ภาพบนต้องให้เครดิต ขอบคุณน้องคนเล็กสุดที่ถ่ายให้

ซีอานเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของโลกเมืองหนึ่ง คำว่า "ซีอาน" ความหมายว่า "ความสงบสุขทางตะวันตก" ซีอานเป็นเมืองหลวงของมณฑลส่านซีประเทศจีน และเป็นหนึ่งในเมืองสำคัญในประวัติศาสตร์จีน ในอดีตซีอานได้เป็นเมืองหลวงของ 13 ราชวงศ์รวมทั้งโจว ชิน ฮั่น และถัง ซีอานยังเป็นเมืองปลายทางของเส้นทางสายไหมมีประวัติอันยาวนานมากกว่า 3,100 ปี โดยชื่อเดิมว่า "ฉางอาน. ซึ่งมีความหมายว่า "ความสงบสุขชั่วนิรันดร์" ซีอานเป็นเป็นเมืองที่เจริญและใหญ่ที่สุดในส่วนตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีนและเป็น 1 ใน 10 เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน

ภูมิอากาศของภูมิภาคนี้อบอุ่น มีฝนตกมากมีปริมาณฝนเทียบได้ใกล้เคียงกับภูมิภาคด้านใต้ของประเทศจีนในปัจจุบันดังนั้น ประชากรที่นี่จึงค่อนข้างมาก ทางตะวันออกของซีอาน ห่างไปประมาณ 6 กิโลเมตร มีหมู่บ้านชื่อ ปั้น-ภอ-ฌุน ได้มีการค้นพบหมู่บ้านที่มีอายุกว่า 6,000 ปี ซึ่งมีประชากรประมาณ 500 คน ฮ่องเต้ของราชวงศ์โจวตะวันตกได้เคยสร้างเมืองหลวง 2 เมือง ทางตะวันตกของ ซีอาน…
(ขอบคุณข้อมูลจาก https://th.wikipedia.org/wiki/ซีอาน)

การเดินทางไปซีอานครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 คราวที่แล้วไปไม่ได้ไปหลายที่ เมื่อกลับมาหาข้อมูลเพิ่ม ถึงได้ทราบว่า..โอ้โห.. เมืองนี้เป็นเมืองที่มีความเก่าแก่มาก ทำให้นึกคำพูดของไกด์ตอนที่ไปปักกิ่งว่า “หากต้องการดูอนาคตของจีนให้ไปเซี่ยงไฮ้ หากต้องการดูปัจจุบันของจีนให้ไปปักกิ่ง และหากต้องการดูอดีตของจีนให้ไปซีอาน” รอบนี้ราคาตั๋วของหางแดงน่าสนใจ เมื่อรวมค่าน้ำหนัก อาหาร และที่นั่ง ราคาพอรับได้ที่ 6,070 บาท เมื่อจองผ่านบัตรเดรดิตธนาคารกรุงเทพที่ร่วมกับแอร์เอเชีย สามารถแบ่งจ่ายได้ 0% 3 เดือน .. จึงจัดไปตามที่ใจเรียกร้อง ..

ทริปนี้มีผู้ร่วมเดินทางไปด้วยอีก 3 คน เป็นน้องในที่ทำงาน 2 คน และอีกคนเป็นบัดดี้ตอนไปอียิปต์ ช่วงเดินทาง: 29 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2561

จีนยังเป็นประเทศที่ต้องมีวีซ่าในการเข้าประเทศ ตอนแรกกะว่าจะไปลองทำกันเอง คิดไปคิดว่า เสียเวลาทั้งวันไปทำ และวันรับต้องเสียวเวลาไปรับเองอีก เราเลยจ้างบริษัทฯ ทำวีซ่า ในราคาเล่มละ 1,950 บาท (ค่าวีซ่า เล่มละ 1,500 บาท + ค่าจ้างทำเล่มละ 450 บาท) รวมค่าจัดส่งเอกสารคืนมาหาเรา ใครสนใจแนะนำนะคะ ตามลิงค์ ด้านล่างคะ https://www.wonderfulpackage.com/visa/v/2372/

หลังจากได้ตั๋ว ได้วีซ่า เราก็มาทบทวนที่พักกันอีกรอบ เพื่อสะดวกในการเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง จะได้ไม่ต้องลากกระเป๋าไกล และง่ายต่อการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ จึงมาจบอยู่ที่ Citadines Central Hotel ราคาห้องละ 1,991.50 บาท: วัน รวมอาหารเช้า เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราก็เริ่มค้นหาข้อมูล ต้องขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บ  https://www.travelchinaguide.com/attraction/shaanxi/xian/  มีประโยชน์มาก ๆ ใครที่ต้องการไปเที่ยวซีอานเอง ควรเข้าไปอ่านอย่างยิ่ง แล้วจะรู้ว่าซีอานมีอะไร ๆ มากมายกว่าที่เราได้ทราบมาเสียอีก

วันเดินทางเรานัดเจอกันที่สนามบินดอนเมืองเวลา 06.00 น. ประมาณ 07.30 น. เช็คอินโหลดกระเป๋า และเข้าไปนั่งพักกันที่ King Power Lounge ทานอาหารเช้าเบา ๆ รองท้อง ก่อนที่จะขึ้นไปทานกันต่อบนเครื่อง



เวลา 08.30 น. พวกเรา 4 คน ก็เตรียมตัวเดินทางไปเข้า Gate ที่กำหนด รอบนี้บินเช้า ตามกำหนดเครื่องออก เวลา 09.50 น. เดินไปถึง Gate เปิดแล้วและเรียกขึ้นเครื่องก่อนเวลา ที่นั่งแต่ละคนรอบนี้นั่งริมทางเดินทั้ง 4 คน บินยาวนั่งในมันอึดอัดและไม่สะดวกเวลาจะเข้าห้องน้ำ ระยะเวลาในการบิน นักบินบอกว่าบิน 4 ชั่วโมง จริง ๆ บินแค่ 3 ชั่วโมงกว่า ๆ เพราะเวลาที่เมืองจีนเร็วกว่าเรา 1 ชั่วโมง


ถึงสนามบินเสียนหยาง จากรีวิวที่แต่ละท่านได้รีวิวไว้ บอกไว้ว่าเราจะลงที่ Terminal 3 ให้เดินออกไป และข้ามไปยังอาคารฝั่งตรงข้าม เพื่อซื้อตั๋วรถบัสเข้าเมือง แต่พอไปถึงเจอแต่ภาษาจีน ทำไงดี เราจึงเดินเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ ๆ พูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก เราก็ส่งน้องที่ภาษาอังกฤษดีที่สุดไปเจรจา ได้ความว่ารถบัสที่วิ่งเข้าเมืองมีอยู่เพียงสายเดียว จะไปสุดสายที่สถานีรถไฟ รถบัสที่เคยวิ่งไปจอดที่ Melody Hotel ได้ยกเลิกไปแล้ว ..อั๊ยยะ ...จึงอยากจะฝากบอกทุกท่านที่เคยรีวิวไว้ รบกวนปรับข้อมูลให้ใหม่ ตอนนี้ซีอานปรับเปลี่ยนแยะมาก


เจ้าหน้าที่คนเดิมได้เสนอให้พวกเรา 4 คน เหมารถสนามบินไปส่งพวกเรา ณ ที่พัก ในราคา 180 หยวน และพร้อมเสนอว่าหากจองให้ไปรับด้วย จะลดราคาเที่ยวกลับให้ เหลือ 140 หยวน รวมแล้วค่ารถรับ-ส่งสนามบินสำหรับเรา 4 คน รวมเบ็ดเสร็จ 320 หยวน หารแล้วตกคนละ 80 หยวน เราก็หันหน้ามาปรึกษากัน เอาไงก็เอากัน สรุป เราก็จ่ายค่ารถขากลับ และรับใบเสร็จมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายรูปพวกเรา 4 คน และบอกว่าในวันเดินทางกลับ จะให้คนขับไปไปรับพวกเราที่โรงแรม เวลา 12.30 น. โดยจะให้ภาพถ่ายพวกเราให้คนขับไปด้วย จะได้รับมาได้ถูกต้อง รอบคอบดีเหมือนกัน




เราก็นั่งรถเข้าเมืองอย่าง VIP รถมาส่งถึงโรงแรม มาถึงโรงแรมก็บ่ายกว่า เราก็ Check in ได้พักชั้น 9 ห้อง 10 และ 11 ห้องหนึ่งให้การ์ดมา 2 ใบ โอเคเลย  เปิดห้องเข้าไปถูกใจมาก เตียงเป็นเตียง 5 ฟุต 2 เตียง เป็นห้อง Street view ลักษณะห้องเป็นแบบ Apartment มีอุปกรณ์ในการทำครัวครบครัน ระหว่างเตียงนอนมีฉากกั้นแบบสามตอนสามารถดึงปิดกั้นกันได้ ทีวีก็สามารถสไลด์เลื่อนได้ด้วย อุปกรณ์อาบน้ำมีให้ทุกวัน ห้องพักเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวให้ทุกวัน สะอาดโอเคมาก เวลาขึ้นลิฟท์ก็ต้องเสียบบัตรก่อนจึงจะกดไปยังชั้นที่เราพักได้








จากสภาพห้อง 1 ห้องสามารถพักได้ 4 คน ก่อนมาเราได้โทร.เช็คกับเจ้าหน้าที่ Agoda เพื่อยืนยันเรื่องอาหารเช้ากับขนาดเตียง ด้วยมีผู้รีวิวไว้ว่า อาหารเช้า โรงแรมให้แค่ห้องละ 1 คน เจ้าหน้าที่ Agodaได้ติดต่อไปที่โรงแรม ได้รับคำตอบว่าอาหารเช้าจะมีให้ห้องละ 2 คน และขนาดเตียงเป็นเตียงเล็กแค่ 3 ฟุต แต่พอมาเจอจริง ๆ มันไม่ใช่ 3 ฟุตนะคะ

อาหารเช้าของที่นี่จะมีหลักที่ไม่เปลี่ยนคือ ข้าวต้ม เส้นใหญ่ผัด ปาท่องโก๋ ไก่ทอด เบคอนทอด ออมเรท หมั่นโถ่ว (ไม่มีไส้) สลัดผัด ผลไม้ ก๋วยเตี๋ยวน้ำ แต่ผัดผักจะเปลี่ยนทุกวัน จะเริ่มเปิดบริการเวลา 07.00 – 10.00 น.

เราก็เตรียมเสบียงกันไปหลายอย่าง ทั้งมาม่า ซุป ซอสพริก ซอสมะเขือ น้ำจิ้มแจ่ว และเพื่อนที่ไปด้วยเธอเตรียมข้าวหอมมะลิไปเล็กน้อยเพื่อไปต้มข้าวต้มทาน

วันแรกไปถึงเราออกไปเดินลอดอุโมงค์ข้ามฝั่งไปไปเจอถนนคนเดิน ซึ่งน่าจะเป็นตลาดมุสลิม หรือ Muslim Quarter (回民街) >>https://www.travelchinaguide.com/attraction/shaanxi/xian/moslem-street.htm<< มีของขายแยะมากทั้งสองฝั่งถนน ทั้งของที่ระลึก ของฝาก และของรับ’ทาน มีซอกซอยเดินกันเมื่อยเลย เสียเงินกันตั้งแต่วันแรก โดยเฉพาะพวงกุญแจน่ารัก ๆ ขนมถั่วตัดหลากหลายรสชาด ทุกร้านจะมีบาร์โค้ดเพื่อให้ผู้ซื้อได้จ่ายเงินกันแบบออนไลน์ แม้แต่ร้านขายของเล่นข้างทางก็ยังมีบาร์โค้ด จีนกำลังรณรงค์ให้ประชาชนของเขาใช้จ่ายเงินโดยแบบออนไลน์ ทั้ง ๆ ที่ประชากรของเขามากกว่าเราหลายเท่า






























ระหว่างเดินกลับที่พัก บริเวณสระน้ำใกล้ ๆ หอกลอง เขามีน้ำพุประกอบดนตรี สวยงามมาก เก็บมาได้หลายภาพ พอการแสดงสิ้นสุดเราก็ลงอุโมงค์เพื่อข้ามถนนกลับขึ้นมาอีกฝั่ง และเดินกลับที่พัก ก่อนจะเข้าที่พักก็เดินเข้าไปชมร้านละดวกซื้อ ซื้อน้ำดื่ม และขนมมาตุนไว้สำหรับวันต่อไป




มารอบนี้ได้แต่ชื่นชมหอระฆัง และหอกลอง ไม่ได้ตะกายขึ้นไปเลย เวลามันไม่เอื้อ กลับมาถึงหอฯ สองหอฯ นี้ก็หมดเวลาขึ้นไปแล้ว ได้แต่เก็บภาพยามค่ำคืน ซึ่งจะเปิดไฟสวยงามมาก

อาหารมื้อเย็น เราก็ได้ปีกไก่ย่างยัดข้าว ซื้อกลับมา 2 ปีก ๆ ละ 15 หยวน เราทานได้ เอามากินกับน้ำจิ่มแจ่วที่แบกไปจากไทย รอดตายไปได้อีกมื้อ


>>>> เชิญติดตามตอนต่อไป >>>> https://ppantip.com/topic/38247100