เริ่มเปิดฤดูการท่องเที่ยวแล้ว วันนี้ก็อยากจะมารีวิว ทะเลพม่า เป็นเกาะที่หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักสักเท่าไหร่

เป็นเกาะใหม่ป้ายแดงเพิ่งเปิดมาได้ไม่นาน (ต้องรีบไปก่อนที่คนจะเยอะนะจ๊ะ) ความสวยใสนี่ระดับไฮแอนด์ ทั้งประการังยังสมบูรณ์และสวยเวอร์





การเดินทางไปทะเลพม่าส่วนใหญ่เราจะเดินทางไปข้ามแดนจากฝั่งไทย จังหวัดระนองไปที่ เกาะสอง ประเทศพม่า คนไทยใช้แค่บัตรประชาชนให้บริษัททัวร์ จัดการทำบัตรผ่านแดนได้เลย ส่วนใครที่มีเพื่อนมีแฟนเป็นชาวต่างชาติไปด้วย ชาวต่างชาติต้องยื่นขอวีซ่าออนไลน์เอง ล่วงหน้าประมาณ 7 วันก่อนเดินทาง ***ยกเว้น ชาวเกาหลีและญี่ปุ่นทางสถานฑูตพม่าได้ยกเลิกวีซ่าเข้าพม่า 1 ปี ตั้งแต่เดือนตุลาคม 61 ถึง สิ้นเดือนกันยายน 62 นะคะ***

จากกรุงเทพฯ ไป ระนอง ไปได้ทั้งทางเครื่องบิน ทางรถไฟ ทางรถทัวร์ หรือใครชออบขับรถไปเองก็แล้วแต่ความสะดวก ระยะเวลาในการเดินทางจาก กรุงเทพฯ ไปยัง จังหวัดระนอง ใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง สำหรับรถโดยสาร ประเภทข้ามคืน ระยะทางประมาณ 600 กิโลเมตร

พวกเราเดินทางโดยใช้บริการ VIP 24 ที่นั่ง นิวมิตรทัวร์ (เพราะบริษัทฯอื่นเต็ม) จองตั๋วออนไลน์ จากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ รถออกเวลา 3 ทุ่ม ก่อนรถออกประมาณครึ่งชั่วโมง ต้องขึ้นไปออกตั๋วที่ Counter ก่อนนะคะ



สภาพรถจากด้านนอกก็ค่อนข้างดูดีใช้ได้ เราได้ที่นั่งชั้นสอง หลังสุดข้างทางออกฉุกเฉิน กว้างมากกกก มีบริการน้ำดื่ม ขนม และผ้าห่มให้ด้วย สภาพข้างในรถขาไปค่อนข้างเก่า แล้วดึกๆแอบมีกลิ่นห้องน้ำให้เวียนหัว ถึงกับต้องดมยาดมเลยทีเดียว 😒😒😒



จากกรุงเทพฯ ถึงระนอง ส่วนมากจะออกจากกรุงเทพฯกลางคืนก็จะถึงระนองเช้ามืดพอดี พวกเราพักที่โรงแรม The Boat House จองจาก Booking.com โรงแรมจะอยู่ก่อนถึงสถานีขนส่ง อยู่ตรงข้าม โชว์รูมโตโยต้า เราสามารถแจ้งคนขับรถตั้งแต่ก่อนรถออกได้ว่าเราจะลงจุดไหน จะได้ไม่ต้องต่อรถไปที่โรงแรมอีก

โรงแรมนี้เป็นโรงแรมขนาดเล็ก มีทั้งหมดประมาณ 15 ห้อง ราคาหลักร้อย สามารถเช็คอินหรือฝากของได้ตลอด เจ้าของใจดี น่ารักเป็นกันเองมากกกก และที่สำคัญห้องกว้าง สะอาดที่นอนสบาย แอร์เย็น แถมตอนเช้าวิวดีมากได้บรรยากาศธรรมชาติสุดๆ




ภายในล็อบบี้ ก็จะมีมุมกาแฟ ขนมบริการฟรี




รูปภายในห้องพัก คือแบบกว้างมาก ลืมบอกไปนะจ๊ะสาวๆ ในห้องไม่มีไดร์เป่าผมให้นะคะ ต้องพกไปเอง



หลังจากพักผ่อนกินกาแฟแล้ว ระหว่างรอรถบริษัททัวร์มารับ ลุงเกาหลีก็เตรียมอุปกรณ์สำหรับถ่ายรูปใต้น้ำ คือมีความหวังว่าจะได้ภาพใต้น้ำที่สวยสุดๆ 555+++



ประมาณ 7.30 น รถตู้ก็มารับเราที่โรงแรมเพื่อไปเจอกรุ๊ปของเราที่ บริษัท Seastar ซึ่งก็จะมีบริการอาหารเช้า ขนม กาแฟ และถ้าใครต้องการอุปกรณ์ ดำน้ำ หรือ ผ้าเช็ดตัว ก็มีบริการให้ด้วย
แก็งค์ Freediver อย่างพวกเราหอบฟินยาวไปไปด้วยทุกที่ บางครั้งก็แอบอายคนชอบมอง เอ๊ะ!!! พวกนี้หอบอะไรกัน 555+++
วันนี้อากาศดีแต่เช้า แดดดีสุดๆ






ใครไม่มีชุดว่ายน้ำเค้าก็มีขายนะ



ระหว่าง Enjoy Breakfast ไกด์ก็จะแนะนำตรารางทัวร์วันนี้ และจุดต่างๆของเกาะบรูเออร์ ที่เราจะไปกัน



เนื่องจากเรามีสองลุงเกาหลี มาด้วยน้อง Staff ก็พาหนุ่มๆ ไปลงตราขาออกที่ด่าน ตม ก่อน เพื่อความรวดเร็ว สำหรับขาออกของชาวต่างชาติก็จะเป็นขั้นตอนปกติ คือต้องใช้พาสปอร์ต และเขียนใบขาออก คนเกาหลีเข้าพม่าไม่ต้องทำวีซ่าแล้วค่ะ ใครมีเพื่อนมีแฟนเกาหลีญี่ปุ่นก็พาไปเที่ยวกันโลดดดดด ส่วนคนไทยใช้แค่บัตรประชาชนนะจ๊ะ
ชาวต่างชาติทำลงตราขาออกเร็วกว่าคนไทยอีกนะคะ Fast Track สุดๆ
ดูท่านั่งเก๊กหล่อรอเรือมารับของโอป้าซะก่อน



หลังจากทำเรื่องผ่านแดนบ้านเราแล้ว เรือก็จะพาเราไปทำยื่นเรื่องผ่านแดนที่ เกาะสอง ประเทศพม่ากันต่อ นั่งเรือแค่ 5 นาที แล้วค่อยเดินทางไปเที่ยวเกาะพม่าได้ค่ะ จุดนี้คนไทยนั่งรอบนเรือได้เลยไม่ต้องลง ส่วนชาวต่างชาติก็เหมือนเดิมต้องเอาพาสปอร์ตไปประทับตราขาเข้าด้วยตัวเองค่ะ




ลุงเกาหลีโบกมือทักทายเพื่อนสาวจาก Love Andaman ที่เจอกันจากทริปก่อน นางน่ารัก Friendly มาก



เสร็จแล้วก็เดินทางไปเกาะบรูเออร์ (Bruer Island)กันค่ะ ใช้เวลาเดินทางด้วย Speed Boat จากจุดนี้ประมาณ 1 ชม นอนหลับยาวปายยยยย



และแล้วเราก็ถึงเกาะบรูเออร์ 👀👀👀 มาถึงก็ใกล้เที่ยงแล้ว งั้นก็เดินเล่นถ่ายรูปชิวๆบนเกาะ รอทีมงานเตรียมอาหารเที่ยงทากันบนเกาะนี่แหละ

เกาะบรูเออร์ (Bruer Island) มีชายหาดคู่ 2 ฝั่ง หรือเรียกว่า Twin Beach หาดทรายขาวๆ เงียบๆให้โพสต์ท่าถ่ายรูป หรือจะพายเรือคายัค พักผ่อนตามอัธยาศัย จริงช่วงปลายเดือนตุลาคมที่เราไปยังไม่หมดฤดูฝนของแถบนั้นนะคะ โชคดีวันที่เราไปแดดแรงสุดๆๆๆๆๆๆ









อาหารเที่ยงที่นี่ก็จะเป็นแบบบุฟเฟต์ กาแฟ ขนมหวาน เลือกทานกันได้ตามสะดวก





หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ ไกด์ก็พาเราไปจุดดำน้ำใหม่ ชื่อว่า Ruby Star หรือภาษาไทยคือ ดาวทับทิม คือใหม่จริงๆกรุ๊ปเราเป็นกรุ๊ปแรกที่เลย จุดนี้ประการังยังสวยและสมบูรณ์มากๆ ถ้าใคร Freedive หรือ Skin Dive ได้ จะถ่ายรูปใต้น้ำได้สวยสุดๆไปเลย









น้องนีโม่น่าร๊ากกกกกกกกก ไม่กลัวคนเลย








ทริปวันนี้ไกด์พาเราไปดำน้ำ 3 จุด ความสวยและความสมบูรณ์ของประการังใต้น้ำก็จะแตกต่างกัน ส่วนตัวเราคิดว่าจุด Ruby Star สวยที่สุดแล้วค่ะ ส่วนจุดอื่นๆเนื่องจากน้ำค่อนข้างตื้น และอาจจะมีกรุ๊ปทัวร์อื่นๆ ไปกันเยอะแล้วก็อาจจะมีเสื่อมโทรมไปบ้าง จากสารเคมี ครีมกันแดดจากตัวนักท่องเที่ยว ก็ค่อยๆทำลายประการังหรือสัตว์น้ำในทะเลได้นะคะ แนะนำคนที่ไปเที่ยวทะเลหรือดำน้ำ พยายามเลือกใช้ครีมหรือสารกันแดดที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติได้ ก็จะดีมากๆเลยนะคะ เพื่อช่วยกันรักษาความสวยงามใต้ท้องทะเลของเราให้สวยไปนานๆ




ประมาณบ่าย 4 โมงเย็นหลังจากเราดำน้ำครบทั้ง 3 จุดแล้ว ก็เดินทางกลับมาที่ด่านเกาะสอง เพื่อทำเอกสารขาออกจากพม่า ซึ่งก็จะเหมือนตอนขามา คือคนไทยนั่งรอบนเรือส่วนเกาหลีลงไปประทับตราขาออกด้วยตนเอง



กลับมาถึงท่าเรือบริษัท Seastar แล้วก็จะมีของว่าง ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว อาบน้ำกันก่อนแยกย้ายกลับโรงแรม หรือบางคนที่นั่งรถทัวร์กลับกรุงเทพฯ เลยก็จะมีรถตู้ของบริษัททัวร์ไปส่ง



จบทริปนี้อย่างสวยงาม ต้องกลับไปอีกแน่นอน เพราะพลาดไม่ได้ถ่ายวีดีโอ ตอนดำน้ำที่จุด Ruby Star เพราะ Gopro อีลุงดันแบตหมดซะงั้น 😥😥😥

เนื่องจากช่วงที่พวกเราไปปลายเดือนตุลาคม แถบฝั่งอันดามันยังไม่หมดฤดูฝน น้ำก็อาจจะไม่ใสเท่าไหร่ แนะนำช่วงที่เหมาะไปเที่ยวทะเลพม่า หรือฝั่งอันดามัน ประมาณช่วงเดือน มกราคม-เมษายน นะคะ น้ำทะเลจะสวย เคลียร์มากๆค่ะ

สรุปค่าใช้จ่ายของพวกเราสำหรับทริปนี้

ค่ารถทัวร์ VIP ไป-กลับ กรุงเทพฯ - ระนอง 1,254 บาท/คน

ค่าโรงแรมคืนละ 790 บาท

ค่าทัวร์เกาะบรูเออร์ 3,699 / คน

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ อาหารเที่ยง อาหารเย็น วันสุดท้ายระหว่างรอรถกลับ ประมาณ 500 บาท/คน

รวมทั้งหมด 6,243 บาท