สวัสดีชาวพันทิปโต๊ะเฉลิมไทยทุกคนนะครับ (เรียกห้องว่าโต๊ะคงพอบอกได้ว่ารู้จักพันทิปตั้งแต่ตอนไหน 555+)

ถ้าใครได้ติดตามข่าวสารของภาพยนตร์ Homestay คงน่าจะพอทราบว่าเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางค่าย GDH 559 ได้จัดกิจกรรมดูหนังรอบ Q&A กับผู้กำกับ "พี่โอ๋ ภาคภูมิ" ที่โรงภาพยนตร์ Paragon Cineplex สยามพารากอน รอบ 18.00 น.

Source : Facebook ฉลาดเกมส์โกง

ที่ผ่านมาผมเป็นคนที่ไม่ค่อยอยากเสียเงินไปดูหนังสักเท่าไหร่ (อย่าถามถึงการดูซ้ำเลย เหอะๆ) แต่หนังเรื่องนี้ผมตัดสินใจดูเพราะเชื่อมือในคุณภาพของค่าย บวกกับ Key Message ของนิยายต้นฉบับที่หยิบมาทำก็น่าสนใจ แล้วพอได้ดูก็ไม่ผิดหวังครับ (เผลอๆ เกินคาดด้วย) เลยตัดสินใจดูซ้ำมาแล้ว 2 รอบ

และในวันนี้คือการดูหนังซ้ำรอบที่ 3

(หลังจากรอบ Q&A ที่เป็นรอบที่ 3 ผมก็ตัดสินใจไปดูอีกรอบหนึ่งที่ห้างใกล้มหาลัยเมื่อวันที่ 14 พ.ย. เพราะรู้มาว่านั่นเป็นรอบสุดท้ายที่จะได้ฉายในจังหวัดนี้ เลยตัดสินใจไปดูเป็นการทิ้งทวนก่อนลาโรง)

ขอนอกเรื่องนิดนึงนะครับ

Source : Twitter @JMJFans

ก่อนหน้าที่จะเดินทางไปสยามพารากอน ผมมีธุระต้องไปที่ตึกแกรมมี่ตอนบ่าย 3 โมง ซึ่งไม่รู้เลยว่าศิลปินวง 9 by 9 (ถ้าเป็นคอละครก็น่าจะรู้จักพวกเขาในนามลูกหลานตระกูลจิระอนันต์ ในซีรีส์เลือดข้นคนจาง) จะมานัดพบแฟนคลับที่ล็อบบี้
และแน่นอนครับ พี่เจมส์ ธีรดนย์ หรือ "มิน" พระเอกของหนังเรื่องนี้ ก็เป็น 1 ใน 9 สมาชิกของวงนี้ (ภาพที่ยืมมาก็มาจากกิจกรรมที่ผมกล่าวถึงนี่แหละ)
ความตั้งใจที่จะเอานิยาย Colorful ไปขอลายเซ็นต์ก็เลยชวดไปอย่างน่าเสียดายซะอย่างนั้น T_T
แต่ก็ได้ลายเซ็นต์พี่โอ๋ พี่สู่ขวัญ และพี่เบบี้มายด์มาพอทดแทนได้ ^_^"

ต่อเลยดีกว่าเนอะ...ผมเดินทางขึ้นไปชั้น 5 เพื่อเข้าชมภาพยนตร์ในช่วง 6 โมงเย็นพอดีเป๊ะ สภาพคือทั้งตัวชุ่มเหงื่อจากการเพิ่งออกมาจากตึกแกรมมี่แล้วขึ้นรถไฟฟ้ามาสยาม โดยระหว่างเข้าไปก็เจอผู้กำกับและทีมงานค่ายตรงหน้าประตูพอดี

หลังจากได้ที่นั่งแล้ว ผมก็กวาดสายตามองไปรอบๆ ทุกที่นั่งมีคนตั้งใจมาดูจนเกือบเต็มโรง (หายไปแค่ประมาณ 2% ของที่นั่งทั้งหมดเท่านั้น) และไม่ใช่แค่วัยรุ่นวัยทำงานที่มาดูนะครับ ยังมีรุ่นพ่อรุ่นแม่เดินทางมาดูกับลูกด้วย ^^ น่ารักมากๆ เลย


หลังจากนั้นก็ได้รับชมภาพยนตร์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งฉายจบ เสียงปรบมือก็ดังกึกก้องโดยมิได้นัดหมาย ทันใดนั้น พี่กอล์ฟ ปวีณ และพี่โต้ง บรรจง ก็เดินเข้ามาพร้อมพี่โอ๋ผู้กำกับ พูดคุยกับผู้ชมในรอบนี้ด้วยความเป็นกันเอง และเซอร์ไพรส์มากๆ ก็คือ พี่สู่ขวัญซึ่งรับบทเป็นแม่มิน และเบบี้มายด์ ศรุดา ที่รับบท "ลี้" เพื่อนสนิทของมินก็เดินทางมาร่วมกิจกรรมด้วย (ตอนพิมพ์กระทู้ยังอดเสียดายเรื่องพี่เจมส์ไม่หายเลย ฮือออ)

พวกเขาบอกว่านี่เป็นครั้งแรกของ GDH เปิดรอบพิเศษให้แฟนหนังได้พบปะผู้กำกับ แถมยังมีการฉาย Deleted Scene ให้ได้ชมอีกด้วย เพราะตัวหนังมีประเด็นที่ให้พูดถึงเยอะมาก

แถมยังมีข่าวดีก็คือ Homestay มีผู้ติดต่อซื้อลิขสิทธิ์ฉายไปแล้ว 13 ประเทศ โดยจะได้เข้าฉายที่ฮ่องกงประมาณต้นเดือนธันวาคมนี้ ส่วนญี่ปุ่นได้มีการซื้อลิขสิทธิ์แล้ว พร้อมฉายต้นปีหน้า คลิปที่ผมแปะไว้คือตัวอย่าง Trailer เวอร์ชั่นฮ่องกงครับ




ต่อจากนี้มีเนื้อหาสปอยล์ ใครที่ยังไม่ได้ดูหรืออยากจะอดใจไว้รอตอน DVD Boxset (ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะมีออกมาหรือไม่) แนะนำให้ข้ามไปครับ

สำหรับฉาก Deleted Scene ที่นำมาเปิดให้ได้ชมมีประมาณ 2 ฉากใหญ่ๆ ได้แก่ ฉากที่เกิดขึ้นหลังจากมินทะเลาะกับพายบนดาดฟ้า และฉากงานลอยกระทงแบบเต็ม ซึ่งพี่โอ๋ยอมรับว่าทำใจยากที่จะต้องตัดฉากเหล่านี้ แต่เพื่อความกระชับและ Balanced ทิศทางการเล่าเรื่องที่โฟกัสไปที่ตัวละครมินเป็นหลัก จึงต้องตัดออก

ในการตัดต่อสำหรับออกฉาย Draft แรกเป็นฝีมือของ "พี่อาร์ม ชลสิทธิ์" ความยาว 3 ชั่วโมง 25 นาที แล้วพี่โอ๋ก็มาแก้ใน Draft 2 ความยาวเหลือ 2 ชั่วโมง 50 นาที ส่วน Draft 3 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นฉายจริง ความยาวอยู่ที่ 2 ชั่วโมง 12 นาที งานนี้พี่โต้งกับพี่กอล์ฟถึงกับแซวว่าถ้าเป็น 3 ชั่วโมงครึ่งจริงๆ คงต้องแบ่งเป็นซีรีส์ฉายทีวีแล้ว 555+

สิ่งที่หลายๆ คนสงสัยเกี่ยวกับนักแสดงที่มีชื่อใน End Credit แต่ไม่ปรากฏตัวในหนังนั่นคือ "พี่เผือก พงศธร" และ "เดวิด อัศวนันท์" พี่โอ๋ก็ได้บอกว่าทั้ง 2 คนได้รับบทเป็นผู้คุมที่มีความสำคัญในลำดับต้นๆ อย่างพี่เผือกที่เป็นผู้คุมร่างนักมวย ที่มาที่ไปก็คือ

Source : Facebook Weera Suksom

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หลังจากที่มินเข้าไปที่ห้องปทุมเพชรเพื่อชวนพายไปลอยกระทงพร้อมวลีเด็ดของพาย "จะเป็นแฟนกันได้ไง ก็มินไม่เคยขอ" แต่ยังงั้ย..ยังไงพายก็ไม่ยอมลงไปด้วย มินเลยจำใจลงไปคนเดียว แล้วทีนี้ก็มีเสียงประกาศว่ามีซุ้มต่อยมวย ถ้าชนะจะได้สิทธิ์พาสาวที่ชอบมาคาดเข็มขัดแชมป์ให้ มินก็เลยลองไปเล่นดู ปรากฎว่าผู้คุมใช้โอกาสตรงนี้สิงร่างนักมวยพร้อมเตือนสติมินว่า "ถ้าชีวิตไอ้มิน (ก่อนตาย) มันดี แล้วมันจะฆ่าตัวตายทำไม" ก่อนจะจัดหมัดหนักจนมินล้มลง

ฉากนี้พี่โอ๋บอกว่าเป็นฉากที่ถ่ายทำยากที่สุดรองจากฉากแรงโน้มถ่วงที่โรงพยาบาล เพราะนักแสดงตัวประกอบเยอะมาก แถมเทคนิคการถ่ายทำก็ยาก ทุกอย่างรอบตัวจะค่อยๆ เคลื่อนไหวช้าๆ สวนทางกับมินและผู้คุมที่ยังคงเป็นปกติ เรียกได้ว่าเป็นฉากที่ลงทุนเยอะพอสมควร แต่ที่ตัดออกเพราะเรื่องความยาว และ "หนังมันมีชีวิตของมันเอง" ถ้าใส่เข้าไปมันจะหลุดธีมที่ผู้กำกับอยากสื่อออกไป ฉากนี้ยังอยู่ในการตัดต่อจนถึงนาทีสุดท้ายที่ยกออก

พอมาถึงตรงนี้พี่โอ๋ถึงขั้นต้องโทรไปขอโทษทุกคน แต่ความพีคกว่าคือพี่เฌอปราง BNK48 (รับบท "พาย" ในเรื่อง) ได้บอกพี่เผือกในงานอีเวนท์งานหนึ่งที่ได้ทำงานร่วมกันว่าฉากของพี่เผือกโดนตัดออก เรื่องนี้ถึงหูพี่โต้งต้องให้พี่โอ๋รีบโทรไปขอโทษพี่เผือก ซึ่งพี่เผือกก็เข้าใจเหตุผลว่าทำไม แต่ก็แอบน้อยใจนิดๆ จนแซวตัวเองว่า "หนังชื่อ Colorful แต่ตัวเองเป็นเผือก Monochrome " (ตอนหลังเปลี่ยนเป็น "หนังชื่อ Homestay แต่ตัวเองเป็นเผือก stayHome")

ส่วนพี่เดวิดนั้น...

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เป็นผู้คุมที่เข้ามาหลังจากที่มินแอบเห็นพายโดนครูพัฒน์ลวนลามในห้องปทุมเพชร มินเสียใจ ผิดหวังและโกรธมาก ก่อนจะขึ้นไปบนดาดฟ้า แล้วผู้คุมก็เข้ามาบอกว่า "แกจะตอบเลยมั้ย" พร้อมหัวเราะอย่างยียวนจนมินหงุดหงิดเดินลงไป และจากนั้นก็เป็นฉากที่มินต่อยกับครูพัฒน์นั่นเอง ซึ่งสาเหตุที่ตัดออกก็คล้ายๆ กับซีนพี่เผือก และพี่โอ๋ก็โทรไปขอโทษพี่เดวิดแล้ว ทางนั้นก็เข้าใจ

จากนั้นทีมงานก็ได้เปิดฉาก Deleted Scene ให้ได้ชมกัน โดยฉากแรกคือเหตุการณ์หลังจากที่มินต่อยครูพัฒน์และทะเลาะกับพายบนดาดฟ้า

Source : Twitter @Wongpoom [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มินถูกผู้อำนวยการเรียกเข้าพบพร้อมครูพัฒน์ ผอ. ถามมินว่าทำไมถึงไปต่อยครูพัฒน์ แต่มินเลือกจะไม่พูด ผอ. เลยตัดสินใจให้มินพักการเรียนเป็นเวลา 5 วัน (อันนี้ จขกท.เสริมเองจากการสรุปไทม์ไลน์ของเรื่อง) และต้องกราบขอโทษครูพัฒน์ต่อหน้า มินรู้สึกฝืนใจเพราะอีกฝ่ายก็ย่ำยีความรู้สึกของคนที่ตัวเองรัก แต่ขณะเดียวกันก็โกรธพายที่ยอมเพราะอยากไปแข่งดาราศาสตร์โอลิมปิก สุดท้ายมินต้องจำใจขอโทษเพราะลึกๆ แล้วเขารักพายมากกว่าเกลียด

ซีนนี้อยู่ในการตัดต่อมาแต่แรกและถูกตัดออกในเวอร์ชั่นฉายจริง เพราะมองว่าเป็นซีนแวะไปหาตัวละครที่ไม่ค่อยมีบทบาทในเรื่องเท่าไหร่ แถมฉากถัดไปที่เป็นการทะเลาะกับพ่อในรถก็สามารถทดแทนกันได้

Deleted Scene อีกฉากหนึ่งที่หยิบมาฉายให้ชมเป็นฉากมินและพายบนดาดฟ้าแบบเต็ม พ่วงด้วยฉากสระว่ายน้ำกับลี้และรุ่นพี่ชมรมแปรอักษร ตามมาด้วยฉากลี้ขับมอเตอร์ไซค์ส่งมินกลับบ้าน และฉากแม่นอนรอมินกลับบ้าน ทั้งหมดนี้เยอะจนพี่โอ๋เรียกว่าเป็น Sequence เลยดีกว่า

Source : Facebook Parkpoom Wongpoom

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มินท้าให้พายดื่มน้ำแดงศาลพ่อปู่ แต่พายก็ดื่มเข้าไปนิดเดียวและพ่นออกมาด้วยความขำ มินและพายหัวเราะกันก่อนที่พลุจะสว่างบนท้องฟ้า มินไม่รอช้าคว้ามือพายพาขึ้นไปดูบนดาดฟ้าทันที แต่พอมาถึงดาดฟ้า พลุก็หายไป...มินเสียดาย ถอนหายใจก่อนจะฟุบตัวไปนอนบนพื้น สักพักพายก็เอนตัวนอนเป็นเพื่อน

ทั้งคู่เงียบไปสักพักใหญ่ จนพายต้องเปิดบทสนทนา เล่าถึงการแข่งขันดาราศาสตร์โอลิมปิกที่จะไปแข่งในประเทศจีน พร้อมชวนมินไปเที่ยวบ้านเกิดที่สงขลาหลังสอบเสร็จประมาณกลางเดือนกุมภา มินเทียบกับเวลาชีวิตชั่วคราวแล้ว เขาคงอยู่รอไม่ทัน เพราะถึงป่านนั้น เขาอาจจะต้องออกจากร่าง กลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนไปแล้วก็ได้ อยู่ๆ พลุก็กลับมาสว่างบนฟ้า มินและพายลุกขึ้น กลับมาตื่นเต้นอีกครั้ง ก่อนที่มินจะคว้ามือมาจับพลุประหนึ่งว่าเขาสามารถสัมผัสมันได้ พายเห็นมินที่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเองจนเป็นคนใหม่ ทิ้งภาพเด็กเก็บกดคนเก่าไปโดยปริยาย จึงตัดสินใจบอกชอบมิน แต่ยังกั๊กไว้ว่าถ้าสอบผ่านเดี๋ยวจะบอก



Source : Facebook GDH559Shop

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลี้ชนะการประกวดนางนพมาศ รุ่นพี่ชมรมแปรอักษรดีใจและจัดปาร์ตี้ในสระว่ายน้ำโรงเรียน พร้อมท้ามินให้โดดเป็นเพื่อน ซึ่งมินก็รับคำท้า ทำเอารุ่นพี่ตกใจเพราะที่ผ่านมามินไม่ชอบพวกเขา ที่ไม่ยอมเอางานของเขาไปขึ้นสแตนเชียร์ แต่เมื่อมาถึงขนาดนี้ ทุกคนเลยชวนมินดื่มเหล้าด้วย แถมยังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน นับเป็นการทำลายกำแพงที่เคยมีระหว่างพวกเขาได้สำเร็จ

Source : Facebook Parkpoom Wongpoom

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลี้ขับมอเตอร์ไซค์ส่งมินกลับบ้าน พอมาถีงมินก็เห็นแม่นอนรออยู่ในห้องของเขา แม่ทักว่าทำไมมินกลับบ้านดึกไม่บอกก่อน มินที่อยู่ในสภาพเมาค้างเลยแกล้งแม่ด้วยการกดโทรหาแม่ขออนุญาตกลับบ้านดึก ก่อนจะเข้าไปหนุนตักแม่ แม่บอกว่าจะให้มินกลับมาอยู่ห้องตัวเองเพราะมั่นใจแล้วว่าคงไม่คิดฆ่าตัวตายอีก และจะลาออกจากงานที่ระยองกลับมาทำงานที่กรุงเทพเพื่อดูแลลูก มินดีใจแต่ก็รู้ตัวว่าตนเป็นแค่คนอื่นมาสิงร่าง เลยพูดออกมาประโยคหนึ่งว่า "ผมอิจฉามินว่ะ" ระหว่างนั้นเม่นเข้ามาแอบดูก่อนจะเข้าห้องตัวเองไป

เช้าวันต่อมา มินตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย แล้วเผอิญเห็นรูปหน้าศพที่เอาไปซ่อนใต้เตียง มินตกใจยกมือไหว้และเก็บไว้ใต้เตียงเหมือนเดิม

Source : Facebook Parkpoom Wongpoom

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พี่กอล์ฟบอกว่าขณะที่พี่โอ๋ดูซีนนี้ถึงกับบอกว่า "เอาซีนนี้กลับเข้าไปใส่ในหนังได้มั้ย" พอเห็นคนดูมี Feedback ดีมาก โดยเฉพาะตอนที่มินเมา พี่เจมส์เล่นดีมาก พี่เบบี้มายด์ก็น่ารักเช่นกัน

พี่โอ๋บอกว่าที่ตัดออกเพราะเป็นเรื่องจริงภาพรวมของหนัง ตอนดูเป็นฉากสั้นๆ อาจจะรู้สึกว่าสนุกจัง แต่ถ้าเอาไปใส่แล้วอาจจะมีผลต่อความเร็วในการเล่าเรื่อง ทุกคนอาจจะอยากรู้ว่ามินฆ่าตัวตายเพราะใครมากกว่า เลยต้องตัดออก พี่โอ๋บอกว่าเสียดายที่ต้องตัดออก โดยเฉพาะซีนแม่และมินในห้อง พอลองใส่เข้าไปมันมีผลกระทบต่อโทนเรื่อง โดยเฉพาะประโยคที่มินพูดว่า "ผมอิจฉามินว่ะ"