ประสบการณ์สยอง จอประสาทตาลอกกับการผ่าตัด3ครั้ง คนสายตาสั้นต้องอ่าน!!!

สวัสดีค่ะ เราขอมาแชร์ประสบการณ์การป่วยทางตา ที่ถือว่าร้ายแรงที่สุดในบรรดาโรคตาทั้งหมด
ซึ่งก็คือ "จอประสาทตาหลุดลอก" สาเหตุที่ทำให้จอตาลอกของเราคือ ภาวะสายตาสั้นอย่างมาก
ข้างขวาที่ลอกสั้น 1000 และข้างซ้าย 825
สัญญาณเตือน : เรามีอาการฟ้าแลบที่ตาข้างขวา เมื่อประมาณ 3-4ปีที่แล้ว แต่ไม่ได้มีอาการเอะใจแต่อย่างใด เพราะไม่เจ็บหรือปวดตา เลยคิดว่าไม่อันตราย แต่ที่จริง มันคือสัญญาณเตือนก่อนจอตาจะหลุดลอก!!!
หลังจากอาการเห็นฟ้าแลบในตา เราเริ่มเห็นแสงแฟลชวิ่งขึ้นที่หัวตา ในเวลากลางคืน หรือปิดไฟในที่มืด โดยจะมีแสงลูกเล็กๆสีขาวๆเหมือนแฟลชกล้องถ่ายรูป วิ่งขึ้นหรือลงอย่างช้าๆ นั่นคือภาวะที่นำวุ้นตาเข้าไปในจอประสาทตาจากรูที่ขาดนั่นเอง
ปกติเราจะเป็นคนที่ไม่กลัวการหาหมอ แต่ครั้งนี้ ด้วยความที่มันไม่มีอาการปวดตา หรือเจ็บตา เราก็เลยไม่มีความคิดว่าต้องไปหาหมอเข้ามาในหัวเลยแม้แต่น้อย

หน้าที่ของจอประสาทตาคืออะไร : จอประสาทตาประกอบด้วยเส้นประสาทตาที่มีความละเอียดสูงอยู่ในผนังชั้นในของลูกตา ทำหน้าที่คล้ายกับฟิล์มถ่ายรูปโดยจะส่งผ่านรูปไปยังสมอง ซึ่งในภาวะสายตาปกติ การหักเหของแสงจะลงมาตกกระทบที่จอประสาทตาพอดี (ข้อมูลจาก http://www.laservisionthai.com/health-corner/%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B2-anatomy-eye )

วันที่อาการเริ่มชัดเจน : เย็นวันหนึ่งเรากลับถึงบ้านและจะทำการเปลี่ยนจากคอนแทคเลนส์เป็นแว่นธรรมดา แต่รู้สึกว่าตาขวา ทำไมมันมัวๆ เหมือนมีหมอกบางๆ จางๆมาบัง ด้วยความเป็นคนช่างสังเกต จึงเอามือปิดตาข้างซ้ายไว้ และลองอ่านตัวหนังสือ ปรากฎว่า... ตัวหนังสือมันเบี้ยวๆ บิดๆ เริ่มตกใจมากขึ้น ว่ามันต้องมีอะไรไม่ปกติแน่นอนเข้าแล้ว ตอนนั้นพลางคิดไปถึงอาการผิดปกติของสมองหรือเปล่า
ตรวจเจอครั้งแรก : เราขอหัวหน้าลางานมาครึ่งวัน ไป รพ. หมอให้หยอดยาขยายม่านตา และทำการตรวจ หมอทำเสียงตกใจ ว่า เห้ยยย จอประสาทตาลอก!! เราก็ จอประสาทตาลอก มันคืออะไร มันอยู่ตรงไหนของตา  
หมอได้อธิบายว่า ตาเราก็เหมือนลูกมะพร้าว จอประสาทตาคือเนื้อมะพร้าว น้ำมะพร้าวเปรียบเสมือนวุ้นตา ในคนสายตาสั้นมากก็จะเกิดวุ้นตาเสื่อม ก็จะไปดึงรั้งจอประสาทตาให้เป็นรูฉีกขาด และน้ำวุ้นตาก็จะเข้าไปในรูฉีกขาดนั้นไปเรื่อยๆและเมื่อลอกไปถึงจุดภาพชัด จึงจะทำให้เรารู้สึกตามัว
คุณหมอบอกว่า ภาวะที่เราเป็น ถือว่าเร่งด่วน ต้องผ่าตัดให้เร็วที่สุด เราก็ใจตกเลยครั้งนี้ ที่ รพ. นี้ ไม่มีเครื่องมือเฉพาะบางชนิดที่จะผ่าตัดได้ จึงแนะนำให้เราไป รพ. ใหญ่ๆ แล้วก็ถามว่า เราใช้ประกัน หรือ ประกันสังคมไหม เราบอก บริษัทจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้หมดทุกอย่าง หมอจึงเขียนใบส่งตัวให้ พร้อมภาพแสกนจอตาแบบสามมิติไปเป็นหลักฐานด้วย ก่อนไปคุณหมอบอกทำไมบริษัทเราดีอย่างนี้ หาที่ไหนไม่ได้แล้วนะบริษัทที่support ค่ารักษาพยาบาล 100% แบบนี้ อย่าลาออกนะ!

การผ่าครั้งที่ 1: คุณหมอผ่าตัดเอาน้ำวุ้นตาออกและทำการใส่น้ำมันชนิดหนักไว้ ข้อดีคือ ไม่ต้องนอนคว่ำหน้า โดยหมอแพลนใส่น้ำมันนี้ไว้3เดือนและจะผ่าเอาออกพร้อมเปลี่ยนเลนส์ตา(ผ่าต้อกระจก)ไปเลย แต่โชคชะตาบางทีก็ทำร้ายกัน เราแพ้น้ำมันหนัก ทำให้ต้องเอาออกในสัปดาห์ที่3หลังผ่าตัด โดยหมอบอกว่าต้องใส่แก๊สนะและต้องนอนคว่ำหน้าอย่างน้อย 1 เดือน ครั้งนี้คุณหมอใช้วิธีดมยาสลบ

การผ่าครั้งที่ 2: ตาระบมกว่าครั้งแรกมากๆ และเป็นโรคที่เราคิดว่ามันทรมานที่สุดเพราะต้องนอนคว่ำแบบจริงๆจังๆทั้งวันทั้งคืน เพื่อทำให้จอประสาทตาติดดีและทำให้ไม่เป็นต้อกระจกไว จำได้ว่าทรมานมาก ปวดคอ ปวดหลัง ปวดไปหมด ต้องลุกหยอดยาทุก 2 ชม. แรกๆ คือจอตาติดดี แต่ๆๆ ในวีคที่ 6 พบว่าหลุดอีกครั้ง เหตุเพราะเส้นเลือดอักเสบที่เกิดจากการผ่าหนแรก ยังไม่หายไปและทำให้จอตาเปื่อย แทบจะร้องไห้อีกครั้งเมื่อหมอบอกมันหลุดอีก

การผ่าครั้งที่ 3: ครั้งนี้คุณหมอใช้วิธีผ่าตัดหนุนจอประสาทตาโดยนำยางซิลิโคนเข้าไปรัดรอบลูกตาขาว และใส่น้ำมันซิลิโคนออยล์ชนิดเบา เราต้องคว่ำหน้าไป 3 สัปดาห์ รอบนี้ดมยาสลบเพราะเป็นการผ่าตัดใหญ่ ครั้งนี้ไม่ค่อยทรมานแล้วสงสัยเพราะคว่ำจนชินมาจากครั้งที่แล้วและจัดอุปกรณ์หมอนให้รู้สึกสบายกับตัวเราเอง ผลการตรวจผ่านมาหนึ่งเดือนครึ่ง ปรากฎว่าจอตาติดดี หมอถอดเลนส์ตาเราออกไปตอนผ่าด้วยเลยเพราะมันเป็นต้อขุ่นมากแล้ว และจะใส่เลนส์ตาเทียมตอนที่ผ่าเอาน้ำมันออกมา เราเองก็ได้แต่ภาวนาให้มันติดดีไปแบบนี้ตลอด ตอนนี้ก็เท่ากับว่าใช้ตาข้างเดียวเป็นหลัก

สิ่งที่มากับโรคนี้คือ ความเครียด ความกังวล เพราะตาเป็นเรื่องสำคัญมากๆ แถมโรคนี้มีความทรมานที่ต้องนอนคว่ำเข้ามาทับถมจิตใจคนป่วย ดังนั้นกำลังใจจากคนรอบข้างสำคัญมาก ที่สำคัญคือคุณหมอเราดีมากๆและเก่งมากๆ เข้าใจในทั้งการเจ็บป่วยด้านร่างกายและจิตใจของเรา อยากกราบคุณหมอมากๆจริงๆ

ใครที่มีภาวะสายตาสั้น ควรตรวจตาอย่างน้อยปีละครั้ง (ใจจริงอยากให้ร้านแว่นทำป้ายโปสเตอร์เกี่ยวกับคนที่มีภาวะสายตาสั้นไม่ใช่เพียงตรวจวัดสายตาเพื่อตัดแว่นเท่านั้น แต่ควรตรวจกับจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละครั้งอย่างสม่ำเสมอ) เพราะหากเจอแค่รูเล็กๆยังไม่ลอก คุณหมอจะทำการเลเซอร์ให้ (แต่เลเซอร์จอตาขอบอกว่าเจ็บมากๆๆๆๆ น้ำหูน้ำตาไหลท่วมที่รองคาง อย่างน้อยก็ดีกว่าต้องผ่าตัดแหละ) ใครที่เป็นอยู่ หรืออยากพูดคุยเรื่องการรักษาแบบละเอียด หลังไมค์มาสอบถามได้นะคะหรือจะอีเมล์ก็ได้ค่ะ hopeforeyes@yahoo.com
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่