...ถ้าพูดถึงหนังที่เกี่ยวกับโลกเวทย์มนต์ หนึ่งในหนังที่เราประทับใจมากที่สุดคงไม่พ้น Harry Potter เพราะไม่ใช่เพียงแค่หนังที่ให้ความรู้สึกเพียงดูแล้วจบไปแค่นั้น แต่มันมีความลึกซึ้งในเรื่องของระยะเวลาที่เราเติบโตมาพร้อมกับตัวหนังและตัวละคร ก็นับตั้งแต่ภาคแรกที่เรายังอยู่ป.6 จนมาจบตอนเรียนมหาลัย
พอใกล้ช่วงๆเดือนพฤศจิกา-ธันวาก็จะเริ่มตื่นเต้นเฝ้ารอว่าเมื่อไร Harry Potter จะเข้าน้อออ.... จบจวนมาถึงปัจจุบันก็ได้มีหนังภาคแยก Fantastic Beasts ซึ่งภาคแรกเราจะไม่พูดถึง ขอมาที่ Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald เลยละกัน ที่เห็นประเด็นถกเถียงกันเป็นสองเสียง ฝั่งนึงบอกว่าหนังให้คะแนนไม่เกิน 6.5 อีกฝั่งก็บอกว่าหนังดีมากกกก!!! เราเลยขอมาลองดูด้วยตัวเองละกัน!!
...ขอออกตัวก่อนเลยว่าเราไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ของ Harry Potter แต่อาจเรียกว่าแฟนคลับเพราะก็ติดตามข่าวมาเรื่อยๆเนืองๆฉะนั้นข้อมูลอะไรที่ผิดพลาดหรือผิดประเด็นไปต้องขออภัยล่วงหน้านะเจ้าคะ เป็นการวิจารณ์ด้วยความเห็นส่วนตัวล้วนๆจ้า
Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald เล่าเหตุการณ์ต่อจากภาคแรก หลังจากที่ Grindelwald นั้นถูกจับกุมตัวโดยนิวท์และเหล่ากระทรวงเวทมนตร์ที่สหรัฐอเมริกา และเตรียมจะส่ง Grindelwald กลับมาพิจารณาคดีที่ยุโรปแต่แล้วระหว่างที่ขนย้ายนั้น Grindelwald ได้แอบปลอมตัวสลับกับเจ้าหน้าที่ในกระทรวง(ลูกน้องของพี่แกนั่นแหละ) และหนีการจับกุมได้ในที่สุดก่อนมาปักหลักอยู่ที่ฝรั่งเศสพร้อมกับเหล่าสาวกอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์หลักหลังจากนี้จะเกิดขึ้นที่ฝรั่งเศสนี้เอง
มาวิเคราะห์ตัวละคร+เนื้อเรื่อง
Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald งานภาพงานเอฟฟเฟกซ์จัดว่าดูสวยงาม อลังการ แม้กระทั่งสัตว์มหัศจรรย์ก็ทำออกมาได้ดี ซีนที่เราชอบมากคือการได้เห็นกระทรวงเวทมนตร์ในประเทศอื่นๆ ซึ่งภาคก่อนหน้านั้นเป็นของอเมริกากับอังกฤษและมาในภาคนี้เป็นของฝรั่งเศส ซึ่งอินทีเรียออกแบบออกมาได้สวยงามและยิ่งใหญ่ไม่ด้อยกว่าที่ประเทศอื่นๆ ส่วนในเรื่องเอฟเฟกซ์เวทย์มนต์มีการปรับสกิล(ไม่รู้ใช้ศัพท์ว่าอะไรดี --.) ให้ดูลื่นไหลและรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งจะต่างจากภาคในหนัง Harry Potter ที่จะมีความละเมียดละไมในการร่ายเวทย์+ซาวด์ประกอบทำให้เรารู้สึกความหนัก+เบาของการร่ายเวทย์มนต์ แต่ใน Fantastic Beasts จะเน้นความกระชับและดูทันสมัยมากขึ้น (ทั้งๆที่ Story มันเก่ากว่า hp น้อออ)
ด้านตัวละคร+บทหนัง
ในภาคนี้มีตัวละใหม่ปรากฏเยอะมากกกก ยังไม่นับชื่อตัวละครลำดับญาติ ตัวละครเชื่อมโยง ตัวละครลับ ฉะนั้นหากใครอยากรู้เรื่องราวแบบไม่มึนควรจะอ่านหนังสือหรืออ่านบทสรุป Harry Potter+Fantastic Beasts มาก่อนดูหนังจริง โดยเฉพาะความสัมพันธ์ ดัมเบิลดอร์+กรินเดลวัลด์+วงศาคณาญาติ และการที่ตัวละครเยอะนี้เองทำให้บทค่อนข้างกระจายไปหลายคน บวกกับเวลาหนังที่มีจำกัด ทำให้ตัวละครบางคนเหมือนตัวประกอบ หรือแทบจะไม่เกิดอิมแพคกับหนังและคนดู เพราะบางจุดก็เดินเรื่องเร็วจนแบบเอ๊ะๆๆเดี๋ยวน้าาาา! และบางครั้งมีความยืดเยื้อจนรู้สึกอึดอัดฝืนๆเพราะหนังพยายามให้มีการเชื่อมโยงแต่ละเหตุการณ์เข้าด้วยกันด้วยเวลาที่จำกัด เข้าใจว่าต้องการเอาใจสาวก Harry Potter แต่หนังมีการเร่งจักรวาล+เนื้อเรื่องเร็วไปนิด ทำให้เราไม่อินหรือมีต้องร้องว้าวออกมา แม้จะมีฉากต่อสู้กันแต่เราก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นใจระทึก หากเป็นเส้นกราฟก็ประมาณเส้นคลื่นสูงๆต่ำไม่มากไม่น้อย ไม่มีซีนไหนถึงกับจุดพีค
ซึ่งส่วนนี้เองเป็นจุดสำคัญที่ทำให้หลายคนอาจชอบและไม่ชอบ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้การทำให้หนังเร่งเนื้อเรื่องเร็วเกินไป มีเคสตัวอย่างเช่นหนังค่าย DC นั่นเอง ที่พยายามบีบหนังทุกเรื่องเอาไปรวมกระจุกจนออกมาค่อนข้างเละเทะ ซึ่งต่างจาก Marvel ที่ใช้เวลาค่อยๆเก็บไปทีละเรื่องสองเรื่องจนมารวมกันได้ หรือแม้แต่ Harry Potter 1-7 เอง ก็ใช้ระยะเวลาในการเล่าเรื่องไปเรื่อยๆจนคนดูรู้สึกผูกพันธ์กับตัวละคร
ตัวละครบางตัวที่ไม่ค่อยสมเหตุสมเหตุผล
ซีนที่ความรู้สึกตัวที่เราไม่ค่อยโอเคเท่าไร จะเป็นช่วงที่ Leta Lestrange อธิบายเกี่ยวกับ family tree ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจ แต่รู้สึกว่ามันดูอึดอัดๆและยัดทุกเหตุการณ์ตู้มเดียวใหญ่ๆให้คนดู และทำให้ตัวละครอย่าง Yusuf kama ที่อุตสาห์ทำปฏิญาณไม่คืนคำเพื่อที่จะฆ่าครีเดนซ์(ถ้าไม่ฆ่าตัวเองจะตาย) กลายเป็นตัวละคนที่ดูทึ่มไปชั่วขณะ ซีนนี้อารมณ์เหมือนเด็กทะเลาะกันและไม่ค่อยจะอินสักเท่าไร
นากินี :: หญิงสาวผู้ต้องคำสาปและวันนึงต้องกลายร่างเป็นสิ่งนั้นไปชั่วชีวิต หลายคนน่าจะลุ้นว่านากินีจะมีบทบาทอะไรในภาคนี้ แต่ๆๆเปล่าเลยจ้า.. มีเกริ่นแค่เล็กน้อยว่าต้นกำเนิดจากอินโดนีเซีย จากนั้นโผล่แว๊บไปมาไม่ได้มีบทบาทเด่นอะไรนอกจากความสัมพันธ์กับครีเดนซ์ ซึ่งต้องมาลุ้นกันว่าในภาคถัดไปเธอจะมีจุดเชื่อมโยงยังไงถึงได้มาเป็นงูของ ลอร์ดโวลเดอมอร์
ฉากใน Trailer นี้ในหนังจริงถูกตัดออก -.-
ควีนนี โกลด์สตีน :: เป็นตัวละครที่เราชอบมากที่สุดคนนึงในเรื่อง Fantastic Beasts นอกจากสวยและเซ็กซี่แล้ว เธอยังเป็นคนตลกและชวนทำให้หนังดูผ่อนคลายคู่กับเจค็อบ ในภาคนี้เธอได้กลายเป็นสาวกของ Grindelwald เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเราขัดใจการตัดสินใจการเลือกข้างของเธอ ดูไม่ค่อยมีเหตุมีผลเท่าไรนักเพียงเพราะโดนกล่อมว่าจะได้รักอย่างอิสระ ทั้งๆที่คนที่เธอรักมากที่สุดคือเจค็อบและทีน่า การตัดสินใจไปอยู่ฝ่ายตรงข้ามจึงเปรียบเสมือนฆ่าเจค็อบและทีน่าในทางอ้อม
นิวท์+ดัมเบิลดอร์ :: ถือว่าเป็นตัวละครคู่เอกที่แสดงออกมาได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะดัมเบิลดอร์ที่แบบว่าหล่อลากอายุเวอร์
ซึ่งดัมเบิลดอร์ในภาคนี้ก็ยังคงเป็นคาแรคเตอร์ใกล้เคียงกับในภาคแฮร์รี่ คือ มีความใจเย็น ฉลาด และมองการณ์ไกล ส่วนนิวท์ (Eddie Redmayne)ยังคงโชว์ฝีมือการแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม และค่อนข้างเอาอยู่และเอาใจคนดูได้อย่างดี
Grindelwald :: ตัวร้ายหลักนำแสดงโดยป๋าเดป เรียกว่าแสดงได้อย่างสมบทบาท มีความร้ายกาจแบบนิ่งๆจิตๆ ในภาคนี้เฮียโชว์ออกมาหลายซีนมาก จนทำให้อยากเห็นว่า ถ้า Grindelwald VS ดัมเบิลดอร์ จริงๆจะเป็นยังไง ถึงแม้ว่าทัง้คู่จะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและทำสัตย์สาบานต่อกัน
...แม้หนังจะมีความขึ้นๆลง แต่เรากลับไปประทับใจกับตัวละครคนนึงที่โผล่ออกมาเพียงแค่ไม่กี่ครั้ง นั่นคือ
ศาสตราจารย์มักกอนนากัล ในวัยสาวที่โผล่ออกมาในโรงเรียนฮอกวอตต์ ซึ่งก็ยังคงเป็นศาสตราจารย์เจ้าระเบียบและดูแลเด็กนักเรียนมาอย่างยาวนาน (อดคิดถึงนางในภาคแฮร์รี่ไม่ได้ TT) ซึ่งลึกๆก็หวังว่าในภาคถัดไปอยากให้ ศาสตราจารย์มักกอนนากัล มีบทบาทบ้าง 555+
หาภาพยากมาก ตามที่ลูกศรชี้เลยจ้า ศาสตราจารย์มักกอนนากัล
...สรุปภาพรวมของ Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald สำหรับเราให้ 7/10 คือหนังไม่ได้เลวร้ายแต่ก็ยังไม่ใช่ภาคที่ดีที่สุด หากดูเพื่อความสนุกและต้องการปูเนื้อเรื่องไปภาคถัดไปเรายังแนะนำให้ไปลองดู อาจเป็นเพราะต้องการสร้างเหตุการณ์ใหม่ๆเพื่อไปสู่ชนวนสงครามเลยยังมีบทที่กระจัดกระจายอยู่มาก คิดว่าในภาคถัดไปน่าจะดูเข้าใจง่ายมากขึ้น
**ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมาล่วงหน้านะเจ้าคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพิ่มเติมอีกนิด ผู้กำกับหนังเรื่องนี้คือ เดวิด เยตส์ ซึ่งเราไม่ค่อยโอเคกับผลงานสักเท่าไรตั้งแต่พี่แกกำกับ Harry Potter ภาค 6-7 เพราะเฮียแกตัดฉากที่สำคัญ+เปลี่ยนบท จนทำให้ hp ภาคท้ายๆเหมือนหนังทำให้จบๆ มนต์ขลังในโลก Harry Potter ภาค 1-5 นี่หายไปหมดเลย จำได้ว่าแกเคยให้สัมภาษณ์ที่ตัดฉากต่อสู้ใน hp ภาค 6 เพราะจะมาอยู่ในภาค 7 แต่พอมาดูภาคสุดท้ายจริงๆเหมือนฉากต่อสู้แบบจ๋อยมาก TT
++รีวิวแบบบ้านๆกับหนัง Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald สรุปให้ชัดว่าคุ้มค่าแก่การรอหรือไม่!! ((spoii))
...ขอออกตัวก่อนเลยว่าเราไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ของ Harry Potter แต่อาจเรียกว่าแฟนคลับเพราะก็ติดตามข่าวมาเรื่อยๆเนืองๆฉะนั้นข้อมูลอะไรที่ผิดพลาดหรือผิดประเด็นไปต้องขออภัยล่วงหน้านะเจ้าคะ เป็นการวิจารณ์ด้วยความเห็นส่วนตัวล้วนๆจ้า
Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald เล่าเหตุการณ์ต่อจากภาคแรก หลังจากที่ Grindelwald นั้นถูกจับกุมตัวโดยนิวท์และเหล่ากระทรวงเวทมนตร์ที่สหรัฐอเมริกา และเตรียมจะส่ง Grindelwald กลับมาพิจารณาคดีที่ยุโรปแต่แล้วระหว่างที่ขนย้ายนั้น Grindelwald ได้แอบปลอมตัวสลับกับเจ้าหน้าที่ในกระทรวง(ลูกน้องของพี่แกนั่นแหละ) และหนีการจับกุมได้ในที่สุดก่อนมาปักหลักอยู่ที่ฝรั่งเศสพร้อมกับเหล่าสาวกอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์หลักหลังจากนี้จะเกิดขึ้นที่ฝรั่งเศสนี้เอง
มาวิเคราะห์ตัวละคร+เนื้อเรื่อง
Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald งานภาพงานเอฟฟเฟกซ์จัดว่าดูสวยงาม อลังการ แม้กระทั่งสัตว์มหัศจรรย์ก็ทำออกมาได้ดี ซีนที่เราชอบมากคือการได้เห็นกระทรวงเวทมนตร์ในประเทศอื่นๆ ซึ่งภาคก่อนหน้านั้นเป็นของอเมริกากับอังกฤษและมาในภาคนี้เป็นของฝรั่งเศส ซึ่งอินทีเรียออกแบบออกมาได้สวยงามและยิ่งใหญ่ไม่ด้อยกว่าที่ประเทศอื่นๆ ส่วนในเรื่องเอฟเฟกซ์เวทย์มนต์มีการปรับสกิล(ไม่รู้ใช้ศัพท์ว่าอะไรดี --.) ให้ดูลื่นไหลและรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งจะต่างจากภาคในหนัง Harry Potter ที่จะมีความละเมียดละไมในการร่ายเวทย์+ซาวด์ประกอบทำให้เรารู้สึกความหนัก+เบาของการร่ายเวทย์มนต์ แต่ใน Fantastic Beasts จะเน้นความกระชับและดูทันสมัยมากขึ้น (ทั้งๆที่ Story มันเก่ากว่า hp น้อออ)
ด้านตัวละคร+บทหนัง
ในภาคนี้มีตัวละใหม่ปรากฏเยอะมากกกก ยังไม่นับชื่อตัวละครลำดับญาติ ตัวละครเชื่อมโยง ตัวละครลับ ฉะนั้นหากใครอยากรู้เรื่องราวแบบไม่มึนควรจะอ่านหนังสือหรืออ่านบทสรุป Harry Potter+Fantastic Beasts มาก่อนดูหนังจริง โดยเฉพาะความสัมพันธ์ ดัมเบิลดอร์+กรินเดลวัลด์+วงศาคณาญาติ และการที่ตัวละครเยอะนี้เองทำให้บทค่อนข้างกระจายไปหลายคน บวกกับเวลาหนังที่มีจำกัด ทำให้ตัวละครบางคนเหมือนตัวประกอบ หรือแทบจะไม่เกิดอิมแพคกับหนังและคนดู เพราะบางจุดก็เดินเรื่องเร็วจนแบบเอ๊ะๆๆเดี๋ยวน้าาาา! และบางครั้งมีความยืดเยื้อจนรู้สึกอึดอัดฝืนๆเพราะหนังพยายามให้มีการเชื่อมโยงแต่ละเหตุการณ์เข้าด้วยกันด้วยเวลาที่จำกัด เข้าใจว่าต้องการเอาใจสาวก Harry Potter แต่หนังมีการเร่งจักรวาล+เนื้อเรื่องเร็วไปนิด ทำให้เราไม่อินหรือมีต้องร้องว้าวออกมา แม้จะมีฉากต่อสู้กันแต่เราก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นใจระทึก หากเป็นเส้นกราฟก็ประมาณเส้นคลื่นสูงๆต่ำไม่มากไม่น้อย ไม่มีซีนไหนถึงกับจุดพีค ซึ่งส่วนนี้เองเป็นจุดสำคัญที่ทำให้หลายคนอาจชอบและไม่ชอบ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตัวละครบางตัวที่ไม่ค่อยสมเหตุสมเหตุผล
ซีนที่ความรู้สึกตัวที่เราไม่ค่อยโอเคเท่าไร จะเป็นช่วงที่ Leta Lestrange อธิบายเกี่ยวกับ family tree ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจ แต่รู้สึกว่ามันดูอึดอัดๆและยัดทุกเหตุการณ์ตู้มเดียวใหญ่ๆให้คนดู และทำให้ตัวละครอย่าง Yusuf kama ที่อุตสาห์ทำปฏิญาณไม่คืนคำเพื่อที่จะฆ่าครีเดนซ์(ถ้าไม่ฆ่าตัวเองจะตาย) กลายเป็นตัวละคนที่ดูทึ่มไปชั่วขณะ ซีนนี้อารมณ์เหมือนเด็กทะเลาะกันและไม่ค่อยจะอินสักเท่าไร
นากินี :: หญิงสาวผู้ต้องคำสาปและวันนึงต้องกลายร่างเป็นสิ่งนั้นไปชั่วชีวิต หลายคนน่าจะลุ้นว่านากินีจะมีบทบาทอะไรในภาคนี้ แต่ๆๆเปล่าเลยจ้า.. มีเกริ่นแค่เล็กน้อยว่าต้นกำเนิดจากอินโดนีเซีย จากนั้นโผล่แว๊บไปมาไม่ได้มีบทบาทเด่นอะไรนอกจากความสัมพันธ์กับครีเดนซ์ ซึ่งต้องมาลุ้นกันว่าในภาคถัดไปเธอจะมีจุดเชื่อมโยงยังไงถึงได้มาเป็นงูของ ลอร์ดโวลเดอมอร์
ควีนนี โกลด์สตีน :: เป็นตัวละครที่เราชอบมากที่สุดคนนึงในเรื่อง Fantastic Beasts นอกจากสวยและเซ็กซี่แล้ว เธอยังเป็นคนตลกและชวนทำให้หนังดูผ่อนคลายคู่กับเจค็อบ ในภาคนี้เธอได้กลายเป็นสาวกของ Grindelwald เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเราขัดใจการตัดสินใจการเลือกข้างของเธอ ดูไม่ค่อยมีเหตุมีผลเท่าไรนักเพียงเพราะโดนกล่อมว่าจะได้รักอย่างอิสระ ทั้งๆที่คนที่เธอรักมากที่สุดคือเจค็อบและทีน่า การตัดสินใจไปอยู่ฝ่ายตรงข้ามจึงเปรียบเสมือนฆ่าเจค็อบและทีน่าในทางอ้อม
นิวท์+ดัมเบิลดอร์ :: ถือว่าเป็นตัวละครคู่เอกที่แสดงออกมาได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะดัมเบิลดอร์ที่แบบว่าหล่อลากอายุเวอร์ ซึ่งดัมเบิลดอร์ในภาคนี้ก็ยังคงเป็นคาแรคเตอร์ใกล้เคียงกับในภาคแฮร์รี่ คือ มีความใจเย็น ฉลาด และมองการณ์ไกล ส่วนนิวท์ (Eddie Redmayne)ยังคงโชว์ฝีมือการแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม และค่อนข้างเอาอยู่และเอาใจคนดูได้อย่างดี
Grindelwald :: ตัวร้ายหลักนำแสดงโดยป๋าเดป เรียกว่าแสดงได้อย่างสมบทบาท มีความร้ายกาจแบบนิ่งๆจิตๆ ในภาคนี้เฮียโชว์ออกมาหลายซีนมาก จนทำให้อยากเห็นว่า ถ้า Grindelwald VS ดัมเบิลดอร์ จริงๆจะเป็นยังไง ถึงแม้ว่าทัง้คู่จะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและทำสัตย์สาบานต่อกัน
...แม้หนังจะมีความขึ้นๆลง แต่เรากลับไปประทับใจกับตัวละครคนนึงที่โผล่ออกมาเพียงแค่ไม่กี่ครั้ง นั่นคือ ศาสตราจารย์มักกอนนากัล ในวัยสาวที่โผล่ออกมาในโรงเรียนฮอกวอตต์ ซึ่งก็ยังคงเป็นศาสตราจารย์เจ้าระเบียบและดูแลเด็กนักเรียนมาอย่างยาวนาน (อดคิดถึงนางในภาคแฮร์รี่ไม่ได้ TT) ซึ่งลึกๆก็หวังว่าในภาคถัดไปอยากให้ ศาสตราจารย์มักกอนนากัล มีบทบาทบ้าง 555+
...สรุปภาพรวมของ Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald สำหรับเราให้ 7/10 คือหนังไม่ได้เลวร้ายแต่ก็ยังไม่ใช่ภาคที่ดีที่สุด หากดูเพื่อความสนุกและต้องการปูเนื้อเรื่องไปภาคถัดไปเรายังแนะนำให้ไปลองดู อาจเป็นเพราะต้องการสร้างเหตุการณ์ใหม่ๆเพื่อไปสู่ชนวนสงครามเลยยังมีบทที่กระจัดกระจายอยู่มาก คิดว่าในภาคถัดไปน่าจะดูเข้าใจง่ายมากขึ้น
**ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมาล่วงหน้านะเจ้าคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้