ใกล้สิ้นปีประกอบกับพักร้อนเหลือ ความคิดอยากเที่ยวก็มา 555+พาร่างไปสูดอากาศเย็นๆสายหมอกบางๆ แค่คิดมันก็ฟินแล้ว ทริปนี้เราเลือกที่นี่เลย "ดอยหลวงเชียงดาว-บ้านแม่กำปอง" 3วัน2คืนกำลังดี


เราเลือกหยุดตั้งแต่ 7-11 เผื่อเดินทางและกลับมาพักผ่อน เพราะเราเลือกเที่ยวแบบ Backpack ลุยๆไปเลยจ้าาาาา พอวันและสถานที่ลงตัวก็ไปกันเล๊ยยยย "เป้1ใบกับใจ1ดวงกล้องอีก1ตัว ฮ่าๆ" (ทริปนี้ไปด้วยกัน4คน)เราเลือกเดินทางด้วยรถไฟ ชั้น 3 (ถูกดี) ใครบอกเบาะแข็งนั่งลำบาก เราว่ามันโคตรคลาสสิก เราเลือกรอบรถที่ออกเดินทางเวลา 13.45 น. เพราะจะถึงเชียงใหม่ 04.00น. (แนะนำเดินทางไกลจองตั๋วล่วงหน้าอย่างน้อย5วัน นะคะ ไม่งั้นมีหวังได้ยืนเด้อ เดี๋ยวนี้เขามีจองตั๋วออนไลน์แล้ว)


เราถึงสถานีรถไฟประมาณ 10 โมง ระหว่างรอเวลาเดินทาง เติมพลังก่อนละกันน๊าาาาา


พอรถไฟเริ่มวิ่งออกจากเขตเมือง วิวระหว่างสองข้างทางก็เริ่มมีทิวเขาเขียวๆตัดกับทุ่งข้าวสีเหลืองเต็มไปหมด 555+ดูตื่นเต้นกับวิว (เขตจังหวัดสระบุรี-ลพบุรี)


และแล้วรถไฟก็เข้าเทียบชานชาลา สถานีเชียงใหม่ เวลา 04.10น. (ช้าไม่กี่นาทีแค่นี้ถือว่าดีแล้ว อิอิ) ลงจากรถทำธุระส่วนตัวเสร็จสรรพ เราต้องนั่งรถที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่(รถสองแถวแดง)ไปต่อรถที่ขนส่งช้างเผือกเพื่อไปเชียงดาว ***


เราใช้เวลา 15 นาที ถึงขนส่งช้างเผือก ซึ่งรถรอบแรกที่จะไปเชียงดาวเวลา 05.30 น.


คันนี้เลยที่จะพาเราไปเชียงดาว (เชียงใหม่-ท่าตอน) ค่ารถคนละ 40 บาท ขึ้นรถบอกคนขับรถได้เลยว่าจอดโลตัสเชียงดาว


ไปเที่ยวห้ามลืมพกบัตรประชาชนด้วยนะ เค้าตรวจเข้มจริงๆ แล้วตั๋วรถอย่าพึ่งทิ้งนะเก็บไว้ก่อน เค้าจะตรวจพร้อมๆกับบัตร ปชช. **** คนตรวจแอบหน้าเข้มนะ****


เรามาถึงอำเภอเชียงดาว เกือบๆ 7โมง


ลงรถปั๊บ ยืนงงๆกันซักแป๊บจะเดินไปทางไหนดี ก็มีลุงคนนึงตะโกนพร้อมกวักมือเรียกพวกเราถามว่าขึ้นดอยเชียงดาวใช่มั้ย เพื่อนทุกคนพยักหน้า (สบายละโว้ยไม่ต้องลำบากเดินหารถ) ถามราคาก่อนเลยเพราะเราดูในรีวิวมาแล้ว ว่าค่ารถคนละ 60 บาท 5555+อย่าคิดจะมาหลอกเด็ดขาด (แต่ครั้งนี้ลุงคิดคนละ80บาท เราก็โอเคร เพราะไม่ต่างกันมาก ซึ่งราคา60 คือ2ปีที่แล้ว อิอิ)



วันนี้คือหมอกลงหนามาก (แอบหวาดเสียวนิดนึงเพราะทางค่อนข้างชัน ) แต่ลุงคือขับชิวมาก ลุงบอกขับเส้นนี้มา40ปีแล้ว ทุกเช้าต้องลงมาซื้อกับข้าว บ้านลุงอยู่เมืองคองเลยเชียงดาวขึ้นไปอีก



ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. ก็มาถึงจุดหมายของเรา


ครั้งนี้เราเลือกพักที่บ้านดอยนับดาว ก่อนไปเราดูไว้หลายที่ การโทรจองคือยากมากกกก (บนดอยสัญญาณมือถือหายากเวอร์) พอดีโทรติดที่นี่เราเลยเอาเลย


ระเบียงหน้าบ้านของเรา สามารถมองเห็นยอดดอยหลวงเชียงดาวได้ชัดมากกก


เก็บของเข้าที่พักเสร็จ พวกเราก็ออกเดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อยๆ (สามารถเดินไปถ่ายรูปบ้านหลังอื่นได้ด้วยนะ )


วิถีชาวบ้านแต่ละวัน นอกเหนือจากงานเกษตรกรรม ชาวบ้านที่นี่ทำโฮมสเตย์เกือบทุกหลัง


ทุ่งข้าวสีเหลืองอร่าม ช่วงนี้ชาวบ้านเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว



เดินถ่ายรูปจนเหนื่อยท้องเริ่มร้องจ๊อกๆ คุยกันว่าอยากกินอะไรเผ็ดๆแซ่บๆ นี่เลย ส้มตำบนดอย (เผ็ด ด.เด็กล้านตัว น้ำตาซึมนิดๆ ) ท้องอิ่มตาก็เริ่มจะปิด ตกลงกันว่ากลับไปนอนพักก่อน รอตื่นมาถ่ายรูปตอนช่วงตะวันลับขอบฟ้า



เราตื่นกันอีกที ก็พบกับวิวนี้เลย


กลับมาจากถ่ายรูปอาหารเย็นของพวกเราก็ถูกนำออกมาเสิร์ฟทันที พี่เจ้าของบ้านบอกด้วย"ถ้าไม่อิ่มเติมได้นะคะ" (เจริญอาหารกันมาก ไม่อร่อยก็คงจะหิว 555+)



ข้าวเย็นแค่นั้นไม่พอ พวกเราเลือกสั่งหมาล่ามาปิ้งย่างกัน

ช่วงรอดูทางช้างเผือก (คืนนี้ดาวเยอะมองเห็นทางช้างเผือกชัดเจนแต่เราถ่ายไม่ได้ กล้องถ่ายภาพตอนกลางคืนไม่ชัด ขาตั้งกล้องก็ไม่มี เสียดายเวอร์ไม่งั้นคงมีภาพสวยๆมาฝาก)เราตื่นเช้าเพื่อดูทะเลหมอก แอบผิดหวังวันนี้มีแค่สายหมอกบางๆ (พี่เค้าแนะนำอยากดูหมอกสวยๆให้มาหน้าฝน)




6.30น. อาหารเช้าของเราก็ถูกนำมาวาง ข้าวต้มร้อนๆ


เราเลือกกินกาแฟผสมโอวัลก่อน ***สูตรเราเอง555+ชอบกลิ่นกาแฟแต่ไม่ชอบรสขม***


กินข้าวเสร็จพี่เจ้าของบ้านเดินมาถามว่า มีรถลงจากดอยหรือยัง ถ้ายังพี่แกจะโทรบอกมารับให้ แต่รถจะลงดอยตอน 8โมง เราโอเครพี่เค้าเลยให้พวกเราเก็บของรอ 8โมงตรง รถก็มารับพวกเรามีนักท่องเที่ยวขึ้นมาก่อนพวกเราเเล้ว 5คน ซึ่งคนขับแกชื่อว่าป้าผ่อง(เราเคยเจอป้าแกแล้วในรีวิว อิอิ ) ป้าแกมาส่งพวกเราทั้งหมดที่ขนส่งเชียงดาวเหมือนเดิม ตอนลงจากดอยใช้เวลาแค่30นาที ***แอบขอเบอร์ป้าไว้เหมือนกันเพราะคิดว่าคงต้องได้กลับไปอีกแน่นอน อิอิ ****



ถึงขนส่งช้างเผือก พวกเราเลือกนั่งรถแดงเพื่อไปเช่ามอเตอร์ไซน์ที่อาเขตเพื่อแว๊นไปแม่กำปอง ค่าเช่าวันละ300บาท พี่ร้านเช่าเค้าจะถามเราก่อนว่าไปไหน เพราะเค้าจะแนะนำเราได้ว่าจะใช้รถอะไรความแรงรถแค่ไหน *****ไปแม่กำปองเราใช้เส้น สันกำแพง->>แม่ออน


เราแวะเที่ยวน้ำพุร้อนสันกำแพงก่อนเพราะอยู่เส้นเดียวกันก่อนถึงแม่กำปอง


มาน้ำพุร้อนก็ต้องต้มไข่

เดินทางมาเมื่อยแช่เท้าผ่อนคลายนิดนึง ***แช่แรกๆคือร้อนมาก แต่สักพักเริ่มปรับตัวได้ สบายสุดๆเลยทีนี้******



พอเริ่มเข้าอำเภอแม่ออน เหมือนอากาศคนละโลก จากร้อนๆหนาวจ้าาาา ค้นเสื้อแขนยาวในเป้ออกมาใส่เกือบไม่ทันเราขับรถ30นาทีจากน้ำพุร้อนถึงแม่กำปอง




ครั้งนี้เราเลือกพักที่บ้านฮิมฮ้วยลุงบูลย์ เราแวะเอากระเป๋ามาเก็บก่อน จากนั้นก็ถึงเวลาของนักสำรวจ




ระหว่างรออาหารเย็นเก็บภาพไปพลางๆ






มาแม่กำปองไม่มีรูปมุมนี้เหมือนมาไม่ถึงเด้อ มุมมหาชนจริงจริ้งงงง(คือรอให้มุมนี้ว่างก็เกือบครึ่ง ชม.ละ)



กินข้าวเย็นเสร็จสรรพ นั่งคุยกับป้า(ภรรยาลุงบูลย์) ซักพัก ก็ขอตัวไปเดินเล่นถ่ายรูปกันต่อ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มมีฝนตกลงมาปรอยทำให้อากาศเย็นลงไปอีก