หากใครที่เป็นคนรักทะเล และกำลังมองหาที่เที่ยวชิลล์ๆ บรรยากาศเงียบสงบ วีขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ "เกาะกูด" อาจจะห่างจากกรุงเทพไปซักนิดแต่ขอบอกว่าถ้าลองไปแล้วจะไม่ผิดหวังค่ะ
วีตัดสินใจเลือกมาที่นี่เพราะว่าเห็นที่พักว่าดูสวย สงบ และน่าจะผ่อนคลายเราจากงานที่เหนื่อยล้าได้ดี วีเดินทางในช่วงกลางเดือนตุลาคม หลังจากเกาะเริ่มเปิดหลังช่วงมรสุมไม่นาน ปกติเกาะจะปิดช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิ้นเดือนกันยายน การมาเกาะกูดสามารถมาได้หลายวิธี ไม่ว่าจะขับรถมาเองหรือนั่งบขส.มาจากท่ารถเอกมัยก็ได้
ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพมาที่ท่าเรือแหลมศอกประมาณ 6 ชั่วโมง มาถึงท่าเรือประมาณ11.30น.เพื่อมาจัดการเรื่องตั๋วและที่จอดรถ วีเลือกเดินทางด้วยเรือสปีดโบ้ทของเกาะกูด ปริ้นเซส เที่ยว12.30น. เรื่องเรือแนะนำให้จองจากกรุงเทพมาก่อนนะคะ เพราะเที่ยวเรือมีไม่เยอะจะได้ชัวร์ว่ามีเรือแน่ๆค่ะ
ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 1.30ชม. ก็มาถึงเกาะกูด โดยที่เรือเเต่ละเจ้าจะมีรถรับส่งจากท่าเรือไปที่พัก ที่พักวีชื่อบ้านมะกอก ทางเข้าอาจจะน่ากลัวไปซักนิด ดูป่าๆ รกๆ แต่พอเดินมาถึงที่พักข้างในคือดีย์มากกกก บรรยากาศดีมาก สงบมาก ที่พักอยู่ริมคลองน้ำเค็มติดกับป่าโกงกาง และทางออกไปทะเล
ที่บ้านมะกอกที่พักทั้งหมด 8 ห้อง แต่ละห้องจะมีการตกแต่งแตกต่างกันไป รอบนี้วีลังเลระหว่างห้องเบอร์8 ที่บรรยากาศดีที่สุด สวยที่สุดแต่ไม่มีแอร์ กับห้องเบอร์5 ที่สวยรองลงมาแต่มีแอร์ สุดท้ายวีตัดสินใจเลือกห้องเบอร์5 แต่ขอบอกว่าแอร์นั้นจะเปิดแค่ช่วงเวลา 19.00-06.00น.เท่านั้นค่ะ
ที่บ้านมะกอกนอกจากที่พักและอาหารแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆให้เลือกทำอีก ไม่ว่าจะเป็นการนวดที่เริ่มต้นที่คนละ400บาทต่อชั่วโมง หรือการพายเรือคายัค ที่จะให้เราพายเล่นได้ตั้งแต่เช้าจนถึงหกโมงครึ่งเท่านั้น ถ้ามืดกว่านี้บริเวณคลองหน้าที่พักจะไม่มีไฟและเป็นอันตรายต่อเราได้ค่ะ กิจกรรมนี้วีชอบมากเพราะเราพายเรือแค่10นาทีเท่านั้นก็จะไปโผล่ทะเล ซึ่งมีหาดกัปตันฮุคที่เงียบสงบ ทรายขาวละเอียดเหมาะมากกับการมานั่งเล่นหรือดูพระอาทิตย์ตก มารอบนี้เสียดายที่ตอนกลางคืนฝนตก ไม่อย่างงั้นทางที่พักจะพาวีนั่งเรือออกไปดูหิ่งห้อย และถ้ามาในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ก็อาจจะมีโอกาสได้เห็นแพลงตอนเรืองแสงด้วยค่ะ
การเดินทางบนเกาะกูดส่วนใหญ่คนที่มาจะเลือกเดินทางโดยการเช่ามอเตอร์ไซค์ มอเตอร์ไซค์นี่แนะนำให้ขับอข็งนิดหนึ่งนะคะ เพราะทางค่อนข้างชันและลูกรัง แต่สำหรับคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เป็นแบบวีนั้น ก็สามารถัช่ารถสองแถวของชาวบ้านได้ในราคา1500-2000บาทแล้วแต่ตกลงค่ะ
ที่เที่ยวที่สำคัญๆบนเกาะกูดก็จะมี น้ำตกคลองเจ้า น้ำตกห้วงน้ำเขียว ต้นมะค่ายักษ์ หมู่บ้านชาวประมงบ้านอ่าวใหญ่ สะพานไม้อ่าวพร้าว และหาดคลองเจ้า
ด้วยความที่จังหวัดตราดนั้นค่อนข้างไกลและใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน วีแนะนำว่าหากใครที่สนใจจะมาควรมาอย่างน้อยซักสามวันสองคืนค่ะทริปเกาะกูดของวีถือว่าประทับใจมาก และจะหาโอกาสมาใหม่แน่ๆค่ะ
ปล.ที่พักบ้านมะกอกคิวฮ็อทมากและต้องจองล่วงหน้าค่อนข้างนานนะคะ หากใครสนใจวีแนะนำให้เช็คเนิ่นๆล่วงหน้าซักสองสามเดือนค่ะ
#เที่ยวชาร์จแบต #vescapdetothailand #selflifecharger #กิ้งกือไดอารี่ #thailand #trad #kohkood #อะเมซิ่งไทยเท่
ฝากติดตามเพจด้วยนะคะ
https://www.facebook.com/selflifecharger/
เกาะกูด สวรรค์แห่งภาคตะวันออก : พักที่พักสุดแสนน่ารัก "บ้านมะกอก"
หากใครที่เป็นคนรักทะเล และกำลังมองหาที่เที่ยวชิลล์ๆ บรรยากาศเงียบสงบ วีขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ "เกาะกูด" อาจจะห่างจากกรุงเทพไปซักนิดแต่ขอบอกว่าถ้าลองไปแล้วจะไม่ผิดหวังค่ะ
วีตัดสินใจเลือกมาที่นี่เพราะว่าเห็นที่พักว่าดูสวย สงบ และน่าจะผ่อนคลายเราจากงานที่เหนื่อยล้าได้ดี วีเดินทางในช่วงกลางเดือนตุลาคม หลังจากเกาะเริ่มเปิดหลังช่วงมรสุมไม่นาน ปกติเกาะจะปิดช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิ้นเดือนกันยายน การมาเกาะกูดสามารถมาได้หลายวิธี ไม่ว่าจะขับรถมาเองหรือนั่งบขส.มาจากท่ารถเอกมัยก็ได้
ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพมาที่ท่าเรือแหลมศอกประมาณ 6 ชั่วโมง มาถึงท่าเรือประมาณ11.30น.เพื่อมาจัดการเรื่องตั๋วและที่จอดรถ วีเลือกเดินทางด้วยเรือสปีดโบ้ทของเกาะกูด ปริ้นเซส เที่ยว12.30น. เรื่องเรือแนะนำให้จองจากกรุงเทพมาก่อนนะคะ เพราะเที่ยวเรือมีไม่เยอะจะได้ชัวร์ว่ามีเรือแน่ๆค่ะ
ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 1.30ชม. ก็มาถึงเกาะกูด โดยที่เรือเเต่ละเจ้าจะมีรถรับส่งจากท่าเรือไปที่พัก ที่พักวีชื่อบ้านมะกอก ทางเข้าอาจจะน่ากลัวไปซักนิด ดูป่าๆ รกๆ แต่พอเดินมาถึงที่พักข้างในคือดีย์มากกกก บรรยากาศดีมาก สงบมาก ที่พักอยู่ริมคลองน้ำเค็มติดกับป่าโกงกาง และทางออกไปทะเล
ที่บ้านมะกอกที่พักทั้งหมด 8 ห้อง แต่ละห้องจะมีการตกแต่งแตกต่างกันไป รอบนี้วีลังเลระหว่างห้องเบอร์8 ที่บรรยากาศดีที่สุด สวยที่สุดแต่ไม่มีแอร์ กับห้องเบอร์5 ที่สวยรองลงมาแต่มีแอร์ สุดท้ายวีตัดสินใจเลือกห้องเบอร์5 แต่ขอบอกว่าแอร์นั้นจะเปิดแค่ช่วงเวลา 19.00-06.00น.เท่านั้นค่ะ
ที่บ้านมะกอกนอกจากที่พักและอาหารแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆให้เลือกทำอีก ไม่ว่าจะเป็นการนวดที่เริ่มต้นที่คนละ400บาทต่อชั่วโมง หรือการพายเรือคายัค ที่จะให้เราพายเล่นได้ตั้งแต่เช้าจนถึงหกโมงครึ่งเท่านั้น ถ้ามืดกว่านี้บริเวณคลองหน้าที่พักจะไม่มีไฟและเป็นอันตรายต่อเราได้ค่ะ กิจกรรมนี้วีชอบมากเพราะเราพายเรือแค่10นาทีเท่านั้นก็จะไปโผล่ทะเล ซึ่งมีหาดกัปตันฮุคที่เงียบสงบ ทรายขาวละเอียดเหมาะมากกับการมานั่งเล่นหรือดูพระอาทิตย์ตก มารอบนี้เสียดายที่ตอนกลางคืนฝนตก ไม่อย่างงั้นทางที่พักจะพาวีนั่งเรือออกไปดูหิ่งห้อย และถ้ามาในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ก็อาจจะมีโอกาสได้เห็นแพลงตอนเรืองแสงด้วยค่ะ
การเดินทางบนเกาะกูดส่วนใหญ่คนที่มาจะเลือกเดินทางโดยการเช่ามอเตอร์ไซค์ มอเตอร์ไซค์นี่แนะนำให้ขับอข็งนิดหนึ่งนะคะ เพราะทางค่อนข้างชันและลูกรัง แต่สำหรับคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เป็นแบบวีนั้น ก็สามารถัช่ารถสองแถวของชาวบ้านได้ในราคา1500-2000บาทแล้วแต่ตกลงค่ะ
ที่เที่ยวที่สำคัญๆบนเกาะกูดก็จะมี น้ำตกคลองเจ้า น้ำตกห้วงน้ำเขียว ต้นมะค่ายักษ์ หมู่บ้านชาวประมงบ้านอ่าวใหญ่ สะพานไม้อ่าวพร้าว และหาดคลองเจ้า
ด้วยความที่จังหวัดตราดนั้นค่อนข้างไกลและใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน วีแนะนำว่าหากใครที่สนใจจะมาควรมาอย่างน้อยซักสามวันสองคืนค่ะทริปเกาะกูดของวีถือว่าประทับใจมาก และจะหาโอกาสมาใหม่แน่ๆค่ะ
ปล.ที่พักบ้านมะกอกคิวฮ็อทมากและต้องจองล่วงหน้าค่อนข้างนานนะคะ หากใครสนใจวีแนะนำให้เช็คเนิ่นๆล่วงหน้าซักสองสามเดือนค่ะ
#เที่ยวชาร์จแบต #vescapdetothailand #selflifecharger #กิ้งกือไดอารี่ #thailand #trad #kohkood #อะเมซิ่งไทยเท่
ฝากติดตามเพจด้วยนะคะ
https://www.facebook.com/selflifecharger/