สวัสดีค่า วันนี้มาพบกับจีอีกแล้ว เอารีวิวดีๆมาฝากเพื่อนๆเหมือนเคยค่ะ
หลายๆคนมีปัญหากับสกินแคร์ที่เหนียว ซึมยากไหมคะ เนื่องจากว่าจีได้เชิญไปร่วมพิสูจน์เนื้อผลิตภัณฑ์กับแบรนด์แบรนด์นึง โดยที่เป็น blind test ไม่รู้อะไรมาก่อนเลยค่ะ ทาง ppantip.com เชิญไป แต่ไม่บอกรายละเอียดงานอะไรมาเล้ยยย เค้าบอกว่ามันเป็นความลับค่ะ เราก็ไปแจมด้วย อยากเผือกนั่นแหละ งานจะเป็นยังไงตามจีมาเลยค่า



ทางทีมงานจัดงานได้น่ารักมากๆ มีขนมเค้กให้ทานเยอะเลย แฮปปี้ค่ะจุดๆนี้


พอทานอิ่มกันแล้ว ยังมิวายกำคุกกี้ใส่กระเป๋ามาด้วยค่ะ 55555 จากนั้นก็ได้เริ่มงานกันเลย
เราจะเทสครีมออกมาทั้งหมด 5 ครีมนะคะ ครีม A, B, C, D และ E ซึ่งทางสาวๆจะไม่ทราบอะไรเลยว่าแต่ละครีมนั้นคือแบรนด์ะอะไร แล้วเราก็จะมาเทสพร้อมๆกันค่ะ โดยสิ่งที่เราจะดูกันคือ
1. ความซึมของตัวครีม
2. ความมันของครีมค่ะ
3. ทดสอบความชุ่มชื้นหลังทาครีมค่ะ


ซึ่งจะมีแผ่นทดสอบให้เรา 2 แผ่นค่ะ ตีตารางไว้ อันดับแรกก็ทำการคลีนผิวก่อนด้วยทิชชู่เปียก และเช็ดต่อด้วยทิชชู่แห้ง พอแขนแห้งแล้วให้แปะแผ่นกระดาษกาวที่เลเบล A-E ที่แขนเลยค่ะ
พอเสร็จก็แปะครีมทดสอบลงไปตามช่องต่างๆค่ะ โดยที่จีจะใช้ปริมาณเม็ดถั่วเขียวเท่าๆกันเลยไม่ให้เกิด bias ค่ะ


อันดับแรกมาทดสอบความซึมไวค่ะ ทิ้งไว้สักครู่และทำการเช็คว่าครีมแบรนด์ไหนที่ซึมไวที่สุด
จากนั้นจะให้สาวๆโหวตด้วยการใส่ลูกปิงปองไปในโถค่ะ


ผลปรากฏว่า ครีม A ซึมไวเวอร์วังอลังกาลมากได้คะแนนไปเต็มๆเลยค่ะ 19 คน รองลงมาเป็นครีม D ค่ะ ที่มีคนโหวตว่าซึมไวมากที่สุด 2 คน ทั้งนี้ทั้งนั้น คิดเป็น 90.47% ของสาวๆในห้องนี้บอกว่าซึมไวค่ะ (จากทั้งหมด 21 คน)

จากนั้นมาสู่การทดสอบที่ 2 คือการทดสอบความมันตกค้างบนผิวค่ะ
เนื่องจากครีมทั่วไปเนื้อจะหนักเอามากๆ คนที่มีผิวมันจีจึงแนะนำให้ใช้เนื้อเจลดีกว่า ส่วนคนผิวแห้งแนะนำให้ใช้เนื้อครีม เราก็มาทดสอบกันต่อว่า ครีมแบรนด์ไหนจะช่วยในเรื่องของการไม่ทิ้งความมันลงบนผิวหน้ากันค่ะ


ทำแบบเดิมเลยค่ะ คลีนผิวก่อนและก็จะปาดครีมลงไปในปริมาณที่เท่าๆกัน จากนั้นใช้กระดาษซับมันแปะค่ะ เพื่อทดสอบความมันกัน


มองผ่านๆอาจจะเห็นว่าครีมนั้นมันพอๆกัน แต่ว่าดูดีๆ ครีม A กระดาษซับมันแห้งสนิทอยู่ 4 คนค่ะ ในขณะที่ครีมแบรนด์อื่นนั้นทุกคนมันเหมือนกันหมดเลยค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการแปะกระดาษซับมันของแต่ละคนไม่เท่ากันค่ะ

หลายคนอาจจะคิดว่า ถ้าไม่มัน ซึมไว แล้วจะชุ่มชื้นไหม เรามาทดสอบความชุ่มชื้นกันค่ะ (ตรวจเฉพาะแบรนด์ A)


เมื่อทดสอบแบรนด์ A จะเห็นได้ว่า จาก 37% ขึ้นมาถึง 99% เลย เรียกได้ว่าให้ความชุ่มชื้นสูงมากๆเลยค่ะ
ไม่ต้องกังวลเลยว่าหน้าจะแห้งหรือว่าอะไรเลยค่ะ
ผลสรุปว่าแบรนด์ A ซึมง่าย ไม่ทิ้งความมันและให้ความชุ่มชื้นสูงค่ะ เนื้อของเค้าจะเป็นออกซิลิโคนหน่อยค่ะ จากที่จีได้สัมผัส


อยากรู้กันแล้วใช่มั๊ยคะว่า ครีมแบรนด์นี้มันคืออะไรกันแน่ ไปดูเลยจ้า



ผลิตภัณฑ์นี้ก็คือ OLAY - Regenerist whip ที่ออกใหม่ล่าสุดของ OLAY เลยค่ะ ที่ให้สัมผัสเบายิ่งกว่าเบา พร้อมคุมมัน 8 ชั่วโมง ให้ผิวเนียนใส ไม่มันและชุ่มชื้นค่ะ
ซึ่งเค้าจะออกมาด้วยกัน 3 สูตรนั่นเอง
1. Olay Regenerist Whip - ช่วยในเรื่องของริ้วรอยและยกกระชับผิวหน้า มีสารสกัดจากแครอท
2. Olay Total Effects Whip - ดูแล 7 ประการนั่นเอง มีวิตามินและสารสกัดจากชาเขียว
3. Olay White Radiance Whip - มีเทคโนโลยี Pearl- Optics และวิตามินบี 3 ให้หน้ากระจ่างใส

ดูจากหน้าจีแล้ว เอาเบอร์ White Radiance เพราะว่าหน้าหมองเหมือนของเข้ามากเลยค่ะตอนนี้


(ทำหน้ากรุ้มกริ่มเตรียมขโมยกระเช้ากลับบ้านค่ะ)

มาดูตัว white radiance ที่ทางพันทิปให้คนละกระปุกมาเป็นของที่ระทึกกันดีกว่า


ซึ่งทางเรานะคะ ก็ได้ตัว White radiance whip มาลองใช้ทั้งหมด 2 สัปดาห์ค่ะ ตัวนี้คร่าวๆจะช่วยในเรื่องของความขาวกระจ่างใสมาพร้อมเนื้อสัมผัสที่บางเบายิ่งกว่าเบาซะอีก ซึ่งจะให้ผิวของเราดูมีออร่า ฉ่ำน้ำ แต่ไม่มันค่ะ


กระปุกเป็นสีเขียวน้ำทะเลเมทัลลิคนะคะ ต่างจากอีก 2 สูตรนั้นอย่างสิ้นเชิง ไม่มีหยิบผิด นอกจากจะเบลอจริงๆจ้า


ตัวนี้เค้าเคลมมาว่า ควบคุมความมันยาวนาน 8 ชั่วโมง
ให้ผิวเนียนนุ่มและสัมผัสสบายตลอดวัน
มอบความชุ่มชื้นในทันทีที่ใช้ ให้เมคอัพติดทนนานตลอดวัน
ภายใน 2 สัปดาห์ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและกระชับรูขุมขุน
ภายใน 4 สัปดาห์ จุดด่างดำดูลดเลือนอย่างเห็นได้ชัดเลย

โห เคลมเบอร์แรงมากๆจริงๆค่ะ มาดูกันดีกว่าเป็นอย่างที่เคลมไว้ไหม



เทคโนโลยีที่ใส่มาใน Olay White Radiance Whip นี่นะคะ เป็น Active rush technology เป็นตัวใช้ความชุ่มชื้นนะคะ เป็นพันเท่าเลย
และมีเทคโนโลยี Pearl-optics มี Inositol และ Vitamin B3 ช่วยในเรื่องของความกระจ่างใส
ไม่มีน้ำมัน ไม่อุดตัน ผิวไม่เมือกแน่นอนจ้า


ตัวกระปุกไซซ์พอดีมือเลยค่ะ ปริมาณ 50 กรัม ใช้ทีละนิดอยู่ได้เป็นเดือนค่ะ
เมื่อเปิดออกมาจะมีแผ่นฝาปิดอีกทีนึงค่ะ


มาดูเนื้อผลิตภัณฑ์เค้ากันดีกว่า


สารภาพว่าตอนเห็นครั้งแรกนั้นค่อนข้างตกใจ เพราะว่าดูแล้วเหมือนแป้งเปียกมากค่ะ แต่พอเอามาทาจริงๆ เห้ย เนื้อมันเบานะ ไม่หนักหนาเลย ทาปุ๊ปซึมปั๊บ เกลี่ยค่อนข้างง่ายเลยค่ะ สามารถทาครีมกันแดดในตอนเช้าได้เลย ไม่ต้องรอให้ครีมซึม เหมาะกับคนรีบๆไม่อยากลงอะไรเยอะแยะ ตัวนี้จบเลยค่ะ

มาดูผลการใช้ดีกว่า จีทดลองใช้ 14 วันแล้วค่ะ ตามที่เคลมคือช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและก็เรื่องของรูขุมขนกระชับ
จีถ่าย before-after บริเวณหน้าผากและข้างแก้มมาให้ดูค่ะ ผลคือเป็นไปตามรูปเลย


หน้าผากก็ยอมรับว่ารูขุมขนมันกระชับขึ้นค่ะ ส่วนเรื่องจุดด่างดำมีความจางลงไปนิดนึง แต่ยังไม่มากค่ะ


ข้างแก้มค่อนข้างเห็นชัดเลยว่าจุดด่างดำที่เกิดจากรอยสิวนั้นหายไปเลยค่ะ อเมซิ่งจิงเกอเบลมากๆ และก็สีผิวจีเริ่มสม่ำเสมอขึ้นแล้ว
คงใช้ไปจนหมดเลยค่ะ น่าจะเห็นผลชัดเจนกว่านี้ค่า

ส่วนเรื่องราคาจะอยู่ที่ 1,099 บาทค่ะ

ใครสนใจสามารถเข้าไปดูที่แฟนเพจของเค้าได้เลยค่ะ สำหรับบล็อกนี้จีก็ต้องขอตัวลาไปก่อนแล้ว เขียนยาวมากๆ 5555555
ครั้งหน้าจะเอาอะไรมารีวิวอีก อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทาง ppantip.com และ Olay มากๆค่ะ ที่ชวนไปร่วมพิสูจน์สกินแคร์ใหม่ๆแบบนี้ค่า