ออกจากสนามบินช้างพาเราไปที่เจดีย์กลางน้ำ เยเลพญา ที่สิเรียมเลยค่ะ ถนนจะขรุขระหน่อยเพราะเค้ากำลังก่อสร้าง ไปถึงเยลาพญาช้างเป็นคนติดต่อเรื่องดอกไม้เรือข้ามฟาก แล้วก็พาไหว้ ที่นี่เดินตรงไปที่ศาลากลางน้ำจะเจอพระมหาอุปคุตค่ะเชื่อกันว่าพระอุปคุตจะบันดาลให้มีกินมีใช้ไม่ขาด จากนั้นก็ไหว้เทพทันใจพี่มดดำบอกว่าที่นี่ศักดิ์สิทธิ์ค่ะ
              
              ออกจากเยเลพญา เราก็มุ่งหน้าไปเจดีย์ไจ๊เข้า (Kyaik Khauk pagoda) มาถึงจอดรถที่ลานจอดรถเดินขึ้นบันไดมาถอดรองเท้าแล้วก็ขึ้นลิฟต์มาค่ะ ที่นี่ก็สวยงามไม่แพ้กัน เชื่อกันว่าเทพทันใจที่นี่เป็นหัวหน้าเทพทันใจขออะไรจะสำฤทธิ์ผลเร็วมาก พอสักการะเทพทันใจเสร็จยังมีบริเวณใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งจะมีโพรงคล้ายถ้ำเชื่อว่าเชื่อมต่อกับอีกโลกหนึ่งบริเวณนี้จะมีขันน้ำให้เรากรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวรได้

                 ออกจากวัดไจ๊เข้า เรามุ่งหน้าสู่ย่างกุ้ง สภาพข้างทางของพม่ายังมีต้นไม้เหลืออยู่เยอะมาก ผ่านเข้ามาในใจกลางย่างกุ้งตึกต่างๆสวยงามมากผ่านเจดีสุเหร่ บริเวณนี้รถค่อนข้างเยอะบีบแตรกันจ้าละหวั่น แต่แปลกนะคะไม่ได้บีบด้วยความโมโหเหมือนบ้านเรา แต่บีบให้ระวังกันและกัน
                 
                 check in ค่ะเราเลือกนอน Clover city center plus hotel ที่check in อยู่ชั้น 3 เราห้องค่อนข้างสะอาดเราเลือกแบบรวมอาหารเช้าด้วย
พอเก็บของเสร็จช้างมารับเราตอน1800 ตอนแรกตั้งใจไปชะเวดากองค่ะ แต่เพื่อนช้างบอกว่าวันนี้นักท่องเที่ยวแน่นมากเราเลยเปลี่ยนใจไปไหว้เทพทันใจที่โบตาทาวน์แทน มาตอนกลางคืนสวยดีคนยังมาไหว้เรื่อยๆ จะมีชุดไหว้จัดไว้ขายหน้าเทพทันใจเลย ออกจากเทพทันใจก็เข้าไปสักการะเส้นพระเกศา ภายในสวยงามมากเหลืองอร่ามไปด้วยทอง เสร็จแล้วก็ข้ามถนนเล็กๆมาไหว้เทพกระซิบช่วงนี้ท่านใส่ชุดแม่ชีค่ะ ตรงหน้าวัดมีตลาดขายของเลยให้ช้างพามาเช่าเทพทันใจไปบูชา

                 อิ่มเอมกับเทพทันใจเสร็จเริ่มหิว แวะทานข้าวที่อยู่ในไชน่าทาวน์สั่งมาอย่างละ 2ชุด ค่าเสียหายทั้งหมด 85000 kyatไม่ถึงแสนเลยทิปน้องที่ดูแลโต๊ะเรากินอิ่มก็เดินดูของไม่ค่อยได้ซื้ออะไรลองซื้อบาบีคิวมาชิมไม่ค่อยถูกปาก ดึกแล้วเริ่มเพลียเลยให้ช้างพากลับโรงแรมพรุ่งนี้นัดไปหงสาวดี พระธาตุอินทร์แขวน
               
           14 ตค 61 ตื่นมาทานอาหาร รร.ตอน 7โมงเช้า ก็พอทานได้ค่ะ มี 5-6 อย่าง แต่เติมให้ตลอด พออิ่มท้องช้างมารอรับตั้งแต่ 0730น ออกเดินทาง ไปหงสาวดีไม่ได้แวะนะคะขากลับค่อยแวะเลยไปพระธาตุอินทร์แขวนเลย นั่งรถนานมากเกือบ 5 ชั่วโมงระหว่างทางต้นไม้เยอะดูอุดมสมบูรณ์ดีเต็มไปด้วยต้นยาง ถึงทางขึ้นพระธาตุอินทร์แขวนเกือบบ่าย พักทานข้าวที่ร้านข้างๆสถานีรถขนหมูไข่เจียวอร่อยค่ะ ลองสั่งยำใบชามาทานออกมันเกินไปเลยไม่ค่อยชอบ

                  ทานข้าวเสร็จไปซื้อตั๋วรถสำหรับขึ้นไปพระธาตุอินทร์แขวน รอนานนิดนึงค่ะนั่งแถวละ 6คนกว่ารถจะเต็ม พอเต็มก็เริ่มออกเดินทางทางขึ้นเขาคดเคี้ยวมากห้ามแซง ขับไปสักพักต้องไปพักรถรอ เป็นบริเวณห้ามสวนทาง หุบเขาช้างทางมีน้ำตกให้ดูด้วย อากาศข้างบนเริ่มเย็นขับไปอีกสัก 15 นาทีถึงสถานีที่สามารถลงเพื่อนั่งเคเบิ้ลคาร์ชึ้นไปพระธาตุ เราเลือกนั่งรถต่อ อึดใจเดียวถึงลานจอดรถขึ้นพระธาตุใครที่นั่งเคเบิ้ลคาร์มาก็จะมาลงตรงนี้ ลงรถก็ต้องเดินเท้าต่ออีกเกือบกิโลเมตร เดินดูของขายข้างทางไปด้วยเผลอแปล๊บเดียวยังไม่ทันเหนื่อยถึงแล้ว ใครเดินไม่ไหวเค้ามีเสรี่ยงบริการ ราคาเท่าไรไม่แน่ใจ
.   

                ถึงแล้วก็ถอดรองเท้าฝากไว้ตรงตะกร้าทางเข้าเลยเดินเท้าเปล่าเข้าไปพื้นไม่ร้อน ไปถึงก็ไปซื้อแผ่นทองฝากผู้ชายลงไปปิดทอง ห้ามผู้หญิงลงไปนะคะ เสร็จแล้วก็เข้าไปไหว้เทพทันใจ ตรงพระธาตุอินทร์แขวนเค้าบอกว่ามีโอกาสควรไปนั่งสมาธิที่พระธาตุจะทำให้เป็นการเปิดดวงเปิดโชคชะตาให้มีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต ควรไหว้ให้ครบ 3 ครั้ง

                    ไหว้ขอพรเสร็จก็หามุมถ่ายรูปเอาจนพอใจเลยค่ะเพราะไม่รู้จะมีโอกาสได้มาอีกหรือเปล่าค่ะ พอเรีบยร้อยก็กลับขาลงจะมีศาลาฝั่งซ้ายขวา ฝั่งขวามือจะมีรูปปั้นพระนางชเวนันจินเชื่อว่าเราเจ็บปวดตรงไหนก็ให้เอาเงินไปวางไปลูบตรงนั้นแล้วจะหายเจ็บหายป่วย ฝั่งซ้ายมือจะมีพระเปิดโลกและมีรอยพระพุทธบาทที่ควรแวะศักดิ์การะ ใครที่จะไปพระธาตุอินทร์แขวนแนะนำให้เที่ยวที่อื่นกลางวันบ่ายๆค่อยขึ้นพระธาตุนอนค้าง 1 คืน สายของอีกวันค่อยลงมาจะได้ไม่เหนื่อยมาก มานั่งรอรถรอนานมากกว่าคนจะเต็ม กว่าจะลงมาถึงก็เกือบ 6โมงเย็น ขับรถกลับถึงหงสาวดีก็มืดแล้วไปชะเวดากองไม่น่าจะทันเลยแวะพระธาตุมุเตาพอไปถึงนี่อึ้งเลยค่ะพระธาตุมุเตาสวยมากไม่แพ้กันเหลืองอร่ามไปด้วยสีทอง ที่สำคัญ2ทุ่มคนพม่าเค้ายังมาวัดมาสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิกันอยู่เลยไม่ใช่มีเฉพาะคนสูงวัย วัยรุ่นเค้าก็มาที่วัดเยอะมากนับถือจริงๆ
        
                ออกจะพระธาตุมุเตาเราก็ไปพระสี่ทิศค่ะ ที่เหลือไม่ว่าจะเป็นพระราชวังบุเรงนอง พระนอนไสยาสน์ต้องยกเลิกโปรแกรมเพราะดึกแล้ว ที่สำคัญหิวค่ะเลยต้องแวะมาทานอาหารกันที่ร้าน HanthaWaddyสั่งด้วยความโหย ร้านนี้กุ้งทอดอร่อยค่ะ ทั้งหมดนี้ 69000 kyat กินอิ่มก็กลับไปย่างกุ้ง โปรแกรมวันนี้พอแค่นี้เพลียร่างเหลือเกิน

               15ตค61 วันสุดท้ายของทริปแล้วค่ะขอตื่นสายนิดเพราะเพลียจากเมื่อวาน หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จ ก็check out เลยค่ะนัดให้ช้างมารับ 9โมงไปชเวดากองกัน แดดร้อนเอาเรื่องเลยวันนี้ ไปถึงชเวดากองก็ซื้อบัตรเข้าชม ผ่านที่สแกนขึ้นลิฟต์ ออกจากลิฟต์เดินไปตามทางเดิน ถึงแล้วค่ะใหญ่โตสวยงามตอนที่เรามาเป็นช่วงที่เค้าบูรณะพอดี เริ่มแรกเลยก็ไปไหว้ที่ลานอธิฐานที่เป็นรูปดาว หลังจากนั้นก็เดินเวียนขวา รอบที่เราเดินก็จะเป็นพระประจำวันเกิดระหว่างเดินเราก็มองหา พระวันเกิดเราถ้าเดินเสร็จจะได้มาไหว้  เดินครบรอบแล้วทีนี้ก็ไปไหว้พระรดน้ำพระประจะวันเกิดค่ะ ให้รดตามอายุ +1 (แอบดีใจที่มาตอนยังไม่แก่ไม่อย่างนั้นเมื่อยแน่) รดน้ำเสร็จเราก็เดินสายขอพรค่ะเริ่มจากเทพทันใจ จากนั้นก็ไปไหว้พระธาตุองค์พี่ เดินตามหาพระสมปรารถนา พระราหู แม่ยักษ์  


                  ออกจากชเวดากองก็ไปที่กาบาเอ พระงาทัตจี ไปพระนอนตาหวานที่พระนอนตาหวานก็เป็นช่วงที่เค้าบรูณะอีกเลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูป เมื่อวานเราพลาดตลาดสก๊อตวันนี้เป็นวันจันทร์เค้าปิด เราเลยเดินตลาดพระนอนตาหวานแทน ให้ช้างกับโทนไปเจรจาต่อรองของให้แต่ส่วนมากพ่อค้าแม่ค้าพอพูดไทยได้ ที่นี่เราได้หยกเนื้อสวยๆมาใส่เอง แล้วก็ชาพม่าต่อรองได้ถุงละ 70 บาทไทยเลยซื้อมา15ถุงผ้าถุงผืน60บาท ช้อปหนำใจ ก็ไปทานข้าวที่ร้าน Golden duck เป็นร้านอาหารจีนอร่อยค่ะที่สำคัญมีแอร์ อิ่มแล้วไปต่อที่วัดพระหินขาวองค์ใหญ่ แล้วก็ที่สุดท้ายเป็นวัดพระเขี้ยวแก้ว ไม่ไหวแดดร้อนมากเลยให้ช้างไปส่งที่สนามบินเลย ด้วยความประทับใจในบริการของไกด์ทั้งสองเพื่อนทุกคนเลยลงความเห็นว่าค่ารถ 280 ไม่เอาแล้วให้เป็น300 US เหมือนเดิม เพิ่มเติมเงินจ๊าตเหลือรวบรวมให้ไกด์หมดเลยได้ 58000kyat ไปครั้งหน้าคงต้องใช้บริการอีก

         
             ​ระหว่างรอขึ้นเครื่องก็เดินช้อปในDuty free ค่ะจนถึงเวลา 1750น. เดินทางกลับไทยถึงเกือบ 2ทุ่มเพลียร่าง  แต่ทริปนี้สนุกมาก รู้สึกมุมมองต่อคนพม่าเปลี่ยนไปเลยเมื่อก่อนไม่ชอบแรงงานพม่า พม่ามาทำสงครามเผาบ้านเผาเรือนปล้นทองเราไป แต่คนที่โน่นเป็นมิตรกับเรามากตั้งแต่วัยรุ่นยังกระทั่งคนแก่ที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย พยายามที่จะช่วยเหลือเราคุยกับเรา ที่สำคัญบ้านเมืองเค้ายังคงรักษาอนุรักษ์การแต่งกายพื้นเมืองไว้คนหนุ่คนสาวยังนุ่งโสร่งผ้าถุงกันอยู่เลย ศาสนสถานที่มีอายุเป็นหลายพันปีเค้ายังทำนุบำรุงไว้ได้นับถือจริงๆ ถ้ามีโอกาสก็จะไปอีกเก็บตกที่ยังไม่ได้ไปที่สำคัญอยากไปแก้บน สาธุ! เจอกันอีกแน่นอนพม่า