งานวิจัยใหม่ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างความเสี่ยงของประชาชนที่ปฎิบัติตามกฎหมายกับผู้แหกกฎหมาย โดยนักวิจัยพยายามที่จะทำการวิเคราะห์และทำความเข้าใจในกระบวนการทางความคิดของอาชญากร
นักวิจัยได้ทำการวิเคราะห์โดยทำการเชื่อมโยงระบบประสาทระหว่างความเสี่ยงในการทำผิดกฎหมายกับภาวะความเป็นอาชญากรในช่วงวัยผู้ใหญ่
งานวิจัยได้มีการตีพิมพ์ในนิตยสาร Journal Of Experimental Psychology โดยมีผู้เข้าร่วมที่มีรายงานกระทำผิดทางอาชญากรรมและไม่มีแนวโน้มที่จะกระทำผิดทางอาชญากรรม โดยมีข้อเสนอ 2 ทางเลือกด้วยกันก็คือ เอาเงิน $20 ไปเลยหรือจะทำการเสี่ยงโยนหัวก้อยเพื่อได้เงิน 2 เท่าหรือไม่ได้เลย จากการวิจัยพบว่า คนที่มีแนวโน้มก่ออาชญากรรมสูงมักจะชอบเสี่ยงที่จะพนัน แม้ว่าพวกเขารู้ว่า ความเสี่ยงก็คือไม่ได้อะไรเลย โดยคนที่มีแนวโน้มก่ออาชญกรรมสูงก็มีแนวโน้มที่จะโฟกัสเอาเงิน $40 มากกว่าที่จะเอา $20
เช่นกันเมื่อพวกเขามีทางเลือกที่จะยอมเสียเงิน $20 หรือยอมเสียเงิน 2 เท่าจากการโยนหัวก้อยและไม่ได้อะไรเลย จากการวิจัยก็พบว่า คนส่วนใหญ่เลือกที่จะพนันก็เพราะว่าพวกเขาคิดว่ามันคุ้มค่ากว่าการเสียเงินบางส่วนไป คนที่มีแนวโน้มก่ออาชญากรรมสูงก็จะคิดในทางกลับกันก็คือ พวกเขายอมสูญเสียเงินจากการพนันไป
“นี่ถือเป็นความแตกต่างเพราะเป็นเรื่องของกระบวนการทางความคิด” Reyna กล่าว “มันช่วยบอกเราได้ว่าความคิดของผู้คนส่วนใหญ่ล้วนแล้วไม่เหมือนกัน และถือเป็นเรื่องใหม่และเป็นการปฎิวัติทางความคิดที่จะช่วยให้ทำความเข้าใจในส่วนของปัจจัยอื่นๆที่ช่วยอธิบายสมองของอาชญากรได้”
เมื่อได้ทำการวิเคราะห์เสร็จแล้ว นักวิจัยก็ได้ดูการทำงานของสมองผ่าน fMRI และพบว่า พฤติกรรมของอาชญากรมีความเชื่อมโยงกับการทำงานของสมองในส่วนของกลีบขมับและกลีบข้าง ซึ่งเป็นพื้นที่สมองที่มีความเชื่อมโยงกับกระบวนการคิดวิเคราะห์และใช้เหตุผล โดยคนที่ไม่มีแนวโน้มแหกกฎก็จะเผยให้เห็นถึงการทำงานอารมณ์ความรู้สึกในส่วนของอะมิกดะลา และเผยให้เห็นถึงแรงจูงใจในส่วนของพื้นที่ปมประสาท
Reyna ได้เน้นย้ำว่า อาชญากรทั้งหมดมีการใช้เหตุผลในทางแตกต่างกันออกไปและด้วยเหตุนี้ทางด้านตำรวจไม่สามารถที่จะใช้ระบบกฎหมายในการทำความเข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์ไม่ดีเท่าที่ควร ในขณะเดียวกันก็ช่วยปกป้องความเป็นอยู่ของประชาชนได้ในภาพรวม
“ฉันคิดว่าเรื่องนี้ช่วยให้พวกเราทำความเข้าใจได้ว่า จะช่วยคนหนุ่มสาวได้อย่างไร ตัวอย่างเช่นจะทำการแยกคนส่วนใหญ่ออกจากความเป็นอาชญากรได้อย่างไร พวกเขาใช้ความเสี่ยงอย่างไรเมื่อพวกเขายอมที่จะแหกกฎขึ้นมาด้วยวิธีการต่างๆอย่างไร” Reyna กล่าว
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : sciencedaily.com
ประสาทวิทยาศาสตร์เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำความเข้าใจความคิดของอาชญากรได้จริงหรือ?
งานวิจัยใหม่ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างความเสี่ยงของประชาชนที่ปฎิบัติตามกฎหมายกับผู้แหกกฎหมาย โดยนักวิจัยพยายามที่จะทำการวิเคราะห์และทำความเข้าใจในกระบวนการทางความคิดของอาชญากร
นักวิจัยได้ทำการวิเคราะห์โดยทำการเชื่อมโยงระบบประสาทระหว่างความเสี่ยงในการทำผิดกฎหมายกับภาวะความเป็นอาชญากรในช่วงวัยผู้ใหญ่
งานวิจัยได้มีการตีพิมพ์ในนิตยสาร Journal Of Experimental Psychology โดยมีผู้เข้าร่วมที่มีรายงานกระทำผิดทางอาชญากรรมและไม่มีแนวโน้มที่จะกระทำผิดทางอาชญากรรม โดยมีข้อเสนอ 2 ทางเลือกด้วยกันก็คือ เอาเงิน $20 ไปเลยหรือจะทำการเสี่ยงโยนหัวก้อยเพื่อได้เงิน 2 เท่าหรือไม่ได้เลย จากการวิจัยพบว่า คนที่มีแนวโน้มก่ออาชญากรรมสูงมักจะชอบเสี่ยงที่จะพนัน แม้ว่าพวกเขารู้ว่า ความเสี่ยงก็คือไม่ได้อะไรเลย โดยคนที่มีแนวโน้มก่ออาชญกรรมสูงก็มีแนวโน้มที่จะโฟกัสเอาเงิน $40 มากกว่าที่จะเอา $20
เช่นกันเมื่อพวกเขามีทางเลือกที่จะยอมเสียเงิน $20 หรือยอมเสียเงิน 2 เท่าจากการโยนหัวก้อยและไม่ได้อะไรเลย จากการวิจัยก็พบว่า คนส่วนใหญ่เลือกที่จะพนันก็เพราะว่าพวกเขาคิดว่ามันคุ้มค่ากว่าการเสียเงินบางส่วนไป คนที่มีแนวโน้มก่ออาชญากรรมสูงก็จะคิดในทางกลับกันก็คือ พวกเขายอมสูญเสียเงินจากการพนันไป
“นี่ถือเป็นความแตกต่างเพราะเป็นเรื่องของกระบวนการทางความคิด” Reyna กล่าว “มันช่วยบอกเราได้ว่าความคิดของผู้คนส่วนใหญ่ล้วนแล้วไม่เหมือนกัน และถือเป็นเรื่องใหม่และเป็นการปฎิวัติทางความคิดที่จะช่วยให้ทำความเข้าใจในส่วนของปัจจัยอื่นๆที่ช่วยอธิบายสมองของอาชญากรได้”
เมื่อได้ทำการวิเคราะห์เสร็จแล้ว นักวิจัยก็ได้ดูการทำงานของสมองผ่าน fMRI และพบว่า พฤติกรรมของอาชญากรมีความเชื่อมโยงกับการทำงานของสมองในส่วนของกลีบขมับและกลีบข้าง ซึ่งเป็นพื้นที่สมองที่มีความเชื่อมโยงกับกระบวนการคิดวิเคราะห์และใช้เหตุผล โดยคนที่ไม่มีแนวโน้มแหกกฎก็จะเผยให้เห็นถึงการทำงานอารมณ์ความรู้สึกในส่วนของอะมิกดะลา และเผยให้เห็นถึงแรงจูงใจในส่วนของพื้นที่ปมประสาท
Reyna ได้เน้นย้ำว่า อาชญากรทั้งหมดมีการใช้เหตุผลในทางแตกต่างกันออกไปและด้วยเหตุนี้ทางด้านตำรวจไม่สามารถที่จะใช้ระบบกฎหมายในการทำความเข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์ไม่ดีเท่าที่ควร ในขณะเดียวกันก็ช่วยปกป้องความเป็นอยู่ของประชาชนได้ในภาพรวม
“ฉันคิดว่าเรื่องนี้ช่วยให้พวกเราทำความเข้าใจได้ว่า จะช่วยคนหนุ่มสาวได้อย่างไร ตัวอย่างเช่นจะทำการแยกคนส่วนใหญ่ออกจากความเป็นอาชญากรได้อย่างไร พวกเขาใช้ความเสี่ยงอย่างไรเมื่อพวกเขายอมที่จะแหกกฎขึ้นมาด้วยวิธีการต่างๆอย่างไร” Reyna กล่าว
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : sciencedaily.com