ทันทีที่เห็นโปสเตอร์หนังก็ได้แต่ร้อง “ว้าว” ในใจว่า ไม่พลาดอย่างแน่นอน เพราะโรสชอบเฟรดดี้และควีน แถมชื่อหนังยังใช้ชื่อบทเพลงในตำนาน Bohemian Rhapsody กำกับโดยผู้กำกับมากฝีมือ ไบรอัน ซิงเกอร์และเด็กซ์เตอร์ เฟล็ทเชอร์ หนังทุนสร้าง $50-$55 ล้านเหรียญ ซึ่งในขณะนี้ทำรายได้ไปแล้วถึง $155.7 ล้านเหรียญ เชื่อว่าท่านใดที่เป็นแฟนของพวกเขาจะต้องไม่พลาดที่จะชื่นชมตำนานที่ถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์อัตชีวประวัติอย่างแน่นอนค่ะ
Bohemian Rhapsody เป็นเพลงร็อคอังกฤษของวงควีน เขียนโดยเฟรดดี เมอร์คิวรี่ในผลงานอัลบั้มของวงในปี ค.ศ. 1975 ชุด A Night at the Opera เป็นเพลงบัลลาดที่บอกเล่าถึงชีวิตอันแสนเลวร้ายของชายคนหนึ่ง แม้บทเพลงนี้จะกินเวลาถึง 5.55 นาที แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการฟังแต่อย่างใด ด้วยท่วงทำเนาะที่ไพเราะเศร้าสร้อย มีเอกลักษณ์อันน่าจดจำ โดยเฉพาะน้ำเสียงของเฟรดดี้และการประสานเสียงของเหล่าสมาชิกในทีม Bohemian เป็นคำนาม หมายถึง ผู้ดำรงชีวิตแตกต่างจากคนอื่น (แบบไม่ทำตามกฎของสังคม) ส่วนคำว่า Rhapsody เป็นคำนาม หมายถึง บทเพลงอิสระที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก, โคลงโบราณ ดังนั้น “Bohemian Rhapsody” จึงหมายถึง “บทเพลงอิสระที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกจากผู้ที่แตกต่างจากคนอื่น”
สำหรับเรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมาให้ได้ชมกันนี้ ได้บอกเล่าเรื่องราวให้เราได้รู้ว่าพวกเขามีโชคชะตาร่วมกันอย่างไร นับตั้งแต่การโคจรมาพบเจอกัน จุดเริ่มต้นของการก่อตั้งวง ความเป็นอัจฉริยะของเฟรดดี้ ความมีฝีมือของผองเพื่อน ความรัก อุปสรรค การฟันฝ่า มิตรภาพ จุดแตกหัก ความฉ้อฉล อีกทั้งประเด็นที่มุ่งตรงไปที่นักร้องนำทั้งชีวิตส่วนตัวที่เราไม่เคยได้เรียนรู้มาก่อน รักครั้งแรกของเขา โดยเฉพาะรสนิยมทางเพศซึ่งการเป็นเกย์ในยุคนั้นยังไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับในสังคม และบั้นปลายชีวิตที่เขาติดเชื้อเอดส์จนทำให้เขาต้องจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควร
โรสไปดูหนังเรื่องนี้ที่สกาลา โรงหนังบรรยากาศสุดคลาสสิกที่โรสชอบ เรื่องนี้มีชาวต่างชาติที่เป็นแฟนควีนเข้าไปดูไม่น้อย พวกเรามาจากต่างที่ต่างชาติต่างศาสนาก็จริง แต่เมื่อได้อยู่เบื้องหน้าของจอหนัง เรากลับมีอารมณ์ร่วมกัน นั่นก็คือความชื่นชอบในควีน พวกเราตั้งใจดูและได้รับรู้เรื่องราวที่ดูเหมือนจะเพิ่งรู้ มีทั้งเรื่องส่วนตัวสลับกับบทเพลงดัง ทั้งซึ้งทั้งสนุก ไม่ว่าจะเป็น Love of my life, Bohemian Rhapsody, We will rock you, Another One Bites the Dust, We Are the Champions, The Show Must Go On เป็นต้น
เนื้อเรื่องดำเนินไปได้อย่างเพลิดเพลินลื่นไหลเป็นธรรมชาติ นอกจากจะมีบทเพลงดังของพวกเขาออกมาให้เราได้ซึ้งได้โยกแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่จะมองข้ามไปไม่ได้นั่นก็คือฝีมือของนักแสดง ต้องยอมรับเลยว่าเล่นดีกันทุกๆคน โดยเฉพาะการคัดเลือกนักแสดงนำอย่าง รามี่ มาเลค ซึ่งรับบทเป็น เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ เล่นดีจนน่าใจหาย นอกจากใบหน้าลีลาที่ละม้ายคล้ายเฟรดดี้แล้ว ฝีมือในการแสดงบาดลึกมากจริงๆ ตัวเด่นที่ส่งเสริมให้เข้าถึงควีน คงหนีไม่พ้นผู้ที่เข้ามารับบทเป็นเหล่าสมาชิกวงควีน ได้แก่ กวิลิม ลี รับบทเป็น ไบรอัน เมย์ มือกีต้าร์ของวง เบน ฮาร์ดี้ รับบทเป็น โรเจอร์ เทย์เลอร์ มือกลอง โจเซฟ แมซเซลโล่ รับบทเป็น จอห์น ดีคอน มือเบส ทุกๆคนมีใบหน้าละม้ายคล้ายสมาชิกตัวจริง ที่สำคัญทุกๆคนสามารถถ่ายทอด “ควีน” ออกมาได้อย่างสมจริง นอกจากนี้ดาราท่านอื่นๆในเรื่องก็ล้วนเป็นองค์ประกอบที่มีมิติด้วย มีหลายต่อหลายฉากที่กระตุ้นให้น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว ฉากการแสดง Live Aid ดูแล้วชวนขนลุกในความยิ่งใหญ่ของควีน
ดูไปร้องเพลงตามไป ทั้งสนุกทั้งซึ้ง อีกทั้งร้องไห้ตามไปด้วย มันเป็นอารมณ์ของความปลาบปลื้มในบทเพลงของควีน ชื่นชมในพรสววรค์ของเฟรดดี้ที่เขาเกิดมาเพื่อเป็นศิลปินอย่างแท้จริง เขาเป็นนักร้องที่มากความสามารถและเอาคนดูอยู่ นั่นก็คือสุดยอดของศิลปินที่เป็นสุดยอดเอนเตอร์เทนเนอร์ ทั้งน้ำเสียงที่สูงมีพลังกังวาน ลีลาการเต้นโลดโผนสุดเร้าใจ นับเป็นความกล้าหาญในยุคนั้นที่เขากล้าประกาศตนเองว่าเป็นเกย์ คุณภาพความดีงามในสายอาชีพของเขาช่างสูงส่งกว่าการที่เขาเป็นเกย์เสียอีก
ดูไปได้ข้อคิดไปด้วย เรื่องราวต่างๆทำให้สะเทือนใจจนต้องร้องไห้ตาม คนเราหากเลือกเกิดได้ก็อยากมีวิถีชีวิตปกติ แต่ในเมื่อเราหลอกตนเองไม่ได้เราก็ต้องยอมรับความจริง ใช้ชีวิตตามปกติและทุ่มสุดตัวสุดใจให้กับสิ่งที่เรารัก ใช้พรสวรรค์ที่ติดตัวมาอย่างเต็มที่ ไม่มีอะไรผิดถ้าหากไม่ได้ทำให้ตนเองหรือสังคมต้องเดือดร้อน สุดท้ายแล้วความรักที่เหนือกาลเวลาก็คือมิตรภาพของความเป็นเพื่อน การมีเพื่อนที่ดีเป็นพื้นฐานของความสำเร็จ คนที่ยินดีกับเราในวันที่เราโชคดี ฉุดดึงในวันที่เราก้าวพลาด เคียงข้างในวันที่มืดมน นี่แล่ะคือเพื่อนแท้ ในขณะที่คนบางคนซ้ำเติมในวันที่เราล้มและฉกฉวยผลประโยชน์ในวันที่เรารุ่งเรือง นี่แล่ะคือเพื่อนจอมปลอม จะเกิดมาเป็นอะไรก็ช่าง ไม่สำคัญไปกว่าการเป็นคนที่คิดดี พูดดี ทำดี
โรสหวังว่าหนังเรื่องนี้จะได้รับรางวัลใดรางวัลหนึ่งบนเวทีนะคะ เอาเป็นว่าแฟนควีนอย่าพลาดชมเพราะหนังดีงามควรค่าแก่การชมอย่างแท้จริง แม้วันนี้เฟรดดี้จะจากพวกเราไปแล้ว แต่เขายังคงอยู่ในใจของพวกเราไม่รู้ลืม
Bohemian Rhapsody เมลิคสวมบทบาทเป็น Freddie Mercury ได้ดีเกินคาด By Rose
ทันทีที่เห็นโปสเตอร์หนังก็ได้แต่ร้อง “ว้าว” ในใจว่า ไม่พลาดอย่างแน่นอน เพราะโรสชอบเฟรดดี้และควีน แถมชื่อหนังยังใช้ชื่อบทเพลงในตำนาน Bohemian Rhapsody กำกับโดยผู้กำกับมากฝีมือ ไบรอัน ซิงเกอร์และเด็กซ์เตอร์ เฟล็ทเชอร์ หนังทุนสร้าง $50-$55 ล้านเหรียญ ซึ่งในขณะนี้ทำรายได้ไปแล้วถึง $155.7 ล้านเหรียญ เชื่อว่าท่านใดที่เป็นแฟนของพวกเขาจะต้องไม่พลาดที่จะชื่นชมตำนานที่ถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์อัตชีวประวัติอย่างแน่นอนค่ะ
Bohemian Rhapsody เป็นเพลงร็อคอังกฤษของวงควีน เขียนโดยเฟรดดี เมอร์คิวรี่ในผลงานอัลบั้มของวงในปี ค.ศ. 1975 ชุด A Night at the Opera เป็นเพลงบัลลาดที่บอกเล่าถึงชีวิตอันแสนเลวร้ายของชายคนหนึ่ง แม้บทเพลงนี้จะกินเวลาถึง 5.55 นาที แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการฟังแต่อย่างใด ด้วยท่วงทำเนาะที่ไพเราะเศร้าสร้อย มีเอกลักษณ์อันน่าจดจำ โดยเฉพาะน้ำเสียงของเฟรดดี้และการประสานเสียงของเหล่าสมาชิกในทีม Bohemian เป็นคำนาม หมายถึง ผู้ดำรงชีวิตแตกต่างจากคนอื่น (แบบไม่ทำตามกฎของสังคม) ส่วนคำว่า Rhapsody เป็นคำนาม หมายถึง บทเพลงอิสระที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก, โคลงโบราณ ดังนั้น “Bohemian Rhapsody” จึงหมายถึง “บทเพลงอิสระที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกจากผู้ที่แตกต่างจากคนอื่น”
สำหรับเรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมาให้ได้ชมกันนี้ ได้บอกเล่าเรื่องราวให้เราได้รู้ว่าพวกเขามีโชคชะตาร่วมกันอย่างไร นับตั้งแต่การโคจรมาพบเจอกัน จุดเริ่มต้นของการก่อตั้งวง ความเป็นอัจฉริยะของเฟรดดี้ ความมีฝีมือของผองเพื่อน ความรัก อุปสรรค การฟันฝ่า มิตรภาพ จุดแตกหัก ความฉ้อฉล อีกทั้งประเด็นที่มุ่งตรงไปที่นักร้องนำทั้งชีวิตส่วนตัวที่เราไม่เคยได้เรียนรู้มาก่อน รักครั้งแรกของเขา โดยเฉพาะรสนิยมทางเพศซึ่งการเป็นเกย์ในยุคนั้นยังไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับในสังคม และบั้นปลายชีวิตที่เขาติดเชื้อเอดส์จนทำให้เขาต้องจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควร
โรสไปดูหนังเรื่องนี้ที่สกาลา โรงหนังบรรยากาศสุดคลาสสิกที่โรสชอบ เรื่องนี้มีชาวต่างชาติที่เป็นแฟนควีนเข้าไปดูไม่น้อย พวกเรามาจากต่างที่ต่างชาติต่างศาสนาก็จริง แต่เมื่อได้อยู่เบื้องหน้าของจอหนัง เรากลับมีอารมณ์ร่วมกัน นั่นก็คือความชื่นชอบในควีน พวกเราตั้งใจดูและได้รับรู้เรื่องราวที่ดูเหมือนจะเพิ่งรู้ มีทั้งเรื่องส่วนตัวสลับกับบทเพลงดัง ทั้งซึ้งทั้งสนุก ไม่ว่าจะเป็น Love of my life, Bohemian Rhapsody, We will rock you, Another One Bites the Dust, We Are the Champions, The Show Must Go On เป็นต้น
เนื้อเรื่องดำเนินไปได้อย่างเพลิดเพลินลื่นไหลเป็นธรรมชาติ นอกจากจะมีบทเพลงดังของพวกเขาออกมาให้เราได้ซึ้งได้โยกแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่จะมองข้ามไปไม่ได้นั่นก็คือฝีมือของนักแสดง ต้องยอมรับเลยว่าเล่นดีกันทุกๆคน โดยเฉพาะการคัดเลือกนักแสดงนำอย่าง รามี่ มาเลค ซึ่งรับบทเป็น เฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ เล่นดีจนน่าใจหาย นอกจากใบหน้าลีลาที่ละม้ายคล้ายเฟรดดี้แล้ว ฝีมือในการแสดงบาดลึกมากจริงๆ ตัวเด่นที่ส่งเสริมให้เข้าถึงควีน คงหนีไม่พ้นผู้ที่เข้ามารับบทเป็นเหล่าสมาชิกวงควีน ได้แก่ กวิลิม ลี รับบทเป็น ไบรอัน เมย์ มือกีต้าร์ของวง เบน ฮาร์ดี้ รับบทเป็น โรเจอร์ เทย์เลอร์ มือกลอง โจเซฟ แมซเซลโล่ รับบทเป็น จอห์น ดีคอน มือเบส ทุกๆคนมีใบหน้าละม้ายคล้ายสมาชิกตัวจริง ที่สำคัญทุกๆคนสามารถถ่ายทอด “ควีน” ออกมาได้อย่างสมจริง นอกจากนี้ดาราท่านอื่นๆในเรื่องก็ล้วนเป็นองค์ประกอบที่มีมิติด้วย มีหลายต่อหลายฉากที่กระตุ้นให้น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว ฉากการแสดง Live Aid ดูแล้วชวนขนลุกในความยิ่งใหญ่ของควีน
ดูไปร้องเพลงตามไป ทั้งสนุกทั้งซึ้ง อีกทั้งร้องไห้ตามไปด้วย มันเป็นอารมณ์ของความปลาบปลื้มในบทเพลงของควีน ชื่นชมในพรสววรค์ของเฟรดดี้ที่เขาเกิดมาเพื่อเป็นศิลปินอย่างแท้จริง เขาเป็นนักร้องที่มากความสามารถและเอาคนดูอยู่ นั่นก็คือสุดยอดของศิลปินที่เป็นสุดยอดเอนเตอร์เทนเนอร์ ทั้งน้ำเสียงที่สูงมีพลังกังวาน ลีลาการเต้นโลดโผนสุดเร้าใจ นับเป็นความกล้าหาญในยุคนั้นที่เขากล้าประกาศตนเองว่าเป็นเกย์ คุณภาพความดีงามในสายอาชีพของเขาช่างสูงส่งกว่าการที่เขาเป็นเกย์เสียอีก
ดูไปได้ข้อคิดไปด้วย เรื่องราวต่างๆทำให้สะเทือนใจจนต้องร้องไห้ตาม คนเราหากเลือกเกิดได้ก็อยากมีวิถีชีวิตปกติ แต่ในเมื่อเราหลอกตนเองไม่ได้เราก็ต้องยอมรับความจริง ใช้ชีวิตตามปกติและทุ่มสุดตัวสุดใจให้กับสิ่งที่เรารัก ใช้พรสวรรค์ที่ติดตัวมาอย่างเต็มที่ ไม่มีอะไรผิดถ้าหากไม่ได้ทำให้ตนเองหรือสังคมต้องเดือดร้อน สุดท้ายแล้วความรักที่เหนือกาลเวลาก็คือมิตรภาพของความเป็นเพื่อน การมีเพื่อนที่ดีเป็นพื้นฐานของความสำเร็จ คนที่ยินดีกับเราในวันที่เราโชคดี ฉุดดึงในวันที่เราก้าวพลาด เคียงข้างในวันที่มืดมน นี่แล่ะคือเพื่อนแท้ ในขณะที่คนบางคนซ้ำเติมในวันที่เราล้มและฉกฉวยผลประโยชน์ในวันที่เรารุ่งเรือง นี่แล่ะคือเพื่อนจอมปลอม จะเกิดมาเป็นอะไรก็ช่าง ไม่สำคัญไปกว่าการเป็นคนที่คิดดี พูดดี ทำดี
โรสหวังว่าหนังเรื่องนี้จะได้รับรางวัลใดรางวัลหนึ่งบนเวทีนะคะ เอาเป็นว่าแฟนควีนอย่าพลาดชมเพราะหนังดีงามควรค่าแก่การชมอย่างแท้จริง แม้วันนี้เฟรดดี้จะจากพวกเราไปแล้ว แต่เขายังคงอยู่ในใจของพวกเราไม่รู้ลืม