะที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลให้กับผู้ป่วยทั่วประเทศ จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และบุคลากรด้านสาธารณสุข อีกทั้งผลิตบุคลากรพยาบาลเฉพาะทาง
2. การบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย
สภากาชาดไทยสามารถเข้าถึงผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว และให้บริการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย ภัยแล้ง และภัยหนาว ผู้ประสบภัยได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีโดยการมีส่วนร่วมของสังคมและชุมชน มีการจัดการระบบอาสาสมัครอย่างเป็นระบบ พร้อมจัดทำแผนรับมือภัยพิบัติให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อพัฒนาให้เป็นชุมชนต้นแบบพร้อมรับภัยพิบัติอีกด้วย
3. การบริการโลหิต
สภากาชาดไทย ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้มีหน้าที่หลักในการจัดหาโลหิตให้มีปริมาณเพียงพอ ปลอดภัย และมีคุณภาพสูงสุด จากผู้บริจาคโลหิตด้วยความสมัครใจไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ ทั้งในรูปโลหิต ส่วนประกอบโลหิต และผลิตภัณฑ์โลหิต ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการโดยยึดมั่นในนโยบายคุณภาพ คือ บริการประทับใจ โลหิตและผลิตภัณฑ์ มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ปลอดภัยทั้งผู้ให้และผู้รับ
4. การส่งเสริมคุณภาพชีวิต
สภากาชาดไทยเป็นองค์กรผู้นำด้านอาสาสมัครของประเทศ ด้วยระบบบริหารจัดการอาสาสมัครแบบบูรณาการ เพื่อให้โอกาสอาสาสมัครของสภากาชาดไทยได้ออกปฏิบัติงานที่เป็นการพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ เด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาส รวมถึงพระภิกษุ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งเพิ่มจำนวนอาสาสมัครที่ผ่านการอบรมตามเกณฑ์ของสภากาชาดไทยเข้าถึงประชาชนและประชาชนได้รับประโยชน์จากการปฏิบัติงานของอาสาสมัครอย่างทั่วถึง
พอแล้วนะครับสำหรับคำตอบว่ากาชาดช่วยเรายังไง มาถึงเรื่องของงานกาชาดกันบ้างที่เพิ่งเริ่มไปเมื่อวานเป็นวันแรกหลายๆ คงคงมีคำถามมากมายกับงานที่จัดขึ้นเลยขอ ตอบคำถามสงสัยกับงานกาชาด 5 ข้อคือ ไปต่อกันที่รีวิวงานเนอะ
เริ่มต้นที่บรรยากาศการเสี่ยงดวง
ความหวังมาแล้วครับ ไม่พัดลมก็ทีวิ
มาแน่นครับงานนี้
สิ่งที่คิดกับสิ่งที่หวังบ้างครั้ง ก็แตกต่างกันออกไป T_T
เป็นอีก 1 บูธที่ชอบครับ จับฉลากในรูปแบบออนไลท์
เลือกจากใน TV เลย
ประกาศผลเลยจร้า
หลอดไฟนั่นเอง 555
ไปต่อกันที่ Zone ของกิน
หลังจากของกินก็มาต่อที่ของลดราคา ตามกันต่อที่ Comment นะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้