เรื่อง บ้านเช่า….ผีหลอกหลอน
บทประพันธ์ นัฐพันธ์
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ผมเดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อมาหางานทำที่กรุงเทพ การมีชีวิตในเมืองใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีอุสรรคต่างๆมากมายที่เราต้องพบเจอ
พบเดินหาบ้านเช่าอยู่นานในตอนสายของวันหนึ่ง เดินตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่พบที่ถูกตาถูกใจ ทั้งสถานที่และค่าเช่าอันเป็นปัจจัยหลัก ผมหมดกำลัง ท้อ
แทบจะเดินไม่ไหว แต่แล้วความหวังอันริบหรี่ก็ทำให้ผมเจอบ้านเช่าหลังหนึ่ง และนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นอกสั่นขวัญผวาของผม
บ้านหลังที่ผมมาเช่า เป็นบ้านไม้เก่า ครึ่งล่างประกอบปูนเปลือย และด้านบนเป็นไม้ บ้านถูกทาสี ทำความสะอาดสวยงาม สนนราคาไม่แพง ทำให้ผม
ตัดสินใจเช่าอยู่ทันที ป้าเจ้าของบ้านดูเป็นผู้หญิงใจดีและมีเมตราเป็นอย่างยิ่ง ผมจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าสามเดือนตามข้อตกลงต่างๆ บริเวณบ้าน มีที่เดิน
เล่น บ้านหลังนี้จัดว่าเป็นที่ถูกอกถูกใจผมเป็นอย่างยิ่ง ผมเริ่มต้นชีวิตในการทงานในเมืองใหญ่เป็นพนักงานโรงงานบ้านที่ผมเช่าอยู่ไม่ไกลจากโรงงาน
ทำให้ผมสามารถเดินทางไปกลับอย่างาสะดวก ช่วงหนึ่งที่โรงงานมีงานเข้ามาอย่างมาก ทำให้พนักงานต้องทำโอที รวมถึงผมด้วย กว่าผมจะเลิกงานก็ดึก
มากแล้ว ผมอาศัยการเดินเท้าเข้ามาในซอย ผมอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าหลังนั้นร่วมสัปดาห์ ไม่เห็นความผิดปกติใดๆจนวันนี้ที่ผมมีความรู้สึกแปลกๆ ผมก้าว
เท้ามายืนที่หน้าบ้าน มองภาพบ้านที่ผมเช่าอยู่ ไฟเปิดสว่างจ้า ที่แรกผมก็คิดว่าผมคงลืมปิดไฟ แต่ยิ่งคิดไปคิดมาก็ไม่น่าจะลืม แต่ช่างมันเหอะไหนๆเปิด
ไปแล้วจะแก้ไขอะไรได้ ผมเดินเข้าไปในบ้าน ในบ้านผมเห็นความเปลี่ยนแปลงของสิ่งของที่อยู่ มันเหมือนถูกเคลื่อนย้ายไปจากจุดเดิม ทีแรกผมก็ไม่
สังหรณ์ใจอะไรหรอก คิดว่าผมคงลืมวางของสลับนั้นโน่นนี้ แต่มันมาพีคตรงที่ มีเสื้อผ้าผู้หญิงในบ้านของผม ผมอกสั่นกลัวเป็นอย่างยิ่ง เสียงดังกุกกักอยู่
บนบ้าน เหมือนมีใครอยู่ด้านบน ทำให้ผมใจเต้นตุบตับ ใจหนึ่งก็กลัว แต่อีกใจก็อยากรู้ว่ามีอะไรอยู่บนบ้าน ผมค่อยๆย่องขึ้นไปด้วยความอยากรู้ มือของผม
ค่อยๆเปิดประตูและทำเอาขนหัวลุกตั้งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนผมสำรวจด้วยสายตามองรอบๆด้วยความกลัว ภายในห้องมืดสลัว ผมเอื้อมมือไป
ที่สวิตช์ไฟ
ค่อยๆกดเปิด เเละมันทำให้ผมต้อง.... ผมตาเหลือกมองดูภาพตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว
"ผี" ผมร้องตะโกนสุดเสียง เป็นผู้หญิง
แก่ผูกคอตายห้อยโตงเตงอยู่ ใบหน้าบวม เลือดไหลนอง เป็นสภาพที่น่าเกลียดน่ากลัว จนผมเเทบจะอวกออกมา ผมทำอะไรไม่ถูก คิดได้เเต่ว่า หนี หนี
ด้วยความหวาดกลัวผมวิ่งลงจากบ้านหลังนั้นออกไปโดยไม่คิดชีวิต และไม่คิดว่าชาตินนี้ผมจะเจอดีเข้าแล้ว
มุมหนึ่งไม่ไกล เจ้าของบ้านเดินออกมาเพราะได้ยินเสียงร้องแหกปากตะโกน ไม่นานร่างของศพเดินได้เลือดไหล ใบหน้าเละหน้ากลัวก็เดินลงจากบ้านเช่า
หลังนั้น สองคนหัวเราะเสียงดัง พร้อมกันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“หนีป่าราบเลยไอ้หนุ่มนั้น”เสียงของป้าเจ้าของบ้านบอกพร้อมทั้งเธอกำลังระเบิดหัวเราะชอบใจ
“เจอแบบนี้ใครจะไม่หนีบ้างเล่า เล่นเจอคนผูกคอตายในบ้านเช่า”คนที่แต่งตัวเป็นผีหัวเราะแบบสะใจ
ไม่นานวิน มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งวิ่งมาจอดส่งผู้โดยสาร และมาจอดคุยกับป้าสองคนซึ่งสนิทคุ้ยเคยกันดีอยู่แล้ว
“นี้ๆได้ไปดูคนโดนรถตายหรือเปล่าป้า” คนขับวินบอกป้าสองคนส่ายหน้า
“ใครหรอ” สองป้าพูดพร้อมกนด้วยความอยากรู้
“ก็ผู้ชายที่มาเช่าบ้านป้าไง นี่ตายมาตั้งแต่ห้าโมงแล้วนะป้า” พูดจบก็ขับรถออกไป ทิ้งให้ป้าสองคนมองหน้ากัน ไม่อยากจะคิดว่าเมื่อกี้ สองคนหลอก
ใคร? ในเมื่อเด็กหนุ่มนั้นตายไปแล้ว สองคนหวีดเสียงดังลั่นด้วยความหวาดกลัว
...................................................................................................................................................................................................
ผมยื่นเงินสองร้อยบาทส่งให้คนขับวินมอเตอร์ไซค์ ผมแอบยิ้มที่มุมปาก แผนการหลอกซ้อนแผนของผม ทำให้ป้าเจ้าของบ้านที่ชอบหลอกผีหวังเงินประกัน
มัดจำคงเข็ดไปอีกนาน
เมื่อผีหลอก เราก็ต้องหลอกผี
“55555”ผมหัวเราะที่ชอบใจเป็นผู้ชนะ
จบ
เรื่องสั้นเขย่าขวัญ "บ้านเช่า...ผีหลอกหลอน"
บทประพันธ์ นัฐพันธ์
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ผมเดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อมาหางานทำที่กรุงเทพ การมีชีวิตในเมืองใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีอุสรรคต่างๆมากมายที่เราต้องพบเจอ
พบเดินหาบ้านเช่าอยู่นานในตอนสายของวันหนึ่ง เดินตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่พบที่ถูกตาถูกใจ ทั้งสถานที่และค่าเช่าอันเป็นปัจจัยหลัก ผมหมดกำลัง ท้อ
แทบจะเดินไม่ไหว แต่แล้วความหวังอันริบหรี่ก็ทำให้ผมเจอบ้านเช่าหลังหนึ่ง และนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นอกสั่นขวัญผวาของผม
บ้านหลังที่ผมมาเช่า เป็นบ้านไม้เก่า ครึ่งล่างประกอบปูนเปลือย และด้านบนเป็นไม้ บ้านถูกทาสี ทำความสะอาดสวยงาม สนนราคาไม่แพง ทำให้ผม
ตัดสินใจเช่าอยู่ทันที ป้าเจ้าของบ้านดูเป็นผู้หญิงใจดีและมีเมตราเป็นอย่างยิ่ง ผมจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าสามเดือนตามข้อตกลงต่างๆ บริเวณบ้าน มีที่เดิน
เล่น บ้านหลังนี้จัดว่าเป็นที่ถูกอกถูกใจผมเป็นอย่างยิ่ง ผมเริ่มต้นชีวิตในการทงานในเมืองใหญ่เป็นพนักงานโรงงานบ้านที่ผมเช่าอยู่ไม่ไกลจากโรงงาน
ทำให้ผมสามารถเดินทางไปกลับอย่างาสะดวก ช่วงหนึ่งที่โรงงานมีงานเข้ามาอย่างมาก ทำให้พนักงานต้องทำโอที รวมถึงผมด้วย กว่าผมจะเลิกงานก็ดึก
มากแล้ว ผมอาศัยการเดินเท้าเข้ามาในซอย ผมอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าหลังนั้นร่วมสัปดาห์ ไม่เห็นความผิดปกติใดๆจนวันนี้ที่ผมมีความรู้สึกแปลกๆ ผมก้าว
เท้ามายืนที่หน้าบ้าน มองภาพบ้านที่ผมเช่าอยู่ ไฟเปิดสว่างจ้า ที่แรกผมก็คิดว่าผมคงลืมปิดไฟ แต่ยิ่งคิดไปคิดมาก็ไม่น่าจะลืม แต่ช่างมันเหอะไหนๆเปิด
ไปแล้วจะแก้ไขอะไรได้ ผมเดินเข้าไปในบ้าน ในบ้านผมเห็นความเปลี่ยนแปลงของสิ่งของที่อยู่ มันเหมือนถูกเคลื่อนย้ายไปจากจุดเดิม ทีแรกผมก็ไม่
สังหรณ์ใจอะไรหรอก คิดว่าผมคงลืมวางของสลับนั้นโน่นนี้ แต่มันมาพีคตรงที่ มีเสื้อผ้าผู้หญิงในบ้านของผม ผมอกสั่นกลัวเป็นอย่างยิ่ง เสียงดังกุกกักอยู่
บนบ้าน เหมือนมีใครอยู่ด้านบน ทำให้ผมใจเต้นตุบตับ ใจหนึ่งก็กลัว แต่อีกใจก็อยากรู้ว่ามีอะไรอยู่บนบ้าน ผมค่อยๆย่องขึ้นไปด้วยความอยากรู้ มือของผม
ค่อยๆเปิดประตูและทำเอาขนหัวลุกตั้งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนผมสำรวจด้วยสายตามองรอบๆด้วยความกลัว ภายในห้องมืดสลัว ผมเอื้อมมือไป
ที่สวิตช์ไฟ
ค่อยๆกดเปิด เเละมันทำให้ผมต้อง.... ผมตาเหลือกมองดูภาพตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว
"ผี" ผมร้องตะโกนสุดเสียง เป็นผู้หญิง
แก่ผูกคอตายห้อยโตงเตงอยู่ ใบหน้าบวม เลือดไหลนอง เป็นสภาพที่น่าเกลียดน่ากลัว จนผมเเทบจะอวกออกมา ผมทำอะไรไม่ถูก คิดได้เเต่ว่า หนี หนี
ด้วยความหวาดกลัวผมวิ่งลงจากบ้านหลังนั้นออกไปโดยไม่คิดชีวิต และไม่คิดว่าชาตินนี้ผมจะเจอดีเข้าแล้ว
มุมหนึ่งไม่ไกล เจ้าของบ้านเดินออกมาเพราะได้ยินเสียงร้องแหกปากตะโกน ไม่นานร่างของศพเดินได้เลือดไหล ใบหน้าเละหน้ากลัวก็เดินลงจากบ้านเช่า
หลังนั้น สองคนหัวเราะเสียงดัง พร้อมกันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“หนีป่าราบเลยไอ้หนุ่มนั้น”เสียงของป้าเจ้าของบ้านบอกพร้อมทั้งเธอกำลังระเบิดหัวเราะชอบใจ
“เจอแบบนี้ใครจะไม่หนีบ้างเล่า เล่นเจอคนผูกคอตายในบ้านเช่า”คนที่แต่งตัวเป็นผีหัวเราะแบบสะใจ
ไม่นานวิน มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งวิ่งมาจอดส่งผู้โดยสาร และมาจอดคุยกับป้าสองคนซึ่งสนิทคุ้ยเคยกันดีอยู่แล้ว
“นี้ๆได้ไปดูคนโดนรถตายหรือเปล่าป้า” คนขับวินบอกป้าสองคนส่ายหน้า
“ใครหรอ” สองป้าพูดพร้อมกนด้วยความอยากรู้
“ก็ผู้ชายที่มาเช่าบ้านป้าไง นี่ตายมาตั้งแต่ห้าโมงแล้วนะป้า” พูดจบก็ขับรถออกไป ทิ้งให้ป้าสองคนมองหน้ากัน ไม่อยากจะคิดว่าเมื่อกี้ สองคนหลอก
ใคร? ในเมื่อเด็กหนุ่มนั้นตายไปแล้ว สองคนหวีดเสียงดังลั่นด้วยความหวาดกลัว
...................................................................................................................................................................................................
ผมยื่นเงินสองร้อยบาทส่งให้คนขับวินมอเตอร์ไซค์ ผมแอบยิ้มที่มุมปาก แผนการหลอกซ้อนแผนของผม ทำให้ป้าเจ้าของบ้านที่ชอบหลอกผีหวังเงินประกัน
มัดจำคงเข็ดไปอีกนาน
เมื่อผีหลอก เราก็ต้องหลอกผี
“55555”ผมหัวเราะที่ชอบใจเป็นผู้ชนะ
จบ