สวัสดีค่ะทุกคนน หายไปนานเลยกับการตั้งกระทู้บน Pantip วันนี้เรากลับมาพร้อมกับการรีวิวครีมตัวนึง ซึ่งเราได้ไปร่วมกิจกรรม Workshop กับทางpantip เนี่ยแหละค่ะ เราจะมาเล่าให้ฟังถึงกิจกรรมในการ workshop

บรรยากาศภายในงานก็จะประมาณนี้ค่ะ

เข้าไปถึงก็จะมีการลงทะเบียน ระหว่างรอผู้ร่วมกิจกรรมเดินทางมา ทางทีมงานก็มีน้ำมีขนมให้ทาน แล้วก็ถ่ายรูปกับน้องเพี้ยน ต่างๆ

สำหรับเรา อยู่แต่มุมขนมเลยค่ะ 555555 อร่อยมากกก



อันนี้ของเราเองค่ะ

อร่อยมาก ขอบอกอีกรอบ 555555

มาดูในส่วนของการ workshop ดีกว่าค่ะ ก็จะมีพิธีกรสาวสวย พี่เพียงอร และ พี่ญาญ่า ที่ช่วยอธิบายถึงกิจกรรมในวันนี้

โดยในกิจกรรมนี้ ก็จะให้เราทำการทดสอบ ผลิตภัณฑ์ ทั้ง 5 แบรนด์ค่ะ ได้แก่ แบรนด์ A B C D E ซึ่งการทดสอบจะมี 2 อย่างก็คือ ความซึมเร็ว และทดสอบเรื่องความมันค่ะ
อุปกรณ์ที่เราจะใช้ทดสอบความซึมเร็วกัน ก็จะมีตามนี้เลยค่ะ

อันนี้เป็นแผ่นสติ๊กเกอร์ที่จะให้เราแปะลงบนผิวเพื่อทำการทดสอบ

อันนี้คือครีมแบรนด์ต่างๆค่ะ
ให้ดูเนื้อกัน ก็จะมีสีและเนื้อที่ต่างกันออกไป

ต่อมาพี่ญาญ่าก็จะเริ่มทำการสาธิตการทดสอบแรกให้ดูค่ะ
โดยเริ่มจากทำความสะอาดท้องแขนข้างที่เราจะทำการทดสอบให้เรียบร้อย แล้วก็จะนำสติ๊กเกอร์ไปแปะค่ะ
แปะสติ๊กเกอร์ให้เรียบติดกับผิวเลย ขั้นตอนนี้อาจจะต้องมีผู้ช่วยสักหน่อย
หลังจากนั้นก็จะตักครีมแบรนด์ต่างๆขึ้นมา ปริมาณเท่าเม็ดถั่วเขียวค่ะ
จัดการปาดลงไปที่ช่องของแบรนด์ต่างๆได้เลยค่ะ
หลังจากนั้นก็จะถูขึ้น ถูลง 10 ครั้ง แล้วก็จะรอให้ซึมประมาณ 1 นาทีค่ะ

พี่ญาญ่าสาธิตให้ดูเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาที่น้องนีนี่จะทำตามแล้วค่ะ 55555 อ่ะมา เริ่มได้

ทำความสะอาดท้องแขนให้เรียบร้อยค่ะ
หลังจากนั้นก็ติดสติ๊กเกอร์ลงไปที่ท้องแขนให้เรียบ

จัดการปาดครีมลงไปที่แขนตามแบรนด์ต่างๆ แล้วก็ ถูๆรอให้ซึมค่ะ

หลังจากนั้น ทีมงานก็จะให้สาวๆในงานโหวตว่า ครีมตัวไหนที่ ไม่มัน บางเบา ซึมเร็วที่สุด
สาวๆก็จะทำการหยิบลูกปิงปองไปใส่ขวดโหลของแบรนด์ที่คิดว่า บางเบา ซึมเร็ววว

และผลที่ออกมาก็คืออออ .........
แบรนด์ A คะแนนนำมาเลยค่ะ มีแบรนด์ D ได้คะแนน มา 2 คะแนน

สำหรับตัวเรา เราก็ให้คะแนนแบรนด์ A เหมือนกันค่ะ

อ่ะ ผ่านการทดสอบเรื่อง การซึมเร็ว บางเบา กันไป
ต่อมา เป็นการทดสอบเรื่องความมันค่ะ

วิธีการตอนแรกก็จะเหมือนเดิม ก็คือ ทำความสะอาดท้องแขน เอาสติ๊กเกอร์แปะท้องแขนให้เรียบ
ในการทดลองนี้ เราจะใช้กระดาษซับมันเพื่อทดสอบความมันของตัวเนื้อครีมกันค่ะ
ให้ดูกันเป็นรูปเลยดีกว่า เพื่อนๆจะได้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน

โดยการทดสอบนี้ ทีมงานจะให้เราตัดครีมขึ้นมา เท่าเม็ดถั่วเขียวอีกเช่นกัน แล้วก็ทาลงบนผิว ถูประมาณ 10 ครั้ง
แล้วทิ้งไว้ 1 นาที เพื่อรอให้ครีมซึมค่ะ หลังจากนั้นจะใช้กระดาษซับมันแปะเพื่อทดสอบความมัน

แบรนด์ A ค่ะ จะเห็นได้เลยว่าแทบจะไม่มีความมันบนกระดาษเลย
แบรนด์ B จะเห็นว่ามีความมัน บนกระดาษอยู่บ้าง
แบรนด์ C มันทะลุกระดาษไปเลยค่ะ 555555 ตอนทาอันนี้แล้วแปะก็ตกใจอยู่
แบรนด์ D ตัวนี้ความมันก็จะใกล้เคียงกับแบรนด์ B ค่ะ
และแบรนด์ E ตัวนี้ก็จะค่อนข้างมันเหมือนกัน แต่น้อยกว่าแบรนด์ C

เรามาดูผลจากสาวๆทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมกันดีกว่าค่ะ ว่าครีมแต่ละแบรนด์ ความมันเฉลี่ยขนาดไหนบ้าง

จะเห็นว่า แบรนด์ A มีความมันเฉลี่ยค่อนข้างที่จะน้อยกว่าแบรนด์อื่นๆค่ะ

หลังจากนั้น คุณพี่เพียงอรก็ได้ทำการเฉลย แบรนด์ต่างๆ ซึ่งแบรนด์ A ที่ได้คะแนนจากแขกห้องส่งไปอย่างล้นหลามก็คืออออ .....
.
.
.
Olay Regenerist Whip นั่นเองงงง

หลังจากนั้นก็มีการทดสอบ ความชุ่มช้ืนด้วยเครื่อง อะไรซะอย่างของทางทีมงาน
โดยที่คุณเพียงอรเป็นผู้ทดสอบให้เราดูเองเลย
ก่อนทาครีม คุณพี่ทีมงานก็ได้ทำการวัดความชุ่มชื้นที่หลังมือของคุณพี่เพียงอร จะได้ 29%
หลังจากนั้น คุณพี่เพียงอรก็ทำการทาครีมลงที่หลังมือ และพี่ทีมงานก็วัดความชุ่มชื้นอีกรอบ
ครั้งนี้ ได้ความชุ่มชื้น 99% เลยทีเดียวว และก็ได้ทำการทดลองกับสาวๆคนอื่น ก็ได้ผลเหมือนกัน คือหลังทาง Olay ความชุ่มชื้นจะขึ้นมาถึง 99% เลย

จากนั้น ทางทีมงานพันทิปและแบรนด์ ก็มีการเซอร์ไพรส์เล็กน้อย มีการจับฉลาก แจกรางวัลกันค่ะ ก็ขอยินดีกับสาวๆที่ได้รางวัลด้วยนะคะ ^^

ก็จบกิจกรรมในวันนี้ แล้วทางแบรนด์ก็ได้ให้ Olay มาทดลองใช้ค่ะ
เราได้ OLAY Regenerist Whip มาทดลองใช้
หลังจากใช้มาได้ประมาณ 2 อาทิตย์ ก็จะมาเล่าให้ฟังค่ะ ว่าความรู้สึกของเราที่ได้ใช้เป็นยังไงบ้าง
มีข้อดี ข้อเสียตรงไหน มาเริ่มกันเลยยยย

ก่อนอื่นมารู้จักOLAY Regenerist Whip กันก่อนค่ะ

ครีมก็จะมาในกล่อง หน้าตาสวยงาม แพ็คเก็จไฮโซ น่าใช้ค่ะ

เปิดฝาออกมา ก็จะมีแผ่นพลาสติกปิดไว้อีกชั้น เพื่อกันฝุ่นและสิ่งสกปรกต่างๆค่ะ
เนื้อครีมจะเป็นเนื้อวิปๆ
เนื้อครีมสีขาว อัดมาเต็มกระปุกแบบไม่มีงกเลย
มาดูเนื้อครีมชัดๆ จะเห็นว่าเป็นเนื้อวิป สีขาว เกลี่ยง่าย ค่ะ

มาถึงการลองใช้ วิธีใช้ก็แต้ม 5 จุดค่ะ แล้วก็ทาให้ทั่วทั้งหน้าและลำคอได้เลย เนื้อครีมซึมไวบางๆ อันนี้ยืนยันน

ทาเสร็จแล้ว หน้าไม่ได้ขาวขึ้น หรือวอกแต่อย่างใด ไม่มันด้วยค่ะ เหมือนหน้าสดปกติ 5555555
เราทาครีมตั้งแต่ 10 โมงเช้า แล้วก็แต่งหน้า ออกไปเที่ยวและก็กลับบ้านค่ะ

ทำการแต่งหน้าสักนิด จะได้ไม่หน้าสดจนเกินไป 555555
วันนี้เราจะออกไปเที่ยวเขื่อนค่ะ ต้องตากแดดโต้ลมกันแน่นนอน ซึ่งวันนี้แดดร้อนมากกก มาดูกันว่าหน้าจะมันมั้ย

เวลาผ่านไปประมาณ 8 ชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงบ้านค่ะ ระหว่างวัน เรามีซึบเหงื่อด้วยทิชชู่ แต่ไม่มีการเติมแป้ง หรือซับด้วยกระดาษซับมันแต่อย่างใด
ผลที่ได้ ค่อนข้างพอใจค่ะ เราเป็นคนผิวผสม จะหน้ามันช่วงหน้าแก้มและ T-zone ซึ่งความมันที่เห็นก็มีบ้างตรงช่วงที่เราหน้ามัน ก็ยังไม่ได้เยิ้มหรือเมือกอะไรมาก ให้ผ่านค่ะ หน้าไม่เป็นคราบ ผิวไม่หมองลงนะ แต่แสงอาจจะต่างกันตอนเช้าหน่อย 555555

ขอแปะภาพคู่กับ OLAY Regenerist Whip ไว้อีกสักหน่อย 555555


ทีนี่มาสรุปถึงความชอบไม่ชอบกันบ้างค่ะ
สิ่งที่เราชอบ
1. เนื้อครีมซึมเร็ว
2. เนื้อครีมไม่ทำให้หน้าไม่มัน
3. ให้ความชุ่มชื้นได้ดี
4. ช่วยให้แต่งหน้าง่ายขึ้นและเครื่องสำอางติดทนมากขึ้น

สิ่งที่ไม่ชอบ
1. น้ำหอม แรงม๊ากกกกก อยากให้แบรนด์ลดกลิ่นน้ำหอม หรือถ้าไม่ใส่ได้ก็จะดีมากๆเลยค่ะ
เป็นข้อติข้อเดียวเลยที่ใช้มาตอนนี้

สุดท้ายหวังว่า กระทู้นี้จะเป็นข้อมูลในการตัดสินใจให้เพื่อนๆ ที่อยากลองใช้ได้นะคะ ^^
และก็ต้องขอขอบคุณทีมงาน Pantip และ แบรนด์ Olay ด้วย ที่จัดกิจกรร workshop ดีๆนี้ขึ้นมานะคะ

แล้วไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้านะคะ วันนี้ ต้องขอตัวไปก่อนแล้ว บ๊ายบายยยย