สวัสดีค่ะ เราชื่อทรายเราจะมาแชร์ประสบการณ์ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าเราเป็นคนนึงที่มีปัญหาผมร่วงตอนแรกเราก็ไม่คิดว่าการผมร่วงของเราจะเป็นการผมร่วงที่ผิดปกติเพราะเราเป็นคนผมยาวเวลาสระหรือหวีก็จะเห็นผมขาดออกมาเยอะมากๆแต่พอเห็นบ่อยๆเข้าเราก็คิดทบทวนไปว่าอาจจะเป็นเพราะเราเปลี่ยนแชมพูสระผมหรือเพราะครีมนวดผม รึเปล่า  จนได้ลองไปซื้อแชมพูที่มีผลช่วยลดอาการผมร่วงแต่ก็ไม่ดีขึ้นพอรู้อีกทีผมของเราก็ร่วงเป็นวงๆ  [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เราเลยตัดสินใจไปหาหมอผิวหนัง ตอนแรกคุณหมอก็อธิบายเกี่ยวกับอาการที่เป็นคือหมอบอกว่าผมเราร่วงเป็นหย่อมๆซึ่งเค้าเรียกว่า AA  เราก็ไม่รู้จักหรอกค่ะ แต่มันคือชื่อโรคที่เค้าเรียกว่าโรคผมร่วงเป็นหย่อมๆ คุณหมอก็ให้ยามากิน และให้แชมพูกับเซรั่มมาทาบริเวณที่มีปัญหาจากนั้นคุณหมอก็นัด 2 อาทิตย์แต่เราไม่ได้ไปนะคะ  เพราะครบ 2 อาทิตย์เราก็ว่าไม่ดีขึ้นพร้อมทั้งหลายๆคนก็บอกว่าคลินิกหมอคนนี้เลี้ยงไข้ เราก็ โอเคและคิดว่าจะลองเปลี่ยนหมอคือตอนนั้นเรากังวลมากๆค่ะบวกทั้งความเครียดและก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตดี และก็ลองเปลี่ยนหมอรักษาช่วงที่รักษากับหมอเราได้ลองสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดผมร่วงยี่ห้อนึงมาใช้เราใช้แทนแชมพูของคุณหมอแต่ก็ยังทานยาอยู่ซึ่งในตอนนั้นเป็นช่วงที่ผมของเราร่วงเยอะมากๆจากปกติที่ร่วงตอนสระกับตอนหวีกลับกลายเป็นแค่สางผมก็ร่วงติดมือมาทุกครั้งจนเราแทบไม่อยากยุ่งกับผมของตัวเองเลยจุดที่ร่วงเป็นเป็นวงๆก็มีตุ่มขึ้นมาแต่พอเราไปอ่านเจอรีวิวในพันทิปกลับมีคนบอกว่ายิ่งใช้ยิ่งร่วงมากกว่าเดิมพอกลับไปหาคุณหมอคือคุณหมอบอกว่าต้องใช้เวลา 3 ถึง 6 เดือน และผมที่มันอ่อนแอยังไงก็ต้องร่วงพอเรารักษาได้ 2 เดือนเราก็เริ่มไม่แน่ใจว่าที่ผมร่วงเป็นเพราะอะไรกันแน่คือคุณหมอก็ไม่ได้เจาะเลือดไปตรวจแค่ดึงผมเราดูเฉยๆแชมพูสระผมที่เราซื้อมาลองใช้คุณหมอก็ไม่ได้ห้ามอะไร บวกกับการที่เป็นคลินิกผิวหนังด้วยมั้งเราเลยเริ่มลังเลกลัวว่าจะไม่หายเราเลยตัดสินใจเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯครั้งแรกที่เราเข้ามาคือคุณหมอก็ตรวจวักความดันสอบถามอาการและเจาะเลือดเพื่อไปตรวจจากผลเลือดของเราคุณหมอบอกว่าธาตุเหล็กของเราต่ำกว่าปกติจากนั้นคุณหมอก็ให้เราฉีดยาเดือนละครั้งจนครบ 6เข็มระหว่างนั้นเราก็ต้องทานยา ทายาบริเวณหนังศีรษะและใช้แชมพูของคุณหมอ

นี่คือรูปที่เราเริ่มเข้าไปรักษาที่ รพ.ในกรุงเทพค่ะ  
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ไว้เดี๋ยวมาต่อนะคะ