กราบสวัสดีเพื่อนๆพันทิปทุกท่าน เป็นธรรมเนียมไปแล้วสำหรับผม กับการขี่รถเที่ยวลาวทุกปี ปีละทริป
ไปมาสามปีติด กระทู้นี้เป็นปีที่ 4
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่ไปเมื่อปีที่แล้วนะ กะทู้ค้างปี เพิ่งมีอารมณ์จะเอามาลง ถถ
แนะนำกระทู้ปีก่อนๆสักหน่อย รบกวนกดใจสปอยจร้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กระทู้ปีก่อนๆ
ปีที่1 : ทริปเล็กๆ กับรถเล็กๆ
https://ppantip.com/topic/32962547
ปีที่2 : รถวิบากฮาเฮ : ลาวเหมือนเดิม แต่ไม่เหมือนเดิม
https://ppantip.com/topic/34506355
https://ppantip.com/topic/34507491
ปีที่3 : ทางดีๆมีไม่ไป ปากเซ สนามไซย อัตตะปือ เซกอง สาละวัน สะหวันนะเขต
https://ppantip.com/topic/37069754
เอาล่ะ เริ่มกันเลย
ปีนี้ขี้เกียจฟรีรันไป เลยเอารถขึ้นรถไฟ ปลายทางหนองคาย
ส่วนตัวคนขี่ นั่งรถทัวร์ไปครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(Tip : ฟรีรัน(Free run) คือการขี่ไป ไม่ได้ขนส่งรถ ใช้ทั้งการไปและกลับ เช่น ฟรีรันไป ฟรีรันกลับ)
ค่าส่งรถ ถ้าจำไม่ผิด พันสามกว่าๆ เอารถไปส่งไว้ตั้งแต่เช้า ส่วนคน ใช้ตั๋วฟรีเพื่อนำมาแสดงในการส่งรถเท่านั้น ไปจริงๆนั่งรถทัวร์ตามไปหลังเลิกงาน
1 คืนผ่านไปไวเหมือนโกหก ถึงหนองคายแล้วจ้า
ตามกำหนดการณ์ รถมอเตอร์ไซค์ควรจะมาถึงก่อนคน แต่นั่นคือกำหนดการณ์...
ความจริงคือ เราต้องไปนอนรอที่สถานีรถไฟ เพราะรถไฟยังไม่มา ดีเลย์เป็นปกติ จนสายๆกว่าจะมาถึง
หลังจากได้รถมาแล้ว ก่อนข้ามด่านก็ฝากท้องไว้เป็นมื้อสุดท้ายสำหรับฝั่งไทย ที่แดงแหนมเนือง ไม่แพง อร่อยครับ
อิ่มท้องกันแล้วก็เริ่มเดินทาง
แต่การเดินทางครั้งนี้ ไม่ง่ายเหมือนครั้งก่อนๆ
วันนี้เราถูกปฏิเสธจาก จนท ฝั่งลาว ไม่ให้นำรถเข้า หากจะเข้าต้องผ่านทัวร์เท่านั้น
ซึ่งเราก็ทั้งอ้อนวอน ร้องขอ ยังไงก็ไม่ได้ สุดท้ายเลยขอคำปรึกษาว่า มีทัวร์แนะนำไหม
ก็ได้รับการแนะนำอย่างดี ต่อสายให้คุยกับบริษัททัวร์
เสนอค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 3,500 บาท ต่อ 1 คัน
หากต้องเสียเพิ่มในส่วนนี้ มันจะเกินจากงบที่เตรียมมาไว้มาก
จำใจเปลี่ยนแผน ข้ามสะพานกลับมาเที่ยวฝั่งไทยก็ได้
หมดความหวังนั่งนำตาริน ...
หลังจากข้ามกลับมาแล้ว หาจุดหมายที่ใกล้ที่สุด คือเชียงคาน ภูเรือ
ไหนๆก็มาแล้ว เที่ยวในไทยแทนแล้วกัน
บึ่งรถไปเชียงคาน หาที่พัก ออกมาเดินถนนคนเดินเชียงคาน
ระหว่างนั้นก็โพสตัดพ้อน้อยใจปนเซ็ง ว่าอดไป ข้ามไม่ได้
เหมือนฟ้าดินเห็นใจ อยู่ๆมีพี่ท่านหนึ่ง(ไม่ประสงค์ออกนาม) เห็นโพสของผม และได้หลังไมค์มา
บอกว่า ข้ามไม่ได้ใช่ไหม ให้มานั่งคุยที่ร้านสิ กินเบียร์ย้อมใจ
หลังจากเริ่มกึ่มๆตึงๆ พี่ท่านนั้น ก็ได้เสนอคำแนะนำและการช่วยเหลือนิดหน่อย
วันต่อมา จึงตัดสินใจ ขี่กลับไปหนองคายอีกครั้ง
วัดดวง กับคำพูดของคนที่เพิ่งจะรู้จัก
ไปถึงด่าน ข้ามสะพานเดิม พอไปถึงฝั่งลาวอีกรอบ
ไม่น่าเชื่อ จนทก็คนเดิม ห้องก็ห้องเดิม แต่วาจากิริยา คนละเรื่องกับเมื่อวาน
ทุกอย่างง่ายมาก ไม่มีปัญหา ผ่านฉลุย เหมือนไม่มีปัญหาแบบเมื่อวานเกิดขึ้น
ในที่สุด
ทะเลเอาจริง หรือเพียงจะวัดใจใคร
เหมือนคำขู่ท้าทาย ให้ยอมจำนน
แต่ผมไม่ยอม สุดท้ายก็ข้ามมาจนได้ 555
ถึงจะข้ามมาได้แบบงงๆก็เถอะ
เป้าหมายแรกของวันนี้ คือวังเวียง
มาถึงแล้วโว้ยยยยยย
เนื่องจากการเสียเวลาขับไปกลับเชียงคาน ทำให้เสียเวลาไป 1 วัน เลยไม่มีเวลาจะหาที่พัก
เล่นง่ายๆก็ นอนมันที่เดิมแล้วกัน บัวขาว เกสเฮ้าส์ ไม่แพง ที่จอดรถปลอดภัย แนะนำครับ
เข้าที่พักแล้วก็ออกไปขี่เก็บภาพบรรยากาศวังเวียง
คิดถึงจัง
แวะไปบลูลากูน แต่ฟ้ากลั่นแกล้ง ช่วงนี่ที่ลาวดันมีฝนหลงฤดู
ทำให้ บลูลากูน กลายเป็น บราวน์ลากูน 555 ไม่ได้เก็บภาพไว้ แต่ขุ่น ดำ ไม่น่าเล่นเลย
ตกค่ำก็ไปเดินถนนคนเดินวังเวียง และต้องไม่พลาดร้านนี้
วันต่อมา ผมกับสมาชิกได้แยกกันไป น้องเขาอยากอยู่เที่ยววังเวียง ส่วนผมอยากไปหลวงพระบาง
ระหว่างทางไปหลวงพระบาง เจอฝนประปราย ชุ่มชื้น เย็นฉ่ำ วิวและบรรยากาศยังสวยงามเมหือนเดิม
ตัดภาพมาถึงที่พัก ที่พี่ท่านนั้น ได้ให้คำแนะนำไว้ มาถึงแล้วให้บอกชื่อได้เลย เขาจะแจ้งไว้
ทุกอย่าง ง่ายเหมือนเดิมอีกแล้ว แค่บอกชื่อ คนดูแลก็พามาที่ห้องได้เตรียมไว้แล้ว แถมยังอัพเกรดห้องให้ ในราคาของ"ห้องปกติที่ลดราคามาครึ่งหนึ่ง"
เป็นห้องใหญ่ที่สุด พี่เขาคงคิดว่าจะมาสองคันเลยให้จัดห้องใหญ่ไว้ให้
เช็คอินที่พักแล้วก็ออกไปชมบรรยากาศ สเน่ห์ของหลวงพระบาง
เช่นเคยครับ สวยงาม เรียบง่าย เหมือนเดิม
หมาล่าอร่อยมาก กินหลายรอบ เจอเป็นแวะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่นี่เค้าเรียกว่าปิ้งจีน น่าจะเพราะมันแพร่มาจากจีน
ตั้งใจจะอยู่หลวงพระบางสักสองวัน แต่วันต่อมา ดันฝนตก ตกพรำๆแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
เลยเปลี่ยนแผนอีกรอบ อยู่ไปก็ไม่ได้เที่ยว เช็คเอาท์ออกกลับไปเวียงจันท์ดีกว่า
ระหว่างทางก็ขี่ชมวิว กินบรยากาศไปเรื่อยๆ ภูมิประเทศในลาวสวยมาก ขี่กี่รอบก็ไม่เบื่อ
มาถึงเวียงจันท์ก็หัวค่ำพอดี คืนนี้พักที่นี่ครับ โรงแรมเรืองจะเลิน
ชมเมืองเวียงจันทน์ยามค่ำคืน ประตูไซ มากี่ทีก็ถ่ายทุกที
แวะกินเบเกอรี่ในลาว สโลว์ไล้ฟ์สุดๆ
นั่งๆอยู่ในร้าน อยากเล่นเน็ต อัพเฟสส่งข่าวสักหน่อย ร้านก็ไม่มีไวไฟ
วิธีการก็คือ ขี่รถมาริมโขงเลยครับ มาดึงคลื่นไทย
เล่นเน็ต อัพเฟส ส่งไลน์จนหนำใจแล้วก็กลับห้องพัก นอนหลับให้เพียงพอ พรุ่งนี้ต้องขี่รถไกลกลับบ้าน
วันต่อมาเป็นวันสุดท้ายที่อยู่ในลาวแล้ว เช็คเอาท์ออกมาก็วนเที่ยวในเวียงจันท์
เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้ขี่เที่ยวเวียงจันทน์ในช่วงกลางวัน เพราะครั้งอื่นๆพอเช็คเอาท์ผมก็ข้ามกลับเลย
แวะพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ ยิ่งใหญ่ สีทองอร่ามสวยงามมาก
หอพระแก้ว
วัดสีสะเกต เจอคู่บ่าวสาวลาวมาถ่ายพรีเวดดิ้งด้วย น่ารักดีครับ
สวนพุท กว้างมาก เดินเพลิน แต่ร้อนไปหน่อย
แล้วก็ขี่เที่ยวในเมืองดูบรรยากาศนิดหน่อยก่อนข้ามกลับ
ลาแล้วนะเมืองลาว ปีหน้า(ปีนี้แหละ) เจอกันใหม่
ทริปนี้ต้องขอขอบคุณ พี่ที่ไม่ประสงค์ออกนาม ที่ให้การช่วยเหลือและคำแนะนำ
ถ้าไม่ได้พี่ท่านนั้น ทริปคงล่มไปแล้ว
เจอกันทริปหน้าครับ สวัสดี
ทริปลาวปี 4 เกือบไปไม่ถึง
ไปมาสามปีติด กระทู้นี้เป็นปีที่ 4 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แนะนำกระทู้ปีก่อนๆสักหน่อย รบกวนกดใจสปอยจร้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เอาล่ะ เริ่มกันเลย
ปีนี้ขี้เกียจฟรีรันไป เลยเอารถขึ้นรถไฟ ปลายทางหนองคาย
ส่วนตัวคนขี่ นั่งรถทัวร์ไปครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ค่าส่งรถ ถ้าจำไม่ผิด พันสามกว่าๆ เอารถไปส่งไว้ตั้งแต่เช้า ส่วนคน ใช้ตั๋วฟรีเพื่อนำมาแสดงในการส่งรถเท่านั้น ไปจริงๆนั่งรถทัวร์ตามไปหลังเลิกงาน
1 คืนผ่านไปไวเหมือนโกหก ถึงหนองคายแล้วจ้า
ตามกำหนดการณ์ รถมอเตอร์ไซค์ควรจะมาถึงก่อนคน แต่นั่นคือกำหนดการณ์...
ความจริงคือ เราต้องไปนอนรอที่สถานีรถไฟ เพราะรถไฟยังไม่มา ดีเลย์เป็นปกติ จนสายๆกว่าจะมาถึง
หลังจากได้รถมาแล้ว ก่อนข้ามด่านก็ฝากท้องไว้เป็นมื้อสุดท้ายสำหรับฝั่งไทย ที่แดงแหนมเนือง ไม่แพง อร่อยครับ
อิ่มท้องกันแล้วก็เริ่มเดินทาง
แต่การเดินทางครั้งนี้ ไม่ง่ายเหมือนครั้งก่อนๆ
วันนี้เราถูกปฏิเสธจาก จนท ฝั่งลาว ไม่ให้นำรถเข้า หากจะเข้าต้องผ่านทัวร์เท่านั้น
ซึ่งเราก็ทั้งอ้อนวอน ร้องขอ ยังไงก็ไม่ได้ สุดท้ายเลยขอคำปรึกษาว่า มีทัวร์แนะนำไหม
ก็ได้รับการแนะนำอย่างดี ต่อสายให้คุยกับบริษัททัวร์
เสนอค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 3,500 บาท ต่อ 1 คัน
หากต้องเสียเพิ่มในส่วนนี้ มันจะเกินจากงบที่เตรียมมาไว้มาก
จำใจเปลี่ยนแผน ข้ามสะพานกลับมาเที่ยวฝั่งไทยก็ได้
หมดความหวังนั่งนำตาริน ...
หลังจากข้ามกลับมาแล้ว หาจุดหมายที่ใกล้ที่สุด คือเชียงคาน ภูเรือ
ไหนๆก็มาแล้ว เที่ยวในไทยแทนแล้วกัน
บึ่งรถไปเชียงคาน หาที่พัก ออกมาเดินถนนคนเดินเชียงคาน
ระหว่างนั้นก็โพสตัดพ้อน้อยใจปนเซ็ง ว่าอดไป ข้ามไม่ได้
เหมือนฟ้าดินเห็นใจ อยู่ๆมีพี่ท่านหนึ่ง(ไม่ประสงค์ออกนาม) เห็นโพสของผม และได้หลังไมค์มา
บอกว่า ข้ามไม่ได้ใช่ไหม ให้มานั่งคุยที่ร้านสิ กินเบียร์ย้อมใจ
หลังจากเริ่มกึ่มๆตึงๆ พี่ท่านนั้น ก็ได้เสนอคำแนะนำและการช่วยเหลือนิดหน่อย
วันต่อมา จึงตัดสินใจ ขี่กลับไปหนองคายอีกครั้ง
วัดดวง กับคำพูดของคนที่เพิ่งจะรู้จัก
ไปถึงด่าน ข้ามสะพานเดิม พอไปถึงฝั่งลาวอีกรอบ
ไม่น่าเชื่อ จนทก็คนเดิม ห้องก็ห้องเดิม แต่วาจากิริยา คนละเรื่องกับเมื่อวาน
ทุกอย่างง่ายมาก ไม่มีปัญหา ผ่านฉลุย เหมือนไม่มีปัญหาแบบเมื่อวานเกิดขึ้น
ในที่สุด
ทะเลเอาจริง หรือเพียงจะวัดใจใคร
เหมือนคำขู่ท้าทาย ให้ยอมจำนน
แต่ผมไม่ยอม สุดท้ายก็ข้ามมาจนได้ 555
ถึงจะข้ามมาได้แบบงงๆก็เถอะ
เป้าหมายแรกของวันนี้ คือวังเวียง
มาถึงแล้วโว้ยยยยยย
เนื่องจากการเสียเวลาขับไปกลับเชียงคาน ทำให้เสียเวลาไป 1 วัน เลยไม่มีเวลาจะหาที่พัก
เล่นง่ายๆก็ นอนมันที่เดิมแล้วกัน บัวขาว เกสเฮ้าส์ ไม่แพง ที่จอดรถปลอดภัย แนะนำครับ
เข้าที่พักแล้วก็ออกไปขี่เก็บภาพบรรยากาศวังเวียง
คิดถึงจัง
แวะไปบลูลากูน แต่ฟ้ากลั่นแกล้ง ช่วงนี่ที่ลาวดันมีฝนหลงฤดู
ทำให้ บลูลากูน กลายเป็น บราวน์ลากูน 555 ไม่ได้เก็บภาพไว้ แต่ขุ่น ดำ ไม่น่าเล่นเลย
ตกค่ำก็ไปเดินถนนคนเดินวังเวียง และต้องไม่พลาดร้านนี้
วันต่อมา ผมกับสมาชิกได้แยกกันไป น้องเขาอยากอยู่เที่ยววังเวียง ส่วนผมอยากไปหลวงพระบาง
ระหว่างทางไปหลวงพระบาง เจอฝนประปราย ชุ่มชื้น เย็นฉ่ำ วิวและบรรยากาศยังสวยงามเมหือนเดิม
ตัดภาพมาถึงที่พัก ที่พี่ท่านนั้น ได้ให้คำแนะนำไว้ มาถึงแล้วให้บอกชื่อได้เลย เขาจะแจ้งไว้
ทุกอย่าง ง่ายเหมือนเดิมอีกแล้ว แค่บอกชื่อ คนดูแลก็พามาที่ห้องได้เตรียมไว้แล้ว แถมยังอัพเกรดห้องให้ ในราคาของ"ห้องปกติที่ลดราคามาครึ่งหนึ่ง"
เป็นห้องใหญ่ที่สุด พี่เขาคงคิดว่าจะมาสองคันเลยให้จัดห้องใหญ่ไว้ให้
เช็คอินที่พักแล้วก็ออกไปชมบรรยากาศ สเน่ห์ของหลวงพระบาง
เช่นเคยครับ สวยงาม เรียบง่าย เหมือนเดิม
หมาล่าอร่อยมาก กินหลายรอบ เจอเป็นแวะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตั้งใจจะอยู่หลวงพระบางสักสองวัน แต่วันต่อมา ดันฝนตก ตกพรำๆแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
เลยเปลี่ยนแผนอีกรอบ อยู่ไปก็ไม่ได้เที่ยว เช็คเอาท์ออกกลับไปเวียงจันท์ดีกว่า
ระหว่างทางก็ขี่ชมวิว กินบรยากาศไปเรื่อยๆ ภูมิประเทศในลาวสวยมาก ขี่กี่รอบก็ไม่เบื่อ
มาถึงเวียงจันท์ก็หัวค่ำพอดี คืนนี้พักที่นี่ครับ โรงแรมเรืองจะเลิน
ชมเมืองเวียงจันทน์ยามค่ำคืน ประตูไซ มากี่ทีก็ถ่ายทุกที
แวะกินเบเกอรี่ในลาว สโลว์ไล้ฟ์สุดๆ
นั่งๆอยู่ในร้าน อยากเล่นเน็ต อัพเฟสส่งข่าวสักหน่อย ร้านก็ไม่มีไวไฟ
วิธีการก็คือ ขี่รถมาริมโขงเลยครับ มาดึงคลื่นไทย
เล่นเน็ต อัพเฟส ส่งไลน์จนหนำใจแล้วก็กลับห้องพัก นอนหลับให้เพียงพอ พรุ่งนี้ต้องขี่รถไกลกลับบ้าน
วันต่อมาเป็นวันสุดท้ายที่อยู่ในลาวแล้ว เช็คเอาท์ออกมาก็วนเที่ยวในเวียงจันท์
เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้ขี่เที่ยวเวียงจันทน์ในช่วงกลางวัน เพราะครั้งอื่นๆพอเช็คเอาท์ผมก็ข้ามกลับเลย
แวะพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ ยิ่งใหญ่ สีทองอร่ามสวยงามมาก
หอพระแก้ว
วัดสีสะเกต เจอคู่บ่าวสาวลาวมาถ่ายพรีเวดดิ้งด้วย น่ารักดีครับ
สวนพุท กว้างมาก เดินเพลิน แต่ร้อนไปหน่อย
แล้วก็ขี่เที่ยวในเมืองดูบรรยากาศนิดหน่อยก่อนข้ามกลับ
ลาแล้วนะเมืองลาว ปีหน้า(ปีนี้แหละ) เจอกันใหม่
ทริปนี้ต้องขอขอบคุณ พี่ที่ไม่ประสงค์ออกนาม ที่ให้การช่วยเหลือและคำแนะนำ
ถ้าไม่ได้พี่ท่านนั้น ทริปคงล่มไปแล้ว
เจอกันทริปหน้าครับ สวัสดี