มาจ๊ะมา ล้อมวงอ่าน สะใภ้หิมาลัยจะรีวิว Annapurna Circuit Trek (ACT) via Tilicho Lake , Thorong La pass 3rd Oct 2018 – 14th Oct 2018 สิริรวม 12 วัน อยากจะขอเน้นย้ำว่าจะรีวิวแบบโลกไม่สวย รีวิวจากเรื่องจริง อาจจะมีคำศัพท์หยาบคายบ้าง ใครไม่ชอบเลื่อนผ่านเลยนะครัช เนื่องจากปีนี้จะต้องเดินทางกลับเนปาลไปฉลอง Dashain (ดาไซ) กับครอบครัวสามี จุดกำเนิดของการตัดสินใจไปเทรคคือตอนแรกเพื่อนๆที่ทำงานรวม 6 คน อยากจะไปเทรคนัดกันอย่างดิบดี มีคนนึงขาหัก และที่เหลือคือที่ทำงานไม่แอพพรูพวันลา เนื่องจากทำวอร์ดเดียวกันหมด เลยทำให้อีชั้น เคว้งขว้าง เหมือนหลงทางกลางป่า มองดูฟ้า ไร้ดาวววววว … แต่ฟ้าก็ไม้ได้ทำร้ายเท่าไหร่นัก ดันมาเจอพี่หนึ่งแห่ง Thai Nepal Travels and Treks เป็นความบังเอิญที่โชคดีมาก เพราะตอนคุยกันไม่ได้คุยเรื่องเทรคเลย ไปๆมาๆ มารู้ว่าพี่หนึ่งกำลังจะไปเทรคกับน้องคนไทยอีกคนนึง น้องก็โดนเทมาเหมือนกัน เลยตกลงปลงใจแบบใจง่ายไปไหนไปด้วย แต่น้องคนไทยต้องมารอก่อนที่ Kathmandu เนื่องจากรอเราบินมาเจอที่หลัง และกำหนดการของทริปนี้คือ 12 วัน #thainepaltravels
โปรแกรม
3rd October, 2018 Drive from Kathmandu to Besisahar by Private Jeep (6-7 hours)
4th October, 2018 Drive from Besisahar to Chame by Private Jeep (2,670 m) 7-8 hours
5th October, 2018 Hiking up to Pisang (3,300m) 5 hours
6th October, 2018 Hiking to Manang Village (3,300m) 6 hours via Upper Pisang, Ghyaru and Ngawal
7th October, 2018 Manang Acclimatization Day
8th October, 2018 Trekking to Tilicho Base Camp (4,140m) 6-7 hours
9th October, 2018 Visit Tilicho Lake (4,949 m) then back to Siri Kharka (4,140m) 5-6 hours
10th October, 2018 Yak Kharka (4,040m) 4-5 hours
11th October, 2018 Thorong Pedi (4,420m) 3-4 hours then High Camp (4,600m) 2 hours
12th October, 2018 Mukthinath via Thorong La Pass (5,416m) then drive to Jomsom by Private Jeep 1 hour
13th October, 2018 Jomsom to Pokhara by Private Jeep 6-7 hours
14th October, 2018 Drive Back from Pokhara to Kathmandu 6-7 hours
ก่อนหน้าเดินทางจะต้องส่งหน้าพาสปอร์ต สำหรับเทรคกิ้งเพอร์มิต TIMS / ACAP และค่อยเอารูปถ่ายสองใบไปด้วยไปแปะตอนถึงเนปาล
อิชั้นขอวีซ่าจากซิดนีย์ไปเลย เพราะเคยไปทำ Visa on arrival รอนานมาก และคราวนี้ตัดสินใจไม่ผิด ที่ทำไปก่อน เดินทางโดยสายการบินการบินไทย รักคุณเท่าฟ้า รักอาม่าเท่าคุณ รายละเอียดค่าใช้จ่ายเดี๋ยวทำแยกออกมานะ ราคาทริปแบบไฮโซ ราคายาจก หาไม่ได้ง่ายๆ จ่ายถูกแต่ทุกอย่างคือไพรเวท
เริ่มเดินทางออกจาก Kathmandu โดยรถจีพ ส่วนตัว เดินทางกันทั้งหมดสามคนคือพี่หนึ่งเจ้าของบริษัท Thai Nepal Tour , น้องดรีม เภสัชคนงามแห่งยอดดอย และอิชั้นเองพยาบาลแห่งเมืองจิงโจ้ โล้สำเภามา พร้อมลูกหาบวัยรุ่นตัวเล็กกว่าอิชั้นครึ่งนึง ชื่อ Saroj แน่นอนว่ามากับคนไทยต้องมีชื่อไทย สาโรช โรช น้องดำ อ้ายโรช เอาให้หมด ความแข็งแรงและความฟิต โห ที่สุดอ้ะ นางเดินเส้นนี้มาสามครั้งละ เดินเร็วมาก แบกของได้หนักมาก อึดมาก และลุงคนขับรถยิ้มตลอดทางแม้จะพาหลงทางตอนกลางคืน
ด้วยความเวรกกรมซ้ำซ้อนทำให้การเดินทางวันแรก ติดแบบ ติดมาก ติด
ใช้เวลารวมทั้งหมด 12 ชั่วโมง ปกติจะไม่เกิน 6 ชั่วโมง
แวะฉี่เจอห้องน้ำแบบไม่มีรู ….ใช่ค่ะห้องน้ำไม่มีรู ฉี่ลงพื้น ปล่อยให้ไหลไป… ให้ลอยลงสู่ทะเล… ระหว่างฉี่ในใจก็คิดว่า พูดไม่ออก ไม่ได้โกรธ แค่เพียงส่งยิ้มให้เท่านั้น แต่มีคำเป็นล้านคำ อยู่ข้างใน…
อ่ะจ่ะ มาถึงแล้วฝนเทกระหน่ำซัมเมอร์เซลมาก มาถึงก็จัดการอาบน้ำบนความสูงเบาๆเริ่มต้นที่ 800 กว่าๆ พวกเราเริ่มกินยา Diamox ตอนถึงคนละครึ่งเม็ด ทุกๆ 12 ชั่วโมง เนื่องจากทั้งพยาบาลและเภสัชมาเทรคด้วยกันนั้น แน่นอนว่ายาเราจัดมาพร้อมและต้องกินตรงเวลา พร้อมเครื่อง Oximeter คอยเช็คระดับออกซิเจนในร่างกายเรา หรือ Saturation อยากบอกว่ากลุ่มเรากินกันแบบ กินให้เด็กมันดู กินได้ทุกอย่าง พอถึงที่พักลูกหาบตัวจิ๋วก็จะมารับออเดอร์อาหารเย็น พร้อมบอกเวลากินอาหาร ก่อนเข้านอนทุกคืนทางลูกหาบจะกลับมาถามอีกว่าอาหารเช้ากี่โมง ออกเวลากี่โมง อ่ะจัดไปอาหารคืนนี้นอนหลับกรนสบายใจ
ตื่นเช้ามากินอาหารเช้าเมนูยอดฮิต Oat porridge with apple + Tibetan Bread + Milk tea พร้อมออกเดินทางจาก Besisahar ไปยัง Chame ได้คนขับรถวัยฉกรรณ์ ขับรถด้วยความมุ่งมั่นไม่หือไม่อือ เหมือนคนเมายาบ้า และทางวันนี้ก็ที่สุดของแจ้ กระแทกจนฟองน้ำในนมหล่นไปถึงหัวเข่า หยิบขึ้นมายัดต่อ ไส้บิดเกลียวยิ่งกว่าโปเต้ เสี่ยงไส้เลื่อนมากเป็นที่สุด ผลของการกินยา Diamox ทำให้ฉี่มากกว่าปกติ
จะแวะฉี่ทุกครั้งที่สามารถจะจอดได้ จะผ่านจุด Check Post สาโรชจะวิ่งไปเชคให้ ส่วนสามสาวก็ไปฉี่เปิดก๊อกอย่างเมามันส์ ฉี่ไปชมแพะไปจ้องตากันเป็นมันส์
ระหว่างทางแวะกินข้าวที่ Tal ความสูงที่ประมาณ 1,700m. ราคาอาหารยังไม่ค่อยแพงเท่าไหร่ กินเสร็จนั่งรถอีกไม่นานและเราก็มาถึงจุดเชคโพสถัดไป นั่งรถไปอีกแป๊บบบบก็ถึง Chame ความสูงอยู่ที่ประมาณ 2,600m.
พอถึงพวกเราสามสาวก็เตรียมตัวจะไปแช่บ่อน้ำร้อน เดินมาได้แป๊บนึงเจอกับเจ้าสาโรช เราก็ถามว่าทำไมไม่อาบน้ำ นางบอกว่าไปดูเอง อ่ะจ่ะ ไปก็ไป โอ้วหลั่นล้า มีแต่ผู้ชาย เดาว่าน่าจะลูกหาบนั่งแช่ กกน ตัวเดียวผลัดกันถูขี้ไคลที่หลังอย่างเมามันส์ คิดว่าดูหนังจันทน์ดารา มีลุงญี่ปุ่นวัยเกษียรตบพื้นในน้ำทำสายตาเชื้อเชิญน้องดรีมและพี่หนึ่งให้ลงไปแช่น้ำ พวกเราตัดสินใจละว่า เอาวะ กลับ !!!!
ไปเดินเล่นหาขนมกินในหมู่บ้าน Chame ของโปรดดิชั้นเลย Sel Roti เดินชมวิถีชาวบ้านไปกินไป นี่มันชีวิตเซเลปชัดๆ
เดินกลับห้องด้วยความเสียใจ ละได้เวลาอาหารเย็น แน่นอนว่าพวกเราจะสั่งน้ำร้อนกาใหญ่ ชามะนาว ขิง น้ำผึ้ง มากินกัน ทุกคืน อาหารที่นี่สั่งมาแหลกไม่ล่ายเลย พยายามยัด เค็มไตสั่นมาก เลยแบ่งกันกินในจานที่พอจะกินได้
ตื่นมาอาหารเช้าก็จะประมาณนี้ ไม่ใช่อ้วกแมวนะ มันคืออาหารเช้าแบบคูลๆ แรกๆก็ตื่นเต้น แต่ก็ต้องกินเมนูเดิมๆไปอีก โครตเบื่อ
ตื่นมาก็จะมีภูเขาให้เราเห็นแว๊บๆ แปรงฟันไป ชมวิวไปโครตฟิน
วันนี้เริ่มเทรควันแรก เริ่มเดินจาก Chame ไป Pisang จากความสูง 2710 เมตร ไปยัง 3310 เมตร ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ระหว่างทางจะมีสวนแอปเปิ้ลตามทางเยอะแยะมากมาย
เดินไปพักนึงจะผ่านดงแอปเปิ้ล รีสอร์ตที่เพิ่งทำใหม่ ทุกคนจะแวะพักเข้าห้องน้ำกินขนมกันที่นี่
จิบชาแอปเปิ้ลยามบ่ายตามสไตล์ผู้ดีอังกฤษ พร้อมโดนัทแอปเปิ้ล เหยดดดดด โครตฟิน ควรลองนะอร่อยมาก
Annapurna Circuit 12 วัน ... เดินให้เด็กมันดู (3rd-14th Oct, 2018)
โปรแกรม
3rd October, 2018 Drive from Kathmandu to Besisahar by Private Jeep (6-7 hours)
4th October, 2018 Drive from Besisahar to Chame by Private Jeep (2,670 m) 7-8 hours
5th October, 2018 Hiking up to Pisang (3,300m) 5 hours
6th October, 2018 Hiking to Manang Village (3,300m) 6 hours via Upper Pisang, Ghyaru and Ngawal
7th October, 2018 Manang Acclimatization Day
8th October, 2018 Trekking to Tilicho Base Camp (4,140m) 6-7 hours
9th October, 2018 Visit Tilicho Lake (4,949 m) then back to Siri Kharka (4,140m) 5-6 hours
10th October, 2018 Yak Kharka (4,040m) 4-5 hours
11th October, 2018 Thorong Pedi (4,420m) 3-4 hours then High Camp (4,600m) 2 hours
12th October, 2018 Mukthinath via Thorong La Pass (5,416m) then drive to Jomsom by Private Jeep 1 hour
13th October, 2018 Jomsom to Pokhara by Private Jeep 6-7 hours
14th October, 2018 Drive Back from Pokhara to Kathmandu 6-7 hours
ก่อนหน้าเดินทางจะต้องส่งหน้าพาสปอร์ต สำหรับเทรคกิ้งเพอร์มิต TIMS / ACAP และค่อยเอารูปถ่ายสองใบไปด้วยไปแปะตอนถึงเนปาล
อิชั้นขอวีซ่าจากซิดนีย์ไปเลย เพราะเคยไปทำ Visa on arrival รอนานมาก และคราวนี้ตัดสินใจไม่ผิด ที่ทำไปก่อน เดินทางโดยสายการบินการบินไทย รักคุณเท่าฟ้า รักอาม่าเท่าคุณ รายละเอียดค่าใช้จ่ายเดี๋ยวทำแยกออกมานะ ราคาทริปแบบไฮโซ ราคายาจก หาไม่ได้ง่ายๆ จ่ายถูกแต่ทุกอย่างคือไพรเวท
เริ่มเดินทางออกจาก Kathmandu โดยรถจีพ ส่วนตัว เดินทางกันทั้งหมดสามคนคือพี่หนึ่งเจ้าของบริษัท Thai Nepal Tour , น้องดรีม เภสัชคนงามแห่งยอดดอย และอิชั้นเองพยาบาลแห่งเมืองจิงโจ้ โล้สำเภามา พร้อมลูกหาบวัยรุ่นตัวเล็กกว่าอิชั้นครึ่งนึง ชื่อ Saroj แน่นอนว่ามากับคนไทยต้องมีชื่อไทย สาโรช โรช น้องดำ อ้ายโรช เอาให้หมด ความแข็งแรงและความฟิต โห ที่สุดอ้ะ นางเดินเส้นนี้มาสามครั้งละ เดินเร็วมาก แบกของได้หนักมาก อึดมาก และลุงคนขับรถยิ้มตลอดทางแม้จะพาหลงทางตอนกลางคืน
ด้วยความเวรกกรมซ้ำซ้อนทำให้การเดินทางวันแรก ติดแบบ ติดมาก ติด ใช้เวลารวมทั้งหมด 12 ชั่วโมง ปกติจะไม่เกิน 6 ชั่วโมง
แวะฉี่เจอห้องน้ำแบบไม่มีรู ….ใช่ค่ะห้องน้ำไม่มีรู ฉี่ลงพื้น ปล่อยให้ไหลไป… ให้ลอยลงสู่ทะเล… ระหว่างฉี่ในใจก็คิดว่า พูดไม่ออก ไม่ได้โกรธ แค่เพียงส่งยิ้มให้เท่านั้น แต่มีคำเป็นล้านคำ อยู่ข้างใน…
อ่ะจ่ะ มาถึงแล้วฝนเทกระหน่ำซัมเมอร์เซลมาก มาถึงก็จัดการอาบน้ำบนความสูงเบาๆเริ่มต้นที่ 800 กว่าๆ พวกเราเริ่มกินยา Diamox ตอนถึงคนละครึ่งเม็ด ทุกๆ 12 ชั่วโมง เนื่องจากทั้งพยาบาลและเภสัชมาเทรคด้วยกันนั้น แน่นอนว่ายาเราจัดมาพร้อมและต้องกินตรงเวลา พร้อมเครื่อง Oximeter คอยเช็คระดับออกซิเจนในร่างกายเรา หรือ Saturation อยากบอกว่ากลุ่มเรากินกันแบบ กินให้เด็กมันดู กินได้ทุกอย่าง พอถึงที่พักลูกหาบตัวจิ๋วก็จะมารับออเดอร์อาหารเย็น พร้อมบอกเวลากินอาหาร ก่อนเข้านอนทุกคืนทางลูกหาบจะกลับมาถามอีกว่าอาหารเช้ากี่โมง ออกเวลากี่โมง อ่ะจัดไปอาหารคืนนี้นอนหลับกรนสบายใจ
ตื่นเช้ามากินอาหารเช้าเมนูยอดฮิต Oat porridge with apple + Tibetan Bread + Milk tea พร้อมออกเดินทางจาก Besisahar ไปยัง Chame ได้คนขับรถวัยฉกรรณ์ ขับรถด้วยความมุ่งมั่นไม่หือไม่อือ เหมือนคนเมายาบ้า และทางวันนี้ก็ที่สุดของแจ้ กระแทกจนฟองน้ำในนมหล่นไปถึงหัวเข่า หยิบขึ้นมายัดต่อ ไส้บิดเกลียวยิ่งกว่าโปเต้ เสี่ยงไส้เลื่อนมากเป็นที่สุด ผลของการกินยา Diamox ทำให้ฉี่มากกว่าปกติ
จะแวะฉี่ทุกครั้งที่สามารถจะจอดได้ จะผ่านจุด Check Post สาโรชจะวิ่งไปเชคให้ ส่วนสามสาวก็ไปฉี่เปิดก๊อกอย่างเมามันส์ ฉี่ไปชมแพะไปจ้องตากันเป็นมันส์
ระหว่างทางแวะกินข้าวที่ Tal ความสูงที่ประมาณ 1,700m. ราคาอาหารยังไม่ค่อยแพงเท่าไหร่ กินเสร็จนั่งรถอีกไม่นานและเราก็มาถึงจุดเชคโพสถัดไป นั่งรถไปอีกแป๊บบบบก็ถึง Chame ความสูงอยู่ที่ประมาณ 2,600m.
พอถึงพวกเราสามสาวก็เตรียมตัวจะไปแช่บ่อน้ำร้อน เดินมาได้แป๊บนึงเจอกับเจ้าสาโรช เราก็ถามว่าทำไมไม่อาบน้ำ นางบอกว่าไปดูเอง อ่ะจ่ะ ไปก็ไป โอ้วหลั่นล้า มีแต่ผู้ชาย เดาว่าน่าจะลูกหาบนั่งแช่ กกน ตัวเดียวผลัดกันถูขี้ไคลที่หลังอย่างเมามันส์ คิดว่าดูหนังจันทน์ดารา มีลุงญี่ปุ่นวัยเกษียรตบพื้นในน้ำทำสายตาเชื้อเชิญน้องดรีมและพี่หนึ่งให้ลงไปแช่น้ำ พวกเราตัดสินใจละว่า เอาวะ กลับ !!!!
ไปเดินเล่นหาขนมกินในหมู่บ้าน Chame ของโปรดดิชั้นเลย Sel Roti เดินชมวิถีชาวบ้านไปกินไป นี่มันชีวิตเซเลปชัดๆ
เดินกลับห้องด้วยความเสียใจ ละได้เวลาอาหารเย็น แน่นอนว่าพวกเราจะสั่งน้ำร้อนกาใหญ่ ชามะนาว ขิง น้ำผึ้ง มากินกัน ทุกคืน อาหารที่นี่สั่งมาแหลกไม่ล่ายเลย พยายามยัด เค็มไตสั่นมาก เลยแบ่งกันกินในจานที่พอจะกินได้
ตื่นมาอาหารเช้าก็จะประมาณนี้ ไม่ใช่อ้วกแมวนะ มันคืออาหารเช้าแบบคูลๆ แรกๆก็ตื่นเต้น แต่ก็ต้องกินเมนูเดิมๆไปอีก โครตเบื่อ
ตื่นมาก็จะมีภูเขาให้เราเห็นแว๊บๆ แปรงฟันไป ชมวิวไปโครตฟิน
วันนี้เริ่มเทรควันแรก เริ่มเดินจาก Chame ไป Pisang จากความสูง 2710 เมตร ไปยัง 3310 เมตร ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ระหว่างทางจะมีสวนแอปเปิ้ลตามทางเยอะแยะมากมาย
เดินไปพักนึงจะผ่านดงแอปเปิ้ล รีสอร์ตที่เพิ่งทำใหม่ ทุกคนจะแวะพักเข้าห้องน้ำกินขนมกันที่นี่
จิบชาแอปเปิ้ลยามบ่ายตามสไตล์ผู้ดีอังกฤษ พร้อมโดนัทแอปเปิ้ล เหยดดดดด โครตฟิน ควรลองนะอร่อยมาก