การตรวจมะเร็งปากมดลูกและเชื้อHPV

สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นคนนึงที่ติดตามกระทู้พันทิปมานานแต่ไม่เคยตั้งกระทู้เลย
ซึ่งนี่เป็นกระทู้แรกของดิฉัน อยากมาแชร์ประสบการณ์ของตัวเองเพื่อเป็นวิทยาทานแก่ทุกๆท่านค่ะ
เรื่อง การตรวจมะเร็งปากมดลูกและเชื้อHPV

ดิฉันเริ่มมีเพศสัมพันธุ์ครั้งแรกเมื่อ อายุ 18 ปี ด้วยความคิดน้อยของตัวเองและไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ก็แอบไปมีเพศสัมพันธุ์กับแฟน ไม่เคยดูอดีตของเขาว่าเขาผ่านอะไรมาบ้าง ไม่เคยรู้จักเขาดี แต่ก็ใจง่ายไปกับเขา
มีการป้องกันแค่ในช่วงแรกๆ แต่คบกันไปซักพักๆความไว้เนื้อเชื้อใจมากขึ้น ถุงยางอนามัยเลยเป็นที่ถูกลืม และไม่ได้จำเป็นอีกต่อไปในชีวิตคู่ของดิฉันในช่วงนั้น ซึ่ง...เป็นสาเหตุที่ทำให้ดิฉันได้รับความทุกข์ระทม จากเหตุการณ์ที่จะเล่าต่อไปนี้

เมื่อเวลาผ่านไป 6 ปี
ก่อนอื่นต้องบอกว่าดิฉันคบผู้ชายคนนั้นเป็นระยะเวลาเพียง 3 ปี แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างทำให้ความรักของดิฉันและเขาคนนั้นสิ้นสุดลงและเลิกลากันไป

เมื่อดิฉันเริ่มย่างก้าวเข้าวัยทำงาน ดิฉันทำงานเกี่ยวกับทางด้านภาษาค่ะ ชีวิตสนุกสนาน มีเงินใช้  แต่แล้วความสุขนั้นก็หายไปหลังจากที่ดิฉันเริ่มมีอาการแปลกๆ มีอาการตกขาวผิดปกติ เป็นสีเหลืองบ้าง ตกขาวเป็นก้อนมั่ง ในใจคิดว่าตัวเองเป็นเชื้อราในช่องคลอด เลยซื้อยามากินเองค่ะ ช่วงแรกๆที่กินยา+สอดยา ก็ดีขึ้นเหมือนจะหาย แต่ผ่านไปซักพักก็กลับมาเป็นอีก เป็นซ้ำๆซ้อนๆ จนทนไม่ไหว จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลเอกชลแห่งหนึ่งค่ะ

ปรากฏหมอบอกว่า ดิฉันเป็นปากมดลูกอักเสบและมีเชื้อราปะปนบ้าง ซึ่งปากมดลูกอักเสบเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธุ์ (ดิฉันคิดในใจว่าจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อดิฉันไม่ได้มีอะไรกับใครมานานมากแล้ว ) แต่เชื้อราในช่องคลอดเกิดได้หลายสาเหตุค่ะ เช่น ความอับชื้น ใส่กางเกงรัด เป็นต้น
ในการรักษาคราวนี้ หมอฉีดยาและให้ยามาทานค่ะ ผลการรักษาในรอบนี้หายดีค่ะ
แต่เมื่อเวลาผ่านมาอีกประมาณ4-5เดือน การเป็นปากมดลูกอักเสบ ก็กลับมาอีกครั้ง ปากมดลูกมีอาการแดง ตกขาวมีสีเหลือง ตลอดทั้งวัน ต้องคอยเช็ดบ่อยๆ เพราะจะแฉะบริเวณจุดซ่อนเร้นทั้งวันถ้าไม่ทำการเช็ดหรือซับ
จึงกลับไปหาหมออีกครั้งค่ะ คราวนี้หมอเลยทำการเอาเชื้อในช่องคลอดไปเพาะค่ะ และดิฉันก็ได้ตรวจกรองมะเร็งปากมดลูกไปด้วยเพราะอาการตกขาวผิดปกติ ก็เป็นอาการหนึ่งในอาการของมะเร็งปากมดลูกค่ะ พร้อมทั้งตรวจหาไวรัส HPV แบบ DNA ด้วย
***ขอกล่าวตรงนี้เลยนะคะ มะเร็งปากมดลูกเป็นภัยเงียบสำหรับสาวๆจริงๆค่ะ ทุกคนควรไปตรวจเป็นประจำทุกปี และทางที่ดีควรฉีดวัคซีน HPV ไว้กันด้วยจะดีมากเลยค่ะ
ไวรัส HPV นี้เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกซึ่งติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ค่ะ(ติดได้อย่างรวดเร็วถึงแม้มีเพศสัมพันธุ์เพียงครั้งเดียวโดยไม่ได้ป้องกันค่ะ เช่นอาจจะเคยมีเพศสัมพันธุ์เมื่อ 5 หรือ 10 ปีก่อนก็ควรเช็คค่ะ เพราะเชื้อไวรัสชนิดนี้สามารถอยู่ในร่างกายได้นานหลายสิบปี) และที่สำคัญเชื้อไวรัสชนิดนี้จะไม่แสดงอาการ
ไวรัสHVP สายพันธุ์ที่ 16 และ 18 ซึ่งเป็นสองชนิดที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกถึง 70%ค่ะ
สายพันธุ์ที่ดุคือสายพันธุ์ที่ 16 และ 18  (สายพันธุ์อื่นๆก็มีค่ะ เช่น พวกที่ทำให้เป็นหูดหงอนไก่ หรือหูดต่างๆ)
ซึ่งไวรัสHPVบางสายพันธุ์สามารถหายไปเองได้ค่ะ ถ้าร่างกายแข็งแรง ใช้ระยะเวลากี่ปีอันนี้ จขกทไม่แน่ใจ
แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรประมาทค่ะ ควรเช็คให้แน่นอน เพราถ้าเป็นสายพันธุ์ที่ดุ และเกิดฝังแน่นขึ้นมา นั่นคือ ชีวิต ค่ะ
เล่าต่อนะคะ
ช่วงเวลารอฟังผล - เมื่อเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์กว่า (สำหรับดิฉัน การรอผล 1 อาทิตย์นั้นเหมือนตายทั้งเป็น กลัวว่าจะเป็นมะเร็งหรือโรคอะไรต่างๆนานา)
...ทางโรงพยาบาลโทรมาแจ้งผล ผลแรกคือผลการเพาะเชื้อ คือ ปกติค่ะไม่มีเชื้อติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ ซึ่งคุณหมอบอกว่าคนไข้บางรายก็มีตกขาวสีเหลืองเหมือนกันแต่เพาะเชื้อแล้วก็ไม่มีอะไรผิดปกติ บางทีมันแค่เหลืองเฉยๆ ให้เราพยายามอย่าเครียดและดูแลสุขภาพให้ดีค่ะ(ตอนนี้ จขกท หายดีแล้วค่ะ)
แต่ผลที่2 คือผลการกรองมะเร็ง "มีเซล์ผิดปกติค่ะ" ...ดิฉันได้ยินคำนั้นเหมือนโลกถล่มใส่เลยค่ะ ร้องไห้หนักมาก แต่ก็ต้องตั้งสติขอเจ้านายให้คนขับรถพาไปโรงพยาบาล เพราะหมอต้องคุยอธิบายเพิ่มค่ะ
ผลที่ออกมาคือ LSIL CIN I
HPV 16 Negative
HPV 18 Negative

CIN I คือรอยระยะก่อนเป็นมะเร็งค่ะ สามารถรักษาให้หายได้ ซึ่งของ จขกท คุณหมอให้นัดมาตรวจอีกที 6 เดือนข้างหน้าค่ะ
เพิ่มเติมนะคะ
CIN มีทั้งหมด 3 ระดับก่อนที่จะเป็นมะเร็งระยะลุกลาม
ถ้าตรวจความผิดปรกติ CIN พบเร็วก็สามารถป้องกันการเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติมหาในอากู๋ได้เลยนะคะ ข้อมูลค่อนข้างเยอะมาก
เพราะฉะนั้นจะรู้ได้ไงว่าตนเองผิดปรกติไหม ก็ทำได้โดยการตรวจกรองมะเร็งปากมดลูกค่ะ สำคัญมากนะคะ
ไม่ต้องรอให้ตัวเองมีอาการก่อนค่อยตรวจ เพราะถ้ามีอาการแล้วหมายถึงเป็นระยะหนักแล้วค่ะ
อาการที่ว่าคือ อาการของมะเร็งปากมดลูก หาในอากู๋เลย ถ้ามีอาการเหล่านั้นคือเป็นระยะลุกลามแล้วค่ะ
อ่านถึงตรงนี้อาจจะสงสัยว่าทำไมถึงมีรอยCINได้ถ้าการตรวจ HPVเป็นNegative
กรณีก็สามารถเกิดขึ้นได้ค่ะ  การรักษาขึ้นอยู่กับการดูแลของคุณหมอค่ะ

จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้รักตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมมากๆค่ะ เพราะ จขกท เคยมองว่าการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นเรื่องที่ไกลตัวและอายที่ต้องขึ้นขาหยั่งตรวจภายในค่ะ(ตรวจภายในไม่น่ากลัวอย่างที่คิดนะคะ ไม่เจ็บเลย ตรวจเถอะค่ะเพื่อตัวเอง )
ลองคิดเล่นๆถ้า จขกท ไม่ตกขาวผิดปรกติ ก็คงไม่ไปตรวจภายในแน่ๆ(ตรวจภายในและการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทำได้พร้อมกันนะคะ เพราะขั้นตอนการเก็บเชื้อกรองมะเร็งปากมดลูกอยู่ในขั้นตอนเดียวกับการตรวจภายในค่ะ) แต่ถ้าไม่ตรวจเจอในวันนั้นก็คงไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเผชิญกับอะไรอยู่ ก็คงจะไม่รักตัวเองเท่าวันนี้
รู้ก่อนรักษาหายก่อนค่ะ

บทเรียนที่สำคัญที่สุด ทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดีๆเพราะสิ่งที่เราทำในตอนนี้คือผลพวงในอนาคตค่ะ
ฝากไว้เป็นข้อเตือนใจน้องๆพี่ๆเพื่อนๆทุกคนนะคะ การตรวจกรองมะเร็งปากมดลูกสำคัญมาก ที่สำคัญอีกอย่างคือยืดอกพกถุงค่ะ เชื้อโรคต่างๆเรามองไม่เห็นค่ะ ความรักอย่างเดียวไม่ได้นะคะ เฉกเช่นกับมะเร็งปากมดลูกนี้ ได้ขนานนามว่าเป็นมะเร็งแห่งความรักอีกด้วยค่ะ

หวังว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ให้ทุกๆคนไม่มากก็น้อยนะคะ
พิมพ์ผิดตรงไหนต้องของอภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่