สวัสดีค่ะ
ขอแนะนำตัวก่อนเลยนะคะ
"เรา" เป็นผู้หญิงค่ะ ตอนนี้อายุ 28 ทำงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง เริ่มงานที่นี่ตั้งแต่จบใหม่ ทำงานที่บ้านเกิด เป็นลูกสาวคนเดียวค่ะ
"แฟน" อายุย่าง 31 แฟนเป็นคนจังหวัดอื่น บ้านแฟนห่างบ้านเราเกือบพันกิโล เจอกันเพราะว่าแฟนมาทำงานที่บ้านเกิดเรา
และตอนนี้ก็ยังไม่ย้ายกลับค่ะ แฟนมีพี่น้อง 4 คน แต่เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวค่ะ มีพี่สาว 1 คนแต่งงานแยกบ้านไปแล้ว
และน้องสาวสองคนยังเรียนอยู่
เข้าเรื่องเลยนะคะ
เรากับแฟนเจอกันที่ทำงาน แฟนทำงานที่จังหวัดบ้านเกิดเราค่ะ ตอนนี้คบกันได้เกือบๆ 4ปี ทุกอย่างคือดีมากค่ะ ดีมากจริงๆ
แฟนดูแลเราดีทุกอย่าง ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน เรื่องผู้หญิง เรื่องเที่ยว ใดๆเลย เราทะเลาะกันบ้างค่ะ แต่ก็เรื่องเล็กๆน้อยๆ
แฟน เคยมาเจอพ่อแม่เราแล้วค่ะ ที่บ้านทราบว่าคบกัน มีไปมาหาสู่อยู่ปกติ พ่อแม่เราก็โอเค ส่วนเราเองก็เคยไปเจอที่บ้านแฟน
เจอแม่ เจอน้อง เราเข้าได้กับทุกคนค่ะ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ทุกอย่างคือดีมาก จนคนรอบข้างเริ่มถามเรื่องแต่งงาน
ก่อนหน้านี้เราไม่เคยคุยเรื่องนี้กับแฟนเลยค่ะ จนมีผู้ใหญ่ท่านนึง ถามเรามาว่า เรากับแฟนมีวางแผนแต่งงานกันรึยัง ควรจะคุยกันได้แล้วนะ
เราก็ตอบว่า "ยังไม่เคยคุยกันจริงๆจังๆเลยค่ะ" คือก่อนนี้ก็อาจจะมีพูดเล่นกันบ้าง เช่น หัดทำกับข้าวไว้นะ เดี๋ยวแต่งแล้วต้องทำให้กิน,
หรือตอนที่เราซักผ้า ทำงานบ้าน แฟนก็จะแซวๆว่า ซ้อมไว้เยอะๆนะ แต่งไปแล้วจะได้ชิน ประมาณนี้ค่ะ เราก็คุยขำๆไป
จนมาถึงวันที่พ่อเราป่วย เป็นโรคที่รักษาไม่หายค่ะ คือรักษาตามอาการไปเรื่อยๆ หมอก็บอกให้ครอบครัวทำใจ แฟนทราบดีเรื่องพ่อ
ญาติๆฝั่งเรา เริ่มมาถามเรื่องแต่งงานกับเราค่ะ ด้วยอายุ หน้าที่การงาน ระยะเวลาที่คบกันมา ทางบ้านเริ่มกดดันเราเรื่องแต่งงาน
ว่าให้คุยกับแฟน แต่เหตุผลจริงๆคือ หากนานมากไปกว่านี้กลัวพ่อจะอยู่ไม่ถึงงานแต่งของลูกสาวคนเดียว
ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ตอนที่มีผู้ใหญ่มาบอกเราว่า น่าจะคุยกับแฟนเรื่องแต่งได้แล้วนะ
เราเคยเอาไปถามแฟนค่ะ ถามตรงๆเลยว่า เธอคิดกับเราจริงจังแค่ไหน เธอมองเรื่องแต่งงานไว้ยังไง กระทั่งว่า เราเอ่ยปากชวนเก็บเงิน
เราเปิดบัญชีใหม่เก็บตังไว้ใช้ตอนแต่งงานดีมั้ย แฟนเรากับเราเงินเดือนห่างกันไม่มากค่ะ แต่แฟนมีภาระทางบ้านเยอะกว่า
และเราก็คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ แพลนไว้ไกลๆ วางแผนนานๆดีกว่ามั้ย ช่วยกันเก็บเงินไปเรื่อยๆ แฟนตอบมาว่า ก็เก็บเองไปแบบนี้แหละ
(เรามีบัญชีฝากประจำค่ะ) เดี๋ยวถ้าได้ใช้จริงๆ ก็เงินก้อนนี้อยู่ดี
ก่อนที่จะมาทำงานตรงนี้ แฟนเคยทำงานเกี่ยวกับการลงทุนมาก่อนค่ะ ทำให้ตัวเค้าเองมีแผนการเงินค่อนข้างดี เก็บเงินหลายแบบ
มีแบ่งลงทุนบ้าน เก็บให้ตัวเอง ให้แม่บ้าง คือแฟนมีเงินเก็บค่ะ แต่ยังไม่มีเงินเก็บที่เป็น "อนาคตของเรา"
เราถามแฟนตรงๆ ว่า เราจะไม่วางแผนการแต่งงานของเราเลยหรอ วางแผนที่จริงจังอะเธอ แบบมีเป้าหมายว่าต้องได้เท่าไหร่
เก็บเดือนกี่บาท เก็บกี่ปี คือไม่ได้เร่งรีบว่าตอนนี้เดี๋ยวนี้นะ แพลนแบบ 5 ปีเลยยังได้ แต่แค่เรามาเริ่ม start กันตอนนี้ดีมั้ย
แฟนตอบเรามาว่า "การแต่งงานมันยังไกลตัวเค้าเกินไป เค้าแพลนไม่ได้ เพราะยังมองอนาคตข้างหน้าไม่ออก ก็คบกันไปเรื่อยๆนี่แหละ"
เราเคยได้ยินแฟนคุยกับพ่อเค้าค่ะ พ่อแฟนบอกให้ ปีหน้ามาขอเราแต่งงาน แต่แฟนบอกกลับพ่อเค้าไปว่า ยังไม่มีเงิน ยังไม่พร้อมหรอก
ตอนนี้ทางบ้านเร่งเรื่องแต่งงานกับเรามากเลยค่ะ แต่เอาตรงๆคือ จากคำตอบที่เคยได้ เราไม่กล้าถามแฟนอีกค่ะ ควรจะทำยังไงดี
มีใครเครียด เพราะโดนกดดันเรื่องแต่งงานมั้ยคะ?
ขอแนะนำตัวก่อนเลยนะคะ
"เรา" เป็นผู้หญิงค่ะ ตอนนี้อายุ 28 ทำงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง เริ่มงานที่นี่ตั้งแต่จบใหม่ ทำงานที่บ้านเกิด เป็นลูกสาวคนเดียวค่ะ
"แฟน" อายุย่าง 31 แฟนเป็นคนจังหวัดอื่น บ้านแฟนห่างบ้านเราเกือบพันกิโล เจอกันเพราะว่าแฟนมาทำงานที่บ้านเกิดเรา
และตอนนี้ก็ยังไม่ย้ายกลับค่ะ แฟนมีพี่น้อง 4 คน แต่เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวค่ะ มีพี่สาว 1 คนแต่งงานแยกบ้านไปแล้ว
และน้องสาวสองคนยังเรียนอยู่
เข้าเรื่องเลยนะคะ
เรากับแฟนเจอกันที่ทำงาน แฟนทำงานที่จังหวัดบ้านเกิดเราค่ะ ตอนนี้คบกันได้เกือบๆ 4ปี ทุกอย่างคือดีมากค่ะ ดีมากจริงๆ
แฟนดูแลเราดีทุกอย่าง ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน เรื่องผู้หญิง เรื่องเที่ยว ใดๆเลย เราทะเลาะกันบ้างค่ะ แต่ก็เรื่องเล็กๆน้อยๆ
แฟน เคยมาเจอพ่อแม่เราแล้วค่ะ ที่บ้านทราบว่าคบกัน มีไปมาหาสู่อยู่ปกติ พ่อแม่เราก็โอเค ส่วนเราเองก็เคยไปเจอที่บ้านแฟน
เจอแม่ เจอน้อง เราเข้าได้กับทุกคนค่ะ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ทุกอย่างคือดีมาก จนคนรอบข้างเริ่มถามเรื่องแต่งงาน
ก่อนหน้านี้เราไม่เคยคุยเรื่องนี้กับแฟนเลยค่ะ จนมีผู้ใหญ่ท่านนึง ถามเรามาว่า เรากับแฟนมีวางแผนแต่งงานกันรึยัง ควรจะคุยกันได้แล้วนะ
เราก็ตอบว่า "ยังไม่เคยคุยกันจริงๆจังๆเลยค่ะ" คือก่อนนี้ก็อาจจะมีพูดเล่นกันบ้าง เช่น หัดทำกับข้าวไว้นะ เดี๋ยวแต่งแล้วต้องทำให้กิน,
หรือตอนที่เราซักผ้า ทำงานบ้าน แฟนก็จะแซวๆว่า ซ้อมไว้เยอะๆนะ แต่งไปแล้วจะได้ชิน ประมาณนี้ค่ะ เราก็คุยขำๆไป
จนมาถึงวันที่พ่อเราป่วย เป็นโรคที่รักษาไม่หายค่ะ คือรักษาตามอาการไปเรื่อยๆ หมอก็บอกให้ครอบครัวทำใจ แฟนทราบดีเรื่องพ่อ
ญาติๆฝั่งเรา เริ่มมาถามเรื่องแต่งงานกับเราค่ะ ด้วยอายุ หน้าที่การงาน ระยะเวลาที่คบกันมา ทางบ้านเริ่มกดดันเราเรื่องแต่งงาน
ว่าให้คุยกับแฟน แต่เหตุผลจริงๆคือ หากนานมากไปกว่านี้กลัวพ่อจะอยู่ไม่ถึงงานแต่งของลูกสาวคนเดียว
ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ตอนที่มีผู้ใหญ่มาบอกเราว่า น่าจะคุยกับแฟนเรื่องแต่งได้แล้วนะ
เราเคยเอาไปถามแฟนค่ะ ถามตรงๆเลยว่า เธอคิดกับเราจริงจังแค่ไหน เธอมองเรื่องแต่งงานไว้ยังไง กระทั่งว่า เราเอ่ยปากชวนเก็บเงิน
เราเปิดบัญชีใหม่เก็บตังไว้ใช้ตอนแต่งงานดีมั้ย แฟนเรากับเราเงินเดือนห่างกันไม่มากค่ะ แต่แฟนมีภาระทางบ้านเยอะกว่า
และเราก็คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ แพลนไว้ไกลๆ วางแผนนานๆดีกว่ามั้ย ช่วยกันเก็บเงินไปเรื่อยๆ แฟนตอบมาว่า ก็เก็บเองไปแบบนี้แหละ
(เรามีบัญชีฝากประจำค่ะ) เดี๋ยวถ้าได้ใช้จริงๆ ก็เงินก้อนนี้อยู่ดี
ก่อนที่จะมาทำงานตรงนี้ แฟนเคยทำงานเกี่ยวกับการลงทุนมาก่อนค่ะ ทำให้ตัวเค้าเองมีแผนการเงินค่อนข้างดี เก็บเงินหลายแบบ
มีแบ่งลงทุนบ้าน เก็บให้ตัวเอง ให้แม่บ้าง คือแฟนมีเงินเก็บค่ะ แต่ยังไม่มีเงินเก็บที่เป็น "อนาคตของเรา"
เราถามแฟนตรงๆ ว่า เราจะไม่วางแผนการแต่งงานของเราเลยหรอ วางแผนที่จริงจังอะเธอ แบบมีเป้าหมายว่าต้องได้เท่าไหร่
เก็บเดือนกี่บาท เก็บกี่ปี คือไม่ได้เร่งรีบว่าตอนนี้เดี๋ยวนี้นะ แพลนแบบ 5 ปีเลยยังได้ แต่แค่เรามาเริ่ม start กันตอนนี้ดีมั้ย
แฟนตอบเรามาว่า "การแต่งงานมันยังไกลตัวเค้าเกินไป เค้าแพลนไม่ได้ เพราะยังมองอนาคตข้างหน้าไม่ออก ก็คบกันไปเรื่อยๆนี่แหละ"
เราเคยได้ยินแฟนคุยกับพ่อเค้าค่ะ พ่อแฟนบอกให้ ปีหน้ามาขอเราแต่งงาน แต่แฟนบอกกลับพ่อเค้าไปว่า ยังไม่มีเงิน ยังไม่พร้อมหรอก
ตอนนี้ทางบ้านเร่งเรื่องแต่งงานกับเรามากเลยค่ะ แต่เอาตรงๆคือ จากคำตอบที่เคยได้ เราไม่กล้าถามแฟนอีกค่ะ ควรจะทำยังไงดี