แพรลงพุงเล่าเรื่อง 🗒✏
พึ่งจะได้รวบรวมเอามาลงเผื่อเป็นเคสให้กับเพื่อนๆ อันนี้ประสบพบเจอด้วยตัวเองเลย สนุกสนานมากมาย
โดยปีนี้ตัดสินใจจะฮิตอินเทรนด์ไปโครเอเชียจ้า
Part 1:
ทุกการเดินทางมักตามมาด้วยประสบการณ์และการเรียนรู้เสมอ ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เราได้ประสบการณ์เยอะมากในการเดินทาง
เรามีแพลนไปโครเอเชีย เพื่อชมธรรมชาติใบไม้เปลี่ยนสีสุดฮิตของเขา ซึ่งตามแพลนคือไปโดยสายการบินไก่งวง เวลาบินคือ 23:00 น. เริ่ม boarding 22:00 น. และสิ้นสุดที่ 22:40 น. จากประสบการณ์ที่เคยนั่งไก่งวงแล้ว ส่วนตัวรู้สึกมันจะต้องมีอะไรให้ตื่นเต้นตอนจะบินทุกครั้ง ครั้งนี้เราเลยเผื่อเวลาไปถึงเกทก่อนสี่ทุ่ม (ปกติจะช้อปกระจายในสนามบิน และวิ่งกระหืดกระหอบไปขึ้นเครื่องแทบทุกครั้ง 😂)
พอใกล้ถึงเวลาจะ boarding เกทก็ถูกเปลี่ยน จาก G4 เป็น E2A ซึ่งโอเค อยู่ใกล้กัน ใช้เวลาเดินไม่นาน พอไปถึงเกทซักพัก เริ่มได้ยินเสียงกระซิบกระซาบมาว่า เครื่องดีเลย์ 1 ชม. (เอ่า.. มาละไง แต่ 1 ชม. โอเคน่ะ แป๊ปเดียวเอง) ซักพักข่าวมาใหม่ ดีเลย์เป็น 2.5 ชม. เปลี่ยนเวลาบินจาก 23:00 น. เป็น 01:30 น. .. แต่สุดท้าย เปลี่ยนอี๊ก เป็น 02:00 น. (แก แกทำให้ชั้นต้อง expect the unexpected จริงๆใช่มั้ย...)
ณ ตอนนั้นทุกคนคือนั่งไม่ติดเก้าอี้ละจ้า ทำไมน่ะหรอ?? เพราะเรามี connecting flight จาก Istanbul ไป Zagreb ซึ่งเวลา transit มันมีเพียง 2 ชม.เท่านั้น แต่ไฟล์ทเราแพลนดีเลย์ไปแล้วกว่า 3 ชม. หมายความว่า ณ ตอนนั้นคือเราตกเครื่องที่จะไปโครเอเชีย ทั้งๆที่ยังไม่ออกจากสยามเมืองยิ้มเลย
แล้วคือมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมดีเลย์ได้ขนาดนั้นนนนน
Part 2:
✈ คือ เครื่องบินที่จะไปส่งเราน่ะมาแล้ว แสตนบายพร้อมให้ผู้โดยสารขึ้นแล้วล่ะ รถบันไดก็มาพร้อม แต่มีเครื่องบินอีกลำกำลังเดินต๊อกแต๊กอยู่บนรันเวย์ แล้วรถบันไดก็กลัวเครื่องบินลำนั้นจะมาชนงี้ เลยขับหลบเบาๆ แล้วก็เลยไถลมาชนเครื่องบินลำที่จะพาเราไปส่งที่ Istanbul เครื่องบินเลยเกิดบาดแผลถลอก 💥 (แบบนี้ก็ได้หรอ????! เล่นโดมิโน่กันอยู่ป้ะเทอ) ซึ่ง ณ ตอนนั้นไม่มีใครรับรองได้ว่าแผลถลอกนั้นเป็นมากหรือน้อย สามารถทำการบินได้รึเปล่า แล้วถ้าบินจริง ความกดอากาศและแรงดันมันสูงมาก จะมีผลกระทบกับเครื่องมั้ย บลาๆ (ภาพในหัวตอนนั้นคือ เครื่องบินกำลังบิน ลอยอยู่ในอากาศท่ามกลางก้อนเมฆ แล้วก็มีเสียงลมฟิ้วๆเข้ามาในตัวเครื่อง เริ่มเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน สุดท้าย เครื่องบินแตก - กลายเป็นโกโก้ครันช์ 😂 จินตนาการสูงไปอีกเนอะ) และ เจ้าหน้าที่เลยต้องถ่ายรูปแผลถลอกนั้นส่งไปให้คุณหมอเครื่องบินเช็ค ว่าบาดเจ็บอาการนี้พร้อมเดินทางมั้ย นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องดีเลย์ (แต่ความจริงคืออะไร เราก็ไม่แน่ใจ เพราะก็รับสารต่อๆกันมาอีกที...)
แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม คือตรูไปต่อเครื่องไม่ทันแล้วโว๊ย สายการบินเลยเสนอมา 2 ทางเลือก คือ
1. เขาจะเลื่อนไฟล์ทที่เราจะบินไป Zagreb ให้ ซึ่งจะเป็นรอบประมาณ 6 โมงเย็นของวันถัดไป ก็คือเราต้องใช้เวลา transit อยู่ที่ Istanbul กว่า 8 ชม. แต่เขาก็เสนอทัวร์พาเที่ยว Istanbul โดยไกด์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมกับมีอาหารกลางวันให้ผู้ประสบภัยอย่างเราฟรี
2. เขาจะหาไฟล์ทเอมี่ให้กับเราเพื่อให้ตารางเที่ยวของเรากระทบน้อยที่สุด แต่จะไม่รับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น ถ้ามีปัญหาการต่อเครื่องหรืออื่นๆอีก
Part 3:
✨✨✨ เฉลย!!!!
ตัวเรานั้น ฟังแว๊บแรกเลือกข้อ 1 จ้า ความเสี่ยงไม่มี แถมยังได้เที่ยวตุรกีอีกรอบด้วย play safe ไว้ก่อนละกันเนอะ กำขี้ดีกว่ากำตด 555 แต่ๆๆๆๆๆ พอมาคิดอีกที ทริปนี้เราตั้งใจจะไปเที่ยวโครเอเชีย ตุรกีเราก็เคยไปแล้ว แถมตุรกีก็ไปง่ายกว่า ใกล้กว่า ไม่ต้องขอวีซ่าด้วย พอคิดได้แบบนี้แล้วก็เลือกข้อ 2 โลดจ้า take risk กันหน่อย #รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง กันสักหน่อย 👍 (ถ้าเป็นข้อ 1 โปรแกรมเที่ยวในโครเอเชียวันแรกของเราจะถูกตัดไปเลยน่ะ)
พอได้คำตอบแล้ว โหวตในกรุ๊ปรวม 26 คน (ครั้งนี้เราไปกับทัวร์นะ) ก็ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ว่าเราเลือกข้อ 2 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตกใจมาก ที่กรุ๊ปเราตัดสินใจแบบนี้ เขาคงไม่คิดว่าเราจะยอมรับความเสี่ยง และเขาคงพยายามหลีกเลี่ยงขั้นตอนต่างๆที่จะต้องย้ายผู้โดยสารอย่างน้อยๆ 26 คน ไปให้อีกสายการบินแทน อย่างแรกเลยก็กระเป๋าล่ะ เพราะกระเป๋าได้โหลดเข้าใต้ท้องเครื่องที่เป็นแผลถลอกไปแล้ว ต้องควานหารื้อออกมาให้หมด ต่อไปก็ตั๋วเครื่องบินที่ต้องออกใหม่เป็นสายการบินเอมี่ให้ผู้โดยสาร ซึ่งขั้นตอนตรงนี้ เท่าที่ฟังๆเขา มันมี 2 แบบ คือ
1. โอนข้อมูลผู้โดยสารทั้งก้อนจากสายการบินปจบ.ไปสายการบินใหม่เลย (ได้ยินเขาเรียกกันว่า ฟินตั๋วๆ หมายความว่าอะไร ย่อมาจากคำไหน ใครมีความรู้ช่วยบอกที)
2. Re-issue ตั๋วให้เป็นสายการบินใหม่ทั้งหมด คล้ายๆกับการออกตั๋วใหม่นั่นเอง ที่ต้องจองตั๋วของผู้โดยสารแต่ละคนเข้าไปใหม่
เราผู้ซึ่งไม่มีความรู้อะไร คิดเร็วๆ ในเวลาที่มีจำกัดที่ต้องตัดสินใจ ก็ควรจะทำวิธีที่ 1 คือการ fin ไปเลยป่ะ (เห็นด้วยมั้ย?) แต่ไม่จ้า เจ้าหน้าที่ทำต่างออกไป (อยากจะ differentiate ไปอี๊ก) โดยการ Re-issue ตั๋วซึ่งเสียเวลาระดับนึงละ แล้วก็เปลี่ยนใจไป Fin แทน แต่สุดท้ายกลับมา Re-issue อี๊ก (คืออะไร ตรูไม่เก็ท เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทำไมอ่ะ) ณ ตอนนั้นก็มีนายสถานีของไก่งวง (จนท.ตำแหน่งใหญ่สุดของสายการบินที่ประจำอยู่ที่สุวรรณภูมิ ไม่ใช่คนไทย สัญชาติดูเป็นแขกขาว) มาสั่งการ เหมือนพยายามจะดึงเอาเวลามาเป็นตัวประกันในการกดดันพยายามจะให้เราเลือกไปกับสายการบินเขาต่อ (ไม่รู้ว่าเพราะตั๋วของเอมี่แพงกว่า แล้วเขาต้องไป subsidize ส่วนต่างตรงนั้นด้วยมั้ย) นายสถานีพูดอยู่แบบเดิมซ้ำๆ ว่าเขาจะไม่รับผิดชอบหากมีปัญหาการต่อเครื่อง หรือถ้าเริ่มขั้นตอนการย้ายไปเอมี่แล้ว และสุดท้ายเขาทำให้ไม่ทันครบทุกคน เขาก็จะไม่สนใจนะ (แก แบบนี้ก็ได้หรอออออ งงแพรพ ก็ถ้าเริ่มทำตั้งแต่ 10 นาทีที่แล้ว ก็คงเสร็จไปหลายคนแล้วมั้ยล่ะยุว แต่วิธีการพูดเขาเหมือนตั้งใจจะแกล้งเพื่อทิ้งเราเลยอ่ะ) ณ ตอนนั้นก็เริ่มมีความกดดันมากขึ้น เวลาก็บีบเหลือเกิน พวกเราชาวคณะตัวแทนรักษาสิทธิ์ก็มายืนรวมตัวกัน เพื่อยืนยันว่า ตรูจะย้าย เปลี่ยนไปบินเอมี่ แล้วยุวก็ต้องทำให้ทันด้วย!
ท้ายที่สุด นายสถานียอมสั่งการให้เจ้าหน้าที่คนไทยทำการย้ายพวกเราไปเอมี่ แต่ๆๆๆๆ เรื่องมันยังไม่จบเท่านั้น เพราะเขายังคงควานหากระเป๋าของทุกคนยุ้ว!!!! งมเข็มในมหาสมุทรเลยมั้ยล่ะแก ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง เลข tag กระเป๋าก็มี เช็คแป๊ปๆก็คงได้ (คิดเอง 😂) เจ้าหน้าที่ของไก่งวงแจ้งเราว่า ถ้าเขาย้ายกระเป๋าของพวกเราเอาไปใส่เอมี่ไม่ทัน (Bangkok-Dubai-Zagreb) เขาก็จะเอากระเป๋าของพวกเราไปกับไก่งวง แล้วค่อยไปส่งให้อีกที ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น กระเป๋าเราจะได้ไปเที่ยว Istanbul ก่อนแทน (Bangkok-Istanbul-Zagreb) แล้วเราจะเจอกระเป๋าอีกทีที่โรงแรมตอนกลางคืนดึกดื่นเลย
เอาจริงไม่ว่าจะทันหรือไม่ทัน ตัวเราไม่เดือดร้อน เพราะนี่เตรียมชุดมาพร้อมมาก อยู่ใน Hand-carry เปลี่ยนได้อีก 2 ชุดอ่ะ 😂 ได้ทั้งแบบหนาวหรือแค่เย็นๆก็ได้ (กระเป๋าโดราเอม่อนอ่ะเอาจริง 😆) แต่ถ้ามีคนไม่ได้เตรียมล่ะ? มีคนกะว่าจะมาเปิดกระเป๋าหยิบเครื่องหนาวตอนถึงสนามบินปลายทางจะยังไง? ก็แย่สิคะคุณ ไปถึงนี่เตรียมชิลๆ 15 องศาเลยน้า ซึ่งตอนนั้นก็ทำอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากต้องรอลุ้นกันอีกที 👍
(ถ้าใครมีความรู้เพิ่มเติมเรื่องตั๋วเดินทางก็แชร์กันได้น้า ข้อมูลตรงนี้เราก็ฟังจากพี่ในคณะทัวร์มาอีกทีจ้า ซึ่งพี่เขามีความรู้มากๆเรื่องการออกตั๋ว เนื่องจากเป็นเจ้าของทัวร์และเป็นบุคคลหลักในการตบตีกับเจ้าหน้าที่ เพื่อเรียกร้องสิทธิ์นี้มา ถ้าไม่ได้พี่เค้านี่ เราคงต้องรอเงิบไปอีกนาน...)
Part 4:
จบจากที่เกท E2A เสร็จ เราชาวคณะก็เป็นอาจารย์โกยไปออกตั๋วใหม่ของเอมี่ ตรงเคาน์เตอร์ใกล้ๆเกทนั้นนั่นแหละ อีกประมาณ 1 ชม. จะเริ่ม Boarding (ตอนนั้นเกือบตี 2 ละ) ตั๋วใหม่ออกมาละ คอนเฟิร์มว่าทุกคนได้บินเอมี่ไปต่อเครื่องที่ Dubai แล้วค่อยไป Zagreb แน่นอน (เย้ เดินทางมาก็ไม่น้อย แต่ยังไม่เคยนั่งเอมี่ และไม่เคยไป Dubai จ้า ตื่นเต้นดีใจไปอี๊ก ได้เวลาช้อปละตรู ยัง ยังงง ลัลล้าได้อยู่ 😁) แต่กระเป๋านั้นยังไม่รู้ชะตากรรมว่าจะเป็นยังไง เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่า ถ้ากระเป๋าไปทัน จะมีคนเอา tag กระเป๋าไปให้ที่เกทเลย (รอต่อไปค่ะ..)
จนแล้วจนเล่า จนลืมไปว่า กระเป๋าตรูยังไม่ได้มาด้วย 🤣 จนขึ้นเครื่อง นั่งอยู่บนเครื่องแล้วเพิ่งนึกได้ว่า กระเป๋าตรูอยู่ไหน (ท่าแหวกจาพนมก็มา) หันไปหาผู้ร่วมเดินทางว่า เอ้ย เรายังไม่ได้ tag กระเป๋านิ แสดงว่ากระเป๋าเราไม่ได้ไปกับเราสินะ .. (กระเป๋าจ๋า ป้าลาก่อน 👋) พูดจบไม่ทันขาดคำ หัวหน้าทัวร์ส่งไลน์มาพร้อมรูปว่า ได้ tag กระเป๋าของทุกคนแล้ว กระเป๋าจะไปกับเราด้วยจ้า เย้ 🎉 (จะวิ่งไปกระโดดกอดกระเป๋าตอนเจอกันเลย 🎒)
แล้วเราก็ใช้เวลาร่วม 6 ชั่วโมง ก็ถึง Dubai แต่พอเครื่องแลนด์ลงมาแล้วก็มีความงงเบาๆว่า นี่เรากลับมาสุวรรณภูมิรึเปล่า กัปตันบินเล่นวนอยู่บนท้องฟ้าแล้วพามาส่งที่เดิมหรอ..? สรุปคือ ป๊าววว แต่สนามบินดูไบ หน้าตาคล้ายกับสนามบินสุวรรณภูมิบ้านเรามาก มากแบบมากๆๆๆๆๆๆ ตกใจเล็กน้อย ลงจากเครื่องก็ขึ้นบัสเข้าตัวอาคารต่อ แต่คือ สนามบินดูไบใหญ่มากๆอ่ะ ขนาดนั่งบัสยังใช้เวลาบนบัสกว่า 20 นาทีได้
พอเข้าถึงตัวอาคาร ก็มีความตื่นตาตื่นใจ เห้ยยยย ของช้อปปิ้งเต็มเลย ร้านค้า duty free เยอะมากๆ แต่พอหันไปดูนาฬิกาเท่านั้นแหละ.. เหลือเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น สำหรับการวิ่งไปเกทถัดไป เพื่อให้ทัน boarding เครื่องไป Zagreb โอเอ็มจี ความฝันในการจะช้อปปิ้งที่ดูไบของชั้นก็แตกสลายไม่เป็นท่า ได้แต่วิ่งไปมองไป แล้วได้แต่ฝันว่า ครั้งหน้าจะมาช้อปที่นี่ ฮืออออออ
แต่สุดท้ายเราก็ขึ้นเครื่องทัน และเอมี่ก็พาเราไปส่ง Zagreb โดยสวัสดิภาพ ซึ่งการเดินทางรอบนี้ เราถือว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้าย เราโชคร้ายที่เครื่องดีเลย์ทำให้แผนการเดินทางตะกุกตะกักไปบ้าง
แต่เราโชคดีมากที่ได้มิตรภาพดีๆจากสมาชิกในกรุ๊ปทัวร์ ช่วยกันผนึกกำลังเรียกร้องสิทธิ์การเดินทางมาได้ ได้รู้จักพูดคุยกันอย่างสนุกสนานตั้งแต่วันแรกที่เดินทาง และยังได้อัพเป็นบินสายการบินเอมี่อีกตะหาก ลัลล้าไปอีกจ้า 💕💕
ป.ล. หลังจากไปฟังการเม้าจากพี่ในทริป ที่มีเพื่อนเดินทางกับไก่งวงในไฟล์ทวันนั้น สรุปว่า วันนั้นเหมือนไก่งวงเขาออกจากไทยตอน 05:30 น.ล่ะ ดีเลย์กว่าเดิมไปอีกยาวๆเลย ถ้านับเวลาจากเวลาไฟล์ทจริงก็ 6 ชั่วโมงครึ่งเลยทีเดียว ซึ่งไปถึง Istanbul ตอนบ่ายโมงกว่าๆ แล้วสุดท้ายก็ไม่มีใครได้เข้าไปเที่ยวในเมือง Istanbul ตามที่นายสถานีได้โม้ไว้ตอนแรก 😂 เพราะต้องเช็คอินสำหรับไฟล์ทไป Zagreb ตอนสี่โมงเย็น (แกว่ามันจะทันไหมล่ะ กว่าจะต.ม.เข้าประเทศตุรกี กว่าจะเดินทางไป-กลับในเมืองอีก...) สงสารกรุ๊ปคนไทยกรุ๊ปนั้นที่ไม่สามารถช่วงชิงสิทธิ์ย้ายไปเอมี่มาได้ แง้วๆ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เราควรทำประกันการเดินทางต่างประเทศ ที่ครอบคลุมเรื่องไฟล์ทดีเลย์และกระเป๋าหาย/ชำรุดไว้ด้วยจ้า 👍
-----------------------------------------------------------------------------
ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวและรีวิวอาหารต่างๆ แบบกันเองนี่ล่ะผ่านทางเพจ แพรลงพุง ได้เลย
https://www.facebook.com/praelhongpoong/
ขอบคุณค่าาา
[แพรลงพุงเล่าเรื่อง] จองไก่งวง ได้นั่งเอมี่ ว่าจะไปกินโยเกิร์ตฝิ่นอินอิสตันบูล ดั๊นได้ไปช้อปปิ้งดูไบแทน
พึ่งจะได้รวบรวมเอามาลงเผื่อเป็นเคสให้กับเพื่อนๆ อันนี้ประสบพบเจอด้วยตัวเองเลย สนุกสนานมากมาย
โดยปีนี้ตัดสินใจจะฮิตอินเทรนด์ไปโครเอเชียจ้า
Part 1:
ทุกการเดินทางมักตามมาด้วยประสบการณ์และการเรียนรู้เสมอ ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เราได้ประสบการณ์เยอะมากในการเดินทาง
เรามีแพลนไปโครเอเชีย เพื่อชมธรรมชาติใบไม้เปลี่ยนสีสุดฮิตของเขา ซึ่งตามแพลนคือไปโดยสายการบินไก่งวง เวลาบินคือ 23:00 น. เริ่ม boarding 22:00 น. และสิ้นสุดที่ 22:40 น. จากประสบการณ์ที่เคยนั่งไก่งวงแล้ว ส่วนตัวรู้สึกมันจะต้องมีอะไรให้ตื่นเต้นตอนจะบินทุกครั้ง ครั้งนี้เราเลยเผื่อเวลาไปถึงเกทก่อนสี่ทุ่ม (ปกติจะช้อปกระจายในสนามบิน และวิ่งกระหืดกระหอบไปขึ้นเครื่องแทบทุกครั้ง 😂)
พอใกล้ถึงเวลาจะ boarding เกทก็ถูกเปลี่ยน จาก G4 เป็น E2A ซึ่งโอเค อยู่ใกล้กัน ใช้เวลาเดินไม่นาน พอไปถึงเกทซักพัก เริ่มได้ยินเสียงกระซิบกระซาบมาว่า เครื่องดีเลย์ 1 ชม. (เอ่า.. มาละไง แต่ 1 ชม. โอเคน่ะ แป๊ปเดียวเอง) ซักพักข่าวมาใหม่ ดีเลย์เป็น 2.5 ชม. เปลี่ยนเวลาบินจาก 23:00 น. เป็น 01:30 น. .. แต่สุดท้าย เปลี่ยนอี๊ก เป็น 02:00 น. (แก แกทำให้ชั้นต้อง expect the unexpected จริงๆใช่มั้ย...)
ณ ตอนนั้นทุกคนคือนั่งไม่ติดเก้าอี้ละจ้า ทำไมน่ะหรอ?? เพราะเรามี connecting flight จาก Istanbul ไป Zagreb ซึ่งเวลา transit มันมีเพียง 2 ชม.เท่านั้น แต่ไฟล์ทเราแพลนดีเลย์ไปแล้วกว่า 3 ชม. หมายความว่า ณ ตอนนั้นคือเราตกเครื่องที่จะไปโครเอเชีย ทั้งๆที่ยังไม่ออกจากสยามเมืองยิ้มเลย
แล้วคือมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมดีเลย์ได้ขนาดนั้นนนนน
Part 2:
✈ คือ เครื่องบินที่จะไปส่งเราน่ะมาแล้ว แสตนบายพร้อมให้ผู้โดยสารขึ้นแล้วล่ะ รถบันไดก็มาพร้อม แต่มีเครื่องบินอีกลำกำลังเดินต๊อกแต๊กอยู่บนรันเวย์ แล้วรถบันไดก็กลัวเครื่องบินลำนั้นจะมาชนงี้ เลยขับหลบเบาๆ แล้วก็เลยไถลมาชนเครื่องบินลำที่จะพาเราไปส่งที่ Istanbul เครื่องบินเลยเกิดบาดแผลถลอก 💥 (แบบนี้ก็ได้หรอ????! เล่นโดมิโน่กันอยู่ป้ะเทอ) ซึ่ง ณ ตอนนั้นไม่มีใครรับรองได้ว่าแผลถลอกนั้นเป็นมากหรือน้อย สามารถทำการบินได้รึเปล่า แล้วถ้าบินจริง ความกดอากาศและแรงดันมันสูงมาก จะมีผลกระทบกับเครื่องมั้ย บลาๆ (ภาพในหัวตอนนั้นคือ เครื่องบินกำลังบิน ลอยอยู่ในอากาศท่ามกลางก้อนเมฆ แล้วก็มีเสียงลมฟิ้วๆเข้ามาในตัวเครื่อง เริ่มเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน สุดท้าย เครื่องบินแตก - กลายเป็นโกโก้ครันช์ 😂 จินตนาการสูงไปอีกเนอะ) และ เจ้าหน้าที่เลยต้องถ่ายรูปแผลถลอกนั้นส่งไปให้คุณหมอเครื่องบินเช็ค ว่าบาดเจ็บอาการนี้พร้อมเดินทางมั้ย นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องดีเลย์ (แต่ความจริงคืออะไร เราก็ไม่แน่ใจ เพราะก็รับสารต่อๆกันมาอีกที...)
แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม คือตรูไปต่อเครื่องไม่ทันแล้วโว๊ย สายการบินเลยเสนอมา 2 ทางเลือก คือ
1. เขาจะเลื่อนไฟล์ทที่เราจะบินไป Zagreb ให้ ซึ่งจะเป็นรอบประมาณ 6 โมงเย็นของวันถัดไป ก็คือเราต้องใช้เวลา transit อยู่ที่ Istanbul กว่า 8 ชม. แต่เขาก็เสนอทัวร์พาเที่ยว Istanbul โดยไกด์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมกับมีอาหารกลางวันให้ผู้ประสบภัยอย่างเราฟรี
2. เขาจะหาไฟล์ทเอมี่ให้กับเราเพื่อให้ตารางเที่ยวของเรากระทบน้อยที่สุด แต่จะไม่รับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น ถ้ามีปัญหาการต่อเครื่องหรืออื่นๆอีก
Part 3:
✨✨✨ เฉลย!!!!
ตัวเรานั้น ฟังแว๊บแรกเลือกข้อ 1 จ้า ความเสี่ยงไม่มี แถมยังได้เที่ยวตุรกีอีกรอบด้วย play safe ไว้ก่อนละกันเนอะ กำขี้ดีกว่ากำตด 555 แต่ๆๆๆๆๆ พอมาคิดอีกที ทริปนี้เราตั้งใจจะไปเที่ยวโครเอเชีย ตุรกีเราก็เคยไปแล้ว แถมตุรกีก็ไปง่ายกว่า ใกล้กว่า ไม่ต้องขอวีซ่าด้วย พอคิดได้แบบนี้แล้วก็เลือกข้อ 2 โลดจ้า take risk กันหน่อย #รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง กันสักหน่อย 👍 (ถ้าเป็นข้อ 1 โปรแกรมเที่ยวในโครเอเชียวันแรกของเราจะถูกตัดไปเลยน่ะ)
พอได้คำตอบแล้ว โหวตในกรุ๊ปรวม 26 คน (ครั้งนี้เราไปกับทัวร์นะ) ก็ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ว่าเราเลือกข้อ 2 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตกใจมาก ที่กรุ๊ปเราตัดสินใจแบบนี้ เขาคงไม่คิดว่าเราจะยอมรับความเสี่ยง และเขาคงพยายามหลีกเลี่ยงขั้นตอนต่างๆที่จะต้องย้ายผู้โดยสารอย่างน้อยๆ 26 คน ไปให้อีกสายการบินแทน อย่างแรกเลยก็กระเป๋าล่ะ เพราะกระเป๋าได้โหลดเข้าใต้ท้องเครื่องที่เป็นแผลถลอกไปแล้ว ต้องควานหารื้อออกมาให้หมด ต่อไปก็ตั๋วเครื่องบินที่ต้องออกใหม่เป็นสายการบินเอมี่ให้ผู้โดยสาร ซึ่งขั้นตอนตรงนี้ เท่าที่ฟังๆเขา มันมี 2 แบบ คือ
1. โอนข้อมูลผู้โดยสารทั้งก้อนจากสายการบินปจบ.ไปสายการบินใหม่เลย (ได้ยินเขาเรียกกันว่า ฟินตั๋วๆ หมายความว่าอะไร ย่อมาจากคำไหน ใครมีความรู้ช่วยบอกที)
2. Re-issue ตั๋วให้เป็นสายการบินใหม่ทั้งหมด คล้ายๆกับการออกตั๋วใหม่นั่นเอง ที่ต้องจองตั๋วของผู้โดยสารแต่ละคนเข้าไปใหม่
เราผู้ซึ่งไม่มีความรู้อะไร คิดเร็วๆ ในเวลาที่มีจำกัดที่ต้องตัดสินใจ ก็ควรจะทำวิธีที่ 1 คือการ fin ไปเลยป่ะ (เห็นด้วยมั้ย?) แต่ไม่จ้า เจ้าหน้าที่ทำต่างออกไป (อยากจะ differentiate ไปอี๊ก) โดยการ Re-issue ตั๋วซึ่งเสียเวลาระดับนึงละ แล้วก็เปลี่ยนใจไป Fin แทน แต่สุดท้ายกลับมา Re-issue อี๊ก (คืออะไร ตรูไม่เก็ท เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทำไมอ่ะ) ณ ตอนนั้นก็มีนายสถานีของไก่งวง (จนท.ตำแหน่งใหญ่สุดของสายการบินที่ประจำอยู่ที่สุวรรณภูมิ ไม่ใช่คนไทย สัญชาติดูเป็นแขกขาว) มาสั่งการ เหมือนพยายามจะดึงเอาเวลามาเป็นตัวประกันในการกดดันพยายามจะให้เราเลือกไปกับสายการบินเขาต่อ (ไม่รู้ว่าเพราะตั๋วของเอมี่แพงกว่า แล้วเขาต้องไป subsidize ส่วนต่างตรงนั้นด้วยมั้ย) นายสถานีพูดอยู่แบบเดิมซ้ำๆ ว่าเขาจะไม่รับผิดชอบหากมีปัญหาการต่อเครื่อง หรือถ้าเริ่มขั้นตอนการย้ายไปเอมี่แล้ว และสุดท้ายเขาทำให้ไม่ทันครบทุกคน เขาก็จะไม่สนใจนะ (แก แบบนี้ก็ได้หรอออออ งงแพรพ ก็ถ้าเริ่มทำตั้งแต่ 10 นาทีที่แล้ว ก็คงเสร็จไปหลายคนแล้วมั้ยล่ะยุว แต่วิธีการพูดเขาเหมือนตั้งใจจะแกล้งเพื่อทิ้งเราเลยอ่ะ) ณ ตอนนั้นก็เริ่มมีความกดดันมากขึ้น เวลาก็บีบเหลือเกิน พวกเราชาวคณะตัวแทนรักษาสิทธิ์ก็มายืนรวมตัวกัน เพื่อยืนยันว่า ตรูจะย้าย เปลี่ยนไปบินเอมี่ แล้วยุวก็ต้องทำให้ทันด้วย!
ท้ายที่สุด นายสถานียอมสั่งการให้เจ้าหน้าที่คนไทยทำการย้ายพวกเราไปเอมี่ แต่ๆๆๆๆ เรื่องมันยังไม่จบเท่านั้น เพราะเขายังคงควานหากระเป๋าของทุกคนยุ้ว!!!! งมเข็มในมหาสมุทรเลยมั้ยล่ะแก ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง เลข tag กระเป๋าก็มี เช็คแป๊ปๆก็คงได้ (คิดเอง 😂) เจ้าหน้าที่ของไก่งวงแจ้งเราว่า ถ้าเขาย้ายกระเป๋าของพวกเราเอาไปใส่เอมี่ไม่ทัน (Bangkok-Dubai-Zagreb) เขาก็จะเอากระเป๋าของพวกเราไปกับไก่งวง แล้วค่อยไปส่งให้อีกที ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น กระเป๋าเราจะได้ไปเที่ยว Istanbul ก่อนแทน (Bangkok-Istanbul-Zagreb) แล้วเราจะเจอกระเป๋าอีกทีที่โรงแรมตอนกลางคืนดึกดื่นเลย
เอาจริงไม่ว่าจะทันหรือไม่ทัน ตัวเราไม่เดือดร้อน เพราะนี่เตรียมชุดมาพร้อมมาก อยู่ใน Hand-carry เปลี่ยนได้อีก 2 ชุดอ่ะ 😂 ได้ทั้งแบบหนาวหรือแค่เย็นๆก็ได้ (กระเป๋าโดราเอม่อนอ่ะเอาจริง 😆) แต่ถ้ามีคนไม่ได้เตรียมล่ะ? มีคนกะว่าจะมาเปิดกระเป๋าหยิบเครื่องหนาวตอนถึงสนามบินปลายทางจะยังไง? ก็แย่สิคะคุณ ไปถึงนี่เตรียมชิลๆ 15 องศาเลยน้า ซึ่งตอนนั้นก็ทำอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากต้องรอลุ้นกันอีกที 👍
(ถ้าใครมีความรู้เพิ่มเติมเรื่องตั๋วเดินทางก็แชร์กันได้น้า ข้อมูลตรงนี้เราก็ฟังจากพี่ในคณะทัวร์มาอีกทีจ้า ซึ่งพี่เขามีความรู้มากๆเรื่องการออกตั๋ว เนื่องจากเป็นเจ้าของทัวร์และเป็นบุคคลหลักในการตบตีกับเจ้าหน้าที่ เพื่อเรียกร้องสิทธิ์นี้มา ถ้าไม่ได้พี่เค้านี่ เราคงต้องรอเงิบไปอีกนาน...)
Part 4:
จบจากที่เกท E2A เสร็จ เราชาวคณะก็เป็นอาจารย์โกยไปออกตั๋วใหม่ของเอมี่ ตรงเคาน์เตอร์ใกล้ๆเกทนั้นนั่นแหละ อีกประมาณ 1 ชม. จะเริ่ม Boarding (ตอนนั้นเกือบตี 2 ละ) ตั๋วใหม่ออกมาละ คอนเฟิร์มว่าทุกคนได้บินเอมี่ไปต่อเครื่องที่ Dubai แล้วค่อยไป Zagreb แน่นอน (เย้ เดินทางมาก็ไม่น้อย แต่ยังไม่เคยนั่งเอมี่ และไม่เคยไป Dubai จ้า ตื่นเต้นดีใจไปอี๊ก ได้เวลาช้อปละตรู ยัง ยังงง ลัลล้าได้อยู่ 😁) แต่กระเป๋านั้นยังไม่รู้ชะตากรรมว่าจะเป็นยังไง เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่า ถ้ากระเป๋าไปทัน จะมีคนเอา tag กระเป๋าไปให้ที่เกทเลย (รอต่อไปค่ะ..)
จนแล้วจนเล่า จนลืมไปว่า กระเป๋าตรูยังไม่ได้มาด้วย 🤣 จนขึ้นเครื่อง นั่งอยู่บนเครื่องแล้วเพิ่งนึกได้ว่า กระเป๋าตรูอยู่ไหน (ท่าแหวกจาพนมก็มา) หันไปหาผู้ร่วมเดินทางว่า เอ้ย เรายังไม่ได้ tag กระเป๋านิ แสดงว่ากระเป๋าเราไม่ได้ไปกับเราสินะ .. (กระเป๋าจ๋า ป้าลาก่อน 👋) พูดจบไม่ทันขาดคำ หัวหน้าทัวร์ส่งไลน์มาพร้อมรูปว่า ได้ tag กระเป๋าของทุกคนแล้ว กระเป๋าจะไปกับเราด้วยจ้า เย้ 🎉 (จะวิ่งไปกระโดดกอดกระเป๋าตอนเจอกันเลย 🎒)
แล้วเราก็ใช้เวลาร่วม 6 ชั่วโมง ก็ถึง Dubai แต่พอเครื่องแลนด์ลงมาแล้วก็มีความงงเบาๆว่า นี่เรากลับมาสุวรรณภูมิรึเปล่า กัปตันบินเล่นวนอยู่บนท้องฟ้าแล้วพามาส่งที่เดิมหรอ..? สรุปคือ ป๊าววว แต่สนามบินดูไบ หน้าตาคล้ายกับสนามบินสุวรรณภูมิบ้านเรามาก มากแบบมากๆๆๆๆๆๆ ตกใจเล็กน้อย ลงจากเครื่องก็ขึ้นบัสเข้าตัวอาคารต่อ แต่คือ สนามบินดูไบใหญ่มากๆอ่ะ ขนาดนั่งบัสยังใช้เวลาบนบัสกว่า 20 นาทีได้
พอเข้าถึงตัวอาคาร ก็มีความตื่นตาตื่นใจ เห้ยยยย ของช้อปปิ้งเต็มเลย ร้านค้า duty free เยอะมากๆ แต่พอหันไปดูนาฬิกาเท่านั้นแหละ.. เหลือเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น สำหรับการวิ่งไปเกทถัดไป เพื่อให้ทัน boarding เครื่องไป Zagreb โอเอ็มจี ความฝันในการจะช้อปปิ้งที่ดูไบของชั้นก็แตกสลายไม่เป็นท่า ได้แต่วิ่งไปมองไป แล้วได้แต่ฝันว่า ครั้งหน้าจะมาช้อปที่นี่ ฮืออออออ
แต่สุดท้ายเราก็ขึ้นเครื่องทัน และเอมี่ก็พาเราไปส่ง Zagreb โดยสวัสดิภาพ ซึ่งการเดินทางรอบนี้ เราถือว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้าย เราโชคร้ายที่เครื่องดีเลย์ทำให้แผนการเดินทางตะกุกตะกักไปบ้าง
แต่เราโชคดีมากที่ได้มิตรภาพดีๆจากสมาชิกในกรุ๊ปทัวร์ ช่วยกันผนึกกำลังเรียกร้องสิทธิ์การเดินทางมาได้ ได้รู้จักพูดคุยกันอย่างสนุกสนานตั้งแต่วันแรกที่เดินทาง และยังได้อัพเป็นบินสายการบินเอมี่อีกตะหาก ลัลล้าไปอีกจ้า 💕💕
ป.ล. หลังจากไปฟังการเม้าจากพี่ในทริป ที่มีเพื่อนเดินทางกับไก่งวงในไฟล์ทวันนั้น สรุปว่า วันนั้นเหมือนไก่งวงเขาออกจากไทยตอน 05:30 น.ล่ะ ดีเลย์กว่าเดิมไปอีกยาวๆเลย ถ้านับเวลาจากเวลาไฟล์ทจริงก็ 6 ชั่วโมงครึ่งเลยทีเดียว ซึ่งไปถึง Istanbul ตอนบ่ายโมงกว่าๆ แล้วสุดท้ายก็ไม่มีใครได้เข้าไปเที่ยวในเมือง Istanbul ตามที่นายสถานีได้โม้ไว้ตอนแรก 😂 เพราะต้องเช็คอินสำหรับไฟล์ทไป Zagreb ตอนสี่โมงเย็น (แกว่ามันจะทันไหมล่ะ กว่าจะต.ม.เข้าประเทศตุรกี กว่าจะเดินทางไป-กลับในเมืองอีก...) สงสารกรุ๊ปคนไทยกรุ๊ปนั้นที่ไม่สามารถช่วงชิงสิทธิ์ย้ายไปเอมี่มาได้ แง้วๆ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เราควรทำประกันการเดินทางต่างประเทศ ที่ครอบคลุมเรื่องไฟล์ทดีเลย์และกระเป๋าหาย/ชำรุดไว้ด้วยจ้า 👍
-----------------------------------------------------------------------------
ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวและรีวิวอาหารต่างๆ แบบกันเองนี่ล่ะผ่านทางเพจ แพรลงพุง ได้เลย
https://www.facebook.com/praelhongpoong/
ขอบคุณค่าาา