อิตาลี ถือเป็นชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดชาติหนึ่งในวงการลูกหนัง หลังจากที่ทีมชาติอิตาลีผงาดครองตำแหน่งแชมป์โลกได้ถึง 4 สมัย และแชมป์ยุโรปอีก 1 สมัย พร้อมทั้งมีนักเตะชั้นยอดก้าวขึ้นมาประดับวงการมากมายแบบไม่ขาดสาย แต่ก็มีแค่ 7 รายเท่านั้นที่มีสถิติรับใช้ทีมแตะหลักร้อยนัด และคนล่าสุดก็คือ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ เซนเตอร์แบ็กจอมแกร่งจาก ยูเวนตุส ที่รับใช้ทัพ "อัซซูร์รี่" ครบ 100 นัด ในเกม ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก นัดที่เปิดบ้านเสมอ โปรตุเกส 0-0 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และ 7 คนที่ว่านี้มีใครบ้าง เรามาสรุปดูอีกที


-  จานลุยจิ บุฟฟ่อน (1997-2018) : 176 นัด


หลายๆ คนยกให้เขาเป็นผู้รักษาประตูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของทีมชาติอิตาลี โดย บุฟฟ่อน กับทัพ "อัซซูร์รี่" ตั้งแต่อายุ 19 ปี ผ่านศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มาแล้วถึง 5 ครั้ง และเป็นกำลังสำคัญชุดซิวแชมป์โลกเมื่อปี 2006 นอกจากนี้ "จิจี้" ยังผ่านศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ "ยูโร" อีก 5 ครั้งด้วย และแน่นอนว่า สถิติ 176 นัดของ ยอดนายทวาร ปารีส แซงต์-แชร์กแมง วัย 40 ปี เป็นสถิติที่ยากมากแก่การถูกทำลาย

เท่านั้นยังไม่พอ บุฟฟ่อน ยังครองสถิติสูงสุดหลายอย่างเกี่ยวกับทีมชาติอิตาลีด้วย เช่น จำนวนนาทีที่ลงเล่น, จำนวนนัดที่เป็นกัปตันทีม (80 นัด), จำนวนเกมที่เก็บคลีนชีต (77 นัด) และจำนวนการเซฟลูกจุดโทษ (5 ครั้ง)

- ฟาบิโอ คันนาวาโร่ (1997-2010) : 136 นัด


จุดสูงสุดของ คันนาวาโร่ คือการเป็นกัปตันทีมชาติอิตาลี ชุดคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2006 ซึ่งเจ้าตัวทำผลงานได้ยอดเยี่ยมตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ จนมีนิกเนมติดตัวว่า "เดอะ เบอร์ลิน วอลล์" หรือ "กำแพงเบอร์ลิน" และแน่นอนว่า จากผลงานอันโดดเด่นดังกล่าวทำให้ คันนาวาโร่ งาบรางวัล บัลลง ดอร์ ปี 2006 ไปครองด้วย ซึ่งถือเป็นผู้เล่นตำแหน่งกองหลังรายที่สามเท่านั้น ที่ได้รางวัลอันทรงเกียรตินี้ไปครอง ก่อนที่จะหันหลังให้กับทัพ "อัซซูร์รี่" หลังทีมตกรอบแรกในศึกฟุตบอลโลก 2010

เปาโล มัลดินี่ (1988-2002) : 126 นัด


นี่คือนักเตะที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในกองหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ผ่านศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ถึง 4 ครั้ง และศึกชิงแชมป์ยุโรปอีก 3 ครั้ง โดยเฉพาะในศึก เวิลด์ คัพ นั้น เขาคือนักเตะทีมชาติอิตาลีที่ลงเล่นมากที่สุด (23 นัด) แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่ มัลดินี่ ไม่ได้แชมป์ติดมือแม้แต่รายการเดียวในการรับใช้ชาติ โดยเจ้าตัวประกาศเลิกเล่นทีมชาติหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2002 แต่ก็อยู่รับใช้ เอซี มิลาน สโมสรอันเป็นที่รัก ต่ออีกถึง 7 ซีซั่น ก่อนตัดสินใจแขวนสตั๊ด

- ดานิเอเล่ เด รอสซี่ (2004-2017) : 117 นัด


เป็นอีกหนึ่งสมาชิกชุดแชมป์โลกเมื่อปี 2006 โดย เด รอสซี่ เป็นกำลังสำคัญให้ทัพ "อัซซูร์รี่" มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ลงเล่นนัดแรกเมื่อวันที่ 4 กันยายน ปี 2004 (เกมฟุตบอลโลก 2006 รอบคัดเลือก นัดเจอกับ นอร์เวย์) แม้ระยะหลังตกเป็นตัวสำรองส่วนใหญ่ ก่อนตัดสินใจอำลาการรับใช้ชาติเมื่อปีก่อน หลังจากที่ อิตาลี ไม่ได้ตั๋วไปสู้ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย

- อันเดรีย ปีร์โล่ (2002-2015) : 116 นัด


นี่ก็เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญของ อิตาลี ชุดคว้าแชมป์โลก 2006  แถมคว้าตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมรอบชิงชนะเลิศ ที่ทีมเอาชนะดวลจุดโทษ ฝรั่งเศส ด้วย หลังจากนั้น ปีร์โล่ ก็เป็นตัวหลักของทัพ "อัซซูร์รี่" ชุดที่ไปไกลถึงรอบชิงฯ ในศึก ยูโร 2012 แม้สุดท้ายพ่ายให้กับ สเปน แบบหมดสภาพ 0-4 ก่อนประกาศยุติการรับใช้ชาติหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย

- ดิโน่ ซอฟฟ์ (1968-1983) : 112 นัด


ซอฟฟ์ คือคนแรกในประวัติศาสตร์ที่รับใช้ทัพ "อัซซูร์รี่" แตะหลักร้อยนัด โดยเขาลงเฝ้าเสาให้กับทีมเป็นครั้งแรกในเกม ยูโร 1968 รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่พบกับ บัลแกเรีย ก่อนก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์ในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว แต่จุดสูงสุดของเขาคืออีก 14 ปีต่อมา หรือในวัย 40 กะรัต ที่เจ้าตัวนำทีมชาติอิตาลีผงาดคว้าแชมป์โลกมาครองในปี 1982 ก่อนประกาศแขวนถุงมือในปีต่อมา

-จอร์โจ้ คิเอลลินี่ (2004-ปัจจุบัน) : 100 นัด


ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ เพราะการลงเล่นนัดแรกและนัดที่ 100 ภายใต้ยูนิฟอร์มทีมชาติอิตาลีของ คิเอลลินี่ เกิดขึ้นในวันที่ 17 พฤศจิกายน เหมือนกัน และแม้จนถึงตอนนี้เจ้าตัวรับใช้ทีมชาติมาอย่างยาวนานถึง 14 ปี แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้แชมป์อะไรติดมือเลยเหมือนกับ มัลดินี่ เพราะเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในขุนพลชุดคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2006 โดยทัวร์นาเมนต์ใหญ่รายการแรกของเจ้าตัวคือศึก ยูโร 2008  
    
credit : www.siasmport.co.th โดย - Subinho -