ขอแนะนำตัวก่อนค่ะ ตัวเองเป็นแม่บ้าน มีสามีฝรั่ง ไม่ค่อยได้กลับไทย สามีออกไปทำงาน อยู่บ้านบางทีก็เหงา ก็จะมีกลุ่มไลน์ กลุ่มเฟส ของแม่บ้านสามีฝรั่งด้วยกัน คอยแนะนำการทำอาหาร และมักจะแนะนำพืชผักท้องถิ่นเมืองนอก ให้เราได้เก็บกิน แล้วเรามาสะดุดกับพืชตัวนึงที่ชื่อว่า “แดนดิไลออน / Dandelion” รากศัพท์มาจากภาษาฝรั่งเศสและละติน dent de lion แปลว่า เขี้ยวสิงโต / ฟันสิงโต
หลายคนคงสงสัย ว่าแดนดิไลออนคืออะไร แดนดิไลออนมีประโยชน์อย่างไร
เคยเห็นมานานแถวสวน มันจะมีดอกสีเหลือง พอกลีบดอกร่วง ก็จะมีเมล็ดเป็นพุ่มสีขาว มันจะผลิบานออก เวลาลมพัดก็จะปลิวไปตามลม เคยเด็ดมาเป่า ดอกสีขาวจะปลิวไปตามลมเหลือไว้แต่ก้านดอก การปลิวไปตามลมคือการขยายพันธุ์ของพืชชนิดนี้ เคยมีแถวบ้าน รำคาญมาก ชอบปลิวมาติดเสื้อผ้าที่ตากไว้ หงุดหงิดมาก ถ้าใครเคยดูการ์ตูนโดเรม่อน จะมีตอนนึงที่โนบิตะปลูกแดนดิไลออน คนญี่ปุ่น คนเกาหลี นิยมกินกันมากเพื่อลดน้ำหนัก ลดน้ำตาลในเลือด และล้างพิษตับ
ไม่คิดว่าจะกินได้ เราไปอ่านเจอจากที่นี่ ลองเข้าไปอ่านดูได้
https://www.facebook.com/715995008523880/posts/ต้นฟันสิงโต-นอกจากใช้ทำอาหารแล้วยังเป็นยาสมุนไพรชั้นเริศใด้อีกหลายขนานสมุนไพรแดน/852648618191851/
จากนั้นเราก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมจากพวกเว็บไซต์ต่างประเทศ พบว่าคนอังกฤษเอามาใช้หมักไวน์แดนดิไลออนด้วย และจากที่เราอ่านยังพบว่ามีผลการวิจัยจริง ซึ่งมีการเอารากแดนดิไลออนมาบดทำยาลดน้ำหนัก , ยาขับปัสสาวะ , ยาดีท็อกตับไต ลองหาข้อมูลในเน็ต ไปเจออาหารเสริมลดน้ำหนักหลายยี่ห้อมาก ที่มีแดนดิไลออนเป็นส่วนผสม โอเคค่ะ ไม่รอช้า เราจะแนะนำวิธีกิน และเราได้รวบรวมคุณประโยชน์จากแหล่งต่างๆไว้ให้ด้วยค่ะ
คุณประโยชน์ของแดนดิไลออน
1. ราก มีสรรพคุณช่วยลดน้ำหนักและควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ดี ตรงนี้จากที่เราอ่านและแปลมาจากเว็บเมืองนอก ได้ความว่า รากแดนดิไลออน จะมีสารทาราซาซิน (Taraxacin) ช่วยในการหลั่งน้ำดี ขออธิบายก่อนว่า ตัว “น้ำดี” คือน้ำย่อยที่ช่วยย่อยและแตกตัวไขมันที่เรากินเข้าไป โดยน้ำดีจะผลิตที่ตับ เมื่อตับของเราได้รับการฟื้นฟูจากรากแดนดิไลออน ทำให้ตับผลิตน้ำดีได้เยอะขึ้น จากนั้นพอเรากินอาหาร อาหารจะโดนย่อยและเคลื่อนตัวไปที่ลำไส้เล็ก น้ำดีจะหลั่งเข้ามาในลำไส้เล็ก เข้าไปย่อยและแตกตัวไขมัน ก็พวกไขมันจากอาหารที่เรากินเข้าไปนั่นแหละ หากการย่อยไขมันและน้ำมันไม่ดีจะทำให้สารอาหารอื่นถูกย่อยได้ไม่สมบูรณ์ไปด้วย เพราะไขมันจะห่อหุ้มก้อนอาหารไว้ ทำให้เอนไซม์อื่นๆ ไม่สามารถเข้าไปย่อยสลายได้ รากของแดนดิไลออนจึงนิยมนำมาผสมทำอาหารเสริมลดน้ำหนักช่วยย่อยไขมัน แต่ตัวเราไม่ค่อยนิยมลดความอ้วนด้วยอาหารเสริมแบบนั้น เราชอบกินแดนดิไลออนแบบเพียวๆ หรือแบบชาแดนดิไลออน เน้นแบบธรรมชาติมากกว่า และเราว่าได้ผลดีกว่าด้วย
2. ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล ในเลือดได้ โดยรากแดนดิไลออนจะมีสารอินนูลิน ซึ่งจะดูดซับน้ำและน้ำตาล จนมีลักษณะเป็นเจล ทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลได้ช้าและน้อยลง และแดนดิไลออนมีฤทธิ์ขับปัสสาวะในธรรมชาติ โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานซึ่งจะช่วยให้ดึงน้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกายข้อนี้ลองกับแม่ตัวเองแล้ว ได้ผลจริง น้ำตาลลดจริง
3. แดนดิไลออน ช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญ จึงมีผลในการช่วยลดหุ่น
4. แดนดิไลออนขึ้นทะเบียนเป็นยารักษาโรคตับในประเทศอังกฤษมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 มีสรรพคุณเป็นยา
5. สำหรับกลุ่มคนที่ตับโดนทำลายจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการทานอาหารเสริมหรือยา ที่สะสมที่ตับเป็นเวลานาน ทำให้ตับทำงานไม่เต็มที่ สาร Taraxacin ในแดนดิไลออน จะช่วยฟื้นฟูตับ ทำให้ดูดซึมยาและวิตามินได้ดีขึ้น ส่วนคนปกติที่ไม่กินเหล้า ก็กินแดนดิไลออนได้ เพราะช่วยบำรุงตับโดยตรง
6. ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยกรองสารพิษออกจากเลือด ดูดซับสารพิษออกจากตับและไต
7. แดนดิไลออนมีเกลือโพแทสเซียมสูงมาก จึงมีผลในการเสริมภูมิต้านทาน ในขณะเดียวกันแดนดิไลออนมีสารแมนนิทอล (Mannitol) ค่อนข้างสูง มีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะอย่างแรง แต่เพราะมันมีโพแทสเซียมสูง การขับปัสสาวะของมันจึงไม่ทำให้ร่างกายเสียโพแทสเซียมเหมือนกับยาขับปัสสาวะตัวอื่นๆ จึงนิยมใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ลดอาการบวมน้ำ โดยไม่ต้องห่วงว่าร่างกายจะขาดเกลือโพแทสเซียม
8. ช่วยทำความสะอาดตับและผนังกระเพาะ รากของแดนดิไลออนสามารถใช้ในการดีท็อกตับและผนังกระเพาะ และให้น้ำดีหลั่งออกมาจากตับได้ดีขึ้น
9. ช่วยในการทำงานของไต แดนดิไลออนถูกใช้ในการเป็นยาช่วยขับปัสสาวะ คือ เพื่อใช้เพิ่มปริมาณของการขับปัสสาวะเพื่อที่จะลดปริมาณของน้ำที่มากเกินไป แดนดิไลออนจะช่วยขจัดน้ำที่ไม่จำเป็นออกจากร่างกาย
10. ช่วยป้องกันการอักเสบ The University of Maryland Medical Center ได้แสดงผลงานวิจัยเกี่ยวกับแดนดิไลออน ว่า สามารถช่วยป้องกันการอักเสบได้
11. ชาวอเมริกันท้องถิ่นต้มแดนดิไลออนในน้ำเดือดและใช้ส่วนผสมนั้นลดอาการบวม
12. แพทย์จีนจะใช้แดนดิไลออนเพื่อรักษาโรคเกี่ยวกับกระเพาะ ไส้ติ่ง และทรวงอก เป็นต้น
13. ในยุโรป นำ “แดนดิไลออน” มาใช้ในการลดไข้ รักษาโรคเกี่ยวกับตา โรคเบาหวานและโรคท้องร่วง
14. แดนดิไลออนมีวิตามินเอ บี ซีและดีสูง สามารถรักษาโรคต่างๆ ทั้งยังช่วยล้างพิษในร่างกายได้
15. ความสามารถของดอกแดนดิไลออน คือบล็อกบาซิลลัสสืบพันธุ์ตุ่มไวรัสบางชนิด ปรสิตและบางกลุ่มของเซลล์มะเร็ง
16. ลดการอักเสบในร่างกายจากสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า ลูทีโอลิน (Luteolin) คือ Flavonoid พบมากในพืชหลายชนิด เช่น แครอท พริกไทย celeryน้ำมันมะกอก ใบสะระแหน่โรสแมรี่ (rosemary) แดนดิไลออน ( dandelion )และ คาโมมายด์(chamomile)
17. ส่วนรากของมันมีสารรสขม ชื่อ ทาราซาซิน (Taraxacin),สตีรอล (Sterol), อินนูลิน (Inulin), เปคติน (Pectin), ไกลโคไซด์, โคลีน, กรดฟีโนลิค (Phenolic Acid) และแอสปาราจีน(Asparagine) ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย
18. ช่วยรักษาอาการอักเสบของข้อ รักษาเกาต์ เพราะสามารถเร่งการขับผลึกยูเรตออกจากร่างกายจึงบรรเทาการอักเสบในข้อต่างๆได้
19. ใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ
20. แดนดิไลออน เป็นสมุนไพรที่ล้างสารพิษที่วิเศษ อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุมากมาย เช่น วิตามินเอ บี ซี ดี เหล็ก แม็กนีเซียม สังกะสี โพแทสเซียม แมงกานีส ทองแดง โคลีน แคลเซียม โบรอน และซิลิกอน รสชาติขมของแดนดิไลออน. จะกระตุ้นระบบย่อยอาหาร ทำความสะอาดตับ และถุงน้ำดี และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ขณะที่ไต ตับอ่อน และม้าม ก็ต้องการสิ่งเหล่านี้เช่นกัน มีประโยชน์ต่อสุขภาพ. ช่วยลดการกักเก็บน้ำ ดูแลปัญหาผิว เช่น กลาก และโรคสะเก็ดเงิน ปรับสภาพเลือดให้มีความเป็นด่าง บรรเทาอาการภูมิแพ้ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดไขมันพอกตับ
21. มีข้อมูลว่าบางคน เอารากมาทำเป็นชาดื่ม จากที่มีกระฝ้าสีดำบนใบหน้า ที่มักเกิดกับคนที่อายุเยอะ มันจะค่อยๆจางลง เมื่อทานต่อเนื่อง และมีบางข้อมูลบอกว่า ลดสิวฮอร์โมนได้ด้วย เพราะแดนดิไลออนจะเน้นล้างพิษตับ เมื่อมีการขจัดสารพิษออก ร่างกายก็สมดุล
22. จะมีแดนดิไลออนชนิดพันธุ์รัสเซีย (Russian Dandelion) ซึ่งเป็นชนิดพันธุ์ที่รากสามารถผลิตน้ำยางได้ในปริมาณสูงและมีคุณภาพดีพอๆกับน้ำยางพาราของบ้านเรา ได้มีการนำมาตัดแต่งพันธุกรรม เพื่อให้น้ำยางมากขึ้น และใช้ผลิตถุงมือยางและยางรถยนต์ แต่เป็นคนละสายพันธุ์กับที่เรากินนะคะ ลองหาใน Google ดูได้ค่ะว่า “tire dandelion” ตามรูปเลยค่ะ มีโลโก้ยี่ห้อเป็นรูปแดนดิไลออนด้วย ลายของยางรถก็เป็นรูปดอกแดนดิไลออน สุดยอดเลยใช่ไหมเจ้าแดนดิไลออนเนี่ย
ข้อควรระวังของแดนดิไลออน
1. คนที่เป็นโรคไต ไม่ควรกินแดนดิไลออน : แม้ว่าแดนดิไลออนจะช่วยฟื้นฟูบำรุงไต แต่นั้นหมายถึงบำรุงสำหรับคนที่ค่าไตปกติ ไม่ใช่คนที่เป็นโรคไต คนที่เป็นโรคไตนั้นจะต้องเลี่ยงอาหารพืชผักที่มีโพแทสเซียมสูง หากไตเสื่อมไตจะกรองเอาโพแทสเซียมออกจากร่างกายได้น้อยลงทำให้ร่างกายมีปริมาณโพแทสเซียมสูงเกินไป จนอาจทำให้มีอาการเหนื่อยหอบ อ่อนเพลีย ใจสั่น คลื่นไส้ได้ ประกอบกับแดนดิไลออนจัดเป็นพืชที่นำมาสกัดยาโพแทสเซียม เพราะมีโพแทสเซียมสูง จึงไม่แนะนำให้คนที่เป็นโรคไตกินแดนดิไลออน แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนที่เป็นโรคไตจะต้องห้ามกินโพแทสเซียมเลย เพราะการได้รับโพแทสเซียมในระดับที่เหมาะสมจะช่วยลดอาการบวมน้ำในร่างกายของผู้ป่วย ช่วยปรับสมดุลของน้ำในร่างกายให้เป็นปกติ และป้องกันไม่ให้ร่างกายเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว อันนี้ใครเป็นโรคไต ต้องปรึกษาแพทย์ เพราะต้องตรวจเลือด วัดค่าโพแทสเซียมดู
2. คนที่เป็นโรคหัวใจ ไม่ควรกินแดนดิไลออน : โพแทสเซียมกับโซเดียม ทำงานร่วมกัน ควบคุมของเหลวในเซลล์ โดยถ้าค่าอย่างนึงสูง อีกอย่างจะต่ำ สลับกัน และโพแทสเซียมยังจำเป็นสำหรับการหดตัวของกล้ามเนื้อ และการส่งสัญญาณกระแสประสาท ทั้งเป็นตัวสำคัญในการควบคุมการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ แต่ถ้าคุณเป็นโรคหัวใจ ก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์ ถึงการได้รับโพแทสเซียมที่เหมาะสมนั่นเอง
3. กลุ่มคนท้อง : อันนี้ไม่มีผลวิจัย แต่แดนดิไลออนมีฤทธิ์ในการลดน้ำหนัก คนท้องก็ไม่ควรกินอยู่แล้ว เพราะปกติคนท้องจะกินยา กินวิตามินอะไร ก็ต้องปรึกษาแพทย์ แม้แต่ครีมหรือยาทาภายนอกบางตัว หมอยังไม่แนะนำ ทางที่ดี คนท้องควรระวังในทุกๆด้านไว้ก่อนจะดีกว่า
วิธีกิน : จากที่รวบรวมมา รวมถึงทดลองทานด้วยตัวเองค่ะ
1. ใบอ่อน เก็บมากินกับสลัดผัก (ต้องเก็บกินตอนฤดูที่ไม่มีแดด คนพื้นเมืองจะรู้ดีว่าแดดแรงๆ ทำให้ใบของมันมีรสขมมากยิ่งขึ้น เดาว่ามันคงสังเคราะห์แสงมั้ง เลยยิ่งขม)
2. เอาใบอ่อน มาลวกกินกับน้ำพริก
3. ใบแก่ขึ้นหน่อย แต่ไม่แก่มาก เอามาแกงแบบแกงขี้เหล็ก มันจะรสชาติขมนิดๆ ลองแกงดูจะรู้เลยว่าคล้ายขี้เหล็กจริงด้วย คนไทยที่อยู่ต่างประเทศจะเรียกว่า “ผักขี้เหล็กฝรั่ง”
4. ราก อันนี้คือทีเด็ด เพราะรากจะมีสารชื่อว่า ทาราซาซิน (Taraxacin) และอินูลิน (Inulin) เยอะมากกว่าส่วนอื่น ต่างประเทศแถบยุโรปและคนญี่ปุ่นเกาหลี จะเอารากมาทำชาสำเร็จรูป กินสะดวกง่ายขึ้น
5. ดอก เอาไปกวน เชื่อมผสมกับน้ำผึ้ง น้ำตาลทำเป็นแยมได้ค่ะ จะสีเหลืองสวยมากค่ะ
สุดท้าย
ที่เมืองนอก ไม่ใช่ว่าเห็นต้นแดนดิไลออน แล้วจะเด็ดจะเก็บกินหมด เพราะถ้าข้างถนนพืชจะดูดเก็บสารพิษ หรือมีสารตกค้างจากพวกยาฆ่าแมลง อันตรายมาก และเรากลัวสุดคือกลัวหมาจะเยี่ยว จะขี้ใส่ 5555 แนะนำซื้อแบบปลูกเป็นฟาร์มหรือหาเก็บในป่าค่ะ จะปลอดภัยสุด ที่ไทยไม่เคยเห็นต้นนี้ค่ะ เหมือนจะปลูกไม่ได้ เคยเห็นจะมีหญ้าข้างทางที่มีดอกปลิวตามลมคล้ายกัน แต่ก็ไม่ใช่แดนดิไลออน
จึงอยากมาแบ่งกันความรู้ ช่วงนี้เราคลั่งแดนดิไลออนมาก ส่วนตัวชอบกินผักมาก ผักบ้าน ผักป่า ช่วงนี้กลับมาอยู่ไทย คิดถึงผักบ้านเรามาก กินทุกมื้อเลย หลังปีใหม่กลับไป ว่าจะขนไปให้หมด 555 ถ้าเจออะไรดีๆอีก จะมาตั้งกระทู้แนะนำอีกนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
แม่บ้านต่างแดน มักผักมักหญ้า
แดนดิไลออนคืออะไร มีประโยชน์และโทษอย่างไร มีคำตอบ
หลายคนคงสงสัย ว่าแดนดิไลออนคืออะไร แดนดิไลออนมีประโยชน์อย่างไร
เคยเห็นมานานแถวสวน มันจะมีดอกสีเหลือง พอกลีบดอกร่วง ก็จะมีเมล็ดเป็นพุ่มสีขาว มันจะผลิบานออก เวลาลมพัดก็จะปลิวไปตามลม เคยเด็ดมาเป่า ดอกสีขาวจะปลิวไปตามลมเหลือไว้แต่ก้านดอก การปลิวไปตามลมคือการขยายพันธุ์ของพืชชนิดนี้ เคยมีแถวบ้าน รำคาญมาก ชอบปลิวมาติดเสื้อผ้าที่ตากไว้ หงุดหงิดมาก ถ้าใครเคยดูการ์ตูนโดเรม่อน จะมีตอนนึงที่โนบิตะปลูกแดนดิไลออน คนญี่ปุ่น คนเกาหลี นิยมกินกันมากเพื่อลดน้ำหนัก ลดน้ำตาลในเลือด และล้างพิษตับ
ไม่คิดว่าจะกินได้ เราไปอ่านเจอจากที่นี่ ลองเข้าไปอ่านดูได้
https://www.facebook.com/715995008523880/posts/ต้นฟันสิงโต-นอกจากใช้ทำอาหารแล้วยังเป็นยาสมุนไพรชั้นเริศใด้อีกหลายขนานสมุนไพรแดน/852648618191851/
จากนั้นเราก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมจากพวกเว็บไซต์ต่างประเทศ พบว่าคนอังกฤษเอามาใช้หมักไวน์แดนดิไลออนด้วย และจากที่เราอ่านยังพบว่ามีผลการวิจัยจริง ซึ่งมีการเอารากแดนดิไลออนมาบดทำยาลดน้ำหนัก , ยาขับปัสสาวะ , ยาดีท็อกตับไต ลองหาข้อมูลในเน็ต ไปเจออาหารเสริมลดน้ำหนักหลายยี่ห้อมาก ที่มีแดนดิไลออนเป็นส่วนผสม โอเคค่ะ ไม่รอช้า เราจะแนะนำวิธีกิน และเราได้รวบรวมคุณประโยชน์จากแหล่งต่างๆไว้ให้ด้วยค่ะ
คุณประโยชน์ของแดนดิไลออน
1. ราก มีสรรพคุณช่วยลดน้ำหนักและควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ดี ตรงนี้จากที่เราอ่านและแปลมาจากเว็บเมืองนอก ได้ความว่า รากแดนดิไลออน จะมีสารทาราซาซิน (Taraxacin) ช่วยในการหลั่งน้ำดี ขออธิบายก่อนว่า ตัว “น้ำดี” คือน้ำย่อยที่ช่วยย่อยและแตกตัวไขมันที่เรากินเข้าไป โดยน้ำดีจะผลิตที่ตับ เมื่อตับของเราได้รับการฟื้นฟูจากรากแดนดิไลออน ทำให้ตับผลิตน้ำดีได้เยอะขึ้น จากนั้นพอเรากินอาหาร อาหารจะโดนย่อยและเคลื่อนตัวไปที่ลำไส้เล็ก น้ำดีจะหลั่งเข้ามาในลำไส้เล็ก เข้าไปย่อยและแตกตัวไขมัน ก็พวกไขมันจากอาหารที่เรากินเข้าไปนั่นแหละ หากการย่อยไขมันและน้ำมันไม่ดีจะทำให้สารอาหารอื่นถูกย่อยได้ไม่สมบูรณ์ไปด้วย เพราะไขมันจะห่อหุ้มก้อนอาหารไว้ ทำให้เอนไซม์อื่นๆ ไม่สามารถเข้าไปย่อยสลายได้ รากของแดนดิไลออนจึงนิยมนำมาผสมทำอาหารเสริมลดน้ำหนักช่วยย่อยไขมัน แต่ตัวเราไม่ค่อยนิยมลดความอ้วนด้วยอาหารเสริมแบบนั้น เราชอบกินแดนดิไลออนแบบเพียวๆ หรือแบบชาแดนดิไลออน เน้นแบบธรรมชาติมากกว่า และเราว่าได้ผลดีกว่าด้วย
2. ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล ในเลือดได้ โดยรากแดนดิไลออนจะมีสารอินนูลิน ซึ่งจะดูดซับน้ำและน้ำตาล จนมีลักษณะเป็นเจล ทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลได้ช้าและน้อยลง และแดนดิไลออนมีฤทธิ์ขับปัสสาวะในธรรมชาติ โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานซึ่งจะช่วยให้ดึงน้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกายข้อนี้ลองกับแม่ตัวเองแล้ว ได้ผลจริง น้ำตาลลดจริง
3. แดนดิไลออน ช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญ จึงมีผลในการช่วยลดหุ่น
4. แดนดิไลออนขึ้นทะเบียนเป็นยารักษาโรคตับในประเทศอังกฤษมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 มีสรรพคุณเป็นยา
5. สำหรับกลุ่มคนที่ตับโดนทำลายจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการทานอาหารเสริมหรือยา ที่สะสมที่ตับเป็นเวลานาน ทำให้ตับทำงานไม่เต็มที่ สาร Taraxacin ในแดนดิไลออน จะช่วยฟื้นฟูตับ ทำให้ดูดซึมยาและวิตามินได้ดีขึ้น ส่วนคนปกติที่ไม่กินเหล้า ก็กินแดนดิไลออนได้ เพราะช่วยบำรุงตับโดยตรง
6. ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยกรองสารพิษออกจากเลือด ดูดซับสารพิษออกจากตับและไต
7. แดนดิไลออนมีเกลือโพแทสเซียมสูงมาก จึงมีผลในการเสริมภูมิต้านทาน ในขณะเดียวกันแดนดิไลออนมีสารแมนนิทอล (Mannitol) ค่อนข้างสูง มีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะอย่างแรง แต่เพราะมันมีโพแทสเซียมสูง การขับปัสสาวะของมันจึงไม่ทำให้ร่างกายเสียโพแทสเซียมเหมือนกับยาขับปัสสาวะตัวอื่นๆ จึงนิยมใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ลดอาการบวมน้ำ โดยไม่ต้องห่วงว่าร่างกายจะขาดเกลือโพแทสเซียม
8. ช่วยทำความสะอาดตับและผนังกระเพาะ รากของแดนดิไลออนสามารถใช้ในการดีท็อกตับและผนังกระเพาะ และให้น้ำดีหลั่งออกมาจากตับได้ดีขึ้น
9. ช่วยในการทำงานของไต แดนดิไลออนถูกใช้ในการเป็นยาช่วยขับปัสสาวะ คือ เพื่อใช้เพิ่มปริมาณของการขับปัสสาวะเพื่อที่จะลดปริมาณของน้ำที่มากเกินไป แดนดิไลออนจะช่วยขจัดน้ำที่ไม่จำเป็นออกจากร่างกาย
10. ช่วยป้องกันการอักเสบ The University of Maryland Medical Center ได้แสดงผลงานวิจัยเกี่ยวกับแดนดิไลออน ว่า สามารถช่วยป้องกันการอักเสบได้
11. ชาวอเมริกันท้องถิ่นต้มแดนดิไลออนในน้ำเดือดและใช้ส่วนผสมนั้นลดอาการบวม
12. แพทย์จีนจะใช้แดนดิไลออนเพื่อรักษาโรคเกี่ยวกับกระเพาะ ไส้ติ่ง และทรวงอก เป็นต้น
13. ในยุโรป นำ “แดนดิไลออน” มาใช้ในการลดไข้ รักษาโรคเกี่ยวกับตา โรคเบาหวานและโรคท้องร่วง
14. แดนดิไลออนมีวิตามินเอ บี ซีและดีสูง สามารถรักษาโรคต่างๆ ทั้งยังช่วยล้างพิษในร่างกายได้
15. ความสามารถของดอกแดนดิไลออน คือบล็อกบาซิลลัสสืบพันธุ์ตุ่มไวรัสบางชนิด ปรสิตและบางกลุ่มของเซลล์มะเร็ง
16. ลดการอักเสบในร่างกายจากสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า ลูทีโอลิน (Luteolin) คือ Flavonoid พบมากในพืชหลายชนิด เช่น แครอท พริกไทย celeryน้ำมันมะกอก ใบสะระแหน่โรสแมรี่ (rosemary) แดนดิไลออน ( dandelion )และ คาโมมายด์(chamomile)
17. ส่วนรากของมันมีสารรสขม ชื่อ ทาราซาซิน (Taraxacin),สตีรอล (Sterol), อินนูลิน (Inulin), เปคติน (Pectin), ไกลโคไซด์, โคลีน, กรดฟีโนลิค (Phenolic Acid) และแอสปาราจีน(Asparagine) ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย
18. ช่วยรักษาอาการอักเสบของข้อ รักษาเกาต์ เพราะสามารถเร่งการขับผลึกยูเรตออกจากร่างกายจึงบรรเทาการอักเสบในข้อต่างๆได้
19. ใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ
20. แดนดิไลออน เป็นสมุนไพรที่ล้างสารพิษที่วิเศษ อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุมากมาย เช่น วิตามินเอ บี ซี ดี เหล็ก แม็กนีเซียม สังกะสี โพแทสเซียม แมงกานีส ทองแดง โคลีน แคลเซียม โบรอน และซิลิกอน รสชาติขมของแดนดิไลออน. จะกระตุ้นระบบย่อยอาหาร ทำความสะอาดตับ และถุงน้ำดี และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ขณะที่ไต ตับอ่อน และม้าม ก็ต้องการสิ่งเหล่านี้เช่นกัน มีประโยชน์ต่อสุขภาพ. ช่วยลดการกักเก็บน้ำ ดูแลปัญหาผิว เช่น กลาก และโรคสะเก็ดเงิน ปรับสภาพเลือดให้มีความเป็นด่าง บรรเทาอาการภูมิแพ้ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดไขมันพอกตับ
21. มีข้อมูลว่าบางคน เอารากมาทำเป็นชาดื่ม จากที่มีกระฝ้าสีดำบนใบหน้า ที่มักเกิดกับคนที่อายุเยอะ มันจะค่อยๆจางลง เมื่อทานต่อเนื่อง และมีบางข้อมูลบอกว่า ลดสิวฮอร์โมนได้ด้วย เพราะแดนดิไลออนจะเน้นล้างพิษตับ เมื่อมีการขจัดสารพิษออก ร่างกายก็สมดุล
22. จะมีแดนดิไลออนชนิดพันธุ์รัสเซีย (Russian Dandelion) ซึ่งเป็นชนิดพันธุ์ที่รากสามารถผลิตน้ำยางได้ในปริมาณสูงและมีคุณภาพดีพอๆกับน้ำยางพาราของบ้านเรา ได้มีการนำมาตัดแต่งพันธุกรรม เพื่อให้น้ำยางมากขึ้น และใช้ผลิตถุงมือยางและยางรถยนต์ แต่เป็นคนละสายพันธุ์กับที่เรากินนะคะ ลองหาใน Google ดูได้ค่ะว่า “tire dandelion” ตามรูปเลยค่ะ มีโลโก้ยี่ห้อเป็นรูปแดนดิไลออนด้วย ลายของยางรถก็เป็นรูปดอกแดนดิไลออน สุดยอดเลยใช่ไหมเจ้าแดนดิไลออนเนี่ย
ข้อควรระวังของแดนดิไลออน
1. คนที่เป็นโรคไต ไม่ควรกินแดนดิไลออน : แม้ว่าแดนดิไลออนจะช่วยฟื้นฟูบำรุงไต แต่นั้นหมายถึงบำรุงสำหรับคนที่ค่าไตปกติ ไม่ใช่คนที่เป็นโรคไต คนที่เป็นโรคไตนั้นจะต้องเลี่ยงอาหารพืชผักที่มีโพแทสเซียมสูง หากไตเสื่อมไตจะกรองเอาโพแทสเซียมออกจากร่างกายได้น้อยลงทำให้ร่างกายมีปริมาณโพแทสเซียมสูงเกินไป จนอาจทำให้มีอาการเหนื่อยหอบ อ่อนเพลีย ใจสั่น คลื่นไส้ได้ ประกอบกับแดนดิไลออนจัดเป็นพืชที่นำมาสกัดยาโพแทสเซียม เพราะมีโพแทสเซียมสูง จึงไม่แนะนำให้คนที่เป็นโรคไตกินแดนดิไลออน แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนที่เป็นโรคไตจะต้องห้ามกินโพแทสเซียมเลย เพราะการได้รับโพแทสเซียมในระดับที่เหมาะสมจะช่วยลดอาการบวมน้ำในร่างกายของผู้ป่วย ช่วยปรับสมดุลของน้ำในร่างกายให้เป็นปกติ และป้องกันไม่ให้ร่างกายเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว อันนี้ใครเป็นโรคไต ต้องปรึกษาแพทย์ เพราะต้องตรวจเลือด วัดค่าโพแทสเซียมดู
2. คนที่เป็นโรคหัวใจ ไม่ควรกินแดนดิไลออน : โพแทสเซียมกับโซเดียม ทำงานร่วมกัน ควบคุมของเหลวในเซลล์ โดยถ้าค่าอย่างนึงสูง อีกอย่างจะต่ำ สลับกัน และโพแทสเซียมยังจำเป็นสำหรับการหดตัวของกล้ามเนื้อ และการส่งสัญญาณกระแสประสาท ทั้งเป็นตัวสำคัญในการควบคุมการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ แต่ถ้าคุณเป็นโรคหัวใจ ก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์ ถึงการได้รับโพแทสเซียมที่เหมาะสมนั่นเอง
3. กลุ่มคนท้อง : อันนี้ไม่มีผลวิจัย แต่แดนดิไลออนมีฤทธิ์ในการลดน้ำหนัก คนท้องก็ไม่ควรกินอยู่แล้ว เพราะปกติคนท้องจะกินยา กินวิตามินอะไร ก็ต้องปรึกษาแพทย์ แม้แต่ครีมหรือยาทาภายนอกบางตัว หมอยังไม่แนะนำ ทางที่ดี คนท้องควรระวังในทุกๆด้านไว้ก่อนจะดีกว่า
วิธีกิน : จากที่รวบรวมมา รวมถึงทดลองทานด้วยตัวเองค่ะ
1. ใบอ่อน เก็บมากินกับสลัดผัก (ต้องเก็บกินตอนฤดูที่ไม่มีแดด คนพื้นเมืองจะรู้ดีว่าแดดแรงๆ ทำให้ใบของมันมีรสขมมากยิ่งขึ้น เดาว่ามันคงสังเคราะห์แสงมั้ง เลยยิ่งขม)
2. เอาใบอ่อน มาลวกกินกับน้ำพริก
3. ใบแก่ขึ้นหน่อย แต่ไม่แก่มาก เอามาแกงแบบแกงขี้เหล็ก มันจะรสชาติขมนิดๆ ลองแกงดูจะรู้เลยว่าคล้ายขี้เหล็กจริงด้วย คนไทยที่อยู่ต่างประเทศจะเรียกว่า “ผักขี้เหล็กฝรั่ง”
4. ราก อันนี้คือทีเด็ด เพราะรากจะมีสารชื่อว่า ทาราซาซิน (Taraxacin) และอินูลิน (Inulin) เยอะมากกว่าส่วนอื่น ต่างประเทศแถบยุโรปและคนญี่ปุ่นเกาหลี จะเอารากมาทำชาสำเร็จรูป กินสะดวกง่ายขึ้น
5. ดอก เอาไปกวน เชื่อมผสมกับน้ำผึ้ง น้ำตาลทำเป็นแยมได้ค่ะ จะสีเหลืองสวยมากค่ะ
สุดท้าย
ที่เมืองนอก ไม่ใช่ว่าเห็นต้นแดนดิไลออน แล้วจะเด็ดจะเก็บกินหมด เพราะถ้าข้างถนนพืชจะดูดเก็บสารพิษ หรือมีสารตกค้างจากพวกยาฆ่าแมลง อันตรายมาก และเรากลัวสุดคือกลัวหมาจะเยี่ยว จะขี้ใส่ 5555 แนะนำซื้อแบบปลูกเป็นฟาร์มหรือหาเก็บในป่าค่ะ จะปลอดภัยสุด ที่ไทยไม่เคยเห็นต้นนี้ค่ะ เหมือนจะปลูกไม่ได้ เคยเห็นจะมีหญ้าข้างทางที่มีดอกปลิวตามลมคล้ายกัน แต่ก็ไม่ใช่แดนดิไลออน
จึงอยากมาแบ่งกันความรู้ ช่วงนี้เราคลั่งแดนดิไลออนมาก ส่วนตัวชอบกินผักมาก ผักบ้าน ผักป่า ช่วงนี้กลับมาอยู่ไทย คิดถึงผักบ้านเรามาก กินทุกมื้อเลย หลังปีใหม่กลับไป ว่าจะขนไปให้หมด 555 ถ้าเจออะไรดีๆอีก จะมาตั้งกระทู้แนะนำอีกนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
แม่บ้านต่างแดน มักผักมักหญ้า