โดนจับลิขสิทธิ์โดเรม่อน

กระทู้คำถาม
ไม่เอาไม่พูดไม่เอาไม่พูดเรื่องมันมีอยู่ว่า   เราโพสขายแก้ว (แก้วเก็บความเย็น)  ลายโดเลม่อน คิตตี้ และลายอื่นอีกหลายแบบโดยที่ก็อปรูปในเน็ตมาโพสขาย ถ้ามีลูกค้าสั่งซื้อเข้ามาค่อยไปหาซื้อแถวสำเพ็งอะไรประมาณนี้  ด้วยความที่ว่าไม่รู้เรื่องของกฎหมายของลิขสิทธิ์  โพสขายได้แค่ 2 วัน  มีผู้หญิงคนหนึ่ง(ผู้ล่อซื้อ) เข้ามาถามว่าถ้าจะซื้อ 12 ใบส่งแถวปากน้ำ ถ้าส่งแบบนัดรับของเองจะส่งไหม เราก็ตอบไปว่าส่งเพราะไม่ไกลจากบ้านมาก (เราอยู่แถวสำโรง)  หลังจากนั้นเขาก็เลือกเป็นลายคิตตี้ 6 ใบ กับ ลายโดเรม่อน 6 ใบ  คือเขาไม่ได้เช็คเรื่องราคาเลยว่าเราจะขายเท่าไหร่  เราเลยแจ้งราคารวมทั้งหมดไป แล้วเขาก็ขอโอนมัดจำมาไห้  50% ของยอดซื้อแล้วส่วนที่เหลือเก็บตอนส่งของ  ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรด้วยความที่อยากขายมาก  ก็ลงทุนขับมอร์ไซไปซื้อของที่สำเพ็งกับแฟน  หลังจากนั้นก็นัดส่งของกัน  ผู้หญิงคนนั้น(ผู้ล่อซื้อ) ก็โทรมาแจ้งว่าจะไห้น้องชายไปรับไห้แทน  ก็นัดส่งของกันที่งานประจำปีที่ปากน้ำ  พอเราไปถึงงานกับแฟนเขาก็ไห้เบอร์คนที่เขาแจ้งว่าเป็นน้องชายเขามา ก็โทรไปเราหาน้องชายเขาว่าตอนนี้อยู่หน้างานแล้ว  เขาก็บอกสถานที่แบบงงๆๆ  บอกว่ารออยู่ที่ร้านกาแฟ (คือร้านกาแฟมีอยู่หลายที่มาก )  เรากับแฟนก็เดินวนหารอบงาน  ก็ไปเจอร้านกาแฟยุข้างสถานีตำรวจ  ก็โทรหาน้องชายเขาว่าตอนนี้เราอยู่ร้านกาแฟแล้ว น้องชายเขาก็เดินออกมา  เราก็ยื่นถุงไส่ของไห้เขาไป  เราเลยบอกว่าพี่นับดูก่อนนะว่าครบไหม   เขาก็ถามว่ามีลายอะไรบ้างครับ  เราก็ตอบไปมีคิตตี้กับโดเรม่อนค่ะ  เขาเปิดดูแล้วยืนเงินส่วนที่เหลือไห้  หลังจากนั้นพักพวกเขาก็เข้ามาล้อบรอบประมาณ 2-3 คนพร้อมกับตำรวจ 1 คน เข้ามาถ่ายรูปเป็นหลักฐาน และเอาเอกสารลิขสิทธ์โดเรม่อนมาไห้ดู 1 เล่ม (เล่มไหญ่มาก)  แล้วมีคนหนึ่งพูดเข้ามาว่าคุณโดนจับลิขสิทธ์และทำผิด พรบ.คอมพิวเตอร์  โพสขายของที่มีลิขสิทธ์ทางเฟสบุ๊ก  ทำความผิดซึ่งหน้าตำรวจกล่าว  แล้วเขาก็ไห้เรากับแฟนเข้าไปคุยกันในโรงพัก   แล้วมีผูชายคนหนึ่งซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทนของบริษัทที่จับลิขสิทธิ์เข้ามาพูดไกล่เกลี่ยว่ามันเป็นคดีที่ยอมความกันได้ถ้าเรายื่นข้อเสนอสะเหตุสมผล หลังจากนั้นเขาก็อ้างว่าปกติแล้วถ้าขึ้นศาลคดีลิขสิทธ์เขาปรับกันประมาณ 100000-400000  บาท และมีอีกทางเลือกหนึ่งในกรณีที่ตกลงกันไม่ได้คือลงบันทึกประจำวัน พิมพ์ลายนิ้วมือ ซึ่งเขาบอกว่าเป็นคดีอาญา  ต้องมีการประตัวคนล่ะ  50000 บาท แล้วไปต่อสู่กันที่ชั่นศาล ด้วยความที่กลัวและตกใจมาก และ ความที่ว่าเราไม่อยากไห้เรื่องถึงชั่นศาล เพราะไม่อยากที่จะเสียประวัติ  ก็เลยต่อรองราคากัน  จากคนล่ะ 100000 เหลือ คนล่ะ 10000 ได้ไหม เพราะเราก็ทำมาหากินแบบซื่อๆ  ไม่คิดว่ามันจะผิดกฎหมาย( รู้เท่าไม่ถึงกาล)  เขาบอกว่าไม่ได้เพราะผมทำตามหน้าที่ เขาเลยบอกว่างั้นจะช่วยลดเหลือคนล่ะ 20000   บาทละกัน  2 คนก็เท่ากับ 40000 บาท  คนที่หาเช้ากินค่ำจะมีปัญญาหาเงินที่ไหนไปจ่ายมีเงินติดตัวในกระเป๋าไปไม่ถึง 1000    เขาเลยบอกไห้เราโทรหาญาติ  เลยโทรหาพี่สาวคือเงินรวบรวมกันทั้งบ้านมีอยู่  35000  บาทแต่เขาบอกจะเอา 40000 บาท ก็เลยต่อลองกันอยู่เกือบ 1-2 ชม.  เขาก็เลยยอมลดไห้เหลือ 35000 บาท เราก็จ่ายไป 35000 บาท คือตอนนั้นคิดว่าทำอยู่ที่โรงพักมีตำรวจอยู่ไม่ได้คิดว่าเขาหรอกเอาเงินหรือว่าอะไร ก็ยอมจ่ายไปเพราะไม่อยากมีคดีติดตัว  หลังจากนั้นเขาก็ทำเรื่องถอนแจ้งความ
#ลงทุนไป 720   กำไร 300  โดนปรับไป  35000 บาท
#ถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพง
#ฝากเตือนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่โพสขายของผ่านทางอินเตอร์เน็ตก็ควรระมัดระวังเรื่องของลิขสิทธิ์ด้วยนะคะ   ควรเช็คข้อมูลไห้ละเอียดค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่