สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
เรื่องพาสปอร์ตมาเลเซียนี่ยังเชื่ออยู่อีกเหรอครับว่ามาเลเซียดีกว่าไทยถึงได้ฟรีวีซ่า เขาเปิดเผยความจริงกันมานานแล้วเรื่องที่มาเลเซียได้ฟรีวีซ่าเยอะนี่น่ะสาเหตุเพราะ
1 มาเลเซียเป็นสมาชิกเครือจักรภพ ซึ่งประเทศเครือจักรภพนี้ถ้าไม่แย่จริงๆอังกฤษมักจะฟรีวีซ่าให้ ถ้าดูจากข้อมูลเลยจะรู้ว่าแต่เดิมบรรดาประเทศเครือจักรภพล้วนได้ฟรีวีซ่าอังกฤษกันมาทั้งนั้นไม่เว้นแม้แต่อินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน ศรีลังกา ส่วนไทยไม่เคยได้ฟรีวีซ่าอังกฤษมาตั้งแต่แรก แถมวีซ่าอังกฤษนั้นมาเลเซียไม่เคยต้องใช้วีซ่าเข้าอังกฤษมาตั้งแต่ก่อตั้งประเทศแล้วครับก่อนญี่ปุ่นจะได้ฟรีวีซ่าด้วยซ้ำ แบบนี้จะบอกว่ามาเลเซียเหนือกว่าญี่ปุ่นมั้ยล่ะ แถมปัจจุบันประเทศที่ฟรีวีซ่าอังกฤษนี่มีประเทศแปลกๆอีกด้วยนามิเบีย มัลดีฟส์ เบลิซ บอตสวานา วานูอาตู ปาปัวนิวกินีนั่นแปลว่าฐานะเศรษฐกิจไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะได้ฟรีวีซ่าอังกฤษ
แม้แต่เชงเก้นวีซ่าเองมาเลเซียก็ไม่เคยต้องขอมาแต่แรกแล้วครับ แถมได้ก่อนฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวันอีกต่างหากจะบอกว่ามาเลเซียเหนือกว่าสามประเทศนี้มั้ย อ้อๆประเทศแย่ๆที่ได้ฟรีเชงเก้นก็มีนะอย่างติมอร์เลสเต ตองกา ชัดเจนว่าฐานะเศรษฐกิจไม่ใช่ปัจจัยหลักในการได้ฟรีวีซ่าเชงเก้น
2 และประเทศที่เป็นเครือจักรภพเองก็มักจะเปิดฟรีวีซ่าให้กันด้วย
3 พอฟรีวีซ่าอังกฤษแล้วประเทศอื่นก็มักจะเปิดฟรีวีซ่าตามเพราะเชื่อมั่นมาตรฐานอังกฤษ
4 เป็นสมาชิก OIC ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ก็มักเปิดฟรีวีซ่าให้กัน
5 คนหนีวีซ่าน้อย สาเหตุเพราะคนจีนมาเลเซียที่ต้องการจะออกจากประเทศมักจะอพยพกันเป็นทางการไม่ค่อยหนีวีซ่า ส่วนคนมลายูมาเลเซียนี่ได้อภิสิทธิ์สุดๆจากนโยบายภูมิบุตร นอกจากพวกเก่งๆระดับชั้นนำแล้วคนมลายูมาเลเซียคนไหนคิดจะทิ้งสิทธิพิเศษต่างๆหนีไปประเทศอื่นนี่ก็โง่สุดๆแล้ว
ผมไม่ได้บอกว่ามาเลเซียดีกว่าไทยรึแย่กว่าไทย แต่จะบอกว่าการที่มาเลเซียได้ฟรีวีซ่ามากกว่าไทยนั้นมันมีเหตุผล ซึ่งก็ไม่ใช่เหตุผลว่าไทยด้อยกว่ารึมาเลเซียดีกว่า
1 มาเลเซียเป็นสมาชิกเครือจักรภพ ซึ่งประเทศเครือจักรภพนี้ถ้าไม่แย่จริงๆอังกฤษมักจะฟรีวีซ่าให้ ถ้าดูจากข้อมูลเลยจะรู้ว่าแต่เดิมบรรดาประเทศเครือจักรภพล้วนได้ฟรีวีซ่าอังกฤษกันมาทั้งนั้นไม่เว้นแม้แต่อินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน ศรีลังกา ส่วนไทยไม่เคยได้ฟรีวีซ่าอังกฤษมาตั้งแต่แรก แถมวีซ่าอังกฤษนั้นมาเลเซียไม่เคยต้องใช้วีซ่าเข้าอังกฤษมาตั้งแต่ก่อตั้งประเทศแล้วครับก่อนญี่ปุ่นจะได้ฟรีวีซ่าด้วยซ้ำ แบบนี้จะบอกว่ามาเลเซียเหนือกว่าญี่ปุ่นมั้ยล่ะ แถมปัจจุบันประเทศที่ฟรีวีซ่าอังกฤษนี่มีประเทศแปลกๆอีกด้วยนามิเบีย มัลดีฟส์ เบลิซ บอตสวานา วานูอาตู ปาปัวนิวกินีนั่นแปลว่าฐานะเศรษฐกิจไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะได้ฟรีวีซ่าอังกฤษ
แม้แต่เชงเก้นวีซ่าเองมาเลเซียก็ไม่เคยต้องขอมาแต่แรกแล้วครับ แถมได้ก่อนฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวันอีกต่างหากจะบอกว่ามาเลเซียเหนือกว่าสามประเทศนี้มั้ย อ้อๆประเทศแย่ๆที่ได้ฟรีเชงเก้นก็มีนะอย่างติมอร์เลสเต ตองกา ชัดเจนว่าฐานะเศรษฐกิจไม่ใช่ปัจจัยหลักในการได้ฟรีวีซ่าเชงเก้น
2 และประเทศที่เป็นเครือจักรภพเองก็มักจะเปิดฟรีวีซ่าให้กันด้วย
3 พอฟรีวีซ่าอังกฤษแล้วประเทศอื่นก็มักจะเปิดฟรีวีซ่าตามเพราะเชื่อมั่นมาตรฐานอังกฤษ
4 เป็นสมาชิก OIC ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ก็มักเปิดฟรีวีซ่าให้กัน
5 คนหนีวีซ่าน้อย สาเหตุเพราะคนจีนมาเลเซียที่ต้องการจะออกจากประเทศมักจะอพยพกันเป็นทางการไม่ค่อยหนีวีซ่า ส่วนคนมลายูมาเลเซียนี่ได้อภิสิทธิ์สุดๆจากนโยบายภูมิบุตร นอกจากพวกเก่งๆระดับชั้นนำแล้วคนมลายูมาเลเซียคนไหนคิดจะทิ้งสิทธิพิเศษต่างๆหนีไปประเทศอื่นนี่ก็โง่สุดๆแล้ว
ผมไม่ได้บอกว่ามาเลเซียดีกว่าไทยรึแย่กว่าไทย แต่จะบอกว่าการที่มาเลเซียได้ฟรีวีซ่ามากกว่าไทยนั้นมันมีเหตุผล ซึ่งก็ไม่ใช่เหตุผลว่าไทยด้อยกว่ารึมาเลเซียดีกว่า
ความคิดเห็นที่ 10
ก่อนอื่น ต้องแบ่งประชากรมาเลเซียออกเป็น 3 กลุ่ม
1.กลุ่มเชื้อสายมาเลย์ คุณภาพโดยรวมไม่ต่างจากประชากรในประเทศเพื่อนบ้านสักเท่าไหร่ ทั้งขี้เกียจและฉลาดแกมโกงเอาเรื่อง เป็นเพราะกรอบความเชื่อทางศาสนาอิสลามที่เข้มข้นอยู่ แม้แต่ ดร.มหาเธร์ยังบ่นเลยว่า ถ้าไม่มีนโยบายภูมิบุตรคอยอุ้มชู้สวัสดิการคนมาเลย์ไว้ ป่านนี้คนเชื้อสายมาเลย์เป็นพลเมืองชั้นล่างอยู่ภายใต้คนเชื้อสายจีนไปแล้ว
2.คนเชื้อสายจีน เป็นเสาหลักที่ทำให้มาเลเซียเจริญมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะมีความสามารถในการค้าขายและสร้างธุรกิจดึงรายได้เข้ามาเลเซียตลอด แต่กลับไม่ได้รับสวัสดิการที่เท่าเทียมกับคนเชื้อสายมาเลย์ และถูกกดขี่เรื่อยๆ ยิ่งมีกฎหมายภูมิบุตร ก็ยิ่งทำให้คนเชื้อสายมาเลย์กับเชื้อสายจีนขัดแย้งมากขึ้น และพร้อมปะทะกันได้ตลอดเวลา เพราะคนมาเลย์หวาดระแวงคนจีนที่มีความสามารถมากขึ้นทุกวัน จนอาจจะปกครองมาเลเซียได้ในอนาคต
3.คนเชื้อสายอินเดีย ส่วนใหญ่ทำงานเกี่ยวกับอาชีพกรรมกรกับกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่คนมาเลย์ไม่ค่อยอยากทำกัน (แต่ก็มีความสำคัญในด้านเศรษฐกิจของมาเลเซียมากโข) แต่โชคร้ายที่ไม่ได้รับสวัสดิการอะไรเทียบเท่ากับคนมาเลย์เฉกเช่นเดียวกับคนเชื้อสายจีน
สรุปเลยคือ ชาวมาเลเซียที่มีคุณภาพเหนือกว่าคนไทยจริงๆ คือคนมาเลเซียเชื้อสายจีน นอกนั้นไม่ได้เหนือกว่ากันเท่าไหร่ ต่างกันแค่ศาสนาเท่านั้น ส่วนเรื่องฟรีวีซ่า ถึงมาเลเซียจะได้รับฟรีวีซ่าเยอะกว่าไทย แต่คนเชื้อสายมาเลย์เดินทางออกไปทำงานนอกประเทศกันน้อย (เพราะอยู่ประเทศตัวเองก็สุขสบาย ไม่ต้องทำอะไรมาก รัฐบาลก็มอบให้พร้อมเสร็จสรรพ) ส่วนใหญ่ที่ออกไปทำงานนอกประเทศกันมีแต่คนเชื้อสายจีนล้วนๆ เพราะอยู่ในประเทศมาเลเซียก็โดนกดขี่ หนีมาสร้างชีวิตใหม่ในต่างแดนดีกว่า และคนเชื้อสายจีนค่อนข้างมีระเบียบ ไม่มีการหนีวีซ่าอยู่แล้ว
1.กลุ่มเชื้อสายมาเลย์ คุณภาพโดยรวมไม่ต่างจากประชากรในประเทศเพื่อนบ้านสักเท่าไหร่ ทั้งขี้เกียจและฉลาดแกมโกงเอาเรื่อง เป็นเพราะกรอบความเชื่อทางศาสนาอิสลามที่เข้มข้นอยู่ แม้แต่ ดร.มหาเธร์ยังบ่นเลยว่า ถ้าไม่มีนโยบายภูมิบุตรคอยอุ้มชู้สวัสดิการคนมาเลย์ไว้ ป่านนี้คนเชื้อสายมาเลย์เป็นพลเมืองชั้นล่างอยู่ภายใต้คนเชื้อสายจีนไปแล้ว
2.คนเชื้อสายจีน เป็นเสาหลักที่ทำให้มาเลเซียเจริญมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะมีความสามารถในการค้าขายและสร้างธุรกิจดึงรายได้เข้ามาเลเซียตลอด แต่กลับไม่ได้รับสวัสดิการที่เท่าเทียมกับคนเชื้อสายมาเลย์ และถูกกดขี่เรื่อยๆ ยิ่งมีกฎหมายภูมิบุตร ก็ยิ่งทำให้คนเชื้อสายมาเลย์กับเชื้อสายจีนขัดแย้งมากขึ้น และพร้อมปะทะกันได้ตลอดเวลา เพราะคนมาเลย์หวาดระแวงคนจีนที่มีความสามารถมากขึ้นทุกวัน จนอาจจะปกครองมาเลเซียได้ในอนาคต
3.คนเชื้อสายอินเดีย ส่วนใหญ่ทำงานเกี่ยวกับอาชีพกรรมกรกับกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่คนมาเลย์ไม่ค่อยอยากทำกัน (แต่ก็มีความสำคัญในด้านเศรษฐกิจของมาเลเซียมากโข) แต่โชคร้ายที่ไม่ได้รับสวัสดิการอะไรเทียบเท่ากับคนมาเลย์เฉกเช่นเดียวกับคนเชื้อสายจีน
สรุปเลยคือ ชาวมาเลเซียที่มีคุณภาพเหนือกว่าคนไทยจริงๆ คือคนมาเลเซียเชื้อสายจีน นอกนั้นไม่ได้เหนือกว่ากันเท่าไหร่ ต่างกันแค่ศาสนาเท่านั้น ส่วนเรื่องฟรีวีซ่า ถึงมาเลเซียจะได้รับฟรีวีซ่าเยอะกว่าไทย แต่คนเชื้อสายมาเลย์เดินทางออกไปทำงานนอกประเทศกันน้อย (เพราะอยู่ประเทศตัวเองก็สุขสบาย ไม่ต้องทำอะไรมาก รัฐบาลก็มอบให้พร้อมเสร็จสรรพ) ส่วนใหญ่ที่ออกไปทำงานนอกประเทศกันมีแต่คนเชื้อสายจีนล้วนๆ เพราะอยู่ในประเทศมาเลเซียก็โดนกดขี่ หนีมาสร้างชีวิตใหม่ในต่างแดนดีกว่า และคนเชื้อสายจีนค่อนข้างมีระเบียบ ไม่มีการหนีวีซ่าอยู่แล้ว
ความคิดเห็นที่ 38
Passport ได้ยกเว้นวีซ่ามาก หรือน้อย ใครหรือปัจจัยอะไรเป็นตัวกำหนด ?
ทำไม๊ทำไม Passport ไทย ถึงสู้ Passport มาเลเซีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ อเมริกา หรือ ประเทศในยุโรปไม่ได้
- เพราะเราจนหรือเปล่า???
- เพราะพวกแรงงาน ผีน้อย ผิดกฎหมาย ขายยา ขายตัว ขายทุกสิ่งในจักรวาล หรือเปล่า ????
เพราะอะไรบ้าง เรามาดูกันทีละข้อนะครับ
1.ความขยันเจรจาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ถ้าใครอ่านเรื่อง ยกเว้นวีซ่ามี 2 ประเภทมาแล้วใน คห. ที่ 37 ก็จะรู้ว่า มันมีการยกเว้นวีซ่า ผ่านข้อตกลงทวิภาคี
แสดงว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศเราเอง ก็ต้องขยันที่จะไปทำความตกลงกับชาวบ้านด้วย ถ้าทำมาก ก็ได้มาก
แต่ถ้าทำน้อย หรือทำไว้เฉพาะ Passport ราชการ และ Passport ฑูต เช่นนี้ ประชาชนทั่วไปก็จะได้รับสิทธิยกเว้นวีซ่าน้อย
2.การยกเว้นวีซ่า ให้กับประเทศอื่น
อันนี้มาสู่การยกเว้นวีซ่าประเภทที่สองคือนึกจะให้ก็ให้ เมื่อเราให้เขา แน่นอน ก็ต้องมีประเทศที่เกิดพอใจ เลยนึกอยากจะให้เราบ้าง แบบนี้ ก็จะนำไปสู่การที่ประชาชนในประเทศเราได้รับอิสรภาพในการเดินทางเพิ่มมากขึ้น
ตัวอย่างของเรื่องนี้ ก็เอาประเทศตามหัวกระทู้เลยครับ มาเลเซีย เขาเปิด ยกเว้นวีซ่า หรือวีซ่าหน้าด่านให้ชาวบ้าน 172 ประเทศ เราเปิดแค่ 78 ประเทศ
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นแค่ปัจจัยหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่า ถ้าวันนี้พรุ่งนี้ เรายกเว้นวีซ่าให้ชาวบ้านเยอะ ๆ แล้ว Passport เราจะดี
(รูปเปรียบเทียบได้หมดได้จาก Passport Index .org ของเขาดีจริง มีให้เทียบหลายเรื่องมาก ลองไปเล่นดูได้ครับ)
https://www.passportindex.org/comparebyDestination.php?p1=my&p2=th&p3=la&p4=kh&p5=vn&fl=&s=yes
3.รายได้เฉลี่ย หรือ GDP
เรื่องนี้มีผลแน่นอนครับ เพราะลองถามตัวเรา เราอยากได้นักท่องเที่ยวแบบไหน เราก็ต้องอยากได้นักท่องเที่ยวที่กระเป่าหนัก
ใช้จ่ายเยอะมาเที่ยวมากกว่านักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายไม่เยอะ จริงไหมครับ?
แต่อย่างไรก็ตาม ติมอร์ตะวันออก รายได้น้อยกว่าเรา ยุโรปตะวันออกบางประเทศ รายได้น้อยกว่าเรา
ทำไม Passport เขาดีกว่าเรา แสดงว่า ยังมีปัจจัยอื่นอีก
4.ความเป็นที่รู้จักของประเทศ และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามา
ว่ากันง่าย ๆ ขอยกเคสประเทศญี่ปุ่น อยากจะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวหลังเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟุกุชิมะ ระเบิด
ญี่ปุ่นก็ต้องอำนวยความสะดวกให้คนชาติอื่น แต่ใครบ้างดีน้า...
สมมุติว่า ถ้าเราเป็นประเทศอะไรก็ไม่รู้ อยู่ตรงไหนของแผนที่โลกก็ไม่รู้ ไปเที่ยวญี่ปุ่น ปีนึงไม่กี่ร้อยคน แบบนั้น ถ้าคุณเป็นญี่ปุ่น คุณจะมานึกถึงประเทศนี้ไหม ในเวลาที่จะต้องปล่อยยกเว้นวีซ่า 15 วัน ให้กับใครสักคนหรือหลาย ๆ คน ประมาณนั้นครับ
5.พฤติกรรมนักท่องเที่ยว
อันนี้ไม่ต้องอธิบายมากมั้งครับ เพราะเวลาพูดถึงเรื่องนี้ แทบจะเป็นเหตุผลแรก ๆ ที่เรามักจะยกมากันอยู่แล้ว
คือมีความก่อกวน ไม่เคารพกติกา ก่ออาชญากรรมมากน้อยแค่ไหน อยู่เกินกำหนด ทำงานผิด กม. เยอะหรือไม่ สิ่งเหล่านี้มีผลแน่นอน
เคสนี้ เท่าที่ทราบที่ทำให้ไทยโดนยกเลิกจริง ๆ แน่ ๆ มีครั้งเดียว คือ นิวซีแลนด์
6.ที่ตั้งของประเทศเราเอง และประชาคมระหว่างประเทศที่เราเข้าร่วม
เรื่องนี้ หลายคนคง งง ว่ามีผลยังไง
ยกตัวอย่าง EU ที่มีสมาชิกเกือบ 30 ประเทศ แถมยังมีข้อตกลงของ Schengen ที่กำหนดว่าถ้าจะได้รับยกเว้นวีซ่าเข้า Schengen Area
ประเทศคุณเองก็ต้องยกเว้นวีซ่าให้พวกเราทั้ง 30 กว่าประเทศนี้ด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้ ประเทศใน EU นอกจากจะยกเว้นวีซ่าให้กันเอง (หรือแม้กระทั่งเปิดพรมแดนระหว่างกันเอง) ไป 30 กว่าประเทศแล้ว
ยังช่วยกันกดดัน ให้ประเทศอื่น ๆ ยกเว้นวีซ่าให้ประเทศสมาชิกไปในตัวผ่านนโยบายของกลุ่มประเทศตนเองด้วย
หันกลับมาดูอาเซียนร่วมใจ ที่มีสมาชิกแค่ 10 ประเทศ ที่ ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้เปิดยกเว้นวีซ่ากันเองครบทั้งภูมิภาค มีแต่การที่แต่ละประเทศ ต้องไปเจรจากันเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้ามีประเทศเกิดใหม่ขึ้นมาประเทศหนึ่งที่ ยุโรป กับ ในอาเซียน พาสปอร์ตของประเทศเกิดใหม่ที่ยุโรป ย่อมมีโอกาสดีกว่า
7.เคยเป็นเมืองขึ้น ???
เรื่องนี้ จริง ๆ แล้ว ก็มีผล ตามที่ มี คห. เก่า ๆ ยกมาครับ
เช่น มาเลเซีย ได้รับยกเว้นวีซ่าจากสหราชอาณาจักร ตลอดมา นับตั้งแต่ได้รับเอกราช
หรือ พม่า ที่ไม่เคยได้ เพราะออกจากเครือจักรภพแทบจะทันทีที่ได้เอกราช
หรืออินเดีย ที่เคยได้ แต่ถูกยกเลิก
ลาว กัมพูชา เวียดนาม ไม่รู้ว่าเคยได้รับยกเว้นวีซ่าจากฝรั่งเศสไหม
แต่เมื่อฝรั่งเศสเข้าสู่ Schengen ต่อให้เคยได้ แต่เมื่อ Schengen ไม่ให้ ก็ไม่ได้
เหมือนที่ไทยเสียสิทธิกับ เยอรมนี เพราะเยอรมนีก็เข้าไปอยู่ใน Schengen Area
8.ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ตัวอย่าง
ญี่ปุ่น - รัสเซีย ยังต้องทำวีซ่าระหว่างกัน ทั้งสองประเทศยังมีปัญหาพิพาทเรื่องดินแดน เกาะเล็กเกาะน้อยเหนือฮอกไกโดขึ้นไป
อาร์เมเนีย - อาเซอร์ไบจาน ที่อยู่ติดกัน แต่มีสงคราม และข้อพิพาทด้านพรมแดนกัน เรื่องวีซ่าเลิกคุยไปเลย เพราะแค่จะขอเข้าไป ยังไม่ให้เข้า ปฏิเสธ 100%
เรื่องเสรีภาพในการเดินทางผ่าน Passport ของแค่ละประเทศ มันไม่ได้เกี่ยวข้องแค่เรื่องรายได้, แรงงาน ผิด กม. หรือทัวร์นิสัยเสีย
แต่มันเกี่ยวพันตั้งแต่ระดับปัจเจก ระดับประเทศ ไปถึงระดับกลุ่มความร่วมมือระหว่างประเทศ
ผมไม่ได้เขียน Comment นี้ เพื่อให้ท้ายบรรดา ผีน้อยเกาหลี โรบินฮู๊ดเมกา ผู้ค้าบริการทางเพศ
แต่เขียน เพื่ออยากให้คนอ่านได้มอง และวิจารณ์อย่างรอบด้าน
นอกจากด่าคนตัวเล็ก ๆ ที่เราด่ากันประจำแล้ว เราต้องตั้งคำถามกับรัฐบาลด้วยว่า ตั้งใจเจรจาเรื่องยกเว้นวีซ่าแค่ไหน หรือบริหารประเทศ กระจายรายได้อย่างไร ประชาสัมพันธ์วิธี และอำนวยความสะดวกในการดำเนินเรื่องให้คนไปทำงานอย่างถูกกฎหมายมากน้อยแค่ไหน ประชาชนถึงต้องหนีไปทำงานประเทศอื่นอย่างผิดกฎหมาย
ทำไม๊ทำไม Passport ไทย ถึงสู้ Passport มาเลเซีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ อเมริกา หรือ ประเทศในยุโรปไม่ได้
- เพราะเราจนหรือเปล่า???
- เพราะพวกแรงงาน ผีน้อย ผิดกฎหมาย ขายยา ขายตัว ขายทุกสิ่งในจักรวาล หรือเปล่า ????
เพราะอะไรบ้าง เรามาดูกันทีละข้อนะครับ
1.ความขยันเจรจาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ถ้าใครอ่านเรื่อง ยกเว้นวีซ่ามี 2 ประเภทมาแล้วใน คห. ที่ 37 ก็จะรู้ว่า มันมีการยกเว้นวีซ่า ผ่านข้อตกลงทวิภาคี
แสดงว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศเราเอง ก็ต้องขยันที่จะไปทำความตกลงกับชาวบ้านด้วย ถ้าทำมาก ก็ได้มาก
แต่ถ้าทำน้อย หรือทำไว้เฉพาะ Passport ราชการ และ Passport ฑูต เช่นนี้ ประชาชนทั่วไปก็จะได้รับสิทธิยกเว้นวีซ่าน้อย
2.การยกเว้นวีซ่า ให้กับประเทศอื่น
อันนี้มาสู่การยกเว้นวีซ่าประเภทที่สองคือนึกจะให้ก็ให้ เมื่อเราให้เขา แน่นอน ก็ต้องมีประเทศที่เกิดพอใจ เลยนึกอยากจะให้เราบ้าง แบบนี้ ก็จะนำไปสู่การที่ประชาชนในประเทศเราได้รับอิสรภาพในการเดินทางเพิ่มมากขึ้น
ตัวอย่างของเรื่องนี้ ก็เอาประเทศตามหัวกระทู้เลยครับ มาเลเซีย เขาเปิด ยกเว้นวีซ่า หรือวีซ่าหน้าด่านให้ชาวบ้าน 172 ประเทศ เราเปิดแค่ 78 ประเทศ
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นแค่ปัจจัยหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่า ถ้าวันนี้พรุ่งนี้ เรายกเว้นวีซ่าให้ชาวบ้านเยอะ ๆ แล้ว Passport เราจะดี
(รูปเปรียบเทียบได้หมดได้จาก Passport Index .org ของเขาดีจริง มีให้เทียบหลายเรื่องมาก ลองไปเล่นดูได้ครับ)
https://www.passportindex.org/comparebyDestination.php?p1=my&p2=th&p3=la&p4=kh&p5=vn&fl=&s=yes
3.รายได้เฉลี่ย หรือ GDP
เรื่องนี้มีผลแน่นอนครับ เพราะลองถามตัวเรา เราอยากได้นักท่องเที่ยวแบบไหน เราก็ต้องอยากได้นักท่องเที่ยวที่กระเป่าหนัก
ใช้จ่ายเยอะมาเที่ยวมากกว่านักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายไม่เยอะ จริงไหมครับ?
แต่อย่างไรก็ตาม ติมอร์ตะวันออก รายได้น้อยกว่าเรา ยุโรปตะวันออกบางประเทศ รายได้น้อยกว่าเรา
ทำไม Passport เขาดีกว่าเรา แสดงว่า ยังมีปัจจัยอื่นอีก
4.ความเป็นที่รู้จักของประเทศ และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามา
ว่ากันง่าย ๆ ขอยกเคสประเทศญี่ปุ่น อยากจะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวหลังเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟุกุชิมะ ระเบิด
ญี่ปุ่นก็ต้องอำนวยความสะดวกให้คนชาติอื่น แต่ใครบ้างดีน้า...
สมมุติว่า ถ้าเราเป็นประเทศอะไรก็ไม่รู้ อยู่ตรงไหนของแผนที่โลกก็ไม่รู้ ไปเที่ยวญี่ปุ่น ปีนึงไม่กี่ร้อยคน แบบนั้น ถ้าคุณเป็นญี่ปุ่น คุณจะมานึกถึงประเทศนี้ไหม ในเวลาที่จะต้องปล่อยยกเว้นวีซ่า 15 วัน ให้กับใครสักคนหรือหลาย ๆ คน ประมาณนั้นครับ
5.พฤติกรรมนักท่องเที่ยว
อันนี้ไม่ต้องอธิบายมากมั้งครับ เพราะเวลาพูดถึงเรื่องนี้ แทบจะเป็นเหตุผลแรก ๆ ที่เรามักจะยกมากันอยู่แล้ว
คือมีความก่อกวน ไม่เคารพกติกา ก่ออาชญากรรมมากน้อยแค่ไหน อยู่เกินกำหนด ทำงานผิด กม. เยอะหรือไม่ สิ่งเหล่านี้มีผลแน่นอน
เคสนี้ เท่าที่ทราบที่ทำให้ไทยโดนยกเลิกจริง ๆ แน่ ๆ มีครั้งเดียว คือ นิวซีแลนด์
6.ที่ตั้งของประเทศเราเอง และประชาคมระหว่างประเทศที่เราเข้าร่วม
เรื่องนี้ หลายคนคง งง ว่ามีผลยังไง
ยกตัวอย่าง EU ที่มีสมาชิกเกือบ 30 ประเทศ แถมยังมีข้อตกลงของ Schengen ที่กำหนดว่าถ้าจะได้รับยกเว้นวีซ่าเข้า Schengen Area
ประเทศคุณเองก็ต้องยกเว้นวีซ่าให้พวกเราทั้ง 30 กว่าประเทศนี้ด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้ ประเทศใน EU นอกจากจะยกเว้นวีซ่าให้กันเอง (หรือแม้กระทั่งเปิดพรมแดนระหว่างกันเอง) ไป 30 กว่าประเทศแล้ว
ยังช่วยกันกดดัน ให้ประเทศอื่น ๆ ยกเว้นวีซ่าให้ประเทศสมาชิกไปในตัวผ่านนโยบายของกลุ่มประเทศตนเองด้วย
หันกลับมาดูอาเซียนร่วมใจ ที่มีสมาชิกแค่ 10 ประเทศ ที่ ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้เปิดยกเว้นวีซ่ากันเองครบทั้งภูมิภาค มีแต่การที่แต่ละประเทศ ต้องไปเจรจากันเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้ามีประเทศเกิดใหม่ขึ้นมาประเทศหนึ่งที่ ยุโรป กับ ในอาเซียน พาสปอร์ตของประเทศเกิดใหม่ที่ยุโรป ย่อมมีโอกาสดีกว่า
7.เคยเป็นเมืองขึ้น ???
เรื่องนี้ จริง ๆ แล้ว ก็มีผล ตามที่ มี คห. เก่า ๆ ยกมาครับ
เช่น มาเลเซีย ได้รับยกเว้นวีซ่าจากสหราชอาณาจักร ตลอดมา นับตั้งแต่ได้รับเอกราช
หรือ พม่า ที่ไม่เคยได้ เพราะออกจากเครือจักรภพแทบจะทันทีที่ได้เอกราช
หรืออินเดีย ที่เคยได้ แต่ถูกยกเลิก
ลาว กัมพูชา เวียดนาม ไม่รู้ว่าเคยได้รับยกเว้นวีซ่าจากฝรั่งเศสไหม
แต่เมื่อฝรั่งเศสเข้าสู่ Schengen ต่อให้เคยได้ แต่เมื่อ Schengen ไม่ให้ ก็ไม่ได้
เหมือนที่ไทยเสียสิทธิกับ เยอรมนี เพราะเยอรมนีก็เข้าไปอยู่ใน Schengen Area
8.ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ตัวอย่าง
ญี่ปุ่น - รัสเซีย ยังต้องทำวีซ่าระหว่างกัน ทั้งสองประเทศยังมีปัญหาพิพาทเรื่องดินแดน เกาะเล็กเกาะน้อยเหนือฮอกไกโดขึ้นไป
อาร์เมเนีย - อาเซอร์ไบจาน ที่อยู่ติดกัน แต่มีสงคราม และข้อพิพาทด้านพรมแดนกัน เรื่องวีซ่าเลิกคุยไปเลย เพราะแค่จะขอเข้าไป ยังไม่ให้เข้า ปฏิเสธ 100%
เรื่องเสรีภาพในการเดินทางผ่าน Passport ของแค่ละประเทศ มันไม่ได้เกี่ยวข้องแค่เรื่องรายได้, แรงงาน ผิด กม. หรือทัวร์นิสัยเสีย
แต่มันเกี่ยวพันตั้งแต่ระดับปัจเจก ระดับประเทศ ไปถึงระดับกลุ่มความร่วมมือระหว่างประเทศ
ผมไม่ได้เขียน Comment นี้ เพื่อให้ท้ายบรรดา ผีน้อยเกาหลี โรบินฮู๊ดเมกา ผู้ค้าบริการทางเพศ
แต่เขียน เพื่ออยากให้คนอ่านได้มอง และวิจารณ์อย่างรอบด้าน
นอกจากด่าคนตัวเล็ก ๆ ที่เราด่ากันประจำแล้ว เราต้องตั้งคำถามกับรัฐบาลด้วยว่า ตั้งใจเจรจาเรื่องยกเว้นวีซ่าแค่ไหน หรือบริหารประเทศ กระจายรายได้อย่างไร ประชาสัมพันธ์วิธี และอำนวยความสะดวกในการดำเนินเรื่องให้คนไปทำงานอย่างถูกกฎหมายมากน้อยแค่ไหน ประชาชนถึงต้องหนีไปทำงานประเทศอื่นอย่างผิดกฎหมาย
ความคิดเห็นที่ 20
เห็น จขกท ยกตัวอย่างเมกาปฏิเสธ visa มาเลย์น้อยกว่าไทย ผมก็ขอยกตัวอย่างออสเตรเลียปฏิเสธ visa มาเลย์บ้าง เพราะตอนนี้มี 62,000 คนที่ overstay ในออสเตรเลีย และประเทศที่หนี visa มากที่สุดอันดับ 1 คือมาเลเซียครับ
https://www.nst.com.my/news/nation/2018/06/377099/malaysians-top-list-illegal-immigrants-australia-report
บางคนขอ visa ได้ แต่พอถึงสนามบิน ตม ที่ออสเตรเลียไล่กลับประเทศเยอะมากครับ ขณะที่ไทยเราที่ว่าไม่ได้ขอ visa ออนไลน์ แต่ได้ visa มาแล้ว แทบจะไม่มีการโดนไล่ ตม ในประเทศครับ
https://www.news.com.au/finance/economy/australian-economy/malaysian-visitors-denied-entry-to-australia-in-crackdown-on-tourist-visa-abuse/news-story/332923ba1245a0de2ee9f4054e0f9cf1
https://www.nst.com.my/news/nation/2018/06/377099/malaysians-top-list-illegal-immigrants-australia-report
บางคนขอ visa ได้ แต่พอถึงสนามบิน ตม ที่ออสเตรเลียไล่กลับประเทศเยอะมากครับ ขณะที่ไทยเราที่ว่าไม่ได้ขอ visa ออนไลน์ แต่ได้ visa มาแล้ว แทบจะไม่มีการโดนไล่ ตม ในประเทศครับ
https://www.news.com.au/finance/economy/australian-economy/malaysian-visitors-denied-entry-to-australia-in-crackdown-on-tourist-visa-abuse/news-story/332923ba1245a0de2ee9f4054e0f9cf1
แสดงความคิดเห็น
เอาจริงๆคนมาเลเซียมีคุณภาพกว่าเราใช่ไหม พาสปอร์ตเขาถึงไปเข้าได้หลายประเทศ
ญี่ปุ่น
มาเลเซียได้ฟรีวีซ่า 90 วัน ไทยได้ 15 วัน
ไต้หวัน
มาเลเซียได้ฟรีวีซ่า 30 วัน ไทยได้ 15 วัน
อังกฤษ
มาเลเซียเข้าได้ฟรี ไทยใช้วีซ่า ถ้าจะบอกว่าเขาเป็นประเทศใต้อาณานิคมมาก่อนถึงได้ฟรีวีซ่า แต่ทำไม อินเดีย เมียนมาร์ ปากีสถาณ แอฟริกาใต้
ยังต้องใช้วีซ่าเข้าอังกฤษ
อียู
มาเลเซียเข้าได้ฟรี ไทยใช้วีซ่า
นิวซีแลนด์
มาเลเซียเข้าได้ฟรี ไทยใช้วีซ่า
USA
มาเลเซียเข้าได้แค่เกาะกวมและนอร์ทเทิร์นมาเรียน่า อัตราการปฏิเสธวีซ่าอยู่ที่ 3% อยู่กลุ่มเดียวกับ ฮ่องกง มาเก๊า ส่วนไทยเข้าไม่ได้ซักดินแดนของอเมริกาและอัตราการปฎิเสธวีซ่าอยู่ที่ 20% อยู่กลุ่มเดียวกับเวียดนาม ฟืลิปปินส์ อินเดีย
ออสเตรเลีย
มาเลเซียสามารถขอวีซ่าทางอินเตอร์เน็ตได้เหมือนคน USA, เกาหลี, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์ ส่วนไทยทำไม่ได้