คือท้าวความก่อนนะครับคือแฟนผมเนี่ยชอบไปเอาสุนัขจรจัดมาเลี้ยง หรือรับอุปการะ เริ่มแลกเลยตั้งแต่เมื่อก่อนเนี่ยผมทำงานที่สงขลา แล้วไปอยู่หอพัก มันมีสุนัขจรจัดแถวๆนั้นแฟนก็สงสารไปให้ข้าว เจ้าของเค้าก็ห้ามเพราะมันเข้ามานอนในเขตหอ สุดท้ายก็โดนขอให้ออก ย้ายไปอยู่บ้านเช่า ก็เอาไปด้วยตังนึง พอไปอยู่บ้านเช่า ก็ไปได้อีกตัวแถวนั้น แล้วหมามันก็ไปกัดเป็ดกัดไก่ชาวบ้าน ต้องไปเสียค่าปรับให้เค้าอีก ทั้งๆที่ตอนนั้น เงินเดือนเราก็แค่ 15,000 ทำงานคนเดียว ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่าใช้จ่ายในบ้านอีก ต่อมาผมมีปัญหากับที่ทำงาน ต้องย้ายกับมาอยู่บ้านที่อีสาน แฟนก็เอามาด้วย แล้วไปฝากไว้กับพระแถวนครปฐม เสียค่าฝากเลี้ยง สองตัวเดือนละ 1,500 อันนี้จบไปปัญหาแรก ต่อมาผมได้งานใหม่ที่ชลบุรี แฟนทำธุรกิจส่วนตัวที่บ้าน เค้าก็คอยสงสารตัวนั้น ตัวนี้ไปเรื่อย เราก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่มีครั้งหนึ่ง เราไปเที่ยวเชียงใหม่กัน ขับรถส่วนตัวไป ตอนแวะเที่ยว แฟนไปเจอหมาตัวนึง เป็นหมาจรน่าจะผสมชิวาว่าอยู่ที่สถานที่ราชการแห่งหนึ่ง ก็เกิดสงสารอีกจะเอากลับ ทะเลาะกันสุดท้ายเรายอมแพ้ แต่เพื่อนเค้าช่วยเคลีย สุดท้ายก็ปล่อยให้เจ้าหน้าที่เค้าเลี้ยงต่อไป ไม่ได้เอากลับ

มาถึงปัญหาล่าสุด ตอนนี้ผมกับแฟน ลงทุนทำฟาร์มไก่อยู่ที่บ้าน ภาคอีสาน ทีนี้ด้วยความที่ทำในหมู่บ้านมันก็มีหมาเยอะ แฟนก็ไปช่วยหมาตัวนึงที่ถูกเจ้าของทรมาณ เลี้ยงแบบไม่รัก แต่ช่วยแล้วก็ยังเอามาไว้ในฟาร์มไม่ได้ เพราะหมากัดไก่ ก็เลยฝากเลี้ยงกะคนข้างบ้าน แต่ก็อยู่ใกล้บ้านหลังเดิมของหมา ให้ค่าฝากเดือนละ500 แล้ววันนี้ หมาไปย่ำแปรงผักเค้า (บ้านเจ้าของเดิม) เค้าก็เลยมาคล้องหมาจะเอาไปฆ่า แฟนก็ไปทะเลาะกะคนข้างบ้าน เค้าเรียกค่าเสียหายพันนึง แล้วแฟนก็เสนอจะทำรั้วรอบแปรงผักให้เค้าอีก กันหมาไปย่ำ ผมเลยไม่รู้จะทำไงแล้ว หมดเงินไปกะเรื่องหมาๆเยอะมาก ถ้าเรารวยผมจะไม่บ่นซักคำเลย แต่หนี้ก็ยังมี บางครั้งผมก็บอกว่า ช่างมันบ้างก็ได้ แต่เค้าก็จะบอกว่าทำไม่ได้ สงสาร ผมไม่รู้จะแก้ไขปัญหาอย่างไรดี อยากจะเปลี่ยนความคิดแฟนให้ใจแข็งบ้าง หรือผมผิดเองพี่ใจร้ายเกินไป แต่ผมว่าเราช่วยไม่ได้ทุกตัว