เคยได้ยินมาว่ารักแรกมันยากที่จะลืม คนที่เราคิดว่าเค้าคือคนที่ดีที่สุดมันยากที่จะไป move on คนที่อยู่ในฝัน น้อยคนนักจะเจอ แต่เราเหมือนโชคดีปนโชคร้าย ผู้ชายคนแรกที่เข้ามาในชีวิตเราเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดตั้งแต่เราเจอมา เป็นคนที่เหมือนหลุดออกมาจากฝัน ทั้งรูปลักษณ์และอุปนิสัย และใช่ค่ะเค้าเป็นรักแรกของเรา รักที่เกือบจะสมหวัง รักที่เรายังหาใครมาแทนไม่ได้ ช่วงเวลานั้นเหมือนช่วงเวลาแห่งความฝันจริงๆ
ตั้งแต่เด็กจนโตเราเรียนโรงเรียนหญิงล้วนมาตลอด และเราก็เป็นคนไม่เรียนพิเศษ ทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อนต่างโรงเรียน และแน่นอนว่าเราก็ไม่เคยมีเพื่อนผู้ชายเช่นกัน จนกระทั่งม.ปลายเราได้ย้ายโรงเรียน ตอนนั้นรู้สึกกลัวผู้ชายมาก แบบทำตัวไม่ถูกเวลาอยู่ใกล้ ไม่รู้ว่าคุยกันแบบไหนคือเพื่อน แบบไหนคือจีบ แบบไหนคืออ่อย เอาง่ายๆคือเราอ่อนต่อโลกมาก เรื่องหัวใจคือโง่มาก เรื่องความรักคือไม่เคยได้สัมผัสด้วยตัวเองเลย เคยแต่เป็นที่ปรึกษาให้เพื่อนทอม-ดี้ ขอบอกก่อนเลยว่าเราตามใครไม่ทันจริงๆ แบบใครเข้ามาจีบคือไม่เคยรู้ตัวเลยว่าเค้าจีบอยู่รึป่าว อ่านๆไปทุกคนอาจจะด่าว่าเราโง่ เลยขอด่าตัวเองดักไว้ก่อน55555
เพื่อนคนแรกของเราในโรงเรียนใหม่เป็นตุ๊ด ขอตั้งชื่อนางว่าซิน นางเป็นตุ๊ดที่แรดและสาวมากกกก เรียกง่ายๆว่าเป็นขุ่นแม่ของโรงเรียนเลยก็ได้
เรื่องมีอยู่ว่านางปิ๊งผู้ชายคนนึงเป็นคนจีน หล่อ สูง ขาว ตี๋ ไหล่กว้าง มีกล้ามเล็กน้อย ขอตั้งชื่อเค้าว่าที ซินชอบทีมากๆ มากจนกระทั้งความแรดที่มีอยู่ทั้งตัวหายไปหมด ใช่ค่ะ นางไม่กล้าคุยกับเค้า กลัวว่าเค้าจะรังเกลียดเพศสภาพของนาง เนื่องจากเราและทีมีเรียนด้วยกันหลายวิชา ซินจึงของให้เราช่วยคุยกับที กะว่าให้เพื่อนช่วยจีบให้น่าจะได้ผลที่สุด ตัวเราก็แบบเห้ยบ้า! แค่ให้นั่งข้างๆผู้ชายชั้นยังกลัวเลย แกจะให้ชั้นเข้าไปคุยกับเค้าเนี่ยนะ แต่ด้วยความรักเพื่อนเราก็ทำให้ เราเข้าไปตีสนิททีผ่านวิชาที่เรียน ทำเป็นถามการบ้านนู่นนี่ แล้วก็เนียนๆขอ Line ไปให้เพื่อน (เวิร์คนะลองได้) แต่ซินก็ไม่กล้าทักไปอยู่ดี กลัวว่าเวลาเจอตัวจริงแล้วจะทำอะไรไม่ถูก เลยคิดแผน 2 ขึ้นมา ให้เราไปสนิทกับทีมากขึ้น แล้วด้วยความที่เรากับซินสนิทกันอยู่แล้ว ถ้าจะให้เพื่อนสนิท2 คนทำความรู้จักกันก็คงไม่แปลก เราก็แบบหื้อออออ กูต้องไปใกล้กับผู้ชายมากกว่านี้อีกหรอ กูกลัววววว แต่ด้วยความเป็นคนดีทำเพื่อเพื่อนก็ได้
ครั้งแรกที่เห็นทีพูดตรงๆเลยว่าไม่ได้คิดอะไร เห็นเค้าเป็นผู้ชายดูดีคนนึง แต่พอได้ใช้เวลาด้วยมากขึ้นเราก็เพิ่งสังเกตุว่าเค้าหน้าเเหมือนดาราหลายๆคนที่เราชอบ เห้ยนี่มันสเปคเราเลยนี่นา ทีหน้าเหมือน Jaylerr ผสมกับ อัพ โทเมอิ สูง180 กว่าๆ แล้วไม่ใช่แค่รูปร่าง หน้าตา ส่วนสูง ที่อยู่ในเกณฑ์ที่เราเคยวาดไว้ แต่รวมทั้งวิธีการพูด การแต่งตัว นิสัย ความกวน การดูแลเอาใจใส่ คือเค้าเหมือนออกมาจากฝันของเราทั้งที่เราไม่เคยคิดมาก่อน ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
ปกติทีกลับบ้านด้วยรถโรงเรียน ซึ่งบ้านเราก็อยู่ทางเดียวกันนั่นแหละแต่เราขี้เกียจรอรถ ปกติเราก็จะกลับแท็กซี่ตลอด ก็จะมีแต่ช่วงสิ้นเดือนนั่นแหละที่เราจะกลับรถโรงเรียน ด้วยความที่ทุกคนบนรถโรงเรียนไป-กลับรถคันนั้นตลอด ทุกคนเลยมีที่ประจำ ซึ่งทำให้เราไม่มีที่นั่ง ครั้งแรกที่เราขึ้นรถไปคือยืนเอ๋ออยู่หน้ารถนานมาก กลัวไปนั่งที่เด็กเกเรแล้วโดนยำ แต่อยู่ดีๆก็มีใครไม่รู้เดินมาจากข้างหลังแล้วก็เบียดเราจนเซ เกือบจะหันไปด่าละ เค้าคนนั้นคือที (ตอนนั้นเพิ่งรู้จักกันวันแรกเลยค่าาา) ทีลากเราไปนั่งที่เบาะหลังสุดข้างๆเค้า บอกเลยว่าทรมานมากกกก เกร็งมากกกกก นั่งแข็งเป็นหินเลยครับ ไม่เคยนั่งใกล้ผู้ชายนอกจากพ่อและพี่ชายมาก่อน ใช่ค่ะเราไม่ได้คุยกันเลย ไม่เลยสักนิด และแล้วก็เหมือนฟ้ากลั่นแกล้งความกลัวผู้ชายของเรา วันนี้รถเต็มจ้า ที่นั่งเต็มไปด้วยโครงงานของแต่ละคน ที่นั่งประจำเรา(ข้างๆที)ก็มีของวางเต็มไปหมด เราก็ยืนเอ๋ออยู่หน้ารถเหมือนเดิม แล้วอยู่ดีๆทีก็เดินออกมาลากเราไปที่ที่ประจำแล้วเค้าก็นั่งลงพร้อมตบตักตัวเอง (ตอนนั้นก็ยังไม่สนิทกัน แต่เป็นเพื่อนกันแล้ว) เราก็มองเค้าแบบหน้าหมางง แบบตบตักทำไมอะ แล้วทีก็พูดขึ้นมาว่าให้เรานั่งตักเค้าสิ เราก็บอกเค้าว่าไม่เอาอะเราตัวหนัก เดี๋ยวขาเค้าหัก เค้าก็บอกว่าที่มันเต็มแล้วไม่เห็นหรอ จะไปนั่งตรงไหน เราก็บอกเค้าไปว่าวันนี้เรากลับแท็กซี่ก็ได้ แล้วก็หันหลังเตรียมเดินออกจากรถ แต่แล้วทีก็ดึงแขนเราไว้ เราไม่ได้ตั้งตัวเลยเซไปนั่งบนตักเค้าเป๊ะ ช็อคเลยครับตอนนั้น แล้วทีก็พูดขึ้นมาว่า "พูดดีๆแต่แรกก็ไม่ฟัง เด็กดื้อ" พูดงี้ก็เขินหน้าชาสิครับ นั่งแข็งเป็นหินตลอดทางเหมือนเดิม แต่เกร็งกว่าเดิมอีกกลัวเค้าหนัก
เรากับทีมีเรียนพละด้วยกันแล้วดูเหมือนว่าทั้งห้องจะมีแค่ทีนี่แหละที่น่าเป็นเพื่อนด้วย ตอนอยู่ในคาบเรากับทีก็คุยเล่นกันตลอด เราก็ถามทีว่าชื่อจีนเค้าชื่ออะไร เค้าก็บอกเราว่าเค้าชื่อเก้อเก่อ เราก็ถามเค้าว่าเราเรียกชื่อจีนเค้าได้มั้ย ถ้าเค้าได้ยินคนเรียกชื่อนี้เค้าก็จะได้รู้ว่าเป็นเราเรียก เค้าก็โอเคแต่เค้าขอเรียกเราว่าเม้ยเม่ยนะ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร พอเวลาเจอกันในโรงเรียนเราก็จะตะโกนเรียกเค้า "้เก้อเก่อ!" กะว่าให้เค้าอายที่เราเรียกชื่อจีนเค้า แล้วเค้าก็จะเดินมาใกล้ๆแล้วพูดเบาๆข้างๆเราว่า "ว่าไงเม้ยเม่ย" ขนลุกแปลกๆ แต่น้ำเสียงนี่กวนชะมัด ซึ่งตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่า 2 คำนั้นแปลว่าอะไร เค้าบอกว่ามันคือชื่อก็เชื่อเค้าไป จนวันนึงเพื่อนจีนผู้หญิงก็ถามเราว่าไม่รู้สึกแปลกหรอที่เรียกทีว่าเก้อเก่อ แล้วเค้าเรียกเราว่าเม้ยเม่ย เราก็งง จะแปลกได้ไงก็นั่งชื่อเค้าไม่ใช่หรอ เพื่อนผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่าไม่ใช่ เก้อเก่อแปลว่าพี่ชาย ส่วนเม้ยเม่ยแปลว่าน้องสาว ที่จีนบางคนเค้าเรียกกันแบบนี้ตอนจีบกัน ผู้ชายมักจะอยากเป็นฝ่ายที่ดูโตกว่าเลยให้ผู้หญิงเรียกว่าพี่ ตอนนั้นเราก็งงว่าทีจะหลอกให้เราเรียกมันว่าพี่ทำไม เราก็ถามทีตรงๆเลยแบบนี่กวนอยากให้เราเรียกว่าพี่หรอ ทีก็หน้านิ่งๆปนตกใจถามว่าเรารู้ได้ไง แล้วถามต่อว่าพอรู้ความหมายแล้วเราจะเรียกกันแบบนั้นต่อไปได้มั้ย เราก็ไม่ได้ติดใจอะไร ก็เออออกับมันไปเพราะเรียกกันชื่อนี้เหมือนเรียกชื่อแม่เพื่อนกันจนชินแล้ว
เวลาผ่านไปเรากับทีก็สนิทกันมากขึ้น คุยกันมากขึ้น เจอกันบ่อยขึ้น เราเริ่มมีความรู้สึกดีๆให้ทีเพราะเค้าดูแลเราดีมาก เค้าทำให้เรารู้สึกประหม่าและปลอดภัยในเวลาเดียวกัน เรารู้สึกดีทุกครั้งที่อยู่ใกล้ๆเค้า มีความสุขทุกครั้งที่ได้คุย ได้เล่นด้วย เราไม่รู้ว่าทีรู้สึกเหมือนเรารึป่าว เราแสดงออกชัดเจนกับทีมากว่าเรารู้สึกกับเค้ามากกว่าเพื่อน และดูเหมือนเค้าก็รับรู้ โอเค แต่ไม่ได้ตอบรับอะไร เราก็ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็โอเค เราชอบเค้า เค้าก็รับรู้ คนทั้งโรงเรียนก็รู้รวมถึงซินเพื่อนตุ๊ดผู้ชี้ทาง นางเลิกสนใจทีไปนานละเพราะไดเจอเป้าหมายใหม่หล่อล่ำบึก แถมยังเชียร์อีกว่าในโรงเรียนไม่มีใครเหมาะกับพี่ทีนางไปมากกว่าเรา55555
ถึงตรงนี้ก่อนเนอะ จะมีคนอ่านมั้ยเนี่ย555555 จะบอกว่าเรื่องหลังจากนี้งงมาก เจ็บมาก จนตอนนี้แผลก็ยังไม่หายดี รอติดตาม
เคยเจอมั้ย ใครที่ออกมาจากฝัน
ตั้งแต่เด็กจนโตเราเรียนโรงเรียนหญิงล้วนมาตลอด และเราก็เป็นคนไม่เรียนพิเศษ ทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อนต่างโรงเรียน และแน่นอนว่าเราก็ไม่เคยมีเพื่อนผู้ชายเช่นกัน จนกระทั่งม.ปลายเราได้ย้ายโรงเรียน ตอนนั้นรู้สึกกลัวผู้ชายมาก แบบทำตัวไม่ถูกเวลาอยู่ใกล้ ไม่รู้ว่าคุยกันแบบไหนคือเพื่อน แบบไหนคือจีบ แบบไหนคืออ่อย เอาง่ายๆคือเราอ่อนต่อโลกมาก เรื่องหัวใจคือโง่มาก เรื่องความรักคือไม่เคยได้สัมผัสด้วยตัวเองเลย เคยแต่เป็นที่ปรึกษาให้เพื่อนทอม-ดี้ ขอบอกก่อนเลยว่าเราตามใครไม่ทันจริงๆ แบบใครเข้ามาจีบคือไม่เคยรู้ตัวเลยว่าเค้าจีบอยู่รึป่าว อ่านๆไปทุกคนอาจจะด่าว่าเราโง่ เลยขอด่าตัวเองดักไว้ก่อน55555
เพื่อนคนแรกของเราในโรงเรียนใหม่เป็นตุ๊ด ขอตั้งชื่อนางว่าซิน นางเป็นตุ๊ดที่แรดและสาวมากกกก เรียกง่ายๆว่าเป็นขุ่นแม่ของโรงเรียนเลยก็ได้
เรื่องมีอยู่ว่านางปิ๊งผู้ชายคนนึงเป็นคนจีน หล่อ สูง ขาว ตี๋ ไหล่กว้าง มีกล้ามเล็กน้อย ขอตั้งชื่อเค้าว่าที ซินชอบทีมากๆ มากจนกระทั้งความแรดที่มีอยู่ทั้งตัวหายไปหมด ใช่ค่ะ นางไม่กล้าคุยกับเค้า กลัวว่าเค้าจะรังเกลียดเพศสภาพของนาง เนื่องจากเราและทีมีเรียนด้วยกันหลายวิชา ซินจึงของให้เราช่วยคุยกับที กะว่าให้เพื่อนช่วยจีบให้น่าจะได้ผลที่สุด ตัวเราก็แบบเห้ยบ้า! แค่ให้นั่งข้างๆผู้ชายชั้นยังกลัวเลย แกจะให้ชั้นเข้าไปคุยกับเค้าเนี่ยนะ แต่ด้วยความรักเพื่อนเราก็ทำให้ เราเข้าไปตีสนิททีผ่านวิชาที่เรียน ทำเป็นถามการบ้านนู่นนี่ แล้วก็เนียนๆขอ Line ไปให้เพื่อน (เวิร์คนะลองได้) แต่ซินก็ไม่กล้าทักไปอยู่ดี กลัวว่าเวลาเจอตัวจริงแล้วจะทำอะไรไม่ถูก เลยคิดแผน 2 ขึ้นมา ให้เราไปสนิทกับทีมากขึ้น แล้วด้วยความที่เรากับซินสนิทกันอยู่แล้ว ถ้าจะให้เพื่อนสนิท2 คนทำความรู้จักกันก็คงไม่แปลก เราก็แบบหื้อออออ กูต้องไปใกล้กับผู้ชายมากกว่านี้อีกหรอ กูกลัววววว แต่ด้วยความเป็นคนดีทำเพื่อเพื่อนก็ได้
ครั้งแรกที่เห็นทีพูดตรงๆเลยว่าไม่ได้คิดอะไร เห็นเค้าเป็นผู้ชายดูดีคนนึง แต่พอได้ใช้เวลาด้วยมากขึ้นเราก็เพิ่งสังเกตุว่าเค้าหน้าเเหมือนดาราหลายๆคนที่เราชอบ เห้ยนี่มันสเปคเราเลยนี่นา ทีหน้าเหมือน Jaylerr ผสมกับ อัพ โทเมอิ สูง180 กว่าๆ แล้วไม่ใช่แค่รูปร่าง หน้าตา ส่วนสูง ที่อยู่ในเกณฑ์ที่เราเคยวาดไว้ แต่รวมทั้งวิธีการพูด การแต่งตัว นิสัย ความกวน การดูแลเอาใจใส่ คือเค้าเหมือนออกมาจากฝันของเราทั้งที่เราไม่เคยคิดมาก่อน ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
ปกติทีกลับบ้านด้วยรถโรงเรียน ซึ่งบ้านเราก็อยู่ทางเดียวกันนั่นแหละแต่เราขี้เกียจรอรถ ปกติเราก็จะกลับแท็กซี่ตลอด ก็จะมีแต่ช่วงสิ้นเดือนนั่นแหละที่เราจะกลับรถโรงเรียน ด้วยความที่ทุกคนบนรถโรงเรียนไป-กลับรถคันนั้นตลอด ทุกคนเลยมีที่ประจำ ซึ่งทำให้เราไม่มีที่นั่ง ครั้งแรกที่เราขึ้นรถไปคือยืนเอ๋ออยู่หน้ารถนานมาก กลัวไปนั่งที่เด็กเกเรแล้วโดนยำ แต่อยู่ดีๆก็มีใครไม่รู้เดินมาจากข้างหลังแล้วก็เบียดเราจนเซ เกือบจะหันไปด่าละ เค้าคนนั้นคือที (ตอนนั้นเพิ่งรู้จักกันวันแรกเลยค่าาา) ทีลากเราไปนั่งที่เบาะหลังสุดข้างๆเค้า บอกเลยว่าทรมานมากกกก เกร็งมากกกกก นั่งแข็งเป็นหินเลยครับ ไม่เคยนั่งใกล้ผู้ชายนอกจากพ่อและพี่ชายมาก่อน ใช่ค่ะเราไม่ได้คุยกันเลย ไม่เลยสักนิด และแล้วก็เหมือนฟ้ากลั่นแกล้งความกลัวผู้ชายของเรา วันนี้รถเต็มจ้า ที่นั่งเต็มไปด้วยโครงงานของแต่ละคน ที่นั่งประจำเรา(ข้างๆที)ก็มีของวางเต็มไปหมด เราก็ยืนเอ๋ออยู่หน้ารถเหมือนเดิม แล้วอยู่ดีๆทีก็เดินออกมาลากเราไปที่ที่ประจำแล้วเค้าก็นั่งลงพร้อมตบตักตัวเอง (ตอนนั้นก็ยังไม่สนิทกัน แต่เป็นเพื่อนกันแล้ว) เราก็มองเค้าแบบหน้าหมางง แบบตบตักทำไมอะ แล้วทีก็พูดขึ้นมาว่าให้เรานั่งตักเค้าสิ เราก็บอกเค้าว่าไม่เอาอะเราตัวหนัก เดี๋ยวขาเค้าหัก เค้าก็บอกว่าที่มันเต็มแล้วไม่เห็นหรอ จะไปนั่งตรงไหน เราก็บอกเค้าไปว่าวันนี้เรากลับแท็กซี่ก็ได้ แล้วก็หันหลังเตรียมเดินออกจากรถ แต่แล้วทีก็ดึงแขนเราไว้ เราไม่ได้ตั้งตัวเลยเซไปนั่งบนตักเค้าเป๊ะ ช็อคเลยครับตอนนั้น แล้วทีก็พูดขึ้นมาว่า "พูดดีๆแต่แรกก็ไม่ฟัง เด็กดื้อ" พูดงี้ก็เขินหน้าชาสิครับ นั่งแข็งเป็นหินตลอดทางเหมือนเดิม แต่เกร็งกว่าเดิมอีกกลัวเค้าหนัก
เรากับทีมีเรียนพละด้วยกันแล้วดูเหมือนว่าทั้งห้องจะมีแค่ทีนี่แหละที่น่าเป็นเพื่อนด้วย ตอนอยู่ในคาบเรากับทีก็คุยเล่นกันตลอด เราก็ถามทีว่าชื่อจีนเค้าชื่ออะไร เค้าก็บอกเราว่าเค้าชื่อเก้อเก่อ เราก็ถามเค้าว่าเราเรียกชื่อจีนเค้าได้มั้ย ถ้าเค้าได้ยินคนเรียกชื่อนี้เค้าก็จะได้รู้ว่าเป็นเราเรียก เค้าก็โอเคแต่เค้าขอเรียกเราว่าเม้ยเม่ยนะ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร พอเวลาเจอกันในโรงเรียนเราก็จะตะโกนเรียกเค้า "้เก้อเก่อ!" กะว่าให้เค้าอายที่เราเรียกชื่อจีนเค้า แล้วเค้าก็จะเดินมาใกล้ๆแล้วพูดเบาๆข้างๆเราว่า "ว่าไงเม้ยเม่ย" ขนลุกแปลกๆ แต่น้ำเสียงนี่กวนชะมัด ซึ่งตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่า 2 คำนั้นแปลว่าอะไร เค้าบอกว่ามันคือชื่อก็เชื่อเค้าไป จนวันนึงเพื่อนจีนผู้หญิงก็ถามเราว่าไม่รู้สึกแปลกหรอที่เรียกทีว่าเก้อเก่อ แล้วเค้าเรียกเราว่าเม้ยเม่ย เราก็งง จะแปลกได้ไงก็นั่งชื่อเค้าไม่ใช่หรอ เพื่อนผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่าไม่ใช่ เก้อเก่อแปลว่าพี่ชาย ส่วนเม้ยเม่ยแปลว่าน้องสาว ที่จีนบางคนเค้าเรียกกันแบบนี้ตอนจีบกัน ผู้ชายมักจะอยากเป็นฝ่ายที่ดูโตกว่าเลยให้ผู้หญิงเรียกว่าพี่ ตอนนั้นเราก็งงว่าทีจะหลอกให้เราเรียกมันว่าพี่ทำไม เราก็ถามทีตรงๆเลยแบบนี่กวนอยากให้เราเรียกว่าพี่หรอ ทีก็หน้านิ่งๆปนตกใจถามว่าเรารู้ได้ไง แล้วถามต่อว่าพอรู้ความหมายแล้วเราจะเรียกกันแบบนั้นต่อไปได้มั้ย เราก็ไม่ได้ติดใจอะไร ก็เออออกับมันไปเพราะเรียกกันชื่อนี้เหมือนเรียกชื่อแม่เพื่อนกันจนชินแล้ว
เวลาผ่านไปเรากับทีก็สนิทกันมากขึ้น คุยกันมากขึ้น เจอกันบ่อยขึ้น เราเริ่มมีความรู้สึกดีๆให้ทีเพราะเค้าดูแลเราดีมาก เค้าทำให้เรารู้สึกประหม่าและปลอดภัยในเวลาเดียวกัน เรารู้สึกดีทุกครั้งที่อยู่ใกล้ๆเค้า มีความสุขทุกครั้งที่ได้คุย ได้เล่นด้วย เราไม่รู้ว่าทีรู้สึกเหมือนเรารึป่าว เราแสดงออกชัดเจนกับทีมากว่าเรารู้สึกกับเค้ามากกว่าเพื่อน และดูเหมือนเค้าก็รับรู้ โอเค แต่ไม่ได้ตอบรับอะไร เราก็ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็โอเค เราชอบเค้า เค้าก็รับรู้ คนทั้งโรงเรียนก็รู้รวมถึงซินเพื่อนตุ๊ดผู้ชี้ทาง นางเลิกสนใจทีไปนานละเพราะไดเจอเป้าหมายใหม่หล่อล่ำบึก แถมยังเชียร์อีกว่าในโรงเรียนไม่มีใครเหมาะกับพี่ทีนางไปมากกว่าเรา55555
ถึงตรงนี้ก่อนเนอะ จะมีคนอ่านมั้ยเนี่ย555555 จะบอกว่าเรื่องหลังจากนี้งงมาก เจ็บมาก จนตอนนี้แผลก็ยังไม่หายดี รอติดตาม