ก่อนอื่นต้องขอออกตัวแรงๆ ก่อนเลยว่าไม่เคยเขียนรีวิวเลยยยย ปกติจะมาตามอ่านและเก็บข้อมูลอย่างเดียว
แต่ทุกครั้งที่ไปเที่ยวก็จะพยายามถ่ายรูปที่คิดว่าพอจะมีประโยชน์เพื่อเวลากลับมาจะเขียนรีวิว
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เคยได้เขียนสักที
ครั้งนี้ตั้งใจมากๆ ว่าจะเขียนรีวิว เพื่อตอบแทนห้องบลูแพนเน็ตนี้ และเผื่อเพื่อนๆที่กำลังสนใจจะไปเที่ยวญี่ปุ่นในภูมิภาคชบุนี้นะคะ
สำหรับเนื้อหาที่เป็นสาระเลยอาจจะไม่ค่อยมี แต่อันไหนที่พอจำได้จะอธิบายไว้ให้นะคะ
ทริปนี้เกิดแบบรวดเร็วกว่าทุกครั้ง การเตรียมตัวก็จะแบบงงๆ
จองตั๋วเครื่องบินกับแอร์เอเชีย ตอนที่มีโปรโมชั่นนาโกย่า ได้มาที่ราคา 19,700 บาท / 2 คน รวมแพ็คสุดคุ้มโหลดกระเป๋า เลือกที่นั่ง และอาหารร้อนแล้ว
สำหรับเราถือว่าตอบโจทย์มาก เพราะเคยซื้อตั๋วโปรที่ราคาใกล้ๆกันนี้แต่เป็นฟลูเซอร์วิส แล้วต้องไปเปลี่ยนเครื่อง อยากจะเป็นลมค่ะ มันเหนื่อยและเพลียมาก
เริ่มกันเลยนะคะ ทริปนี้เราไปกัน 2 คน กับสามีค่ะ
2 - 7 Nov '18 รวม 6 วัน กำลังดี ถ้ามากกว่านี้อีกนิดจะดีมาก
แผนคร่าวๆ ก็ประมาณนี้นะคะ
2 Nov BKK - Nagoya - Matsumoto
3 Nov Matsumoto - Kamikochi
4 Nov Takayama - Shirakawago - Kanazawa
5 Nov Kanazawa - Nagoya
6 Nov Nagoya - Legoland - Nabana No Sato
7 Nov Nagoya - BKK
อันนี้คือแผนนะคะ แต่ความจริงก็ใกล้เคียงอยู่มีปรับๆ บางจุดบ้างเล็กน้อย เพราะอยากไปทุกที่ แต่เวลาจำกัดจริงๆ
เตรียมตัวให้พร้อมแล้วเดี๋ยวไปเริ่มกันเลยค่ะ
วันแรก
ไฟล์ทของเราออกเดินทางแต่เช้าเลย XJ638 6.55 am ที่ดอนเมือง
เราทำ web check in ไปจากบ้าน แต่ไปโหลดกระเป๋า แล้วพนักงานเปลี่ยนที่ให้ไปนั่งโซนด้านหน้าเลยค่ะ
ไม่มีรูปบรรยากาศในเครื่องนะคะ
แต่มีรูปอาหารร้อนมาฝาก สำหรับคนที่ซื้อแพคสุดคุ้มอย่างเรา ก็ได้ทานข้าวไก่เทอริยากิกับน้ำ 1 ขวดไปค่ะ
นั่งง่วงๆ ต่อไปอีกนิดเราก็มาถึงกันแล้วค่ะ Central Japan International Airport
เดินตามป้ายไปค่ะ อย่าแตกแถว ผ่าน ตม รับกระเป๋าเรียบร้อย
ไปรับ Pass กันค่ะ Pass นี้เราซื้อมาคนละ 13,000 Yen/คน ใช้ได้ 5 วันค่ะ
เราจอง Shoryudo Bus Pass กันมาล่วงหน้าผ่านเว็บเอเจนซี่ Japan อันนึง แล้วมารับตัวจริงกันได้ที่นี่ค่ะ
Meitetsu Travel Plaza เสร็จแล้วไปออกตั๋วรถไฟที่อีกด้านนึงค่ะ เพื่อขึ้นรถไฟเข้านาโกย่ากัน
เราเลือกขึ้นรถขบวนธรรมดา ไม่ต้องเพิ่มเงินค่ะ
แต่หากใครอยากขึ้น First Class ก็จ่ายเพิ่มนิดหน่อย แบบเงินซื้อความสบายได้ค่ะ
นั่งเพลินๆ เราก็มาถึง Nagoya Station กันค่ะ เดินงงๆ ลากกระเป๋าออกมาด้านนอกสถานีเจอแบบนี้ค่ะ
เดินเลี้ยวขวาโลด เราจะไป Meitetsu Bus Terminal กัน เพื่อขึ้นรถไป Mastumoto กัน
ไปที่เคาท์เตอร์ชั้น 3 ยื่นบัตรเบ่ง ในที่นี้คือ Shoryudo Bus Pass นะคะ เพื่อออกตั๋วรถไปมัตสึโมโตะกันค่ะ
ได้ตั๋วมา ก็ซื้อขนมตุนไว้ แล้วรอเวลาขึ้นรถกัน
นั่งรถเพลินๆ ประมาณ 3 ชม. ก็ถึงค่ะ รถจะมีจอดแวะพักระหว่างทางให้เข้าห้องน้ำ ซื้อน้ำ ซื้อขนม 1 ครั้งนะคะ
ถึง Matsumoto Bus Terminal ไม่ต้องคิดเยอะ ข้ามถนนแล้วเข้าโรงแรมกันเลยค่ะ
Ace Inn Matsumoto สะดวกดี ราคาไม่แรง มีอาหารเช้าให้ด้วย หรือหากใครนั่งรถไฟมาก็สบายๆ ค่ะ เดินเลี้ยวขวาจากสถานีมาก็เจอ
ห้องก็จะเล็กๆหน่อยนะคะ นอนเบียดๆกันอบอุ่นดีค่ะ
อาหารเย็นเราก็ฝากท้องกับ Family Mart ค่ะ
คืนแรกก็หมดแรงกับการนั่งเครื่องบิน รถไฟ รถบัส สลบกันไปค่ะ
Day 2 เริ่มเที่ยวกันจริงๆแล้วนะคะ
แผนวันนี้คือหลังจากทานข้าวเช้าที่โรงแรม เราจะดินไปปราสาทมัตสึโมโตะหรือปราสาทอีกาดำกันค่ะ
ใช้เวลาเดินไม่มากสัก 10 นาทีก็ถึงค่ะ
วันนี้อากาศค่อนข้างดีมากๆเลย มีแดด และแอบหนาว
วิวตามทางค่ะ ร่มรื่นดีทีเดียว มีใบไม้เปลี่ยนสีให้ดูด้วยค่ะ
และเราก็มาถึงค่ะ ปราสาทมัตสึโมโตะ เดินกันเกือบรอบ เก็บภาพหลายๆมุม แต่เราไม่ได้เข้าไปข้างในกันนะคะ
นั่งดื่มด่ำบรรยากาศกันสักพัก ก็ไปเดินเล่นกันต่อค่ะ
ระหว่างทางไปถนนกบ ก็จะเจอตึกหน้าตาประมาณนี้แฝงตัวอยู่กับตึกรุ่นใหม่ๆ
มาถึงแล้วค่ะ ถนน Nawate หรือที่ชอบเรียกกันว่าถนนกบ
ที่นี่ก็จะมีศาลเจ้า ร้าานค้าต่างๆให้เดินเล่นกันเพลิน
มีของจุกจิกรูปกบเต็มไปหมดเลยค่ะ
ตอนที่ไปเดินร้านค้ายังเปิดกันไม่ครบดี สงสัยสัยต้องรอใกล้ๆเที่ยง
เราเลยตัดสินใจเดินกลับไปที่ Matsumoto Bus Terminal เพื่อขึ้นรถไปคามิโคจิกันเลย
ซึ่งวันนี้เป็นวันเสาร์ คนเยอะมาก เราต้องขึ้นเป็นรถเสริม เพราะบัสคันแรกเต็มแล้วค่ะ
เราซื้อตั๋วจาก Alpico Group แบบไป-กลับ คนละ 4,550 Yen
นั่งดูวิวข้างทางสวยๆ ไปเรื่อยสักชั่วโมงนึงก็ถึงค่ะ
ลงป้าย Taisho Pond เพื่อเริ่มเดินกันค่ะ
แล้วก็เดินดื่มด่ำธรรมชาติกันยาวๆไปสัก 3 กม.
จุดที่ 2
จุดที 3
แล้วก็เริ่มเดินสะเปะสะปะ ไปช้าๆเรื่อยๆค่ะ
เดินแบบชอบทุกจน จนเรียกว่าตกหลุมรักที่นี่เลยก็ว่าได้ค่ะ
จุด Hi-light ที่ทุกคนมาถ่ายรูปกันก็ตรงสะพานนี้แหละคะ Kappa Bridge
เริ่มเย็นแล้ว เราก็เดินมาจองรอบรถกลับกันค่ะ
แนะนำสำหรับคนที่มาวันเสาร์ อาทิตย์ ควรจองรอบรถล่วงหน้านะคะ เพราะคนญี่ปุ่นเค้ามาพักผ่อนกันเยอะค่ะ
กลับถึงมัตสึโมโตะประมาณ 6 โมง แต่ฟ้ามืดตึ้นตื่อ
เราเลยเดินวนๆ หามื้อเย็นกินกัน สุดท้ายมาจบที่สถานีรถไฟ ที่ด้านบนจะมีร้านอาหาร ของฝากให้เลือกอยู่พอสมควร
สองเซ็ตนี้หมดไป 1,520 Yen ราคาเบาๆ รสชาตกลางๆ
แล้วก็เข้าไปนอนแต่งรูปโพส FB เพลินๆไปค่ะ
ไว้มาเล่าต้อพรุ่งนี้นะคะ
[CR] (CR) Autumn in Chubu เที่ยว Nagoya-Matsumoto-Takayama-Shirakawago-Kanazawa
แต่ทุกครั้งที่ไปเที่ยวก็จะพยายามถ่ายรูปที่คิดว่าพอจะมีประโยชน์เพื่อเวลากลับมาจะเขียนรีวิว
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เคยได้เขียนสักที
ครั้งนี้ตั้งใจมากๆ ว่าจะเขียนรีวิว เพื่อตอบแทนห้องบลูแพนเน็ตนี้ และเผื่อเพื่อนๆที่กำลังสนใจจะไปเที่ยวญี่ปุ่นในภูมิภาคชบุนี้นะคะ
สำหรับเนื้อหาที่เป็นสาระเลยอาจจะไม่ค่อยมี แต่อันไหนที่พอจำได้จะอธิบายไว้ให้นะคะ
ทริปนี้เกิดแบบรวดเร็วกว่าทุกครั้ง การเตรียมตัวก็จะแบบงงๆ
จองตั๋วเครื่องบินกับแอร์เอเชีย ตอนที่มีโปรโมชั่นนาโกย่า ได้มาที่ราคา 19,700 บาท / 2 คน รวมแพ็คสุดคุ้มโหลดกระเป๋า เลือกที่นั่ง และอาหารร้อนแล้ว
สำหรับเราถือว่าตอบโจทย์มาก เพราะเคยซื้อตั๋วโปรที่ราคาใกล้ๆกันนี้แต่เป็นฟลูเซอร์วิส แล้วต้องไปเปลี่ยนเครื่อง อยากจะเป็นลมค่ะ มันเหนื่อยและเพลียมาก
เริ่มกันเลยนะคะ ทริปนี้เราไปกัน 2 คน กับสามีค่ะ
2 - 7 Nov '18 รวม 6 วัน กำลังดี ถ้ามากกว่านี้อีกนิดจะดีมาก
แผนคร่าวๆ ก็ประมาณนี้นะคะ
2 Nov BKK - Nagoya - Matsumoto
3 Nov Matsumoto - Kamikochi
4 Nov Takayama - Shirakawago - Kanazawa
5 Nov Kanazawa - Nagoya
6 Nov Nagoya - Legoland - Nabana No Sato
7 Nov Nagoya - BKK
อันนี้คือแผนนะคะ แต่ความจริงก็ใกล้เคียงอยู่มีปรับๆ บางจุดบ้างเล็กน้อย เพราะอยากไปทุกที่ แต่เวลาจำกัดจริงๆ
เตรียมตัวให้พร้อมแล้วเดี๋ยวไปเริ่มกันเลยค่ะ
วันแรก
ไฟล์ทของเราออกเดินทางแต่เช้าเลย XJ638 6.55 am ที่ดอนเมือง
เราทำ web check in ไปจากบ้าน แต่ไปโหลดกระเป๋า แล้วพนักงานเปลี่ยนที่ให้ไปนั่งโซนด้านหน้าเลยค่ะ
ไม่มีรูปบรรยากาศในเครื่องนะคะ
แต่มีรูปอาหารร้อนมาฝาก สำหรับคนที่ซื้อแพคสุดคุ้มอย่างเรา ก็ได้ทานข้าวไก่เทอริยากิกับน้ำ 1 ขวดไปค่ะ
นั่งง่วงๆ ต่อไปอีกนิดเราก็มาถึงกันแล้วค่ะ Central Japan International Airport
เดินตามป้ายไปค่ะ อย่าแตกแถว ผ่าน ตม รับกระเป๋าเรียบร้อย
ไปรับ Pass กันค่ะ Pass นี้เราซื้อมาคนละ 13,000 Yen/คน ใช้ได้ 5 วันค่ะ
เราจอง Shoryudo Bus Pass กันมาล่วงหน้าผ่านเว็บเอเจนซี่ Japan อันนึง แล้วมารับตัวจริงกันได้ที่นี่ค่ะ
Meitetsu Travel Plaza เสร็จแล้วไปออกตั๋วรถไฟที่อีกด้านนึงค่ะ เพื่อขึ้นรถไฟเข้านาโกย่ากัน
เราเลือกขึ้นรถขบวนธรรมดา ไม่ต้องเพิ่มเงินค่ะ
แต่หากใครอยากขึ้น First Class ก็จ่ายเพิ่มนิดหน่อย แบบเงินซื้อความสบายได้ค่ะ
นั่งเพลินๆ เราก็มาถึง Nagoya Station กันค่ะ เดินงงๆ ลากกระเป๋าออกมาด้านนอกสถานีเจอแบบนี้ค่ะ
เดินเลี้ยวขวาโลด เราจะไป Meitetsu Bus Terminal กัน เพื่อขึ้นรถไป Mastumoto กัน
ไปที่เคาท์เตอร์ชั้น 3 ยื่นบัตรเบ่ง ในที่นี้คือ Shoryudo Bus Pass นะคะ เพื่อออกตั๋วรถไปมัตสึโมโตะกันค่ะ
ได้ตั๋วมา ก็ซื้อขนมตุนไว้ แล้วรอเวลาขึ้นรถกัน
นั่งรถเพลินๆ ประมาณ 3 ชม. ก็ถึงค่ะ รถจะมีจอดแวะพักระหว่างทางให้เข้าห้องน้ำ ซื้อน้ำ ซื้อขนม 1 ครั้งนะคะ
ถึง Matsumoto Bus Terminal ไม่ต้องคิดเยอะ ข้ามถนนแล้วเข้าโรงแรมกันเลยค่ะ
Ace Inn Matsumoto สะดวกดี ราคาไม่แรง มีอาหารเช้าให้ด้วย หรือหากใครนั่งรถไฟมาก็สบายๆ ค่ะ เดินเลี้ยวขวาจากสถานีมาก็เจอ
ห้องก็จะเล็กๆหน่อยนะคะ นอนเบียดๆกันอบอุ่นดีค่ะ
อาหารเย็นเราก็ฝากท้องกับ Family Mart ค่ะ
คืนแรกก็หมดแรงกับการนั่งเครื่องบิน รถไฟ รถบัส สลบกันไปค่ะ
Day 2 เริ่มเที่ยวกันจริงๆแล้วนะคะ
แผนวันนี้คือหลังจากทานข้าวเช้าที่โรงแรม เราจะดินไปปราสาทมัตสึโมโตะหรือปราสาทอีกาดำกันค่ะ
ใช้เวลาเดินไม่มากสัก 10 นาทีก็ถึงค่ะ
วันนี้อากาศค่อนข้างดีมากๆเลย มีแดด และแอบหนาว
วิวตามทางค่ะ ร่มรื่นดีทีเดียว มีใบไม้เปลี่ยนสีให้ดูด้วยค่ะ
และเราก็มาถึงค่ะ ปราสาทมัตสึโมโตะ เดินกันเกือบรอบ เก็บภาพหลายๆมุม แต่เราไม่ได้เข้าไปข้างในกันนะคะ
นั่งดื่มด่ำบรรยากาศกันสักพัก ก็ไปเดินเล่นกันต่อค่ะ
ระหว่างทางไปถนนกบ ก็จะเจอตึกหน้าตาประมาณนี้แฝงตัวอยู่กับตึกรุ่นใหม่ๆ
มาถึงแล้วค่ะ ถนน Nawate หรือที่ชอบเรียกกันว่าถนนกบ
ที่นี่ก็จะมีศาลเจ้า ร้าานค้าต่างๆให้เดินเล่นกันเพลิน
มีของจุกจิกรูปกบเต็มไปหมดเลยค่ะ
ตอนที่ไปเดินร้านค้ายังเปิดกันไม่ครบดี สงสัยสัยต้องรอใกล้ๆเที่ยง
เราเลยตัดสินใจเดินกลับไปที่ Matsumoto Bus Terminal เพื่อขึ้นรถไปคามิโคจิกันเลย
ซึ่งวันนี้เป็นวันเสาร์ คนเยอะมาก เราต้องขึ้นเป็นรถเสริม เพราะบัสคันแรกเต็มแล้วค่ะ
เราซื้อตั๋วจาก Alpico Group แบบไป-กลับ คนละ 4,550 Yen
นั่งดูวิวข้างทางสวยๆ ไปเรื่อยสักชั่วโมงนึงก็ถึงค่ะ
ลงป้าย Taisho Pond เพื่อเริ่มเดินกันค่ะ
แล้วก็เดินดื่มด่ำธรรมชาติกันยาวๆไปสัก 3 กม.
จุดที่ 2
จุดที 3
แล้วก็เริ่มเดินสะเปะสะปะ ไปช้าๆเรื่อยๆค่ะ
เดินแบบชอบทุกจน จนเรียกว่าตกหลุมรักที่นี่เลยก็ว่าได้ค่ะ
จุด Hi-light ที่ทุกคนมาถ่ายรูปกันก็ตรงสะพานนี้แหละคะ Kappa Bridge
เริ่มเย็นแล้ว เราก็เดินมาจองรอบรถกลับกันค่ะ
แนะนำสำหรับคนที่มาวันเสาร์ อาทิตย์ ควรจองรอบรถล่วงหน้านะคะ เพราะคนญี่ปุ่นเค้ามาพักผ่อนกันเยอะค่ะ
กลับถึงมัตสึโมโตะประมาณ 6 โมง แต่ฟ้ามืดตึ้นตื่อ
เราเลยเดินวนๆ หามื้อเย็นกินกัน สุดท้ายมาจบที่สถานีรถไฟ ที่ด้านบนจะมีร้านอาหาร ของฝากให้เลือกอยู่พอสมควร
สองเซ็ตนี้หมดไป 1,520 Yen ราคาเบาๆ รสชาตกลางๆ
แล้วก็เข้าไปนอนแต่งรูปโพส FB เพลินๆไปค่ะ
ไว้มาเล่าต้อพรุ่งนี้นะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้