Bohemian Rhapsody : ไปดูแบบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวง Queen แต่เข้าไปเสพบรรยากาศยุค Analog ก็คุ้มแล้ว (ไม่สปอยแน่ๆ)


ออกตัวไว้ก่อนเลย ผมเกิดไม่ทันวงควีน ( Queen ) แม้แต่คอนเสิร์ตที่เป็นไฮไลท์ในหนัง เวลานั้นผมก็เพิ่งมีอายุแค่ 4 เดือน ( LIVE AID ที่ Wembley จัดวันที่ 13 ก.ค. 1985 ส่วนผมเกิด 14 มี.ค. 1985 ) แต่ด้วยความที่โตมากับหลายๆ เพลง คุ้นบ้างไม่คุ้นบ้าง โดยเฉพาะที่แน่ๆ เลยคือ 2 เพลงประจำงานกีฬา ไปที่ไหนต้องมีอย่าง We will rock you กับ We are the champions เรียกว่าถ้าเกิดและโตจำความได้ทันยุค 1990s ต้องได้ฟังกันจนเอียนไปข้าง แถมมีคนริวิวไว้ก่อนหน้า บอกถึงจะเป็นหนังสารคดีแต่ดูแล้วไม่เบื่อ และถึงคุณจะไม่ใช่แฟนหรือแม้แต่ไม่รู้จักวงนี้เลยก็ยังสามารถดูได้สนุกไม่ง่วงแน่นอน เลยขอลองสักครั้ง ซึ่งนี่เป็นหนแรกที่ผมตีตั๋วเข้าไปดูหนังที่ไม่ใช่แอ็คชั่น
.
แล้วก็เป็นไปตามที่หลายคนรีวิวจริงๆ ผมเกิดไม่ทันหรอกยุค 1970s - 1980s น่ะ แต่แค่เห็นหนังพาย้อนกลับไปดูบรรยากาศยุคนั้น ทั้งมุมสวยๆ เห็นความฝันของวัยรุ่นที่อยากเป็นศิลปินดังที่ถ้าไม่รอแมวมองจากค่ายเทปก็ต้องทำเดโมไปเสนอค่ายเอง ( สมัยนี้โฆษณาตัวเองได้ด้วยการอัปโหลดบนสื่อออนไลน์ ) แน่นอนว่ามีน้อยมากที่จะได้เป็นอย่างฝัน และถึงจะได้ออกอัลบั้มแล้วก็ใช่ว่าจะอยู่ได้ยาวๆ ( หลายคนหรือหลายวง ออกแค่ชุดเดียวก็จบแค่นั้นหายไปเลย ) ได้เห็นบรรยากาศการทัวร์คอนเสิร์ตที่ยิ่งไปไกลไปหลายที่หลายประเทศก็คือที่สุดแล้วของชีวิตศิลปิน ( พร้อมๆ กับผู้ชมที่ดื่มด่ำกับบทเพลงและการแสดงตรงหน้าอย่างเต็มที่ไม่ต้องห่วงเอามือถือมาถ่ายคลิปหรือถ่ายรูปเซลฟี่ ) และมุมหม่นๆ อย่างเหล้า - บุหรี่ที่มาเต็ม ( แต่ผมดันชอบนะ รู้สึกโลกสมัยนั้นมันดิบๆ ตรงไปตรงมาดี อย่างผมนี่ทุกวันนี้ว่างๆ ก็ยังหาโฆษณาเหล้า - เบียร์ยุคที่บ้านเรายังไม่ห้ามโฆษณามาดูตอนว่างๆ ) หรือการเป็นเพศที่ 3 ที่คนยุคนั้นยังไม่ยอมรับ ( อันนี้คนที่เกิดก่อนยุค 2000s จะเข้าใจดีว่าการรักเพศเดียวกันเป็นเรื่องต้องห้ามมากๆ ต้องปกปิดเพราะเป็นเรื่องต้องห้ามในสังคม หรือถึงตัวเองรู้ก็ยากที่จะยอมรับ กลายเป็นเกลียดหรือสับสนในตัวเองก็มี ) รวมถึงยุคที่ นสพ.เสนอข่าวบันเทิงแบบหวือหวาว่าด้วยชีวิตส่วนตัวคนดัง ( โดยที่คนดังยุคก่อนไม่ได้มีภูมิคุ้มกันทางอารมณ์มากเท่ายุคหลังๆ เช่นเดียวกับสื่อสมัยก่อนที่ก็พาดหัวและบรรยายแรงมากเช่นกัน )  
.
หนังพาให้คนที่อายุขึ้นเลขสามอย่างผมอินตามไปหมดเลย เพราะถึงผมจะยังเด็กช่วงยุค 1990s และเป็นวัยรุ่นยุคต้น 2000s แต่ด้วยความที่โลกยุคนั้นมันไม่ได้เปลี่ยนแบบเร็วๆ เท่าไร แผ่นเสียงอาจไม่ทัน แต่ก็รู้ความว่าทันยุคม้วนเทป ยุคม้วนวีดีโอ ยุคที่รายการวิทยุคือทุกอย่าง ถ้าเพลงไหนดังทางวิทยุเพลงนั้นก็จะถูกนำไปร้องเมื่อศิลปินออกโทรทัศน์แล้วก็ต้องได้ทำมิวสิควีดีโอ ยุคที่การไปดูคอนเสิร์ตศิลปินที่ชื่นชอบถือเป็นห้วงเวลาสุดๆ ของความประทับใจ ฯลฯ แถมด้วยบทและนักแสดงหลักทั้ง 4 คน ที่ทำให้เชื่อได้ว่าควีนเป็นมากกว่าแค่วงดนตรี คือเป็น "ครอบครัว" ที่อาจจะมีปากเสียงทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่อยๆ แต่ก็ไม่สามารถแยกจากกันได้เพราะทุกคนเติมเต็มซึ่งกันและกันอย่างลงตัว ที่สำคัญหนังเล่าค่อนข้างเร็ว ( พอๆ กับอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของเฟรดดี้ นักร้องนำนั่นละ และ Rami Malek ในบทเฟรดดี้ก็พาอิน ทั้งน่าหมั่นไส้และน่าสงสารไปพร้อมๆ กัน ) จึงไม่น่าเบื่อ ไม่มีช่วงชวนง่วงเลยไปจนจบเรื่อง
.
สรุปผมไม่ได้มาวิจารณ์หนังละ มาบ่นตามประสาคนอยากรำลึกบรรยากาศยุค Analog เฉยๆ ซึ่งแค่นั้นก็คุ้มละกับค่าตั๋วครับ ( ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจนจบนะ )
.
ปล.We will rock you เป็นเพลงแรกของวงนี้ืที่เคยได้ยินเท่าที่จำความได้ บ้านเรายุคต้น ( หรือกลาง) 1990s นี่แหละเอามาประกอบโฆษณาขนมแท่งๆ ยี่ห้อหนึ่ง ( จำชื่อไม่ได้ ) จำได้ลางๆ คือเป็นกิจกรรมให้โพสต์ท่ากินขนมแท่งๆ นี้ในลักษณะงัดข้อกับเพื่อน ถ่ายรูปส่งไปชิงรางวัลเครื่องเกมซุปเปอร์แฟมิคอมพร้อมหัวโปร ( ตัวเล่นเกมได้ด้วยเผ่นดิสก์ไม่ต้องใช้ตลับ เด็กยุค 90s ต้องคุ้นแน่ๆ )

TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่