ในโลกยุคปัจจุบันนักกีฬาทุกคนโดยเฉพาะนักฟุตบอลได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในไอดอลของคนยุคโซเชียล และหากเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงยิ่งเป็นที่ชื่นชอบของทุกๆ คน อย่างในรายของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์ลูกหนัง ยูเวนตุส ถือเป็นพ่อค้าแข้งที่มีผู้คนติดตาม และชื่นชอบอย่างมากไม่ต่างอะไรกับดาราเพียงแต่ไม่ได้อยู่ในแผ่นฟิล์มเท่านั้นเอง
ดาวเตะชาวโปรตุกีส เริ่มต้นอาชีพจากเด็กโนเนมในลีกบ้านเกิดกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ก่อนที่โชคชะตาผสมกับความสามารถเฉพาะตัวที่เตะตา เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จนได้ย้ายมาเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนจะยิ่งใหญ่สุดขีดกับ เรอัล มาดริด และตอนนี้ก็กำลังไล่ล่าความท้าทายใหม่กับ ยูเว่ ในกัลโช่ เซเรีย อา
โรนัลโด้ คือหนึ่งในซูเปอร์สตาร์บนสนามหญ้าที่ทุกๆ คนยกย่องให้เป็นไอดอลในดวงใจ และไม่ว่าเขาจะทำอะไรมักจะมีผู้คนคอยเฝ้าติดตามอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นผลงานเวลาที่ลงสนามช่วยต้นสังกัด (ทั้งในอดีตและปัจจุบัน) รวมไปถึงชีวิตนอกสนามที่แม้ไม่หวือหวาแต่น่าสนใจมากๆ
ด้วยความเป็นซูเปอร์สตาร์จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะมีเหล่าสินค้ามากมายหลายชนิดรุมจีบเพื่อดึงตัวไปเป็นพรีเซนเตอร์ และนั่นทำให้เขาได้รับรายได้จำนวนมหาศาล และทำให้กลายเป็นนักกีฬาที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับ 3 ประจำปี 2018 จากการจัดอันดับของ ฟอร์บส์ นิตยสารดังด้านการเงิน
ฟอร์บส์ ระบุว่ารายได้ของนักกีฬาแต่ละคนถูกนำมาพิจารณาตั้งแต่วันที่ 1 เดือนมิถุนายน 2017- วันที่ 1 เดือนมิ.ย. 2018 ซึ่งเมื่อรับตัวเลขที่อยู่ในบัญชีของ โรนัลโด้ แสดงให้เห็นว่าเขารับทรัพย์ไปถึง 82.1 ล้านปอนด์ (ราว 3,694.5 ล้านบาท) โดยจำนวนเงินเหล่านั้นมีทั้งค่าลิขสิทธิ์, ค่าเหนื่อย, โบนัส และเงินรางวัล
สำหรับในเวลานี้ทุกๆ คนต้องยอมรับว่า โรนัลโด้ เป็นนักเตะที่มีมูลค่าสูงมากๆ และร่างกายของเขาสามารถทำเงินได้ทุกส่วนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า และนี่ไม่ใช่เรื่องที่เกินจริง เพราะมีการเปิดเผยแล้วว่า กัปตันทีมชาติโปรตุเกส มีสปอนเซอร์ที่เข้ามาเกี่ยวพันกับเรือนร่างของเขามากมาย
คาสตรอล (Castrol)
ซึ่งทำให้เขาได้รับเงินจำนวนมากกว่า 7 ล้านปอนด์ (ราว 315 ล้านบาท) หลังจากที่สลัดน้ำหมึกเซ็นสัญญากับบริษัทน้ำมันเครื่องยักษ์ใหญ่ เป็นเวลา 2 ปี นอกจากนี้ คาสตรอล ยังได้มีการต่อสัญญาใหม่ให้กับ "โด้" อีก 2 ปีในปี 2011 แต่ไม่มีการเปิดเผยจำนวนเงินแต่อย่างใด
อียิปต์เชียน สตีล (Egyptian Steel)
หนึ่งในการเซ็นสัญญาที่สร้างความประหลาดใจมากๆ มาจากบริษัทอียิปต์เชียน สตีล ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โดย สตาร์ลูกหนังเลือดฝอยทอง เป็นพาร์ทเนอร์ให้กับพวกเขาเมื่อปี 2017 เพื่อโปรโมทอุตสาหกรรมเหล็กในดินแดนมัมมี่ ขณะเดียวกันยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า โรนัลโด้ ได้รับรายได้มากแค่ไหนสำหรับการเซ็นสัญญาในครั้งนี้
คาสตรอล (Castrol)
ในปี 2009 โรนัลโด้ กลายเป็นแบรนด์ แอมบาสซาเดอร์ หรือ "ทูต" ให้กับบริษัทคาสตรอล ซึ่งทำให้เขาได้รับเงินจำนวนมากกว่า 7 ล้านปอนด์ (ราว 315 ล้านบาท) หลังจากที่สลัดน้ำหมึกเซ็นสัญญากับบริษัทน้ำมันเครื่องยักษ์ใหญ่ เป็นเวลา 2 ปี นอกจากนี้ คาสตรอล ยังได้มีการต่อสัญญาใหม่ให้กับ "โด้" อีก 2 ปีในปี 2011 แต่ไม่มีการเปิดเผยจำนวนเงินแต่อย่างใด
ไนกี้ (Nike)
กัปตันทีมชาติโปรตุเกส เซ็นสัญญาตลอดชีวิตกับ ไนกี้ บริษัทผลิตภัณฑ์กีฬายักษ์ใหญ่เมื่อปี 2016 ซึ่งมีเพียงนักกีฬา 3 คนในโลกนี้เท่านั้นที่ได้รับเกียรตินี้ และเขาเป็นนักฟุตบอลคนแรกด้วย หลังก่อนหน้านี้ เลบรอน เจมส์ กับ ไมเคิ่ล จอร์แดน สองยอดนักบาสเกตบอลชาวอเมริกัน ได้รับเกียรตินี้
ไนกี้ รับหน้าที่เป็นสปอนเซอร์ให้กับ โรนัลโด้ ตั้งแต่ปี 2003 และต้องขอบคุณสำหรับเงื่อนไขที่ได้รับจริงๆ เพราะพวกเขาจะเป็นสปอนเซอร์ให้กับ ยอดแข้งลูกสี่ ต่อไปเมื่อเขาแขวนสตั๊ด ขณะเดียวกันสัญญาตลอดชีวิตของ อดีตสตาร์แมนฯ ยูไนเต็ด และ เรอัล มาดริด มีมูลค่าประมาณ 781 ล้านปอนด์ (ราว 35,145 ล้านบาท) จากการรายงานของนิตยสารฟอร์บส์
แชมพูเคลียร์ (Clear Shampoo)
ในปี 2014 โรนัลโด้ เป็นได้ร่วมงานกับบริษัทแชมพูเคลียร์ ในฐานะแบรนด์ แอมบาสซาเดอร์ หรือ "ทูต" และเขาเป็นหนึ่งในสตาร์ดังที่ทำหน้าที่โฆษณาเกี่ยวกับเรื่องการขจัดรังแค โรนัลโด้ ยังมีโอกาสได้ถ่ายโฆษณาสินค้าตัวอื่นๆ ของบริษัทนี้อย่างแชมพู คลีน เมน สำหรับรายได้ของเขาต้องบอกว่ามากกว่า 1.5 ล้านปอนด์ (ราว 67.5 ล้านบาท)
เทรนนิ่ง เกียร์ ซิกซ์แพ็ด (Training Gear Sixpad)
การปรากฎตัวของ โรนัลโด้ ในการถ่ายโฆษณามักจะเกิดข้อสงสัยมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ไม่มีอะไรที่น่าสงสัยไปกว่าการที่เขาเซ็นสัญญากับ เทรนนิ่ง เกียร์ ซิกซ์แพ็ด เป็นอุปกรณ์แผ่นเครื่องนวดกระตุ้นกล้ามเนิ้อบริเวณหน้าท้อง และมีการอ้างสรรพคุณว่าช่วยสร้างซิกซ์แพ็คได้ ในส่วนของการเซ็นสัญญาครั้งนี้ไม่มีการเปิดเผยเรื่องรายได้ที่ โรนัลโด้ ได้รับ
อเมริกัน ทัวริสเตอร์ (American Tourister)
ช่วงต้นปีนี้ บริษัทอเมริกัน ทัวริสเตอร์ ซึ่งเป็นผู้นำเทรนด์ ดีไซน์กระเป๋าเดินทาง ได้เปิดเผยว่า ดาวเตะซูเปอร์สตาร์ "ม้าลาย" ยูเวนตุส จะทำหน้าที่เป็นแบรนด์ แอมบาสซาเดอร์ ให้กับพวกเขา โดย ดาวยิงกล้ามแน่น เคยปรากฎตัวในโฆษณาของบริษัทผลิตกระเป๋าเดินทางเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม และได้รับสัญญาใหม่พร้อมกับเงินเข้าบัญชีประมาณ 312,000 ปอนด์ (ราว 14 ล้านบาท)
อีเอ สปอร์ตส์ (EA Sports)
ลิโอเนล เมสซี่ เคยเป็นสตาร์ลูกหนังที่ได้ขึ้นปกเกมฟีฟ่า เป็นเวลา 4 ปี จนกระทั่งมาถึง มาร์โค รอยส์ ได้รับเสียงโหวตจากสาธารณชนให้ได้ขึ้นปก ฟีฟ่า 17 สำหรับในปี 2018 โรนัลโด้ ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการในฐานะสตาร์คนใหม่ที่ได้ขึ้นปก และจะเป็นแบบนี้ไปจนถึงเวอร์ชั่นปี 2019 สำหรับ อีเอ สปอร์ตส์ ไม่ได้เปิดเผยว่า โรนัลโด้ ได้รับรายได้เท่าไหร่จากการขึ้นปกของเกม ฟีฟ่า 18 และ 19 แต่คาดว่าตัวเลขน่าจะราวๆ 7 หลัก
แพนเซอร์ กลาสส์ (PanzeerGlass)
บริษัทผลิตฟิล์มกระจกกันรอยแบรนด์ชั้นนำจากประเทศเดนมาร์ก ได้ประกาศว่าพวกเขาทำการเซ็นสัญญาเป็นพาร์ทเนอร์ชิพกับ โรนัลโด้ เมื่อปี 2017 โดยความโดดเด่นของกระจกกันรอยรุ่นนี้ จะมีสัญลักษณ์ประจำตัวของ โรนัลโด้ นั่นก็คือ "ซีอาร์ 7" (CR7) ซึ่งโลโก้นี้จะปรากฏขึ้นเมื่อปิดเครื่องหรือพักหน้าจอ สำหรับการทำสัญญาครั้งนี้ โรนัลโด้ ได้รับเงินเอาไว้เลี้ยงดูลูกๆ และครอบครัวของเขาแบบเบาๆ สบายๆ ประมาณ 780,000 ปอนด์ (ราว 35.1 ล้านบาท)
ทั้งนี้หาก โรนัลโด้ ยังคงประสบความสำเร็จในวงการลูกหนังต่อไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าคงมีอีกหลายแบรนด์ชั้นนำที่พร้อมจะทุ่มเงินเพื่อได้เขามาเป็นพรีเซนเตอร์ เพราะเมื่อเทียบกับโอกาสที่จะได้รับความสนใจจากผู้คน นี่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ขณะเดียวกับ "โด้" ก็ได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมเช่นกัน
ขอบคุณภาพ : mirror.co.uk
credit : www.siamsport.co.th
เปิดกรุทองคำ "โรนัลโด้" มีดีตั้งแต่หัวจรดเท้า
ดาวเตะชาวโปรตุกีส เริ่มต้นอาชีพจากเด็กโนเนมในลีกบ้านเกิดกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ก่อนที่โชคชะตาผสมกับความสามารถเฉพาะตัวที่เตะตา เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จนได้ย้ายมาเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนจะยิ่งใหญ่สุดขีดกับ เรอัล มาดริด และตอนนี้ก็กำลังไล่ล่าความท้าทายใหม่กับ ยูเว่ ในกัลโช่ เซเรีย อา
โรนัลโด้ คือหนึ่งในซูเปอร์สตาร์บนสนามหญ้าที่ทุกๆ คนยกย่องให้เป็นไอดอลในดวงใจ และไม่ว่าเขาจะทำอะไรมักจะมีผู้คนคอยเฝ้าติดตามอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นผลงานเวลาที่ลงสนามช่วยต้นสังกัด (ทั้งในอดีตและปัจจุบัน) รวมไปถึงชีวิตนอกสนามที่แม้ไม่หวือหวาแต่น่าสนใจมากๆ
ด้วยความเป็นซูเปอร์สตาร์จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะมีเหล่าสินค้ามากมายหลายชนิดรุมจีบเพื่อดึงตัวไปเป็นพรีเซนเตอร์ และนั่นทำให้เขาได้รับรายได้จำนวนมหาศาล และทำให้กลายเป็นนักกีฬาที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับ 3 ประจำปี 2018 จากการจัดอันดับของ ฟอร์บส์ นิตยสารดังด้านการเงิน
ฟอร์บส์ ระบุว่ารายได้ของนักกีฬาแต่ละคนถูกนำมาพิจารณาตั้งแต่วันที่ 1 เดือนมิถุนายน 2017- วันที่ 1 เดือนมิ.ย. 2018 ซึ่งเมื่อรับตัวเลขที่อยู่ในบัญชีของ โรนัลโด้ แสดงให้เห็นว่าเขารับทรัพย์ไปถึง 82.1 ล้านปอนด์ (ราว 3,694.5 ล้านบาท) โดยจำนวนเงินเหล่านั้นมีทั้งค่าลิขสิทธิ์, ค่าเหนื่อย, โบนัส และเงินรางวัล
สำหรับในเวลานี้ทุกๆ คนต้องยอมรับว่า โรนัลโด้ เป็นนักเตะที่มีมูลค่าสูงมากๆ และร่างกายของเขาสามารถทำเงินได้ทุกส่วนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า และนี่ไม่ใช่เรื่องที่เกินจริง เพราะมีการเปิดเผยแล้วว่า กัปตันทีมชาติโปรตุเกส มีสปอนเซอร์ที่เข้ามาเกี่ยวพันกับเรือนร่างของเขามากมาย
คาสตรอล (Castrol)
ซึ่งทำให้เขาได้รับเงินจำนวนมากกว่า 7 ล้านปอนด์ (ราว 315 ล้านบาท) หลังจากที่สลัดน้ำหมึกเซ็นสัญญากับบริษัทน้ำมันเครื่องยักษ์ใหญ่ เป็นเวลา 2 ปี นอกจากนี้ คาสตรอล ยังได้มีการต่อสัญญาใหม่ให้กับ "โด้" อีก 2 ปีในปี 2011 แต่ไม่มีการเปิดเผยจำนวนเงินแต่อย่างใด
อียิปต์เชียน สตีล (Egyptian Steel)
หนึ่งในการเซ็นสัญญาที่สร้างความประหลาดใจมากๆ มาจากบริษัทอียิปต์เชียน สตีล ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โดย สตาร์ลูกหนังเลือดฝอยทอง เป็นพาร์ทเนอร์ให้กับพวกเขาเมื่อปี 2017 เพื่อโปรโมทอุตสาหกรรมเหล็กในดินแดนมัมมี่ ขณะเดียวกันยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า โรนัลโด้ ได้รับรายได้มากแค่ไหนสำหรับการเซ็นสัญญาในครั้งนี้
คาสตรอล (Castrol)
ในปี 2009 โรนัลโด้ กลายเป็นแบรนด์ แอมบาสซาเดอร์ หรือ "ทูต" ให้กับบริษัทคาสตรอล ซึ่งทำให้เขาได้รับเงินจำนวนมากกว่า 7 ล้านปอนด์ (ราว 315 ล้านบาท) หลังจากที่สลัดน้ำหมึกเซ็นสัญญากับบริษัทน้ำมันเครื่องยักษ์ใหญ่ เป็นเวลา 2 ปี นอกจากนี้ คาสตรอล ยังได้มีการต่อสัญญาใหม่ให้กับ "โด้" อีก 2 ปีในปี 2011 แต่ไม่มีการเปิดเผยจำนวนเงินแต่อย่างใด
ไนกี้ (Nike)
กัปตันทีมชาติโปรตุเกส เซ็นสัญญาตลอดชีวิตกับ ไนกี้ บริษัทผลิตภัณฑ์กีฬายักษ์ใหญ่เมื่อปี 2016 ซึ่งมีเพียงนักกีฬา 3 คนในโลกนี้เท่านั้นที่ได้รับเกียรตินี้ และเขาเป็นนักฟุตบอลคนแรกด้วย หลังก่อนหน้านี้ เลบรอน เจมส์ กับ ไมเคิ่ล จอร์แดน สองยอดนักบาสเกตบอลชาวอเมริกัน ได้รับเกียรตินี้
ไนกี้ รับหน้าที่เป็นสปอนเซอร์ให้กับ โรนัลโด้ ตั้งแต่ปี 2003 และต้องขอบคุณสำหรับเงื่อนไขที่ได้รับจริงๆ เพราะพวกเขาจะเป็นสปอนเซอร์ให้กับ ยอดแข้งลูกสี่ ต่อไปเมื่อเขาแขวนสตั๊ด ขณะเดียวกันสัญญาตลอดชีวิตของ อดีตสตาร์แมนฯ ยูไนเต็ด และ เรอัล มาดริด มีมูลค่าประมาณ 781 ล้านปอนด์ (ราว 35,145 ล้านบาท) จากการรายงานของนิตยสารฟอร์บส์
แชมพูเคลียร์ (Clear Shampoo)
ในปี 2014 โรนัลโด้ เป็นได้ร่วมงานกับบริษัทแชมพูเคลียร์ ในฐานะแบรนด์ แอมบาสซาเดอร์ หรือ "ทูต" และเขาเป็นหนึ่งในสตาร์ดังที่ทำหน้าที่โฆษณาเกี่ยวกับเรื่องการขจัดรังแค โรนัลโด้ ยังมีโอกาสได้ถ่ายโฆษณาสินค้าตัวอื่นๆ ของบริษัทนี้อย่างแชมพู คลีน เมน สำหรับรายได้ของเขาต้องบอกว่ามากกว่า 1.5 ล้านปอนด์ (ราว 67.5 ล้านบาท)
เทรนนิ่ง เกียร์ ซิกซ์แพ็ด (Training Gear Sixpad)
การปรากฎตัวของ โรนัลโด้ ในการถ่ายโฆษณามักจะเกิดข้อสงสัยมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ไม่มีอะไรที่น่าสงสัยไปกว่าการที่เขาเซ็นสัญญากับ เทรนนิ่ง เกียร์ ซิกซ์แพ็ด เป็นอุปกรณ์แผ่นเครื่องนวดกระตุ้นกล้ามเนิ้อบริเวณหน้าท้อง และมีการอ้างสรรพคุณว่าช่วยสร้างซิกซ์แพ็คได้ ในส่วนของการเซ็นสัญญาครั้งนี้ไม่มีการเปิดเผยเรื่องรายได้ที่ โรนัลโด้ ได้รับ
อเมริกัน ทัวริสเตอร์ (American Tourister)
ช่วงต้นปีนี้ บริษัทอเมริกัน ทัวริสเตอร์ ซึ่งเป็นผู้นำเทรนด์ ดีไซน์กระเป๋าเดินทาง ได้เปิดเผยว่า ดาวเตะซูเปอร์สตาร์ "ม้าลาย" ยูเวนตุส จะทำหน้าที่เป็นแบรนด์ แอมบาสซาเดอร์ ให้กับพวกเขา โดย ดาวยิงกล้ามแน่น เคยปรากฎตัวในโฆษณาของบริษัทผลิตกระเป๋าเดินทางเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม และได้รับสัญญาใหม่พร้อมกับเงินเข้าบัญชีประมาณ 312,000 ปอนด์ (ราว 14 ล้านบาท)
อีเอ สปอร์ตส์ (EA Sports)
ลิโอเนล เมสซี่ เคยเป็นสตาร์ลูกหนังที่ได้ขึ้นปกเกมฟีฟ่า เป็นเวลา 4 ปี จนกระทั่งมาถึง มาร์โค รอยส์ ได้รับเสียงโหวตจากสาธารณชนให้ได้ขึ้นปก ฟีฟ่า 17 สำหรับในปี 2018 โรนัลโด้ ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการในฐานะสตาร์คนใหม่ที่ได้ขึ้นปก และจะเป็นแบบนี้ไปจนถึงเวอร์ชั่นปี 2019 สำหรับ อีเอ สปอร์ตส์ ไม่ได้เปิดเผยว่า โรนัลโด้ ได้รับรายได้เท่าไหร่จากการขึ้นปกของเกม ฟีฟ่า 18 และ 19 แต่คาดว่าตัวเลขน่าจะราวๆ 7 หลัก
แพนเซอร์ กลาสส์ (PanzeerGlass)
บริษัทผลิตฟิล์มกระจกกันรอยแบรนด์ชั้นนำจากประเทศเดนมาร์ก ได้ประกาศว่าพวกเขาทำการเซ็นสัญญาเป็นพาร์ทเนอร์ชิพกับ โรนัลโด้ เมื่อปี 2017 โดยความโดดเด่นของกระจกกันรอยรุ่นนี้ จะมีสัญลักษณ์ประจำตัวของ โรนัลโด้ นั่นก็คือ "ซีอาร์ 7" (CR7) ซึ่งโลโก้นี้จะปรากฏขึ้นเมื่อปิดเครื่องหรือพักหน้าจอ สำหรับการทำสัญญาครั้งนี้ โรนัลโด้ ได้รับเงินเอาไว้เลี้ยงดูลูกๆ และครอบครัวของเขาแบบเบาๆ สบายๆ ประมาณ 780,000 ปอนด์ (ราว 35.1 ล้านบาท)
ทั้งนี้หาก โรนัลโด้ ยังคงประสบความสำเร็จในวงการลูกหนังต่อไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าคงมีอีกหลายแบรนด์ชั้นนำที่พร้อมจะทุ่มเงินเพื่อได้เขามาเป็นพรีเซนเตอร์ เพราะเมื่อเทียบกับโอกาสที่จะได้รับความสนใจจากผู้คน นี่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ขณะเดียวกับ "โด้" ก็ได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมเช่นกัน
ขอบคุณภาพ : mirror.co.uk
credit : www.siamsport.co.th