แรมของSmartphoneไม่ได้ทำให้เกมในSmartphoneกระตุก

แรมของSmartphoneที่เหลือพื้นที่มากพอ จะทำให้สลับเปิดแอปฯไปมาได้  
แรมที่ไวของSmartophone จะช่วยให้สลับเปิดแอปฯไปมาได้ไว แต่ถ้าพื้นที่แรมไม่พอให้คงสภาวะการจดจำหน้าแอปฯที่เปิดทิ้งไว้
พอกลับไปใช้แอปฯนั้นหลังจากเพิ่งเปลี่ยนไปใช้อีกแอปฯ แอปฯที่เปิดค้างไว้ก่อนนั้นจะต้องเสียเวลาดาวน์โหลดหน้าแอปฯแบบตอนเปิดเข้าใหม่ ก็แค่นั้น
ความไวแรม กับ พื้นที่แรม คนละเรื่องกัน แต่ไม่ว่าจะเรื่องความไวแรมหรือพื้นที่แรมของSmartphone ต่างก็ไม่ได้ทำให้เกมplatform smartphoneกระตุกแน่นอน

ที่ทำให้เกมกระตุก คือ ความร้อนที่ชิปเซตจัดการได้ไม่ดี(ชิปเซตที่เก่ามากๆ เลี่ยงปัญหานี้ได้ยาก) การระบายความร้อนของเครื่องที่ไม่ค่อยดี(ทั้งจากวัสดุด้านหลังเครื่องเอง และจากการใช้เคสชนิดที่ถ่ายเทความร้อนยาก) การประมวลผลของCPUก็มีผลด้วย , รวมถึงการต้องแบกการประมวลผลกราฟิคของGPUเพื่อแสดงผลกราฟิคเกมกับความละเอียดจอที่ผู้ใช้ปรับไม่สมดุลกัน , อินเทอร์เน็ตที่pingเยอะ(ต่อให้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง แต่ถ้าpingเยอะ เกมก็กระตุกได้ เพราะการตอบสนองเกมที่เชื่อมต่อไปที่เซิร์ฟเวอร์เกมมันหน่วง,การส่งข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์เกมมาที่เครื่องก็จะหน่วงเช่นกัน)

วัสดุด้านหลังเครื่องที่ทำให้ผู้ใช้รับรู้ได้ว่าอุ่นมากได้ไว แล้วระบายความร้อนได้เร็วด้วย ดีกว่า ด้านหลังเครื่องที่กว่าจะส่งผ่านความร้อนสู่ด้านหลังภายนอกได้ ใช้เวลานานเกินไป ทั้งๆที่ภายในก็ร้อนฉ่ามากกว่าภายนอกไปนานแล้ว

ผมเคยทดลอง VS กันในเกมอื่น
เครื่องผมที่แรม 1 GB ความละเอียดจอ HD GPUเก่ากว่า clock speed processช้ากว่า CPU clock speed processช้ากว่า กลับเล่นเกมลื่นกว่า เครื่องผมที่แรม 3 GB ความละเอียดจอ Full HD GPUใหม่กว่า clock speed processเร็วกว่า CPU clock speed processไวกว่า ในเกมที่เหมาะกับจอ HD และ GPU เหมาะประมวลผลจอ HD
โดยเกมนั้นเป็นเกมที่ใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งผมก็ใช้อินเทอร์เน็ตจากแหล่งเดียวกัน ความเร็วเท่ากัน ในการทดลองทั้ง 2 เครื่อง
ซึ่งเกมที่ใช้ทดลอง เป็นเกมที่ล็อคการตั้งค่ากราฟิค จากทางผู้พัฒนาเกม ผู้เล่นเกมทั่วไป ปรับกราฟิคเองไม่ได้(ผมก็เป็นผู้เล่นเกมทั่วไป=ผมจะปรับกราฟิคเกมนั้นไม่ได้ ผู้พัฒนาเกมตั้งค่ากราฟิคมาระดับไหน ก็ต้องเล่นไปด้วยการตั้งค่าแบบนั้น)